ปีที่ 2 ฉบับที่ 831 ประจำวันศุกร์ที่ 22 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 |
วัดพระธรรมกาย ปทุมธานี 12120
เจริญพร ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย ผ่าน นสพ.พิมพ์ไทย
อาตมาเป็นพระภิกษุลูกวัดพระธรรมกายรูปหนึ่ง
ที่ตั้งใจบวชเพื่อฝึกตนเองในชาตินี้ จะได้เป็นอุปนิสัยสร้างบุญบารมี ติดตัวไปในภพเบื้องหน้า
เพื่อเป้าหมายสูงสุดของ สรรพสัตว์
ทั้งหลาย คือ "พระนิพพาน"
ตั้งแต่บวชปี 36 จนถึงปีที่แล้ว ก็ได้อาศัยคำสอนของครูบาอาจารย์ แก้ไขปรับปรุงตนเอง ขัดเกลากิเลสภายในตนเอง ตามพุทธวิธี แต่มาปลายปี 41 จนถึงเดี๋ยวนี้ ต้องคอยป้องกัน และแก้ไขอุปสรรคภายนอก จากองค์กรต่างๆ เช่น สื่อมวลชน ตำรวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษา กรมศาสนา และอื่นๆ
ที่รุมโจมตี ทำร้ายหลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย
พระเถระ ผู้ใหญ่ มหาเถรสมาคม ศิษย์วัดพระธรรมกาย
โดยสื่อมวลชนออกข่าวสร้างกระแส
ให้คนเกลียดชังหลวงพ่อธัมมชโย และวัดพระธรรมกายเป็นหลัก
ท่านนายกชวน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้บริหารประเทศ ซึ่งเป็นชาวพุทธ ไม่น่าปล่อยให้มีการเบียดเบียนประทุษร้ายกันเช่นนี้ เป็นเวลายาวนานขนาดนี้ โดยเฉพาะการทำร้ายจิตใจ
ชาวพุทธ ในที่สาธารณะ โดยการทำหุ่นศีรษะพระสงฆ์ ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่เสียบประจาน และเผา ซึ่งไม่น่าเกิดในเมืองพุทธ ถ้าหากชาววัดพระธรรมกาย ไม่มีครูดี
สอนปฏิบัติ ธรรมมาตลอด ขาสติยั้งคิด ไปชุมนุมเรียกร้อง ขอความเป็นธรรมในที่สาธารณะ สงสัยจะโดนตัดหัวเสียบประจาน เหมือนชาวติมอร์ตะวันออก แต่ว่าศิษย์วัดธรรมกาย
กลับได้คิด ว่า บุญเรายังไม่พอ จึงเพิ่มทำความดีมากขึ้นตามลำดับ
อาตมาไม่อยากคิดว่า คนที่ทำรุนแรงที่กล่าวมาว่า เป็นลูกพระพุทธเจ้า หรือชาวพุทธ พระพุทธเจ้าไม่สอนให้เบียดเบียนใครเลย มีแต่ให้ช่วยเหลือกัน เมตตาต่อกัน
โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ครั้งล่าสุด แพทย์ตำรวจ และนายตำรวจเดินทางไปที่
กุฏิหลวงพ่อธัมมชโย บังคับให้ไปพบอัยการ ตอนบ่ายวันที่ 4 ต.ค.42
ทั้งๆ ที่ท่านป่วย หลอดลม, กระบอกเสียงอักเสบ เจ็บคอ พูดไม่ได้ ต้องเขียนหนังสือขอเลื่อน ใครที่เคยป่วยเช่นนี้คงจะเข้าใจ เพราะนอกจากพูดไม่ได้ กลืนอาหารก็ไม่ได้ แม้กลืนน้ำก็เจ็บคอ ต้องให้น้ำเกลือ
แต่ว่า อนิจจา! นายตำรวจ และหมอตำรวจ ซึ่งขาดเมตตาธรรม บังคับให้หลวงพ่อไปพบอัยการจนได้ แถมออกข่าวใส่ร้ายท่านว่า "โกหก"
อาตมาเข้าใจว่า
มีขบวนการคอยจองล้างจองผลาญ
หลวงพ่อธัมมชโย คอยทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ราวกับว่าอาชญากร จับสึกไม่ได้ จับขังไม่ได้ ก็จะจับตาย
ความรู้สึกของ ศิษย์
จิตใจของศิษย์หลวงพ่อร้าวรานเพียงไหน อาตมาพอเข้าใจ แต่ว่าพวกเรานึกถึงคำสอนเสมอว่า "เราเกิดมาสร้างบารมี" หลวงพ่อให้กำลังใจพวกเราเสมอว่า เรามีหน้าที่ทำ
ความดี แม้จะมีอุปสรรคอย่างไร เราก็สร้างบารมี ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน
ท่านก็บอกว่า จะมีบททดสอบใหม่ๆ ที่ยากกว่าเดิม มาทดสอบลูกๆ พวกเราก็เข้าใจ
และตั้งใจเอาหลวงพ่อ เป็น แบบอย่าง แม้ท่านอาพาธหนัก
ที่โรงพยาบาล พอดีขึ้นหน่อย ท่านก็เขียนจดหมายไปให้กำลังใจลูกๆ
ที่วัดพระธรรมกาย ให้ตั้งใจปฏิบัติธรรม เข้าถึงพระธรรมกาย ท่านจะดีใจมาก และท่านยังปรารถนาให้ชาวโลกทุกคน (รวมทั้งคนที่ทำร้ายท่านด้วย) เข้าถึงพระธรรมกายในตัว เพราะเป็นแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริง เป็นที่พึ่งที่ระลึกได้จริง
อาตมาและศิษย์ทั้งหลาย ไม่จองเวรใคร ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน เพราะเชื่อในกฎแห่งกรรมที่พุทธองค์ทรงสอนไว้ เพียงแต่อยากจะบอกท่านนายกชวนในฐานะ
ท่านเป็นผู้บริหารสูงสุด ของ ประเทศ หรือว่ามีใครสูงกว่านี้อาตมาไม่รู้ ถ้าหากท่านนายกชวน ปล่อยให้มีการเบียดเบียนกันเช่นนี้ ศีลธรรมคนในชาติจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ
เพราะขนาดพระมีศีลยังถูก
เบียดเบียนได้ อย่างหนักขนาดนี้
ต่อไปคนทั่วไป
ก็เบียดเบียนกันยิ่งกว่า บ้านเมืองจะเดือดร้อนหนักกว่าเดิม
ท่านนายกน่าจะรู้อะไรเป็นอะไร จะโดยเจตนาอย่างไรก็ตาม โดยหน้าที่รับผิดชอบนั้น มีส่วนบกพร่องทางธรรม + ทางโลก ท่านนายกจะต้องรีบคิด และตัดสินใจ เอาธรรมเป็นหลัก แม้ว่าจะต้องเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นของสมมติ ไม่สามารถปิดนรก เปิดสวรรค์ให้ท่านได้ ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะเราอยู่ในโลกนี้ไม่นาน
ขอเจริญพร
พระสุเมธ สุเมธฐิโต