เพลงไทยสากลชุดที่ 1 Thai Midi 1
ไทย 1 | ไทย 2 | ไทย 3 | ไทย 4 | ไทย 5 | ไทย 6 | ไทย 7 | ไทย 8 | ไทย 9 | ไทย 10 | ชื่อเพลงรวม | Home |
สากล 1 | สากล 2 | สากล 3 | สากล 4 | สากล 5 | สากล 6 | สากล 7 | สากล 8 | สากล 9 | สากล 10 | ตามคำขอ | สารบาญหลัก |
ขณะนี้ท่านกำลังอยู่ที่ เพลงไทยสากลชุดที่ 1
ทดลองฟัง Try listening รักเอย อยากจำกลับลืม
ไปสารบาญชื่อเพลง Index
ปรับปรุงหลังสุดเมื่อ 14 พฤศจิกายน 1999
สารบาญรายชื่อเพลงไทยสากลชุดที่
1
กลับไปต้นแฟ้ม
1. กบฎหัวใจ | 11. จงรัก | 21. นกเขาคูรัก | 31. ระฆังทอง |
2. กุหลาบเวียงพิงค์ | 12. จูบเย้ยจันทร์ | 22. น้ำตาแสงไต้ | 32. รัก |
3. ขอให้เหมือนเดิม | 13. เจ้าพระยา | 23. น้ำใต้ศอก | 33. รักฉันนานนาน |
4. ขาดฉันแล้วจะรู้สึก | 14. ฉันวันนี้ | 24. เนื้อทองของพี่ | 34. รักใต้ร่มไทร |
5. คนเดียวในดวงใจ | 15. ชั่วฟ้าดินสลาย | 25. บ้านทรายทอง | 35. เริงลีลาศ |
6. คนึงหา | 16. ดาว | 26. บุพเพสันนิวาส | 36. เรือนแพ |
7. ครวญ | 17. ใต้ร่มมลุลี | 27. ฝนนี้ | 37. ลมหวน |
8. ค่าน้ำนม | 18. ท่าฉลอม | 28. พรานทะเล | 38. ลุ่มเจ้าพระยา |
9. คำรำพัน | 19. ทุ่งรวงทอง | 29. ฟ้าคลุ้มฝน | 39. โลกกับความรัก |
10. เคว้งคว้าง | 20. โธ่เอ๋ย | 30. ไม่รักไม่ว่า | 40. โลกนี้คือละคร |
1. กบฎหัวใจ
ธานินทร์ อินทรเทพรักเป็นกบฎ ทรยศหัวใจ ชอกช้ำแทบสิ้น ตาย
เจ็บ ด้วยคนใจหิน เปลี่ยนรสสัมผัส
ผละรัก เหมือนผละแผ่นดิน
กว่าชีวิตดับสูญ สิ้น ซ่อน ซุกถิ่นฐาน ใด
ลี้ภัยในอก ลงนรกทั้งเป็น
เขี่ยรักกลิ้ง กระเด็น ช่างเลือดเย็นเข่นใจ
เมื่อคิดกบฎ หมดรักแล้วไม่เป็นไร
จับไม่มั่น คั้นไม่ตาย ก็อย่าหมาย คืนมา
อยู่ ต่อไปก็ไร้ความซื่อ ไปเสียเถิด
คนเขาลือ ขายชื่อ ขายหน้า
ภัยความรักหาญหักอัปลักษณ์
เจ็บช้ำแสน ทรมาน ยิ่งกว่าภัยการเมือง
รักเป็นกบฎ ทรยศหัวใจ
ยิ่งคิด ยิ่งเสียดาย ทุ่มรักไปสิ้นเปลือง
เขตอาณาจักร แห่งรักที่เคยรุ่งเรือง
เหลือซากไว้ ให้ขุ่นเคือง โอ้รักเอ๋ย เปลืองใจ
2. กุหลาบเวียงพิงค์
วงจันทร์ ไพโรจน์กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้บ่มีเจ้าของ
เพิ่งแรกแย้มบ่มีไผปอง
เป็นเจ้าของครองใจเด็ดดม
ส่งกลิ่นอบอวล ยั่วยวนหัวใจไปตามสายลม
ทั่วแว่นแคว้นแดนไทยหมายชม
สมเป็นกุหลาบ เวียง เหนือ
กุหลาบเวียงไหน
ทั่วถิ่นแคว้นในแดนสยาม
ยังบ่เทียมเทียบเท่าความงาม
เปรียบดังสาวชาวพิงค์งามเหลือ
บ่ได้แต่งเติม เสริมส่งไว้ลวงให้ใครหลงเชื่อ
ปากบ่แดงแป้งบ่ได้เจือ
คิวบ่ได้เคลือบดินสอ
กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้สวยจริงเจ้าเอย
ยังบ่มีผู้ใดไหนเลย มาโลมเล้าเอาไปพนอ
ด้วยสาวชาวพิงค์ กลัวบ่ฮักจริงของชายรูปหล่อ
กลัวเสียนักกลัวคำป้อยอ
กลัวน้ำตาร่วงรินทรวง
หมู่เฮาชาวเหนือ
อย่าไปเชื่อเชียวหนอคำชาย
เดี๋ยวจะต้องเจ็บช้ำใจกาย
เปิ้นเมืองใต้พูดจาหลอกลวง
หากเปิ้นได้เฮา
เปิ้นคงทิ้งเราน้ำตาไหลร่วง
หากหลงลม คงโดนหลอกลวง
ช้ำทรวงเหมือนดั่ง บัวบาน
3. ขอให้เหมือนเดิม
สุนทราภรณ์ก่อนจากกัน คืนนั้นสองเรา
แนบซบเนาเคล้าคลอพ้อพลอดภิรมย์
หวานล้ำบำเรอ เธอให้ชิดชม
ฉันกอดเล้าโลม ชื่นใจ
จูบแก้มนวล ช่างยวนเย้าตรึง
จิตคนึงถึงวันรักซ่านฤทัย
หอมหวลนวลปราง มิสร่างหายไป
ถึงห่างแสนไกลยังติดหัวใจมิลืม
ยามรักร้างแรมกัน
เพ้อทุกคืนวัน ติดตรึงใจฝันเตือน
มาเจอกัน แล้วไยเฉยเชือน
ฉันมาเยี่ยมเยือน อย่าง เคย
สุดที่รัก ลืมแล้วหรือไร
โปรดเห็นใจขอให้สมจิตชิดเชย
หวานซึ้งอันใดจงอย่าร้างเลย
ขออย่าเฉยเมยรักเอยขอให้เหมือนเดิม
4. ขาดฉันแล้วจะรู้สึก
ธานินทร์ อินทรเทพใจจริงส่วนลึก ฉันเองยังรักเธอ
อภัยเสมอแม้เธอใจแสนดำ
เธอต้องการสิ่งใดใด
เพียรหาให้อยู่ประจำ
ไม่เคยกระทำ ให้เธอหมองหม่น
เธอคงไม่ซึ้งในค่าของคำรัก
เพราะคนบอกรักเธอมีมาก หลายคน
คนภักดีอย่างจริงใจ เธอมิเคยใส่กมล
ลวดลายสับสน วกวน อุรา
ฉันจึงจำตัดใจ หลีกทางห่างไกล
หนีภาพคอยบาดตา จงโชคดี ดั่งที่ปรารถนา
ถึงฉันคนไร้ค่า คงมีวันหาได้ใหม่
วันใดขาดฉัน แล้วเธอจะรู้สึก
วันไหนสำนึก แล้วเธอจะเสียใจ
มีแก้วงามอยู่ในมือ เธอมิเคยห่วงอาลัย
ต่อวันหลุดไป จึงค่อยคร่ำครวญ
5. คนเดียวในดวงใจ
ศรีไศล สุชาติวุฒิเธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
ฉันไม่เคยคิด รู้ แต่บัดนี้ เธอมาสถิตย์
มาอยู่ใกล้ชิด ในดวงใจฉัน
เธอมาจากไหน จากดินผืนใด
หรือจากสวรรค์ ฉันก็จะรัก
รักเธอเท่ากัน ไม่เคยจะหวั่นแม้คำนินทา
คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต
คนเดียวสนิท แนบ อุรา
คนเดียวที่ฉัน บูชา
ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก
เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว
ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย
ในโลกก็ยอม
6. คนึงหา
พิทยา บุญยรัตพันธ์ถึง จะอยู่ ห่าง กัน ก็ฝันถึงเธอทุกคืน
จำได้ไม่ลืมเมื่อยามนิทรา
ยาม ตื่น ขื่นขม เธอไม่มา
คิดถึง คิดถึง คิดถึงคนึง หา
พารัญจวน
ยามกิน สิ้นเธอ คอยป้อน
ยามนอน อาวรณ์ อาลัย
ยามเปลี่ยวเปล่า ให้เหงา ดวงใจ
โอ้เธอ ไปไหน ไปไหน ไปไหน
ไย ไม่กลับ คืนมา
7. ครวญ
สุเทพ วงศ์กำแหงเมื่ออยู่ริม ฝั่ง ชล ฉันยล ทุกยาม เย็น
พักในร่มเงา ไม้เอน
ฉัน มอง เห็นนก บินกลับรัง
ตะวันใกล้จะ ลับ แล้ว
เห็นเรือแจว อยู่ ริม ฝั่ง
เฝ้าแต่ครวญ แต่ครวญครวญหา น้ำตา หลั่ง
จึงร้องสั่ง อา ลัย
เฝ้าแต่ครวญ สั่งคำ แม้เรือ ลอยลำ ไป
พบคนที่เคยซึ้งใจ ขอเรือ นำเธอมาให้ที
ตะวันใกล้จม แผ่นน้ำ
สายชลงาม ดังกำ มะหยี่
โอ้ว่าดาว ว่าดาวดวงนี้ แสงพลันริบหรี่
คงริบหรี่ เช่น เรา
8. ค่าน้ำนม
สมยศ ทัศนพันธ์แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
ควร คิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
9. คำรำพัน
สุนทราภรณ์ เพ็ญศรี พุ่มชูศรีมานึกรำพึง คนึงถึงตัว
อกเอย นึกเกรงกลัวใจสั่นระรัว มัวระเริง
หลงเชื่อแต่คำวิงวอน ออดอ้อนปลอบใจ ให้เหลิง
แรง ร้อนเร่า เท่า เพลิง ระเริง มัว เมา
รักเขาเท่า ชีวัน
คำหวานเยินยอ พนอง้องอน
เชื่อใจเขาไม่หลอกหลอน
ฟังสร้อยสุนทร เสน่ห์พลัน
เขาพลอดเขาออด อ้อน วอน
หัวใจก็อ่อน เห หัน
เพลิน เคลิบเคลิ้ม คำรำพัน
มิทันได้ไตร่ตรอง อกฉันจึงต้อง ระทม
ความรักอาลัยหนักใจเหลือเกิน
ลุ่มหลง เสียจนเพลิน
เราถูกยอเยินจึงเพลินนิยม
ความรักที่เกาะ กิน ใจ
ซึมแทรกอยู่ใน อา รมณ์
หลง รักเขาชื่นชม
นิยม มั่น ใจ เขานั้นไม่ แล เหลียว
ความรักใครใครก็ไม่เหมือนเรา
ไม่สด ชื่นดั่งเขา
โอ้ว่ารักเราช่าง เปล่า เปลี่ยว
เขาชูเขาชื่น ชี วิต รักกันสนิท กลมเกลียว
โอ้ อกเอ๋ย เราคนเดียว
รักเราอยู่โดดเดี่ยว เปลี่ยวใจทำให้ อาดูร
10. เคว้งคว้าง
ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์สุดกล้ำกลืน ยืนน้ำตาคลอ
ใจมันท้อ และอ่อนล้า
