ปีที่ 2 ฉบับที่ 861 ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

หน้า 1

ม็อบวัดชนะจี้ ตร.คลี่ปมบึ้ม
สรุปเหตุการณ์กรณีวัดพระธรรมกาย ที่ศาลอาญา

ชมรมชาวพุทธสากลเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความจริงให้ปรากฏ กรณีระเบิดวัดชนะสงคราม ชี้ชัดมือที่สามต้องการทำลายภาพพจน์ศิษย์วัดสว่างภพ-ธรรมกาย ด้านเสี่ยตือขู่ถอดเจ้าอาวาสพระธัมมชโย หากไม่มารับฟังข้อกล่าวหาภายในวันที่ 30 พ.ย. ขณะที่การสอบธรรมสนามหลวงปีนี้ สุดคึกคักเผยยอดสมัครสอบพุ่งนับหมื่น

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งเรื่องไปยัง พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยของวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาคดีวัดพระธรรมกายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงเช่นการลอบวางระเบิดที่วัดชนะสงครามขึ้นอีก ซึ่งในส่วนคดีของวัดชนะสงคราม ก็ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วด้วย เพราะหากล่าช้าออกไป อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลได้

“ยิ่งคลี่คลายได้เร็วเท่าไร จะยิ่งเกิดผลดีต่อรัฐบาลและเกิดความมั่นใจต่อประชาชนในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และจะเป็นการสร้างเครดิตให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย แต่ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อไปนานเท่าไร ก็จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และเป็นที่เคลือบแคลงกันมาก ผมอยากจะเห็นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนและคลี่คลายโดยเร็ว”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าว

สำหรับความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหากับพระธัมมชโย นายสมศักดิ์กล่าวว่า หากภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พระธัมมชโยยังไม่ยอมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ก็จะรวบรวมข้อมูล เพื่อสั่งปลดจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

ขณะเดียวกัน ชมรมพุทธสากลแห่งประเทศไทย ได้แถลงชี้การชุมนุมขอความเป็นธรรม ให้แก่พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลหนึ่ง การชุมนุมที่วัดชนะสงคราม เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. ดำเนินมาด้วยความสงบ สามารถประมวลเหตุการณ์ได้ดังนี้

วันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 11.00 น. นักข่าวทีวีช่อง 7 ได้นำกล้องถ่ายวีดีโอ ไปวางไว้ในช่องจราจร บนพื้นถนนตรงมุมทางแยก หน้ากุฏิเจ้าอาวาส ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เลี้ยวซ้าย จะมองไม่เห็น ปรากฏว่า มีรถยต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วิ่งตามมายังที่เกิดเหตุ ผู้ขับขี่เป็นสุภาพสตรี รูปร่างเล็ก บังคับรถเลี้ยวซ้าย จึงเกิดเฉี่ยวกล้องวิดีโอดังกล่าวเสียหายเล็กน้อย นับเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้สื่อข่าวที่วางกล้องในที่ไม่เหมาะสม แต่กลับมีการเสนอข่าวใหญ่โตว่าเป็นการกระทำของศิษย์ธรรมกาย ซึ่งตำรวจสรุปว่าเป็นเรื่องของความประมาทเลินเล่อ มิใช่ความผิดของผู้ขับขี่

จนเมื่อเวลา 21.00 น. คืนเดียวกัน มีชาย 2 คน แต่งกายคล้ายผู้ชุมนุม เดินเข้าไปหาพระเลขาฯ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พูดจาจาบจ้วงพระต่างๆ นานา ทำให้พระเลขาฯ โกรธมาก จึงกล่าววาจาบริภาษพวกมาร่วมชุมนุม ทางชมรมได้บันทึกวิดีโอไว้ตลอด ปรากฏว่า หลังการปะทะคารมกับพระ ชายทั้งสองคน ก็รีบเดินขึ้นรถของไอทีวี ซึ่งจอดรถอยู่ด้านนอกแล้วขับออกไปโดยเร็ว

จนถึงเวลา 23.00 น. ผู้ชุมนุมได้ออกไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวบริเวณริมถนนปากตรอกข้าวสาร ใกล้สน.ชนะสงคราม มีชายคนหนึ่งถามว่า ใช่พวกที่มาชุมนุมหรือไม่ เมื่อรู้ว่าใช่ ก็ส่งสัญญาณให้ชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 10 คน รุมทำร้ายด้วยอาวุธมีด และไม้ โดยนายเจษฎา ตรีเนตร ถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ส่วนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปได้

การชุมนุมดำเนินไปถึงวันใหม่ 17 พ.ย. จนเวลา 17.00 น. การชุมนุมได้สิ้นสุดลง มีการประกาศยกเลิกการชุมนุม พร้อมกับกวาดเก็บขยะ ทำความสะอาดพื้นที่จะเรียบร้อย จนเวลา 20.30 น. ได้มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณลานจอดรถวัดชนะสงคราม จึงสามารถยืนยันได้ว่า เหตุการณ์ระเบิด คณะศิษย์วัดสว่างภพและศิษย์วัดพระธรรมกาย ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด สามารถประมวลสถานการณ์เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อหวังข่มขู่ และทำลายภาพพจน์ของชมรมชาวพุทธฯ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งทำความจริงให้ปรากฏ

สรุปเหตุการณ์กรณีวัดพระธรรมกาย ณ ห้อง 704 ศาลอาญา วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 9.00 น

ศาลจำเป็นต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป เนื่องจากในวันนี้โจทก์มิได้เตรียมเอกสารคำฟ้องต่างๆ ให้พร้อม และพยานโจทก์ก็มิได้มา การที่โจทย์ไม่เตรียมตัวให้สมบูรณ์ ทำให้ ศาลเสียเวลาและทำให้คดีต้องยืดเยื้อ โจทก์ให้การว่า โจทย์ยังมีคดีที่ต้องฟ้องเพิ่มเติม จึงเห็นว่า จะรวมยื่นฟ้องและสอบปากคำเสียในคราวเดียว แต่ยังไม่ทราบกำหนดแน่นอน
ศาลขอให้โจทก์กำหนดวันที่แน่นอน ทนายจำเลยขอให้มีการนัดสืบพยานทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อมิให้คดีต้องยืดเยื้อ ขณะที่โจทก์ขอให้เป็นสองอาทิตย์ครั้ง

ศาลมีคำพิจารณาโดยสรุปว่า

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ และศาลได้ส่งสำเนาคำให้การปฏิเสธให้โจทก์ทราบแล้ว โจทก์ไม่ค้าน ให้มีการนัดสืบพยานอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง สืบทั้งวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 12 มกราคม 2543 เป็นต้นไป


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา]