ปีที่ 2 ฉบับที่ 825 ประจำวันเสาร์ที่ 16 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 |
กรมการศาสนายอมแพ้ เลิกบีบพระครูปทุมกิจโกศล สั่งพักตำแหน่งพระธัมมชโย ด้านตำรวจยังเดินเรื่องต่อ หันไปเล่นคดีหนังสือมหาสิริราชธาตุ ออกหมายเรียกพิมพ์ไทย และผู้จัดการพิมพ์หนังสือรายอื่น เพื่อตรวจสอบขั้นตอนในการจัดทำ เตรียมประเคนข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพิ่มอีก 1 คดี ในสัปดาห์หน้า
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา แถลงข่าวว่า เรื่องการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระธัมมชโยนั้น
เป็นหน้าที่ของ พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ผู้ปกครองใกล้ชิด จะเป็นผู้พิจารณา เมื่อพระครูปทุมกิจโกศล ได้วินิจฉัยออกมาแล้วว่า ไม่พักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อพระพุทธศาสนา ทางกรมการศาสนาก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะเป็นเรื่องทางสงฆ์
ซึ่งกรมการศาสนา จะมีหน้าที่เฉพาะ
ในการคอยช่วยเหลือ ในด้านการให้ข้อมูล และนำเสนอผลสรุปให้มหาเถรสมาคมรับทราบเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พระสุเมธาภรณ์ จะตัดสินใจปลดเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งนั้น ก็เป็นเรื่องของทางสงฆ์อีกเช่นกัน ทางกรมการศาสนาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้คณะสงฆ์ตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทางกรมการศาสนามีหน้าที่เพียงนำเสนอข้อมูลเช่นเดียวกัน
ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของคดีวัดพระธรรมกายว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบที่ดิน
ใน จ.เพชรบูรณ์
สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน มาได้
พอสมควร จนถึงขณะนี้ ได้รวบรวมเอกสารด้านการเงินครบถ้วนแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (15ต.ค.) พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปรับเอกสารจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล 3 เพื่อนำมาประกอบสำนวน
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนยืนยันว่า พยานหลักฐานที่ได้ทั้งหมด ครบถ้วนแล้ว เพียงเหลือขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารที่ได้มา
ส่วนการตรวจสอบ เรื่องการโอนเงินของ
วัดพระธรรรมกายนั้น ทางพนักงานได้ติดต่อเพื่อขอข้อมูลไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคลองหลวงอีกด้วย
ส่วนทางด้านการดำเนินการที่ต่อเนื่องกับพนักงานอัยการนั้น ทางพนักงานยังคงดำเนินการสอบสวนในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตที่ดินใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน รวมทั้งการตรวจสอบในเรื่องการของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของลูกศิษย์ใกล้ชิดนั้น คาดว่า จะสามารถสอบได้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
สำหรับเรื่องการฉ้อโกงประชาชนนั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ในเรื่องการจัดทำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ มีการให้กัลยาณมิตรเขียนประวัติส่วนตัว
พร้อมเล่าเรื่อง อิทธิปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่งมายังวัดพระธรรมกาย จากนั้น กรรมการที่จัดทำหนังสือดังกล่าว จะพิจารณาคัดเลือกเรื่องที่น่าสนใจ นำลงตีพิมพ์ในหนังสือ
พร้อมให้รางวัล
สำหรับเรื่องที่ได้ตีพิมพ์
ในเรื่องนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกบริษัทที่จัดพิมพ์หนังสือดังกล่าว ประกอบด้วยบริษัทอิมพาวเวอร์ จำกัด บริษัทฐานการพิมพ์ จำกัด บริษัทฟองทองเอนเตอร์ไพร์ส จำกัด และบริษัทสยามบิซิเนส แอนด์ พริ้นติ้ง จำกัด (ในเครือพิมพ์ไทย) มาทำการสอบถามถึงขั้นตอนในการจัดทำหนังสือ รวมทั้งผู้ติดต่อให้จัดทำว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้บริษัทเหล่านี้ มาให้ปากคำในสัปดาห์หน้า