ได้แต่มอง เธอจนเดินลับสายตา
มันเหมือนว่า จะขาดใจ
เคว้งคว้าง เหมือนหลงทาง กลางป่า
ยืนมองฟ้า ไร้ดาว
ความเดียวดาย ช่างปวดร้าว
เหมือนถึงคราว สิ้นใจ
กี่หยดน้ำ ที่มันไหลลงมา
จากขอบตา ไม่ขาดสาย
มันอัดอั้น บีบคั้น ในใจ
จึงยอมให้ มันออกมา
เคว้งคว้าง เหมือนหลงทาง กลางป่า
ยืนมองฟ้า ไร้ดาว
ความเดียวดาย ช่างปวดร้าว
เหมือนถึงคราว สิ้นใจ
กี่หยดน้ำ ที่มันไหลลงมา
จากขอบตา ไม่ขาดสาย
มันอัดอั้น บีบคั้น ในใจ
จึงยอมให้ มันออกมา
เคว้งคว้าง เหมือนหลงทาง กลางป่า
ยืนมองฟ้า ไร้ดาว
ความเดียวดาย ช่างปวดร้าว
เหมือนถึงคราว สิ้นใจ
11. จงรัก
ศรีไศล สุชาติวุฒิโปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีต และโปรด อย่าถาม
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม
(ช)โอ้ นวลละอองน้องจะเหนียมอาย ไปทำไม
หันมา ใกล้ ใกล้ซิจะอาย ไปไหนกัน
(ญ)อุ๊ยไม่เอา อุ๊ยไม่เอา เขารู้ ทัน
น้องอาย พระจันทร์ ดูซิท่าน กำลังมอง
(ช)ถึง จะมอง ก็ไม่เห็น เป็นอะไร
ท่านก็คง เป็นใจ เพราะอยากให้ เราสมปอง
(ญ)นึก นึก เอาแต่ใจ ตามลำพอง
แน่ะ ท่านมอง ทำยั่วยิ้ม เป็นนัยนัย
(ช)จันทร์ไม่มองแล้วจันทร์ไม่มอง
(ญ)จันทร์ไม่มองน้องก็ไม่ให้
(ช)จันทร์ไม่มองน้องอายอะไร
(ญ)อายแก่ใจเห็นดาวยังจ้อง
(ช)แน่ะเมฆ มาทับ ดับแล้วดวง ดารา
ขอหอม หน่อย ขวัญตา
น้องเอยอย่ากลัวท่านเหลียว มอง
(ญ)อุ๊ย ว้าย ดูซิช้ำ ไปเป็นกอง
(ช)โธ่ อย่าร้องซิท่านจะเหลียวมองดูเรา
13. เจ้าพระยา
เอ็กซวายแซดกาพย์โคลงกลอนก่อนนั้น
เขาวาดฝันบรรยายเรื่องราว
กล่าวเป็นเพลงเรือขับขาน
เป็นตำนานเพลงเจ้าพระยา
แต่มาในบัดนี้ คำกวีในจินตนา
ก็เป็นเพียงความงามที่แล้ว มา
เหมือนฝัน วัน วาน
ไม่มีใครกล่าวขาน ไม่มี นิทานเรื่องใหม่
เจ้าพระยาขุ่นไป ไม่เหมือนเดิม
ไม่มีเพลงหนุ่มสาว ไม่มีเรื่องราวอ่อนหวาน
เหลือแต่โคลงกลอนแห่ง สาร เค มี
กาพย์โคลงกลอนก่อนนั้น
เขาวาดฝันบรรยายเรื่องราว
กล่าวเป็นเพลงเรือขับขาน
เป็นตำนานเพลงเจ้าพระยา
แต่มาในบัดนี้ คำกวีในจินตนา
ก็เป็นเพียงความงามที่แล้ว มา
เหมือนฝัน วัน วาน
เจ้าพระยาขุ่นไป เหมือนใครทำใจให้ขุ่น
เจ้าพระยาสิ้นบุญ อยู่หรือไร
จับมือมาประสาน คิดการช่วยกันเข้าไว้
เจ้าพระยาจะใสเหมือนก่อน
14. ฉันวันนี้
ธานินทร์ อินทรเทพทุกวันฉันมี ความสุขหัวใจ
ไม่อยาก จะคิดอะไร
มีหัวใจ เหมือนห้องว่างเปล่า
ไม่โกรธ ไม่แค้น
ไม่เกลียดใคร ให้ใจหมองเศร้า
ใครว่า อย่างไรช่างเขา
ตัวของเรา รู้ตัวเราดี
ท่องไปเที่ยวไปให้หมดสิ้นวัน
ชาติหนึ่ง ชีวิตแสนสั้น ขอใช้มัน ให้ฉ่ำชีวี
มืดค่ำง่วงเหงา ซุกกายเข้า ถ้าพอมีที่
ถ้าหากเจ้าของเขามีต้องขอโทษที มิได้ตั้งใจ
อาจ จะเป็นชีวิตเสเพล
แต่จิตใจไม่เคยเกเร
หลอกลวง ทำร้ายใจใคร
แต่เรื่องความรัก ใครรอ ต้องขอเสียใจ
ฉันมอบถวายวัดไป
พร้อมกับหญิงชาย คู่นั้นนานแล้ว
นี่คือฉันเองที่อยู่ที่มี
เรือนร่างอาจเลอะโลกีย์
ฉันก็มีหัวใจผ่องแผ้ว
เลิกใฝ่เพ้อฝัน ถึงวิมานฉิมพลีเมืองแก้ว
หลับได้คืนคืนพอแล้ว
ไม่เป็นนกแก้ว ในกรงของใคร
15. ชั่วฟ้าดินสลาย
สวลี ผกาพันธ์ชั่วดินฟ้า รัก เธอ เสมอ ใจ
ที่ ฉัน รำ พัน ทุก วัน ฝันไปถึงเธอ
อยากให้เธอ หวาน ใจ อยู่ ใกล้
พรอด รัก ร้อย เรียง ร่วมเคล้าเคียง
ฉันและเธอ
ก่อนเข้านอน ฉัน วอน ฝัน ไป
เพ้อ ครวญ ภาพเธอหลอน ให้ชวน ละเมอ
อยากให้เป็น ของ เธอ ชั่ว ฟ้า
ดิน ได้ อย่า มี อันใดพรากไป ไกลกัน
16. ดาว
สุเทพ วงศ์กำแหงฮัม.....
โอ้ ดาว ไร้ราคีคาวช่างงามล้ำค่า
เย้ยอื่นดาริกา อยากสอยดาวมา แนบใจ
เฝ้า มอง หัวใจร่ำร้องเพียงมองฝันใฝ่
เฝ้า แต่ ตรมฤทัย หม่นหมองดวงใจ เศร้าซม
รัก ดาว รัก ดาว ชั้นพรหม
บุญจึง ไม่สม ต้องขื่นขม ตรม ทรวง ใน
โอ้ ดาว ขอรักดาวจนชีวันหาไม่
ขอ โปรด ดาวเห็นใจ
ชุบดวงฤทัยพี่ เถิดดาว
17. ใต้ร่มมลุลี
สุนทราภรณ์ วินัย-เพ็ญศรี(ญ)โอ มลุลี ร่ม นี้ มืด มน
ช้ำเหลือทน อับ จน หัว ใจ
ต้อง พราก รัก ไป ภาย ใต้ ร่ม ไม้
ของ เจ้า นี้
(ช)ลืมรักที่หลั่ง ลง ฝัง กับใจ
ฝังฝากให้ ใต้ ร่ม มลุลี
จง ลืม รัก พี่ อย่ามีฤดี อาลัย ต่อกัน
(ญ)ยาก เย็น กรรมหรือเวรอันใด
นำ ชัก ให้ ดวงฤทัยโศกศัลย์
(ช)พี่ ตรม สุดภิรมย์รำพัน
บุญไม่เปรียบเทียบทัน ร้าว ราน ฤทัย
(ญ)โอ้รักที่ผ่าน ดัง ฝัน ชั่ว คืน
ครั้นพอตื่น กลับ คืน หาย ไป
(ช)โธ่ อย่า ร้อง ไห้
พลอยให้ดวงใจ ร้าวระทม
(ญ)ยาก เย็น กรรมหรือเวรอันใด
นำ ชัก ให้ ดวงฤทัยโศกศัลย์
(ช)พี่ ตรม สุดภิรมย์รำพัน
บุญไม่เปรียบเทียบทัน ร้าว ราน ฤทัย
(ช)โอ้รักที่ผ่าน ดัง ฝัน ชั่ว คืน
(ญ)ครั้นพอตื่น กลับ คืน หายไป
(ช)โธ่ อย่า ร้อง ไห้
พลอย ให้ ดวง ใจ ร้าวระทม
(ช)ญร่มมลุลี เป็นที่ สุดท้าย
แห่งจุดหมาย น้อง พี่
มลุลี เห็น ใจ น้อง พี่
ว่าสิ้นคืนนี้ น้อง พี่ สิ้น กัน
18. ท่าฉลอม
ชรินทร์ นันทนาครพี่ อยู่ไกลถึงท่าฉลอม
แต่พี่ไม่ตรอมเพราะรักพยอม ยาม ยาก
ออกทะเล จะหาปลา มาฝาก
แม่คุณขวัญใจคนยาก รับของฝากจากพี่ได้ไหม
โปรด เมตตารักพี่สักนิด
พี่มอบชีวิตอุทิศให้สาว มหาชัย
แบกความรัก ข้ามทะเล มา ให้
ฝ่าลมและคลื่นเท่าไหร่ รักจึงได้ว่ายน้ำข้ามมา
ท่าฉลอม กับมหา ชัย
จะคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า
บอกเพียงสักคำ ว่าไม่รักจะหักใจลา
ซ่อนตัวตามประสา จะหนีซ่อนหน้า ห่าง ไกล
เรื่อง ทะเลนั้นพี่พอรู้
แต่เรื่องเจ้าชู้ไม่รู้จะทำ ฉันใด
หยั่งทะเลพอคะเน ดู ได้
แต่ความรักเกินครวญใคร่
ลึกเท่าไหร่ไม่รู้หยั่งถึง
19. ทุ่งรวงทอง
ชรินทร์ นันทนาครทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
เห็นข้าวออกรวงน่ามอง
ดุจแสงทองสีแห่งศรัทธา
พี่มาได้ยล นฤมลนวลน้องบ้านนา
ถึงจะสวยตามประสา
ก็โสภาเหนือกว่านางใด
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
น้ำเปี่ยมอยู่ริมฝั่งคลอง
เช่นพี่รัก น้องเปี่ยมฤทัย
สะพานเชื่อมคลอง เหมือนพี่กับน้องเชื่อมใจ
ถึงอยู่แสนไกลแค่ไหน เชื่อมหัวใจให้สมปอง
พี่ เยือน ถึงถิ่น น้องเอยอย่าหมิ่น
น้ำใจเพื่อนใหม่ จะหมอง
ขออยู่ ขอตายจนวันสุดท้ายกับน้อง
ให้ทุ่ง รวงทองนี้เป็นเจ้าของ เรือน ตาย
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
แม้นหากขาดพี่ ขาดน้อง
ทุ่งรวงทองก็หมดความหมาย
พี่มาจากกรุง หมายมุ่งมาหาเพื่อนตาย
รับปากรักพี่ได้ไหม
โอ้ขวัญใจ ทุ่งรวงทอง
20. โธ่เอ๋ย
สวลี ผกาพันธ์โธ่ เอ๋ย กรรมของคุณแท้ๆ
ใครให้แส่ มารัก ฉัน งมงาย
ฉันเชื่อแน่ ๆ ว่าคุณ กล่อม ใจ
โถคง หม่นไหม้หัวใจ คงวุ่น
โธ่ เอ๋ย กรรมของคุณแท้ๆ
ฉันได้แต่ เวทนา ใน ตัวคุณ
เห็นหน้าเศร้า ๆ พ่อเจ้า พระคุณ
ขออย่า หมกมุ่น แต่ฉัน นัก เลย
ทำไม นะ ผู้หญิงอื่นมีถมไป
ทำไมไม่เลือก ไว้เป็น คู่ เชย
ใช่ว่าฉัน เกลียดคุณเปล่าเลย
เฉยๆ เพราะฉันรักใครไม่ได้
โธ่ เอ๋ย กรรมของคุณแท้ๆ
รอวันแก่อย่างสิ้นหวัง ทำไม
รู้เสียแรกๆควรรีบ กลับ ใจ
โถบอกก็ได้ว่าฉันมีคู่แล้วเอย
21. นกเขาคูรัก
ชรินทร์ เพ็ญศรี(ช)โน่นแน่ะนกเขา คู จุ๊ก
จุ๊กกรูนกมันเฝ้าคูหาชู้ มัน
(ญ)โถโก่งคอทำเสียง หวาน
ช่างน่าสงสารนะกระไรใจ ข้า
(ช)ก็พี่ปักใจใฝ่รัก รัก
เจ้าไย มิเห็นใจ เมตตา
(ญ)นกมันรักกันรักมันก็มี แต่จ๊ะ จ๋า
ไม่มีมารยาเสมือน ร้อยลิ้น คนพร่ำ
(ช)ดวงใจ เอ๋ย นกมันเหมือนพี่เฉลย เอ่ย คำ
(ญ)พูดไปแล้วต้องจำ
(ช)พูดไปแล้ว พี่จำมิต้องพูดซ้ำ ดวงใจ
(ญ)พี่อย่าเป็นเหมือนเช่นนกแก้ว
(ช)พี่ไม่เป็นเหมือนเช่นนกแก้ว
(ญ)พูดเจื้อยแจ้วเรื่อยไป
(ช)ออกจากปากพี่ไป (ญ)ขอให้ออกจากใจ
(ช)พี่ปากกับใจ ตรงกัน
(ญ)แน่ะใคร (ช)ไหนใคร
(ญ)โน่นไง แฝงตัวร่มเงาไม้ใหญ่
(ช)ใช่ใครนกเขาคู่มัน
(ญ)เสียงใคร (ช)ไหนกัน
(ญ)เสียงนั่น
(ช)อ๋อนกมันพลอดคำรำพัน
ฝากชีวันรักกันไงเล่า
(ญ)ไย รู้
(ช)ดู เอา พี่เห็นมันเฝ้าหยอกเย้าต่อกัน
(ญ)พี่ต้องเอาอย่างมัน
(ช)พี่จะเอาอย่างมัน
มิเปลี่ยนแปรผัน เลยเอย
22. น้ำตาแสงไต้
สง่า อารัมภีร์นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ
ถ้อยคำ เหมือน จะชวน
ใจ พี่ หวน ครวญคร่ำอาลัย
น้ำ ตา อาบแก้ม เพียงแซม เพชร ไสว
แวววับ จับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา
นวล แสงเพชร เกล็ดแก้ว อันล้ำค่า
ครา เมื่อต้องแสง ไฟส่องมา
แวววาวชวนชื่นชม
น้ำ ตา แสงไต้ ดื่มใจ พี่ร้าวระบม
ไม่อยาก พรากขวัญ ภิรมย์
จำ ใจ ข่ม ใจไปจากนวล
นวล เจ้าพี่เอย
นวล เจ้าพี่เอย
23. น้ำใต้ศอก
แหวน ฐิติมา สุตสุนทรเทหัวใจทั้งใจให้เธอ ให้เธอหมดเลยจริงจริง
ทั้งทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง จะได้แอบอิง แต่ก็ยังเต็มใจ
ตาสองตาก็มองเห็นอยู่ รู้ดีว่าเธอมีใคร
รักเธอไปแล้วมันพลาดไปแล้ว มันรักหมดใจ
จะให้ตัดใจขอตายดีกว่า เจ็บอย่างไงก็ยังฝืนทนไม่บ่น
จะทนเพราะมาทีหลัง อยากอยู่เคียงก็ยังต้องทนเหินห่าง
จะเจอกันบางเวลา บางครั้ง บางหน ก็พอใจ
คำที่คนโบราณเขาเอ่ย ฉันเคยว่าเชยเกินไป
เมื่อมาวันนี้มันซาบมันซึ้ง มันถึงเข้าใจ
นี่แหละความหมายของน้ำใต้ศอก เจ็บอย่างไงก็ยังฝืนทนไม่บ่น
จะทนเพราะมาทีหลัง อยากอยู่เคียงก็ยังต้องทนเหินห่าง
จะเจอกันบางเวลา บางครั้ง บางหน ก็พอใจ
24. เนื้อทองของพี่
ชรินทร์ นันทนาครเนื้อ ทอง ของ พี่ เจ้าหนี พี่ ไป
แรกเจ้ารัก พี่ก็รัก ปัก ใจ
แต่เจ้าพลาด พลั้ง ไป ให้ใครสุดชม
เนื้อ ทอง ของ พี่ พี่นี้ ต้อง ตรม
กลับเถอะหนา อย่าไปหา อื่น ชม
เจ้าให้พี่ ภิ รมย์ ชม ขึ้น ใจ
หวัง อยู่ เคียง ข้าง นาง นอน
สุดโศกศัลย์ เจ้าเท่านั้น บั่นทอน
อ้อมกอดพี่ร้าว รอน หรือ อย่าง ไร
รัก จึง ลา ล่วง ดวงใจ
พี่อ้างว้าง ด้วยเจ้าร้าง ห่าง ไกล
หลงอ้อมกอด ของใครใคร สุด ตรม
พี่ซิเฝ้าคอย คอยหา เนื้อทองไม่ มา ยิ่ง มอง
คอยแต่เธอละเมอใจปอง ขอให้คืน คง ครอง
พี่จะคอย เนื้อ ทองครอง คู่ เอย
25. บ้านทรายทอง
สวลี ผกาพันธ์นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่
ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน
อาจมียิ้มอาบ ฉาบบนสีหน้า ว่ามีน้ำใจ
แต่สิ่งซ่อนไว้ ใน ดวงจิต คือความริษยา
เขตรั้วไพศาล โอบบ้านทรายทอง
คือแขนของ พระเจ้า
ขอจงเอื้อมมือ และโอบกอดเรา
ผู้ผ่านเข้ามา เพียงเดียวดาย
อาจตายเพราะโง่ โอ้อนิจจา
โปรดอย่าอิจฉา สมาชิกใหม่
ของบ้านทรายทอง
26. บุพเพสันนิวาส
สุนทราภรณ์ ประพนธ์ สุนทรจามรเมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด
บุพเพ สันนิวาส ที่ประสาทความรักภิรมย์
คู่ ใคร คู่ เขา รักยังคอย เฝ้าชม
คอยภิรมย์ เรื่อย มา
ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น
บุพเพยังสรรค์ประสบ ให้ได้สบ พบรักกันได้
ห่าง กัน แค่ ไหน เขาสูงบัง กั้นไว้
รักยังได้ บู ชา
ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน
รักไม่มี ศาสนา
แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กันมา
พรหม ลิขิต พาชื่นใจ
รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้
ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้
รักจึงได้ แรม รา
ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน
รักไม่มี ศาสนา
แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กัน มา
พรหม ลิขิต พาชื่นใจ
รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้
ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้
รักจึงได้ แรม รา
27. ฝนนี้
สุเทพ-สวลี(ช)โอ้ ดวง ใจ เอ๋ยพี่ เอ่ย ขอ ง้อ งอน เจ้า
(ญ) จะขออะไรเล่าแม้เงาไม่ขัด เลย
(ช) พี่ ระอาน้องมาล้อเล่นเช่นเคย
(ญ) อก เอ๋ย ผู้ชาย แสน งอน
พ่อ ขวัญ อ่อนขออะไร ว่า มา
(ช) ก็ รู้อยู่ แก่ใจเรือนหอรอรักใคร
จนได้ ปี กว่า
(ญ) รอ คู่วิวาห์จะมา ร่วม เรียง
(ช) แล้ว ใคร เก เรไม่อยู่ เคียง
(ญ) จงเห็นใจ น้องบ้างคนดี
(ช) พี่เห็นใจ น้องตั้งเกือบปี
(ญ) เดี๋ยวนี้ไม่ เห็น ใจ
(ช) พี่เห็นใจ เรื่อย ไป
(ญ) รัก (ช)รัก
(ญ) เรา (ช)เรา
(ญ) คง (ช)คง
(ญ) มั่น (ช) มั่น งั้น วิ วาห์ เสีย ที
(ญ) หน้า ฝน นี้
(ช)จ๊ะ หน้า ฝน นี้
(ช-ญ) สอง ชีวี เรา
คงไม่พรากจากกัน
28. พรานทะเล
สุนทราภรณ์ชีวิตที่คร่ำ กลางน้ำเวียนวน
ลอยล่องกลางชลไม่พ้นทนไป
อยู่กับเรือเบื่อใจ ผองพรานทะเลเร่ไป
อยู่ห่างไกลกลางสายชล
มองน้ำตรงหน้า จรดฟ้าไกลไกล
ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน
คลื่นและลม สู้ ทน ทุกข์ใจปานใดไม่บ่น
สู้แดดฝนลำบาก กาย
อยู่หว่างทะเล นาน นาน
ท้องเรือเป็นบ้าน ท้องธารเรือนตาย
สิ้นชีพสิ้นชนม์ เคราะห์ร้าย
ศพฝังโดยง่าย ฝากเอาไว้ใต้ คงคา
เพียงเห็นริมฝั่ง สักครั้งดีใจ
มาบกทีไรให้แสนปรีดา
ใกล้แผ่นดิน เข้า มา
เหมือนมีวิมานตรงหน้า
ปลื้มหนักหนา แทบจูบดิน
29. ฟ้าคลุ้มฝน
สุนทราภรณ์ราตรีนี้มืดไม่เห็นเพ็ญโสม ส่อง
ดารามิผ่องมืดมัวทั่วมุม
ร้อนรุมหมองไหม้เหมือนไข้รุม
ฟ้าดำมิดมืดเหมือนม่านคลุม
อกเรียมยิ่งคลุ้มกลุ้มรัญจวน
อัมพรสะท้อนดังครืน ดังใจสะท้านสะอื้น
คงช้ำกล้ำกลืน ปั่นป่วน
ฟ้า ร่ำไห้เหมือนใจร่ำหวน
เปรียบหัวใจ เรียมป่วน
ข้าครองฟ้าครวญ ตรอมใจ
เมื่อยามฝนตกหัวอกยิ่งคลุ้ม คลั่ง
ดุจดังฉันหลั่งน้ำตาไหล
นิจจาโอ้ฟ้า ร้องไห้ โถตัวข้าหรือจะทนได้
เศร้าใจให้ฝืน ชื่น บาน
ฟ้าแลบดู แวบ วับ
แปลบปลาบต้องหลับตา
เหมือนดังนภา ร้าวราน
ตัวข้าช้ำอุราช้านาน
ด้วยความรักทรมาน
อกเอ๋ยยิ่งคิดยิ่งร้าวราน
รักกำซ่าน ทรวง
30. ไม่รักไม่ว่า
วินัย พันธุรักษ์รู้รู้อยู่ มิควรคู่ กับจอมใจ
วาสนาเราแสนไกล หนักหนา
แต่ความรัก หักฉันใดไม่เลือนลา
แค่เพียงไม่เห็นดวงหน้า เหมือนว่าจะบ้าตาย
สุดเหลือ จะบอกเขา ให้เข้าใจ
ว่าเรา รักเท่าใดจริงแค่ไหน ทั้งใจและกาย
ให้คิด เลิก รัก ไปเหมือนให้ตาย
มันโหดร้ายเกินไปแก้วตา
จอมใจไม่รัก ก็ไม่ต้องรัก ต้องฝืน
จอมใจไม่ชื่น ก็ไม่ต้องฝืน เวทนา
เพียงแต่ขอ ให้พี่รักภักดีสุดา
ก็สุขอุราเป็นวาสนา พี่นัก
ใจเธอนั้นจะรักชอบมอบผู้ใด
จะเป็นของใครเมื่อไหร่ ไม่ห่วงเลยที่รัก
ชาตินี้ พี่ น้อย บุญนัก เจียมตนสู้ข่มรัก
สร้างกุศล รอชาติใหม่มี
31. ระฆังทอง
สาธิยา ศิลาเกษกล่อม เอย หัวใจ ลอยล่องไป
ยังทิพย์วิมาน ครอง เรือนหอสำราญ
ทิพย์สถาน วิมาน ทอง
กล่อมเอย เสียงระฆัง แว่วหวานดัง
เพลงทิพย์หวานก้อง นอน เถิดหนอนวลน้อง
ระฆังทอง กล่อมให้ภิรมย์
วิญญาณ ล่องลอยสมสู่ ชื่นชู แนบเนื้อชิดชม
เย็น ละลิ่วแรงลม สวาทประพรม
เคล้า เสียงระฆัง
กล่อม เอย คู่วิวาห์
ร้อยด้วยมาลา ผูกหอเวียงวัง
พร ทั่วทิศไหลหลั่ง
มนต์น้ำสังข์ สร้างวัง สวาทเอย
(ญ)แสงจันทร์ นวลผ่อง
นภาพราวพร่างดังทอง เมื่อมองแล้วสุขอุรา
(ช)เดือน สวยสว่างพร่างตา
ฟ้า ชื่นวิญญา จันทราจุมพิต ทุกคืน
(ญ) เห็นนภา สม รัก หวั่นใจนัก
เกรงรักกลาย ไม่ชื่น
(ช)ไม่ต้องกลัวเป็นอื่น
รักพี่มีแต่ชื่น ชื่นรัก เรื่อยไป
(ญ)คำก็รักสองคำก็รัก
น้องใคร่ทราบนัก รักมากเท่าไหร่
(ช)รักเจ้านั้นรักจนหมดใจ
มิ มี สิ่งใดมาเทียมพี่รัก
(ญ)ครึ่งแผ่นฟ้านี้ได้ไหมพี่
(ช)สุดฟ้านี้ ไม่ถึงครึ่งรัก
(ญ)อยากจะเห็นดวงใจพี่นัก
(ช)เชิญน้องควักออกดู พี่ ยอม สิ้น
(ญ)หวั่นใจเหลือเอ่ย คำเฉลยดั่ง ร้อย ลิ้น
(ช)เสียดาย ไม่สิ้น
ลิ้นมีเพียงหนึ่ง ไม่ถึง ร้อย พัน
(ญ)ลิ้นหนึ่ง อย่างนี้ วจี ยังตามไม่ค่อยจะทัน
(ช)หากมีร้อยจะให้ทั้งร้อย เสกสรร
(ญ-ช)เพ้อ รำพัน แต่คำ รักเอย
(ช)รักฉันนานนาน อย่ารานรักห่าง
อย่าจางร้างไป
จิตใจฝันใฝ่ จำไว้อย่าเลือน จิตเตือนใฝ่หา
(ญ) รักฉันนานนาน อย่าพาลเผลอปล่อย
พลอยลืมสัญญา
โปรดจำไว้ว่า อย่าคิดกลับคำ
จำไว้นานนาน
(ช-ญ) หวาน ยามรักเราอยู่เคียง
สุขสองเราเพียง สู่สวรรค์
(ช) ขอเธอจำไว้ให้มั่น
อย่าลืมฉันหวั่นใจ
(ญ) รักฉันนานนาน หมั่นจำไว้หน่อย
อย่าลอยลับไป
จวบจนฟ้าใหม่ ไม่คิดกลับคำ จำไว้นานนาน
34. รักใต้ร่มไทร
สุเทพ-สวลี(ช)เห็นไทร พริ้วใบเมื่อต้องลม
ชี้ชวนให้เจ้าชมพรอดรัก พรรณา
(ญ)ม่านไทรย้อยห้อยระย้า
พาร่มเย็น เหมือนหนึ่งเป็น วิมานเมืองฟ้า
(ช)ลม โชย หวล มวลดอกไม้นานา
หอมไม่เกินไปกว่า นวลแก้มน้อง
(ญ)อุ๊ยอย่าต้อง ของหวงห้าม
(ช)พี่เชยเพียงนิด ไย น้องปิดห้ามปราม
(ญ)มิควร หยาบหยาม
(ช)ชม เพราะความเสน่หา
(ญ)อายฟ้าดินเถอะพี่ขา
(ช)ดวง ตา ฟ้า ดิน นั้นควรจะอิจฉา
ท่านหาความรักไม่ได้
(ญ)คำ ช่างหวาน ฮึม ฮืม ฮืม
นาน คงเบื่อ ลืมเยื่อใย
(ช)รัก ฮึม ฮืม ฮืม พี่นี้มาจาก ใจ
เปรียบปานร่มไทร ใหญ่และ ยงยืน
(ญ)แม้ม้วยดินสิ้นโลก ไทรโยกคลอน
รักอาจถอน กลายเป็นอื่น
(ช)รักเดียวแน่วแน่ (ญ)มิแปรขมขื่น
(ช)สาบานต่อหน้า (ญ)รักอย่าเป็นอื่น
(ช)มิยอมมีอื่น (ญ)งั้นชื่นปรางได้
(ช-ญ)ณ ร่มไทร
สอง ดวงใจ ขอวอนสวาทให้
ยั่งยืน เหมือนไทรที่ร่มรื่น ชื่นสุขเสมอเอย
35. เริงลีลาศ
สุนทราภรณ์เอ้า ฮา เฮ่ ฮา เฉยช้าอยู่ไย
เอ้า ฮะ ฮ่ะ ไฮ้ ใครต่อใคร
เขาร้ายทั้งนั้นน่ะ
เอ้า ฮิ ฮิ ฮิ ดูให้ดีเขาลีลาศกัน
ยักแย้ แย่ยันเห็นเขาเต้นกันเสียวซ่านอุรา
โอ้ โห โอ้ โห โย้เย้โยกไป
เอ้า ฮะ ฮ่ะ ไฮ้ ใครต่อใครย้ายยักควักคว้า
เอ้า ฮิ ฮิ ฮิ ดูให้ดีเขามีใหม่มา
เอ้า ฮ้า เอ้า ฮาเขาลีลาศพาคู่คราคล้อยไป
เฮ ร่าเริงสุดเหวี่ยง ฮา คว้าเอียงโอบไหล่
สวรรค์นะซิสวรรค์รำไร พิไรโอบไหล่
ล้อม เรา
เอ้า เฮ ฮา เฮ เยโยโยกมา
เอ้า ฮะ ฮะ ฮ่า ลีลาศพาเหิรฟ้าคล้อยเคล้า
เอ้า ฮิ ฮิ ฮี้ ทีเด็ดมีสักทีก็เอา
ลืมแล้วโลกเรา
หรือจะเหวี่ยงเบาหวือเข้าวิมาน
เอ้า ฮา เฮ่ ฮา เฉยช้าอยู่ไย
เอ้า ฮะ ฮ่ะ ไฮ้
ใครต่อใครเขาร้ายทั้งนั้นน่ะ
เอ้า ฮิ ฮิ ฮิ ดูให้ดีเขาลีลาศกัน
ยักแย้ แย่ยันเห็นเขาเต้นกันเสียวซ่านอุรา
โอ้ โห โอ้ โห โย้เย้โยกไป
เอ้า ฮะ ฮ่ะ ไฮ้ ใครต่อใครย้ายยักควักคว้า
เอ้า ฮิ ฮิ ฮิ ดูให้ดีเขามีใหม่มา
เอ้า ฮ้า เอ้า ฮา
เขาลีลาศพา คู่คราคล้อยไป
เฮ ร่าเริงสุดเหวี่ยง
ฮา คว้าเอียงโอบไหล่
สวรรค์นะซิสวรรค์รำไร พิไรโอบไหล่
ล้อม เรา
เอ้า เฮ ฮา เฮ เยโยโยกมา
เอ้า ฮะ ฮะ ฮ่า
ลีลาศพาเหิรฟ้าคล้อยเคล้า
เอ้า ฮิ ฮิ ฮี้ ทีเด็ดมีสักทีก็เอา
ลืมแล้วโลกเรา
หรือจะเหวี่ยงเบาหวือเข้าวิมาน
เฮ ร่าเริงสุดเหวี่ยง
ฮา คว้าเอียงโอบไหล่
สวรรค์นะซิสวรรค์รำไร พิไรโอบไหล่
ล้อม เรา
เอ้า เฮ ฮา เฮ เยโยโยกมา
เอ้า ฮะ ฮะ ฮ่า
ลีลาศพาเหิรฟ้าคล้อยเคล้า
เอ้า ฮิ ฮิ ฮี้ ทีเด็ดมีสักทีก็เอา
ลืมแล้วโลกเรา
หรือจะเหวี่ยงเบาหวือเข้าวิมาน
36. เรือนแพ
ชรินทร์ นันทนาครเรือน แพ
สุขจริง อิงกระแสธารา
หริ่งระงม ลมพลิ้วมา
กล่อมพฤกษาดังว่า ดนตรี
หลับอยู่ใน ความรัก
และความชื่นชั่ววัน และคืนเช่นนี้
กลิ่นดอกไม้ รัญจวน
ยังอบอวล ยวนยี สุดที่จะ พรรณา
เรือน แพ
ล่องลอย คอยความรักนานมา
คอยน้ำค้าง กรุณา
หยาดมา จากธาราแหล่งสวรรค์
วิมานน้อย ลอยริมฝั่ง
ถึงอ้างว้าง เหลือใจรำพัน
หิวหรืออิ่ม ก็ยิ้มพอกัน
ชีวิต กลางน้ำสุขสันต์
โอ้สวรรค์ ใน เรือน แพ
37. ลมหวน
มล พวงร้อย สนิทวงศ์ลม หวน ชวน ให้ คิด
ถึง ความ หลัง
ภวังค์จิต คิด ขื่น ขม ระทม ใจ
ตัว ใครเป็น คนผิด อยาก ถาม นัก
รัก ไย ใจ จะกลับ ดัง ลม หวน
ใกล้ เรา กล่าว ถ้อย นัย ที่ รัก
เจ็บ นัก พอ ถึง อื่น ก็คืน คำ
มา ทำชิด สนิทใหม่ ใคร จะเชื่อ
เบื่อ แล้ว ไย จะ มา รับ กลับ คืน
ใกล้ เรา กล่าว ถ้อย นัย ที่ รัก
เจ็บ นัก พอ ถึง อื่น ก็คืน คำ
มา ทำชิด สนิทใหม่ ใคร จะเชื่อ
เบื่อ แล้ว ไย จะ มา รับ กลับ คืน
38. ลุ่มเจ้าพระยา
สุเทพ วงศ์กำแหงลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน
39. โลกกับความรัก
สุเทพ วงศ์กำแหงโลกนี้มี มืดแล้วสว่าง มืดแล้วสว่าง อย่างนี้เรื่อยไป
โลกผิดรักที่ สว่างไสว ไม่มีกลางคืน ไม่มีกลางวัน
โลกนี้เรา ว่าแสนกว้างใหญ่ มิเทียบเปรียบได้
ครึ่งรักผูกพัน โลกใหญ่ก็ใหญ่ อยู่เพียงแค่นั้น
ใจรักฉันใหญ่ ใหญ่ เหลือคณา
มนุษย์เล็กๆ คนหนึ่งอย่างฉัน มีใจรักมั่น
ต่อเธอเท่าฟ้า จะเอาอะไร อีกไหมขวัญตา
เธอเอาชีวา ฉันก็จะให้
โลกหมุนไป ไม่รู้สิ้นสุด ถึงโลกจะหยุด ไม่หมุนต่อไป
ทุกสิ่งในโลก หยุดการเคลื่อนไหว
แต่เธออย่าได้ หยุดรักฉันเลย
40. โลกนี้คือละคร
สุเทพ วงศ์กำแหงโลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร
ถึงบทเมื่อตอน เร้า ใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใด
ต่างจบลงไป เหมือน กัน
เกิดมาต้องตาย ร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง
คิดยิ่งระวัง ไหว หวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณ
บ้างเหยียดหยามกัน เหลือเกิน
โลก นี้ คือละคร บทบาทบางตอน
ชีวิตยอกย้อน ยับเยิน
ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสนเพลิน
เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน
โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย
หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือนม่าน
เปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ
ครั้นแล้วไม่นาน ปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