ปีที่ 2 ฉบับที่ 832 ประจำวันเสาร์ที่ 23 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

สำนักข่าวต่างดาว

พระเป็นแพะ

รัฐบาลเจ๊งเกี่ยวอะไรกับพระ
รัฐบาลจ๊ะพระไม่ได้ทำท่านเจ๊ง
พวกท่านบริหารกิจผิดพลาดเอง
หยุดข่มเหงเลิกเอาพระมาบิดเบือน

สำนักข่าวต่างดาวเปิดแถลงแจงสี่เบี้ย ว่าด้วยเรื่อง ข่าววัดพระธรรมกายที่กำลังจะกลับมาฮ็อตอีกรอบหนึ่ง เพราะเที่ยวนี้ พญามารเดินเกมแรงกว่าเดิม สามารถดันนิคหกรรม กลับมาเกิดอีกรอบ ทั้งๆ ที่ถูกเขี่ยลงหลุมกลบดินฝังไปแล้ว นี่แหละฤทธิ์พญามาร 

ในช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างดาวได้รับจดหมายจากท่านผู้ชมเยอะแยะ เต็มไปหมด มีทั้งด่าทั้งชม ต่างกับเมื่อหลังวันที่ 4 ต.ค. มีแต่จม.ด่าลูกเดียว

เอาละครับเรื่องแบบนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว เพราะสำนักข่าวต่างดาวเองก็ด่าคนอื่นไว้มาก จนท่านยมบาลหมดสมุดบันทึกไปหลายเล่ม

พระท่านสอนว่า "เวรกรรมย่อมตามสนอง" ก็เลยถูกคนอื่นด่าเอาบ้าง แต่เราก็รู้สึกบันเทิงเริงรมย์เป็นอันมาก

สำหรับจม.ที่ชมเข้ามานั้น ก็ต้องรู้สึกขอขอบพระคุณ เผอิญสำนักข่าวต่างดาวเป็นคน "บ้ายอ" ซะด้วย เห็นทีต้องขอปวารณาตัวรับใช้บรรดาเจ้านายทั้งหลายต่อไป

เมื่อวานนี้หลังจากที่ตำรวจแจ้งข้อหาพระธัมมชโย เพิ่มอีก 1 ข้อหานั้น ได้มีโทรศัพท์จากมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย โทร.เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมากว่า

"หลวงพ่อจะได้รับการประกันตัวรึเปล่า?"

ซึ่งในเรื่องนี้ ถ้าจะให้สำนักข่าวต่างดาวเดาละก็ ตอบได้ลำบาก เพราะมันมีแฟคเตอร์หลายตัว ที่ต้องนำมาประกอบเรื่องราว

คือเรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ ท่านผู้ชม ก่อนอื่นเราต้องดูฐานะของรัฐบาลก่อน ถ้าให้เราตอบ น่าจะใช้คำว่า "แย่" หรือ "สาหัส"

โดยเฉพาะกรณีแบงก์กรุงไทย ที่เชื่อว่าในสัปดาห์หน้าจะ "ร้อนเป็นไฟ" เพราะมีเสียงสะท้อนกลับจากสังคมอย่างรุนแรง ทั้งด้านในซีกนักการเมือง นักธุรกิจ พ่อค้าและประชาชน

พวกเรารู้สึกรับไม่ได้ที่คณะกรรมการตรวจสอบชุด โหรกำจร สถิรกุล ฟันธงลงไปว่า หนี้เน่า หรือ NPL จำนวน 6 แสนล้านบาท ที่เกิดขึ้นจากฝีมือบริหารของ นายศิรินทร์ นิมมานเหมินท์ ไม่มีกลิ่นทุจริต 

เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางบริษัท ไพร์ซวอเตอร์เฮ้าส์ คูเปอร์ บริษัทสอบบัญชีระดับโลก เขาวิเคราะห์ถึงความเสียหายของแบงก์กรุงไทย แล้วสรุปผลออกมาว่า มีการปล่อยสินเชื่อ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ถ้าแปรไทยเป็นไทยก็คือ มีนายแบงก์ทุจริตในการปล่อยสินเชื่อ จนทำให้แบงก์กรุงไทยเจ๊ง และเป็นโจ๊ก โดนปาระเบิดแบบที่เห็น

แถมไพร์สยังยกตัวอย่างให้เห็นหลายแบบ เช่น อนุมัติเงินกู้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พิจารณาในบอร์ด มีการปล่อยเงินกู้ โดยที่หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่พอ มีการดับเบิ้ลวงเงินกู้ คือขอกู้มา 100 บาท ให้ไปเลย 200 บาท ทั้งแจกทั้งแถม อะไรทำนองนี้แหละ

แต่หลังจากที่ โหรกำจร เข้าตรวจสอบเสร็จแล้ว การกลับปรากฏว่า ไม่มีการปล่อยสินเชื่อ แบบที่ว่าสักกะหน่อย สรุปก็คือ บริษัทไพร์ซมันโกหก 

เอาละซี ทีนี้ต้องวัดความน่าเชื่อถือ ระหว่างโหรกำจร กับบ.ไพร์ซ ว่าใครมีความน่าเชื่อถือมากกว่ากัน

ไพร์ซนั้นเป็นบริษัทสอบบัญชีระดับโลก ทำมาหารับประทานไปทั่วโลก ได้รับความเชื่อถือจากนักธุรกิจนักการเงินในโลกอย่างกว้างขวาง มีมาตรฐานไม่แพ้ ไอ้มูดี้ส์ หรือ เอสแอนด์พี

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ บ.ไพรซ์ จะทำรายงาน "โกหก" เพราะเรื่องกระจอกแบบนี้ ชื่อเสียงที่บริษัทสั่งสมมานานนับ 100 ปี จะมาจอดที่แบงก์กงเต็กในไทย ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ อิมพอสซิเบิ้ล

แม้ว่าโหรกำจร จะได้ชื่อว่าเป็น "ตงฉิน" คนหนึ่งของประเทศไทย แต่ถ้าคนในกรุงไทยชงข้อมูลเฉพาะที่แจ๋วๆ ใสๆ ให้ตรวจสอบแล้วปกปิดข้อมูลที่ทุจริตเอาไว้ โหรกำจร ก็ต้องตัดสินแบบที่เราได้ยินนั่นแหละครับ

นอกจานี้ยังมีคนที่ไม่เชื่อรายงานของ โหรกำจร หลายคนบอกชื่อไปแล้วเชื่อว่า ท่านผู้ชมจะต้องสะดุดกึ้ก เช่น ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ นักกฎหมายตงฉินคนดังของไทย

ที่สำคัญยังมีคนชื่อ บุญชู โรจนเสถียร สุเทพ เทือกสุบรรณ และเนวิน ชิดชอบ ซึ่งถือว่าเป็นพวกเดียวกันกับ ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ พากันออกมาร้อง "ยี้" แถมตะเบิดธารินทร์ ให้กลับไปทำข้อมูลมาใหม่ เพื่อไม่ให้น่าเกลียด

ขนาดพวกเดียวกันเอง ยังไม่ให้ความเชื่อถือกันเอง แล้วแมวที่ไหน มันจะให้ความเชื่อถือ?

สรุปเอาเป็นว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังบักโกรก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาข่าวใหญ่มาเบี่ยงเบนประเด็นอีกรอบ

แฮ่ๆ เห็นที่ท่านธัมมชโย จะต้องเหนื่อยอีก โดยจะต้องถูกนิมนต์มารับบทเป็น "แพะ" กู้ภัยให้รัฐบาลอีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกทำมาแล้วหลายครั้ง

แต่เที่ยวนี้ จะได้กลับวัดรึเปล่ายังยากจะคาดเดา เพราะมีการตีข่าวตามสื่อมวลชนมาก่อนหน้าแล้วว่า วัดพระธรรมกายปิดบัญชีแบงก์ "พระธัมมชโยจะหนีไปต่างดาว"

ด้วยเหตุผลนี้แหละ ที่พระธัมมชโย อาจจะไม่ได้รับการประกันตัว

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ พรุ่งนี้ขอล่อต่ออีก 1 วัน


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ][ต่างดาว]