ปีที่ 2 ฉบับที่ 831 ประจำวันศุกร์ที่ 22 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

หน้า 1

พร้อมแสดงพลังประกันธัมมชโย

ตำรวจแจ้งข้อหาพระธัมมชโย พร้อมลูกศิษย์ 3 คนเพิ่มอีกคดี ศิษย์ธรรมกายมั่นใจ สมภารได้รับการประกันตัวแน่นอน ถ้าอายัดตัว พร้อมแสดงพลัง ด้านตำรวจประเมิน สถานการณ์แล้ว เห็นควรให้ประกันตัว หวั่นศิษย์วัดก่อม๊อบเรียกความยุติธรรม ส่วนกรมการศาสนา นำมติส่งให้พระสุเมธาภรณ์ เดินกฎนิคหกรรมแล้ว

หลังจากที่มหาเถรสมาคม (มส.) ประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อตีความกฎนิคหกรรม กรณีฆราวาสกล่าวหาพระสงฆ์ได้หรือไม่ โดยเชิญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานวุฒิสภา เข้าประชุมด้วย มีมติว่า ฆราวาสกล่าวหาพระสงฆ์ได้ และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการศาสนา เร่งทำหนังสือรายงานมติดังกล่าว ให้พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะผู้พิจารณาเรียกพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว เจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ไปรับทราบข้อกล่าวหาของนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมการศาสนา และนายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ แล ะดำเนินการ ตามกระบวนการกฎนิคหกรรมโดยเร็ว

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ความจริงหลังจากมติมหาเถรสมาคมวันที่ 19 ตุลาคม ได้ระบุชัดว่า ฆราวาสกล่าวหาพระได้ และให้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้อง ในกระบวนการพิจารณาขั้นต้นทราบ เพื่อดำเนินการไปได้ทันที โดยไม่ต้องรอ การรับรองรายงานการประชุมก่อน กรมการศาสนา ก็มีหน้าที่แจ้งให้เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ทราบเพื่อดำเนินการ

แต่เหตุที่ทำให้เรื่องล่าช้า ทราบจากกรมการศาสนาว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จเกี่ยว) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ขอดูหนังสือที่ส่งไปให้ก่อน และได้ดูเมื่อวานนี้ (20 ตุลาคม ) และเก็บไว้โดยบอกว่า วันนี้ให้ไปรับกลับคืนได้ ทั้งที่ตามหลักแล้วขณะนี้เป็นหน้าที่ของกรมการศาสนา ที่สามารถดำเนินการได้ทันที ถ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประสงค์จะดู ก็ควรถ่ายสำเนาเอกสารไปให้ แล้วดำเนินการควบคู่ไปด้วยกันได้ แต่ด้วยความเคารพ ทางกรมการศาสนาได้นำต้นฉบับจริง ไปให้ดู ดังนั้น ตนจึงได้สั่งการไปแล้วว่า ให้รีบไปรับกลับคืนและส่งให้ทันในวันนี้ (21ต.ค.)

ขณะนี้ กรณีวัดพระธรรมกาย เป็นเรื่องของทางโลกแล้ว ไม่ใช่ทางสงฆ์ เมื่อท่านอยากรู้ ก็ให้เกียรติท่าน ส่งไปให้ดู ตามหลักแล้วก็คือ น่าจะถ่ายสำเนาและดำเนินการควบคู่กันไป การขอดูครั้งนี้ คงไม่มีการแก้ไขอะไร เพราะเป็นเรื่องที่กรมการศาสนา จะต้องเป็นคนทำ เพราะฉะนั้น สิ่งที่กรมการศาสนาดำเนินการไป ถือเป็นความชอบธรรม

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการไปยัง อธิบดีกรมการศาสนาด้วยว่า ในหนังสือที่ส่งให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จะต้องระบุวันที่ เวลาและสถานที่ ที่จะมีการเรียก พระธัมมชโยและพระทัตตชีโว เจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจน แม้ว่า เจ้าคณะจังหวัดฯ จะบอกว่าจะเรียก หลังวันที่ 25 ตุลาคม ก็ต้องให้กรมการศาสนาระบุไปให้ชัดเจน เพื่อสังคมจะได้รับรู้ รวมทั้ง ทางฝ่ายราชการจะได้เตรียมแผนป้องกันความปลอดภัยไว้ให้ด้วย

ด้าน ดร.วิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เรียกหนังสือไปดู คงจะต้องการช่วยขัดเกลาดูถ้อยคำ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หรือเปลี่ยนแปลงอะไร และหากเจ้าคณะจังหวัดเรียกพระธัมมชโยและพระทัตตชีโวไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ถือว่าต้องอธิกรณ์ และเข้าสู่กระบวนการกฎนิคหกรรมแล้ว เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง อาจใช้ดุลยพินิจในการสั่งพักตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายของพระธัมมชโยได้อีกครั้ง ถ้าไม่พิจารณา เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะผู้บังคับ บัญชา อาจจะพิจารณาได้ และตนจะเดินทางเข้านมัสการเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีในต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อไปเยี่ยมเยียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ที่วัดมูลจินดาราม นายไพบูลย์ เสียงก้อง พร้อมคณะ ได้นำมติของมหาเถรสมาคม ไปยื่นให้กับพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินการตามกฏนิคหกรรม ตามคำฟ้องของ นายสมพร เทพสิทธา และนายมาณพ พลไพรินทร์

ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ได้ออกหมายจับกุม พระธัมมชโย นายถาวร พรหมถาวร นายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค และ น.ส.อมรรัตน์ สุวิภัทร ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ข้อหายักยอกทรัพย์ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานละเว้น ปฏิบัติหน้าที่ โดยนำเงินของวัดพระธรรมกาย ไปซื้อที่ดินใน จ.เพชรบูรณ์ เพื่อทำเหมืองทองคำ ซึ่งทงเจ้าพนักงานจะออกหมายเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกคน มารับทราบข้อกล่าวหา ภายในวันที่ 25 ต.ค.นี้ 

ส่วนการพิจารณาให้ประกันตัว ก็จะยึดหลัก พฤติกรรมของผู้ต้องหา ถ้าไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี หรือข่มขู่พยาน ทางพนักงานสอบสวน ก็จะอนุมัติให้ประกันตัว ตามที่ผู้ต้องหา ได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวเองออกไป แต่ทั้งนี้ จะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น จะไม่ขึ้นอยู่กับการที่ผู้ต้องหาเคยโดนดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้ ทางกรมการศาสนา ได้ทำหนังสือประสานงานมายังพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงกรณีที่กรมการศาสนาได้ทำหนังสือไปถึงอัยการ เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์ ของวัดพระธรรมกาย โดยทางกรมการศาสนาได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จึงได้แจ้งมาให้พนักงานสอบสวนทราบ

สำหรับขั้นตอนต่อไป ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินงานไปตามกฎหมายอายัดทรัพย์ นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำเอกสารขอให้เปิดเผยบัญชีเงินฝากของพระธัมมชโย จำนวน 212 แผ่น ไปมอบให้กับพนักงานอัยการ ตามคำขอของอัยการ ที่ต้องการหลักฐานในคดีเพิ่มเติม

ทางด้านลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้โทรศัพท์เข้ามายัง "พิมพ์ไทย" เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงว่า ในคดีที่พนักงานสอบสวนแจ้งความใหม่ครั้งนี้ พระธัมมชโยอาจจะไม่ได้รับการประกันตัว เนื่องจากมีความพยายามปล่อยข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า พระธัมมชโยจะหลบหนีออกนอกประเทศ โดยมีการสั่งปิดบัญชีเงินฝาก ของธนาคารหลายแห่ง และเกรงว่า พนักงานสอบสวนอาจจะใช้เหตุผลนี้ ไม่อนุญาตให้พระธัมมชโยประกันตัว ซึ่งหมายถึงพระธัมมชโย ต้องสึกจากความเป็นพระทันที ซึ่งในเรื่องนี้ ลูกศิษย์วัดส่วนใหญ่ประกาศว่า ถ้าพนักงานสอบสวน ไม่ให้เจ้าอาวาสประกันตัว ก็พร้อมที่จะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพระธัมมชโย

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการประเมินสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว ได้ผลสรุปคือ คงต้องอนุญาตให้พระธัมมชโยประกันตัวออกไปเหมือนในคดีก่อน เนื่องจากทาง วัดพระธรรมกาย มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก ถ้าอายัดตัวพระธัมมชโยไว้ อาจมีการก่อม๊อบของบรรดาลูกศิษย์ และอาจเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากในเรื่องนี้ เป็นปัญหา ทางด้านศาสนา และมีความละเอียดอ่อนมาก ต้องดำเนินการโดยรอบคอบ


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา]