B-CLUB
chapter 14

storyby : subara nana


สมาชิกชมรม B- CLUB ทั้งหมดถูกเนรเทศออกจากวัดทันที ทุกคนต่างพูดคุยกันเซ็งแซ่ถึงสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่โฉองมาซากิและคุซาโนะที่รู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดกำลังรอ ท่านประธานทั้งสองและผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกตามตัวไปยังอุโบสถใหญ่ภายใน
โฉอง : เราอยู่เฉยๆแบบนี้จะดีแน่เหรอเนี้ย
คุซาโนะ : ดีไม่ดีไม่รู้ แต่เจ้าอาวาสนั้นอ่ะน่ากลัวชมัดอ่ะ
มาซากิ : อือ ตอนที่ลงไม้นะ คิดว่ารุ่นพี่กระดูกหักไปแร้ว น่ากลัวชมัด
ซึบาสะและทักกี้เอามือทุบเท้าที่เริ่มเป็นเหน็บจากการนั่งพับขามาเป็นเวลานาน แต่ต้องรักษาอาการไม่ให้ยุกยิกออกมา อูเอดะที่นั่งตรงกลาง ยังรู้สึกเจ็บหลังไม่หายจากดาบไม้ที่ฟาดมา เจ็บจนแทบอยากร้องไห้เลยแหละ แถมสีหน้าเจ้าอาวาสที่จะกินเลือดกินเนื้อก็ไม่ปาน
ทักกี้ : ท่านเจ้าอาวาสครับ คือว่ารุ่นน้องผมยังเด็กนะครับ ทำอะไรไปก็เพราะยังเด็ก อย่าถือสาเลยนะครับ
เจ้าอาวาส : เด็กรึ สวนทรายนั้นใช้เวลาเกลี่ย 4 ชม.นะเข้าใจมั้ย ต้องใช้ความพยายามและเวลามากแค่ไหน พวกเธอไม่รู้หรอก กว่าทรายจะรวมกันเป็นส่วนๆนะ ต้องใช้ความละเอียดแค่ไหน
ซึบาสะ : เอาเป็นว่า พวกผมจะช่วยเกลี่ยให้ใหม่ดีมั้ยครับ
เจ้าอาวาส : พูดเป็นเล่น ทำกันได้ที่ไหนหล่ะ พวกเธอนะดีแต่ทำลายเท่านั้นแหละ อย่ามาพูดพล่อยๆนะ
ซึบาสะทักกี้แทบจะหลบคำต่อว่าของเจ้าอาวาสแทบไม่ไหว นี่ก็นั่งฟังมาเกือบ4ชม.แล้วทั้งคู่แอบคิดในใจว่าน่าจะเอาเวลาไปเกลี่ยทรายใหม่จะดีกว่ามั้ยเนี้ย อูเอดะอดทดฟังไปด้วย รู้สึกเจ็บปวดลึกๆที่ไม่ได้ทำแต่ก็ต้องมารับผิดอีกทั้ง เหมือนเป็นคนก่อปัญหาให้ท่านประธานทั้ง2ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย แต่เค้าก็พยายามอดทน
ยามะพี : คุณตา อย่าเสียเวลาไปเลย พวกเด็กเมืองกรุงน่ะ ก็ยังงี้แหละ ไม่ค่อยเห็นคุณค่าของอะไรหรอกนอกจากวัตถุ พูดไปก็เสียเวลาเปล่าๆ เดี๋ยวผมจะเกลี่ยทรายให้ใหม่เอง
ทักกี้กับซึบาสะหันควับไปมองเจ้าของเสียงที่เพิ่งเข้ามาพลางกระซิบกระซาบกัน
ทักกี้ : ไอ้นี่ใครอยู่ดีๆก็เจ๋อเข้ามา ท่าทางก็ไม่น่าจะเป็นพระเลย ผมงี้ทองซะ
ซึบาสะ : เออ ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้อย่างเดียว ปากมันนี่น่าตื๊บมักๆเลย
อูเอดะที่ก้มหน้าตลอดเงยหน้าขึ้นมามองยามะพี ยามะพียิ้มเยาะๆ ก่อนมาพูดใกล้ๆ
ยามะพี : ท่าทาง อย่างนาย คิดว่าน่าจะไม่ใช่คนทำแน่ๆ ยอมรับผิดแทนเพื่อนพ่อพระจริงนะ
อูเอดะนิ่งอึ้ง หมอนี่รู้ได้ไงกันเนี้ย แค่มองก็รู้สึกว่าตัวโปร่งใสถูกหมอนี่มองทะลุผ่านไปหมด
เจ้าอาวาส : เอาเถอะ ฉันก็แค่หวังว่าจะอบรมเพื่อให้ปรับปรุงตัวขึ้นมาบ้างก็แค่นั้น คิดว่าพวกเธอจะทำตัวดีขึ้นนะ
ยามะพีเหมือนจะทำให้เจ้าอาวาสเย็นลง แล้วท่านก็ลุกจากไป ทำให้ทักกี้กะซึบาสะถอนใจอย่างโล่งอก ถึงไม่ค่อยถูกชะตากับยามะพีนัก แต่ทั้งคู่ก็ขอบใจอยู่ลึกๆที่ช่วยให้เจ้าอาวาสปล่อยตัวสักที
อูเอดะยังไม่ออกไปพร้อมท่านประธานทั้งสอง กำลังจะเดินไปเพื่อขอบคุณยามะพีที่กำลังเตรียมที่จะเกลี่ยทราย
อูเอดะ : ขอบใจนายมากนะ ที่ช่วยพูดให้เราน่ะ ไม่งั้นคงแย่
ยามะพี : (เอาผ้ามาโผกหัวเพื่อเก็บผม)อะไร ใครพูดให้นาย ฉันก็พูดไปตาเนื้อผ้า แค่นั้น ว่าแต่นายเถอะ ทำไปเพื่อเจ้าพวกนั้น คิดว่าคุ้มไง พวกนั้นนะเห็นนายเป็นเพื่อนรึป่าวเถอะ
อูเอดะ : (ได้ยินแค่นั้น ก็นิ่งไปอึดใจ) ใช่สิ เจ้าพวกนั้นเป็นเพื่อนฉัน ยังไงก็......ก็เห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่แล้ว
ยามะพี : อืมๆ เป็นเพื่อนที่น่ารักมาก ให้นายโดนตีคนเดียวเลยเนอะ
อูเอดะนิ่งพูดไรไม่ออก น้ำตาพาลจะไหลออกมาดื้อๆ แต่จะมาร้องไห้ต่อหน้าคนๆนี้ได้ยังไง พยายามอดกลั้นอีกครั้งก่อนที่จะวิ่งหนีออกมา
เมื่อวิ่งออกมาพ้นวัดแล้วก็เจอพวก KAT-TUN พอดี
โคคิ : แล้วตกลงวันนี้เอาไง
จุนโนะ : นี่ยังคิดจะแกล้งเจ้านั่นต่ออีกเหรอ
คาเมะ : เท่านั้นเหรอ ไม่พอมั้ง
จิน : ใช่ๆต้องมากกว่านี้!!
นากามารุ : เฮ้ยที่โดนฟาดไปนี่ก็สุดๆแล้วนา
จิน : เออน่า...........ทำตามที่ฉันบอกนะแหละ
อูเอดะได้ฟังแค่นั้นก็รู้ทันที่ว่าพูดถึงใคร ตอนนี้เค้าโกรธถึงที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมาเต็ม
อูเอดะ : เจ้าพวกบ้า นี่ทั้งหมดพวกนายจงใจแกล้งฉันใช่มั้ย ทำไมทำยังงี้ ฉันเป็นขนาดนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างรึไง
ทุกคนหันมาพร้อมกับทำหน้าไม่ถูก จินทำท่ากลบเกลื่อนออกมาก่อน
จิน : ไรรู้สึกเดะ รุ้สึกสะใจไง นายอ่ะดีแต่ร้องไห้ เห็นแล้วก้อยากแกล้งจะทำไม!!
อูเอดะ : (เอามือปาดน้ำตาแรงๆ)ใช่สิ ก็นายน่ะ ไม่เคยโดนแบบฉันนี่ ทุกคนใน KAT-TUN เค้ารักนายกันจะตายไป ถ้ากลุ่มนี้ขาดฉันสักคนก็คงไม่เป็นไรหรอก
จิน : เออ!! ใช่ๆ จริงมั้ยพวกเรา
คนอื่นๆพยักหน้าเจื่อนๆ เออออไปกับจิน
อูเอดะ : เข้าใจแล้ว !! ตกลงงั้นก็ได้
พูดจบอูเอดะก็วิ่งออกมาจากกลุ่ม ทั้งหมดเอ๋อไปตามๆกัน ไม่คิดว่าหมอนี่จะพูดจริง จินอึ้งทำหน้าพูดไม่ออก
โคคิ : เฮ้ยมันจะไปจริงเหรอ
นากามารุ : ไม่หรอกมั้ง กระเป๋าเงินก็ไม่ได้เอาไปไม่ใช่รึ
จิน : เออ ไอ้นั่นนะ มันอ่อนแอจะตาย ไปไหน ไม่รอดหรอก แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่ที่บ้านด้วย

แต่ดูเหมือนสมมุติฐานของพวกเค้าจะผิด ถึงช่วงเวลาให้เที่ยวในตัวเมืองก็ไม่เจอตัวอูเอดะเลย จนหมดเวลาเที่ยวของวันนี้ก็ยังไม่พบตัว ซึบาสะและทักกี้ จึงจัดการให้สมาชิกคนอื่นๆกลับไปพักที่รีสอร์ทก่อน มีพวก KAT-TUN และกลุ่มโฉองที่ขออกมาตามหาด้วย
โฉอง : พวกรุ่นพี่ทำไม ต้องมาทะเลาะกันที่นี่ด้วยหล่ะครับ ดูสิน่ากลัวจริงๆเลยมาหายตัวไปในที่ไม่รุ้จักแบบนี้
จิน : ไอ้เด็กบ้า แกอ่ะจะไปรู้ ไม่รู้เรื่องอย่าพูดดีกว่า
โฉอง : ทำไมผมจะไม่รู้เรื่อง ผมนะรู้ดีกว่าพวกรุ่นพี่ๆตั้งแยะ มัวแต่แกล้งกันอยู่นั้นแหละ สงสารรุ่นพี่อูเอดะจะตายไป
จินทำท่าไม่พอใจ มาซากิเองก็เข้าใจหัวอกของโฉองที่พ่อเคยหายตัวไป ก็เลยรีบมาดึงตัวออกมา
ซึบาสะ : เฮ้ย!! พอทีๆ จะมาทะเลาะกันเองอีกทำไมเนี้ย ฉันว่าแยกกันหาเลยดีกว่า
ซึบาสะดุจนทุกคนสงบลงได้
ทักกี้ : เอาน่าๆ อย่าอารมณ์ร้อนกันเลยนะ ใจเย็นๆ เออกลุ่มพวกยามาชิตะไปด้วยกันทั้ง 3 คนนะ มีไรก็โทรติดต่อมาแล้วกัน ส่วนพวก KAT-TUN แยกกันไปแล้วกันนะ
ทุกคนแยกย้ายกันออกตามหาทันที ถึงเหมือนจะไม่ใส่ใจแต่ว่าจินกลับเป็นคนที่มีท่าทางร้อนใจมากที่สุด พอดีกับที่ผ่านมาที่ร้านขายเครื่องไฟฟ้าที่เปิดข่าวอยู่จินหยุดกระทันหัน
“ ตอนนี้ มีพวกนักเลงออกอาลาวาด คาดว่าเป็นกลุ่มนร.ม.ปลายที่เกเร จะทำงานกันเป็นกลุ่มทำร้ายนร.ที่สวมเครื่องแบบต่างรร.กัน ช่วงนี้ พวกนร.ที่มาทัศนศึกษา กรุณาระวังตัวถ้าอยู่นอกเขตชุมชน พยายามอย่าไปไหนตามลำพัง…………….”
จินฟังข่าวแทบชอค ทำไงดีวันนี้ก็ใส่เครื่องแบบออกมาอีกด้วย ยิ่งฟังข่าวยิ่งทำให้ร้อนใจหนักขึ้นไปอีก
ฝ่ายโฉอง มาซากิ และคุซาโนะก็ไปเดินตามหาในเขตที่อันตรายพอดี
คุซาโนะ : ฉันว่าที่แถวนี้ มันไกลผู้คนน่ากลัวจะตาย รุ่นพี่ไม่น่าจะมาที่นี่นะ
มาซากิ : น้านะสิ พวกเราออกมาไกลเกินไปแล้วนะ น่ากลัวจะหลงเอาได้นะ
โฉอง : อืมๆ เดี๋ยวฉันโทรหารุ่นพี่ซึบาสะก่อนก็แล้วกัน

โฉองกำลังจะกดเบอร์โทร อยู่ดีๆก็มีคนท่าทางไม่น่าไว้ว่างใจมาแย่งโทรศัพท์ไป พอมองดูก็มีตามอีก 2-3 คน
โฉอง : ทำอะไร ของพวกนายอ่ะ!!
นักเลง : อะไร เป็นเด็กม.ต้นมีมือถือรุ่นนี้ใช้ ไฮโซไปป่าว เด็กเมืองกรุงนี่น่าหมั่นไส้จัง กล้าจังนะมาใส่ชุดนร.เดินเล่นแถวนี้อ่ะ ไม่รู้ไงว่าเป็นถิ่นของใคร
โฉอง : (เห็นท่าไม่ดี แต่ต้องทำกล้าไว้ก่อน) ก็เอาคืนมาสิ แล้วฉันจะได้รีบไป
คุซาโนะกอดแขนมาซากิไว้แน่น มาซากิเองก็กลัวไม่แพ้กัน แต่ว่าก็เป็นห่วงโฉองที่ถูกแย่งของไป
มาซากิ : ใช่แล้วครับ คืนมือถือให้พวกเรา แล้วพวกเราจะรีบไปครับ
นักเลง : อะไร แค่นี้ก็หวงด้วย ไง ก็ให้พวกฉันเป็นที่ระลึกไม่ได้ไง บ้านพวกแกท่าทางจะรวย ชุดนร.ก็เหมือนรร.ชื่อดังนี่นา
ยามะพี : บ้าอ่ะเดะ ไปขูดรีด เด็กม.ต้น ไม่อายบ้างไงพวกแกอ่ะ
ยามะพีโผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้อยู่ในชุดสำหรับทำพิธีในวัดดูแปลกตาเพราะมันขัดกับผมทองและท่าทางกวนๆ มือถือดาบไม้พาดบ่าไว้พร้อมกับถุงของร้านคอนวีเนี่ยนสโตวร์ ดูเหมือนคำพูดของยามะพีมีอิทธิพลกับพวกนักเลงมาก รีบกุลีกุจอส่งของคืนให้โฉอง แล้วรีบหนีไป
คุซาโนะ : (กระซิบกับมาซากิ)หรือว่าหมอนี่จะเป็นหัวหน้าใหญ่อ่ะ ท่าทางพวกนั้นกลัวกันจังอ่ะ
มาซากิ : ไม่มั้ง!! ถึงท่าทางจะให้ แต่ว่านะ เค้าก็ดูเหมือนคนดีนะ
ยามะพี : ไรเนี้ย เด็กในเมืองมาทะเล่อทะล่า แต่งชุดนร.แถวนี้ ไม่รู้เรื่องบ้างรึไงว่ามันอันตรายเหอะ
โฉอง : ขอบคุณครับที่ช่วย!!! (กระแทกเสียง)
ยามะพี : (ใช้หางตาเหล่ๆ)เออ ไม่เต็มใจไม่ต้องพูดก็ได้นะ เกรงใจ!!(กระแทกเสียงกลับ) มาตามหาไอ้คนขี้แยใช่ป่ะ ชุดนร.เหมือนๆกันนี่อ่ะ
คุซาโนะ +มาซากิ+โฉอง : เห็นรุ่นพี่อูเอดะหรือครับ!!!
ยามะพี : เออ!! ไม่ต้องมาตะโกนพร้อมกันได้มั้ย หูจะแตก อยู่ที่บ้านฉันเองตามมาดิ

ทั้งสามคนตามไปยังบ้านเก่าแก่ที่อยู่ข้างๆวัด พอมาถึงก้เห็นอูเอดะกำลังนอนหลับอยู่ที่ห้องรับแขก คุซาโนะเลยโทรไปบอกทุกคนว่าตามตัวเจอแล้ว ระหว่างที่รอยามะพีจัดแจงเอาขนมที่ซื้อมาออกมาให้เด็กๆกินกัน
มาซากิ : เอ่อ คุณเป็นพระรึป่าวครับ
ยามะพี : บ้านะสิ ฉันเป็นแค่เด็กช่วยงานที่วัดนี้ต่างหากเล่า แม่ฉันเพิ่งตายไป คุณตาที่เป็นเจ้าอาวาสเป็นพี่ชายของตาฉันแท้ๆก็มารับฉันมาอยู่ที่นี่ต่างหาก
คุซาโนะ : น้านดิครับ ท่าทางอย่างงี้บวชไปหล่ะ สงสารวัดแย่
ยามะพี : พูดดีนักนะ เดี๋ยวให้คายขนมที่กินเข้าไปออกมาซะเลยนี่
โฉองมองไปยัง แท่นบูชาภายในห้อง เห็นรูปถ่ายแม่ของยามะพี เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยมาก ไม่แตกต่างกับยามะพีเลย
โฉอง : ผมขอไหว้คุณแม่หน่อยจะได้มั้ยฮะ
ยามะพี : หืม!! ได้สิ
โฉอง : แม่ผมก็เสียไปแล้วตั้งแต่เด็กๆนะฮะ
ยามะพีพยักหน้าพร้อมจุดธูปให้โฉอง โฉองไหว้แม่ยามะพีอย่างอ่อนน้อม มาซากิและคุซาโนะ ก็พนมมือไหว้ไปพร้อมๆกัน สักพักอูเอดะก็ตื่นขึ้นมา
ยามะพี : เจ้าตัวปัญหา ใครๆเค้าวุ่นวายไปกันหมดแล้วนะรู้ป่าว เอ้า ฉันซื้อข้าวกล่องมาให้กินซะสิ
อูเอดะ : (ท่าทางผิดหวังเล็กน้อยที่คนมาตามเป็นพวกโฉอง) อืมขอบใจนะ ฉันว่าสักพักก็จะกลับที่พักแล้วแหละ
มาซากิ : รุ่นพี่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วแหละครับ พวกผมนะ..................
ยังไม่ทันพูดจบ จินที่ได้รับข่าวแล้ว ก็เข้ามาในบ้านทันทีวิ่งชนประตูบานเลื่อนจนล้มลงมาทีเดียว ทุกคนตกใจไปตามๆกันโดยเฉพาะ อูเอดะ จินหน้าแดงก่ำเหงื่อแตกะพลั่ก คงวิ่งมาตลอดทาง
อูเอดะ : นาย……
พลั่ก!!! จินชกหน้าอูเอดะเต็มๆ พอดีกับที่ KAT-TUN ที่เหลือวิ่งเข้ามาพอดี ทุกคนตกใจไปตามๆกันที่อยู่ดีๆ จินก็ชกหน้าอูเอดะ แถม เลือดยังออกปากด้วย เพราะชกแรงมากๆ
ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ จินก็กอดอูเอดะเอาไว้ แล้วก็ร้องไห้ออกมา
จิน : ไอ้บ้า เอ้ย แกมันเลวมาก ทำไมถึงชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยวะ ไอ้บ้าเอ้ย!!!
อูเอดะหน้ายังค้างอยู่เหมือนเดิม หน้าชาไปหมด แล้วก็ชอคกับอาการของจิน สักพัก อูเอดะก็ร้องไห้ออกมาบ้าง
อูเอดะ : แกสิเจ้าบ้า อยู่ดีๆก็ชกมาได้ ฉันคิดว่าพวกนายไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนแล้วต่างหากนะสิ
KAT-TUN ที่เหลือน้ำตาซึมไปตามๆกัน ค่อยเดินเข้ามากอดจินกับอูเอดะเอาไว้
คาเมะ : บ้าเอ้ย ถ้าไม่เห็นเป็นเพื่อนก็ไม่มาตามหาหรอกโว้ย
โคคิ : เออ พูดยังงี้มานน่าตื๊บชมัด
นากามารุ : เอาไว้กลับไปก่อนเถอะ จะฆ่าแกเลย ไอ้บ้า
จุนโนะ : ดุเดะ มาแอบกินข้าวคนเดียวคนอื่นหิวนะเฟ้ย!!
คุซาโนะมากอดคอโฉองและมาซากิเอาไว้ ทั้งสามคนยิ้มให้กัน แม้แต่ยามะพีก็อมยิ้มเล็กๆไปด้วย
กลับมาที่พักทักกี้และซึบาสะดุอูเอดะเป็นการใหญ่ แถมยังขู่ว่าจะไม่นับคะแนนให้อีกเป็นเวลา2 อาทิตย์เพราะทำตัวให้น่าเป็นห่วง อูเอดะ ไม่มีทีท่าโกรธหรือไม่พอใจกลับยิ้มเล็กยิ้มน้อย เหมือนคนมีความสุขมากๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนอาจร้องไห้ไปแล้ว ทำให้ซึบาสะกับทักกี้งงไปตามๆกันว่า หมอนี่เพี้ยนไปแล้วรึไง โดนด่ายังยิ้มได้อีก
อูเอดะเอามือจับปากที่ถูกชก เจ็บนิดแต่ก็กลับไม่รู้สึกโกรธเลยกลับมีความสุขด้วยซ้ำ(ไม่ได้ซาดิสนะ)พอดีสวนกับโฉองมาซากิและคุซาโนะที่เพิ่งขึ้นจากบ่อน้ำแร่ของรีสอร์ท สวมชุดยูกาตะน่ารักกันทีเดียว
มาซากิ : วันนี้ดึกเลยนะครับเนี้ย ไม่ไปอาบน้ำแร่เหรอครับ
โฉอง : น้านสิครับ ไม่มีคนเลยนะครับ
คุซาโนะ : สบายมากเลยครับ รุ่นพี่รีบๆไปสิครับ

อูเอดะพยักหน้ายิ้มๆ ดึกแล้วจริงๆนะเนี้ย มองนาฬิกาใกล้เวลา 5 ทุ่มครึ่งแล้ว พวกKAT-TUN พวกนั้นคงไปอาบน้ำนอนกันหมดแล้วแน่ๆ ท่านประธานนี่ดุกันนานจริงๆ ดูนาฬิกาอีกครั้งแล้วก็ถอนหายใจ
คาเมะ : นี่ๆ มัวแต่ชักช้าอืดอาดอยู่ได้
จิน : เออ มารอนานแล้วนะเฟ้ย!!
อูเอดะหน้าเหรอ ไม่คิดว่าเจ้าพวกนี้จะรอเค้าอยู่ พออูเอดะมาถึงก็กระโดด ลงอ่างอาบน้ำแร่กันยังกับเด็กๆ เล่นน้ำกันใหญ่
จุนโนะ : นี่ๆพวกนาย ถึงจะไม่มีใครแต่นี่มันดึกแล้วนะ เกรงใจหน่อย คนอื่นเค้าหลับกันหมดแล้ว
แทนที่จะฟังกลับเอาน้ำเย็นมาสาดใส่จุนโนะแทน จุนโนะเลยหลุดมาดผู้ใหญ่เล่นไปด้วยกันหมด อูเอดะรู้สึกดีสุดๆเลย ไม่คิดว่าจะได้มาอาบน้ำพร้อมกันแบบนี้
โคคิ : ยิ้มไรวะ ไอ้นี่อยากโดนบ้างไง!!
อูเอดะหัวเราะส่ายหัวไปมา จุนโนะกับนากามารุจึงช่วยกันกดหัวอูเอดะลงไป (เล่นแบบนี้ตายได้นะเนี้ย)พออูเอดะโผล่หัวขึ้นมาได้ก็ตกใจสุดๆ
KAT –TUN : HAPPY BIRTH DAY !!! สุขสันต์วันเกิดโรบะ!!
จินแอบแวบไปยกเค้กวันเกิดเข้ามาตอนที่อูเอดะถูกกดน้ำ เค้กชิ้นเล็กๆมีเทียนดอกไม้ไฟปักไว้ ส่องแสงสวยงาม ระยิบระยับ พร้อมกับรอยยิ้มของทุกคน อูเอดะอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
อูเอดะ : อะไรกันเนี้ย ฉันคิดว่าพวกนายจะลืมมันไปแล้วซะอีก
คาเมะ : ลืมก็บ้าอ่ะเดะ แอบน้อยใจหล่ะซี่!!
จุนโนะ : surprise มั้ยล่ะ
อูเอดะ : โคดsurprise เลย พวกนายแกล้งอำฉันขนาดนี้เลยเหรอ บ้าชมัด (น้ำเสียงต่อว่า แต่ก็ยังยิ้ม)
นากามารุ : เออ ของนายนะพวกเราแกล้งเอาไปซ่อนเองแหละ ไม่ได้ลืมไว้บนรถไฟหรอกนะ
โคคิ : โทดทีนะ ที่แกล้งอ่ะ ของขวัญปีนี้นายรูรึยังหล่ะว่าเป็นอะไร
อูเอดะทำหน้างง ส่ายหัวไปมา
จิน : ก็ความเข้มแข็งไง พวกฉันอ่ะ ไม่อยากให้นายร้องไห้ง่ายๆนัก อยากให้อดทนมากๆ ทุกอย่างทำไปเพื่อให้นายแกร่งขึ้นไง
อูเอดะ : (สลัดน้ำใส่ทุกคน) เออ!! ขอบใจไอ้พวกไม่ลงทุน ฉันจะจำวันเกิดปีนี้ไปจนตาย รวมทั้งความเข้มแข็งที่พวกนายมีให้ฉัน
ซึ้งกันไม่เท่าไหร่ จินก็ลงมือแกล้งอูเอดะอีกโดยการจะเอาเค้กมาป้ายหน้า ทำให้ทุกคนวิ่งไล่จับกันอุดตะหลุด วุ่นวายไปกันทั้งคืน ถึงช่วงเช้าได้เวลากลับโตเกียว สภาพกลุ่ม KAT-TUN ที่เอะอะที่สุดต้องหมดฤทธิ์ก็คราวนี้ นอนหลับกันเป็นตายกองระเกระกะที่นั่งท้ายขบวน
ซึบาสะ : เออ หลับกันบ้างซะได้ก็ดี ไอ้พวกกลุ่มทะโมนพวกนี้ ก่อเรื่องกันตลอดการเดินทางเล้ย
ทักกี้ : ดีนะที่มันหลับไม่งั้นจะด่ามันเรื่องใช้ห้องอาบน้ำแร่ซะหน่อย คุณอาที่เป็นเจ้าของอ่ะ มีหวังด่าไปถึงพ่อฉันแน่ๆ ทำเอาไว้ซะเละเลยไอ้พวกนี้
โฉองแอบได้ยินท่านประธานทั้งสองบ่นอุบอิบเหมือนคนแก่ก็อดขำไม่ได้แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
โฉอง : ตายเลย!!!
มาซากิ : อะไรเหรอ ร้องซะตกใจหมด
โฉอง : ฉันลืมถามชื่อ คนที่หัวทองๆคนนั้นมานะ
คุซาโนะ : เออน้านเดะ ไปคุยกันตั้งนาน ยังไม่รู้จักชื่อกันเลยนะเนี้ย
โฉอง : อือ แย่ชมัดเลย แล้วจะได้เจอกันอีกมั้ยเนี้ย
มาซากิ : เอาเถอะน่า ถ้าจะได้เจอยังไงก็ต้องได้เจอกันอีก
โฉองพยักหน้า ในใจยังคงคิดถึงยามะพี เหมือนมีอะไรบางอย่างที่มันติดค้างในใจแต่ตัวเค้าเองก็ยังคิดไม่ออก

CHEPTER 14 END
TO BE CONTINUTE……………

 

 

setstats 1