ปีที่ 2 ฉบับที่ 861 ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

ปุจฉา - วิสัชนา

แถลงการณ์ชมรมพุทธสากลแห่งประเทศไทย
เรื่อง การชุมนุมขอความเป็นธรรม ให้แก่เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง

ตามที่ชมรมชาวพุทธสากลแห่งประเทศไทย คณะศิษย์พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ และชมรมชาวพุทธทั่วประเทศ ได้ชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม กรณีที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีคำสั่งที่ 22/2542 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2542 ถอดถอนตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง โดยมิชอบ จึงขอความเมตตาจากสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ณ วัดชนะสงคราม ให้พิจารณายกเลิกคำสั่งดังกล่าวนั้น

การชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลวงพ่อแสวงในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2542 และยุติลงเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2542 เวลา 17.00 น. ในระหว่างการชุมนุม ได้มีบุคคลคณะหนึ่ง พยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อทำลายภาพพจน์ของผู้ร่วมชุมนุมโดยสุจริตดังนี้

1. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2542 เวลาประมาณ 11.00 น. นักข่าวทีวีช่อง 7 ได้นำกล้องถ่ายวิดีโอ ไปวางไว้ในช่องจราจรบนพื้นถนนตรงมุมทางแยก หน้ากุฏิเจ้าอาวาส ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เลี้ยวซ้าย จะมองไม่เห็น ปรากฏว่า มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วิ่งตรงมายังที่เกิดเหตุ ผู้ขับขี่เป็นสุภาพสตรีรูปร่างเล็ก บังคับรถเลี้ยวซ้าย จึงเกิดเฉี่ยวกล้องวิดีโอดังกล่าวเสียหายเล็กน้อย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเป็นเจตนาหรือประมาทเลินเล่อของผู้สื่อข่าวที่นำกล้องไปวางไว้ในที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่องทางจราจร เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวจงใจเชื่อมโยงและทำเป็นข่าวใหญ่โดยให้เห็นว่า เป็นการกระทำของศิษย์วัดพระธรรมกาย จากการสอบสวนข้อเท็จจริงของตำรวจ สรุปได้ว่า เป็นเรื่องความประมาทเลินเล่อของเจ้าของกล้อง ที่นำกล้องราคาสูงไปวางไว้ในจุดที่ไม่เหมาะสม มิได้เป็นความผิดของผู้ขับขี่รถยนต์เพียงฝ่ายเดียว

2. ในคืนวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 21.00 น. มีชาย 2 คน แต่งกายคล้ายผู้ชุมนุม ต่างเดินเข้าไปหาพระเลขาฯ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่รักษาการณ์อยู่หน้ากุฎิเจ้าอาวาส โดยคนหนึ่งเข้าไปพูดจาต่อว่าจาบจ้วงพระต่างๆ นานา ทำให้พระเลขาฯ โกรธมาก จึงกล่าววาจาบริภาษพวกมาร่วมชุมนุม ชายที่ยืนฟังอยู่นั้น จึงถ่ายวิดีโอบันทึกเหตุการณ์เฉพาะตอนที่ท่านกำลังบริภาษด้วยความโกรธ อันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม เพื่อจะนำไปใช้ประโยชน์ในกรณีอื่นๆ เมื่อทั้งคู่กระทำการบรรุผลแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับ เจ้าหน้าที่ของชมรมฯ ได้ติดตามดูเหตุการณ์โดยตลอด ได้เห็นชายทั้งสองเดินไปขึ้นรถยนต์ของหน่วยข่าว "ไอทีวี" ซึ่งจอดอยู่ด้านนอกวัด แล้วขับออกไปโดยเร็ว

3. เหตุการณ์ต่อมาในเวลา ประมาณ 23.00 น. มีผู้ร่วมชุมนุมได้ออกไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวบริเวณริมถนนปากตรอกข้าวสาร ใกล้สถานีตำรวจชนะสงคราม ปรากฏมีชายคนหนึ่งเข้ามาถามว่า ใช่พวกมาชุมนุมหรือไม่ เมื่อแน่ใจแล้วจึงส่งสัญญาณให้กลุ่มคนร้ายมากกว่า 10 คน เข้ามากลุ้มรุมทำร้ายด้วยอาวุธมีดและไม้ ปรากฏว่านายเจษฎา ตรีเนตร ถูกฟันด้วยมีดที่แขนทั้งสองข้างเป็นแผลฉกรรจ์ เมื่อบรรลุผลตามต้องการแล้ว กลุ่มคนร้ายหนีหายไปกับความมืด ผู้บาดเจ็บได้แจ้งความกับร้อยเวร สถานีตำรวจชนะสงครามไว้แล้ว

4. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2542 เวลา 17.00 น. การชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรม ให้แก่เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ได้สิ้นสุดลง และประกาศเลิกการชุมนุม ซึ่งมีการกวาดเก็บขยะทำความสะอาดพื้นที่ที่ใช้ในการชุมนุมทั้งหมด ภายใต้ความควบคุมดูแลของพระเลขาฯ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จนเป็นที่เรียบร้อย แต่ต่อมาในเวลาประมาณ 20.30 น. ได้มีเหตุการณ์ระเบิดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ตรงบริเวณที่จอดรถวัดชนะสงคราม จึงสามารถยืนยันได้ว่า ไม่ได้เป็นการกระทำของคณะศิษย์วัดสว่างภพ และศิษย์วัดพระธรรมกายแต่อย่างใด

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ สามารถประมวลได้ว่า มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง จงใจสร้างสถานการณ์เพื่อหวังผลในการข่มขู่ และทำลายภาพพจน์ของชมรมชาวพุทธฯ คณะศิษย์วัดสว่างภพและศิษย์วัดพระธรรมกาย อย่างชัดเจน

เราจึงใคร่ขอเรียกร้องผู้รับผิดชอบทุกฝ่าย ให้มีการสอบสวนสืบหาความจริง นำมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้ทราบโดยด่วนที่สุด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

ชมรมชาวพุทธสากล แห่งประเทศไทย
ชมรมชาวพุทธ 76 จังหวัด

///////////////////

เอกสารชี้แจง ฉบับที่ 24/2542
วัดพระธรรมกาย / มูลนิธิธรรมกาย
18 พฤศจิกายน 2542

ตามที่สื่อมวลชนได้รายงานข่าวว่า ได้เกิดเหตุระเบิดที่วัดชนะสงคราม เมื่อค่ำวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และคาดว่า การระเบิดข่มขู่ครั้งนี้ จะเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายนั้น วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และข่าวนี้ทำให้วัดพระธรรมกาย ตลอดจนศิษยานุศิษย์ได้รับความเสียหาย จึงขอเรียนชี้แจงว่า 

1. วัดพระธรรมกายมีความเคารพยึดมั่นในกฎหมายบ้านเมือง และพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา จึงแสวงหาข้อยุติด้วยความสงบ และเคารพกฎเกณฑ์กติกาของสังคมตามแนวทางที่ชาวพุทธพึงปฏิบัติมาโดยตลอด ดังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

2. ผู้มีสติปัญญาพึงทราบดีว่า การข่มขู่ด้วยวิธีรุนแรงเช่นนี้ มิได้เป็นผลดีต่อวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด มีแต่จะส่งผลในทางลบต่อภาพพจน์ของวัดพระธรรมกาย และการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกำลังดำเนินการในกรณีของวัดพระธรรมกายอยู่ในขณะนี้

3. วัดพระธรรมกายขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดให้ปรากฏชัดเจนต่อสังคมโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของวัดพระธรรมกายและศิษยานุศิษย์

จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
คณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิธรรมกาย


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา]