B-CLUB
chapter2

storyby : subara nana


มาซากิท่าทางกังวลมากจน โฉองเป็นห่วง แต่ก็ไม่ค่อยที่จะกล้าถามอะไร ได้แต่กำใบสีแดงตราโรงเรียนไว้แน่นตลอดเวลาเรียนในช่วงเช้า เมื่อถึงเวลาพัก มาซากิรีบตรงเข้าไปหาคุซาโนะ สีหน้าจริงจัง จนโฉองตกใจ แต่คุซาโนะกลับมีทีท่า อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
มาซากิ : ในห้องเรามีแต่นายที่เคยได้บัตรเชิญนี่!! นายช่วยบอกเราหน่อยเถอะว่ามันเป็นอะไร
คุซาโนะ : (หัวเราะ แบใสซื่อน่ารักตามเคย) อะไรกัน มาซาจังก็น่าจะรู้นะว่า เรื่องนี้เค้าไม่พูดกันหรอก ยังไงละก็ตอนเย็นนี้ก็รู้เองหล่ะ อย่าใจร้อนไปเลยนะจ๊ะ (หันมายิ้มหวานให้โฉอง) องจังด้วยนะ
โฉอง : (ทำหน้านิ่ง) ใครให้นายเรียกแบบนี้ บอกกี่ครั้งแล้ว!!

คุซาโนะ ท่าทางไม่สนใจเดินไปหากลุ่มสาวๆอย่างอารมณ์ดี(จนน่าหมั่นไส้จริงๆนะเนี้ย…..) โฉองเอามือตบไหล่มาซากิเบาๆ

โฉอง : เรื่องอะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น อย่าไปคิดมากเลย เดี๋ยวเย็นนี้เราก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ
มาซากิ : (เงยหน้าขึ้น มีสายตากังวลอยู่) นายเพิ่งเข้ามา คงยังไม่รู้เรื่องนะสิ ใบนี้เป็นบัตรเชิญเข้าชมรม ชมรมนึงน่ะ เป็นชมรมที่น่ากลัวยังไงไม่รู้อ่ะ
โฉอง : (ทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ) อะไร ชมรมประเภทเรียกผีเหรอ หรือพวกตามล่าเรื่องลี้ลับ น่าสนุกดีนี่
มาซากิ : ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะสิ แบบว่าชมรมนี้ ค่อนข้างจะเป็นชมรมลับๆน่ะ ไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน สมาชิกทุกคนจะเก็บเรื่องในชมรมเป็นความลับอีกด้วย มันก็เลยดูน่ากลัวน่ะ
โฉอง : อะไรนี่เป็นประเภท ค้ายา หรือว่าฆาตกรรมงั้นเหรอ ในโรงเรียนนนี่นะ!!!
มาซากิ : โฉนายไม่เชื่อฉันเลยนะเนี้ย !! งั้นนายตามฉันมาดีกว่า

พูดจบมาซากิก็ฉุดโฉอง ออกมาด้วยกันทั้งคู่วิ่งไปยังห้องของชั้นปี2ม.ปลาย
โฉอง : นายพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน

มาซากิ : ในจำนวน member ของชมรมอ่ะ มีกลุ่มปี2ม.ปลายนี่หล่ะที่ร้ายที่สุด ฉันจะพานายมาดูนะสิ
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงเดินลากเท้าก็ดังขึ้นบริเวณทางเดิน มาซากิดึงให้โฉองหลบตรงข้างบันได จิน กับคาเมะ นั้นเอง เสื้อลอยชายเนคไทหลวมๆ ไมถึงได้เท่ห์แบบนี้นะเนี้ย โฉองคิดในใจ
จิน : เน่! วันนี้อาหารชุกลางวันที่โรงอาหารชุด A อะไรอ่ะ
คาเมะ : วันนี้ข้าวห่อไข่ไงหล่ะ
จิน : เจ้าบ้า เค้าเรียกว่า ไข่ห่อข้าวต่างหาก มั่วเจรงๆเลยแกนี่ (พูดจบก็ผลักอกคาเมะ จนคาเมะตัวปลิว)
คาเมะ : เจ้าบ้านี่ ใครมั่วกันแน่ฟร่ะ (ผลักกลับแรงกว่าเดิม)
หลังจากนั้นก็ผลักกันไปกันมา จนสุดท้ายก็ดึงคอเสื้อกัน ทำท่าจะชกกันเอาดื้อๆ โฉอง อ้าปากหวอ แบบอยากถอนคำพูดจริงๆที่ว่า 2 คนนี่เท่ห์…….ทะเลาะกันด้วยเรื่องข้าวห่อไข่ เนี้ยน้า!! ขณะที่ทั้งจินกะคาเมะกำลังจับคอเสื้อเบียดกันไปกันมาตรงทางเดิน เสียงหัวเราะเฮฮาก็ดังขึ้นตามมา

นากามารุ : นี่ๆ วันนี้กินข้าวนายต้องเลี้ยงชุด A ฉันด้วยหล่ะ
อูเอดะ : เรื่องไรเนี้ย ทำไมไม่ออกเองอ่ะ
นากามารุ : ก็ครั้งที่แล้วนายกินของฉันไปตั้งครึ่งกล่องนะดิ ใช่ป่ะ คิ
อูเอดะ : (ทำหน้าเบื่อๆ บ่นอุบอิบ) งกชมัดเลยไอ้อึ้นเอ้ย!!
โคคิ : (พยักหน้าหงึกๆ ก่อนหันมาเห็น จินกับเมะ) อ้าว!! 2 คนนี้เอาอีกแระ มาตีกันตรงทางเดินทำไมเนี้ย
อูเอดะ : แล้วทำไมหล่ะ ก็ ธรรมดาจะตาย เจ้า 2 คนนี่ไม่ตีกันเดะ แปลก!!
โคคิ : ไม่ใช่แบบว่ามันจะตีกันก็ช่างหัวมันอ่ะ แต่ว่าทางเดินตรงอาคารมันแคบ ดันมาตีกันอีก ขวางทางไปโรงอาหารอ่ะ หิวแร้วด้วย (อ้าว!!…… คิดว่าห่วงเพื่อนนะเนี้ย )
นากามารุ : เออ!! น้านเดะ หิวจาตายแร้ว เมื่อไหร่มานจะเลิกอ่ะ จุนโนะ นายอ่ะ จัดการทีเดะ
จุนโนะ : (เงยหน้าจากหนังสือ ที่กำลังอ่านอยู่) ไรอีกหล่ะ ฉันทุกทีแต่ละครั้งก็โดนเจ้า 2 ตัวนี่รุมประจำ
โคคิ : (เอามือกอดคอจุนโนะ เหมือนนักเลงเลย) แหม่!!ๆ ก็นายอ่ะ ฉลาดที่สุดแร้วไง ท่าทางก็เป็นคุณพ่อที่สุดน่าจะมีวิธีจัดการเจ้าลิง 2 ตัวนี่มากที่สุดอ่ะนะ
จุนโนะ : (ถอนหายใจแบบเบื่อๆ แล้วก็เหลือบไปเห็นโฉองกับมาซากิ ที่บันได) อ๊ะ !! นั้นน้องยาบุนี่นา
จุนโนแกล้งชี้ไปที่มาซากิและโฉอง จินได้ยินแค่นั้น ก็ ไม่สนใจคาเมะรีบปล่อยมือ จัดเสื้อให้เข้าที่ก่อนเลิกลั่กมองหาตามที่จุนโนะหลอก
จิน : ไหนๆ!! ยาบุจังอยู่ ที่ไหนอ่ะ??

คาเมะทำหน้าเบื่อปนน้อยใจเล็กๆ ที่จินสนใจยาบุมากกว่ามาทะเลาะกับตัวเอง แต่เพื่อนที่เหลือได้แต่ฮากันไปด้วยความสะใจที่จินหลงเชื่อ จุนโนะ จินได้สติก็โกรธขึ้นมาจะเข้าไปชกจุนโนะ แต่ว่าสายตาก็ไปสะดุดกับมาซากิและโฉองก่อน
จิน : เจ้าเด็ก 2 คนนี่? คนที่ถูกเลือกไม่ใช่รึ!!
KAT-TUN : เอ๋!!!!!!!!!!…………………………

มาซากิตกใจมากรีบดึงมือโฉองให้วิ่งหนีออกมาจากตึกของม.ปลาย ทันที แล้วก็มาหยุดที่ใต้ต้นไม้หน้าตึกม.ต้น
มาซากิ : เป็นไงหล่ะ น่ากลัวขนาดไหน สมาชิกของชมรมนั้น นี่แค่ส่วนนึงนะ ในโรงเรียนนนี้ยังมีอีกเป็น 10 (พูดไปหอบไป)ดูท่าทางตอนเค้าทะเลาะกันสิ
โฉอง : (เอามือปาดเหงื่อจากหน้าผาก) น่ากลัวอะไร นิสัยยังกะเด็ก แค่เรื่องอาหารกลางวันก็ทะเลาะกัน เด็กจะตายไป แต่ว่ามีคนนึงหน้าตาน่ากลัวนะ(หมายถึงโคคิแหละ)
มาซากิ : ไม่รู้หล่ะ ยังไงฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับชมรมนี้เด็ดขาด นายก็ด้วยนะฉันว่าก่อนเลิกเรียนเรารีบหนีกลับบ้านกันเถอะ
โฉอง : อะไรจะขนาดนั้น (โฉองเอามือล้วงกระเป๋าเดินตาม มาซากิเดินขึ้นตึกไป)

ช่วงบ่ายมาซากิไม่มีกะใจเรียนอะไรเลย ก่อนเวลาเลิกเล็กน้อยโฉองมองออกไปที่หน้าห้องก็เห็นจินกับคาเมะมายืนรออยู่แล้ว โฉองจึงยื่นหน้าไปกระซิบบอกมาซากิ
โฉอง : เนี่ยยังไม่เลิกเลย รุ่นพี่ที่เจอเมื่อกลางวันมารออยู่ที่หน้าห้องแล้วหล่ะ
มาซากิ : แย่แล้ว งี้จะทำไงดีหล่ะ!!!
เสียงออดเลิกเรียนดัง ทุกคนต่างเก็บข้าวของออกจากห้องกันไป สาวๆในห้องเมื่ออกมาเจอจินกับคาเมะก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดเล็กน้อย คุซาโนะแบกกระเป๋าไว้ที่บ่า หันมายิ้มหวานให้โฉองก่อนออกจากห้องไป
มาซากิแอบมองดู ก็พบว่าคุซาโนะเดินไปคุยอะไรกับจินและคาเมะ ท่าทางคุซาโนะนอบน้อมกับคาเมะมากๆโฉองเก็บของเสร็จแล้วเดินเข้ามาหามาซากิ
โฉอง : กลับกันเถอะ
มาซากิ : จะออกไปได้ไงเล่า นายไม่เห็นรุ่นพี่ทั้ง 2 คนนั้นรึไงหล่ะ
โฉอง : อะไรอีกหล่ะ ถ้าไงเค้าอยากได้ตัวเราก็คงเข้ามาลากออกไปเลยหล่ะ เพราะในห้องเนี้ยไม่มีใครแล้วนะ!

มาซากิ มองรอบห้อง ไม่มีใครเหลือแล้วจริงๆด้วย รีบเก็บของใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนสะพายที่บ่า แล้วเปิดหน้าต่างออกทันที โฉองยังงอยู่กับอาการของเพื่อนซี้ ก่อนตกใจเมื่อมาซากิทำท่าจะปีนออกไป

โฉอง : (เอามือดึงกระเป๋าเอาไว้) จะบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันชั้น 3 นะเฟ้ย !!!
มาซากิ : (พยายามยื้อสุดแรง) ปล่อยฉันนะ ไง วันนี้ก็ต้องหนีให้ได้หล่ะ
ทั้งคู่ยื้อกันไปกันมาน่าหวาดเสียวเป็นที่สุด(ก็มันชั้น 3 นี่นา) จินกับคาเมะเปิดประตูเข้ามา โฉองและมาซากิหันมามองพร้อมกันกระเป๋าหลุดจากหัวไหล่ของมาซากิ ร่างของมาซากิล่วงออกจากหน้าต่างทันที!!
โฉองตกใจสุดขีดรีบคว้าเพื่อนเอาไว้ แต่ว่าไม่ทันซ้ำตัวเองก็จะตกลงไปด้วยจินกับคาเมะจึงคว้าแขนทั้ง 2 ข้างของโฉองไว้ได้
มาซากิตกลงไปข้างล่างแต่ว่านากามารุและโคคิมารับไว้ทัน โฉองตั้งสติได้รีบตะโกนเรียกมาซากิทันที
โฉอง : มาซา นายไม่เป็นไรใช่มั้ย
มาซากิ : (ตอนนี้ถูกทั้งนากามารุและ โคคิ ลอคแขนไว้ ได้แต่มองซ้ายทีขวาที ก่อนพูดเสียงอ่อยๆออกมา)คิดว่า….ไม่เป็นไรอ่ะนะ
โฉองถอนใจก่อน หันมามองหน้ารุ่นพี่ทั้ง 2 ที่มีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นพิเศษ ทั้งคู่ขนาบโฉองเอาไว้ตรงกลางอย่าว่าแต่หนีเลย แค่ขยับตัวก็ลำบากแล้ว 2 คนนี่แรงเยอะชมัด
คาเมะ : จะหนีไปไหน ไปด้วยกันซะทีแรกดีๆ ก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก
จิน : ช่ายยยยยย เกือบมาตายเป็นผีเฝ้าตึกแร้วไง

โฉองยังไม่ทันพูดอะไรก็ถูกรุ่นพี่จอมกวนทั้งสองลากออกจากห้องไป มาซากิเองก็เช่นกันทั้งคู่ถูกพาตัวมายังอาคารหลังเก่าที่เคยเจอประธานนักเรียนที่นี่ ภายในอาคารเป็นโถงใหญ่ โฉองและมาซากิทั้งคู่ถูกปิดตาแล้วถูกพาไปยังอีกที่นึงนั้นคือชั้นใต้ดินของตึกนั้นเอง

เมื่อถูกเปิดตาออก ทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าคือประธานนักเรียนทั้ง 2 วันนี้ประธานทั้ง2 แต่งตัวด้วยเครื่องแบบนักเรียนเรียบร้อย เนี้ยบที่สุด มีเข็มตราประธานติดที่อกเสื้อ ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าเข็มนั้นมีสีแตกต่างกัน ของซึบาสะเป็นสีแดง ของทักกี้เป็นสีขาว

ซึบาสะ : ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ รู้สึกเป็นไงบ้างที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้
โฉอง : การบังคับคนอื่นมานี่มันเป็นเกียรติมากเหรอครับรุ่นพี่
ทักกี้ : อ๊ะๆ นี่การจะได้เข้ามาเป็นสมาชิกของที่นี่ไม่ใช่ว่าใครก็ได้นะ นายน่าจะภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกที่นี่นะ
มาซากิ : เอ่อ ผมขอถามหน่อยเถอะครับว่าเราจำเป็นต้องเป็นสมาชิกของที่นี่จริงๆหรือครับ
ซึบาสะ : ไอ้เรื่องนั้นก็ไม่บังคับหรอกนะ ไม่เป็นก็ได้ แต่ว่านะ ต้องทนการกลั่นแกล้งจากรุ่นพี่ที่น่ารักได้อ่ะนะ
ทักกี้ : ช่ายๆ คนที่ปฏิเสธเกียรติที่พวกเรามอบให้ก็จะมีชะตากรรมที่น่าสงสารมากๆ เลยนะ ดูหน้าพวกรุ่นพี่เค้าสิ ว่าจะเสียใจแค่ไหน ถ้าน้องๆที่น่ารักไม่อยากอบยู่ชมรมเดียวกันน่ะ

โฉองและมาซากิเหลือบไปดู KAT-TUN ทั้งกลุ่ม ที่นั่งอยู่ในห้องด้วย คาเมะกำหมัดชกกับมือตัวเองไปมา จินยกมือทำท่าปาดคอ ยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ โคคิแค่อยู่เฉยๆก็น่ากลัวแล้ว สามคนที่เหลือถึงนิ่งๆแต่สายตาเฉือดเฉือนสุดฤทธิ์ ท่าทางเหมือนยากูซ่ากันจริงๆ

โฉองกับมาซากิกลืนน้ำลายเอื้อก ไม่บังคับก็เหมือนบังคับแหละว้า ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับรุ่นพี่กลุ่มนี้กัน คนเรามีชีวิตเดียวนะ ทั้งซึบาสะและทักกี้หัวเราะกันอย่างมีความสุข(ไมประธานแลโรคจิตเล็กๆนะนี่)
ทักกี้ : เอาเป็นว่าทั้ง 2 คนคงไม่(กล้า)ปฏิเสธแล้วหล่ะนะ ตกลงเป็นสมาชิกของชมรมเราเถอะนะ
โฉองกับมาซากิพยักหน้าหงึกๆไม่กล้าจะพูดอะไรอีก
ซึบาสะ : ชมรมของเราเป็นชมรมลับๆ ไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียน เพราะฉะนั้น กรุณาปิดเรื่องนี้ให้ดีด้วย แล้วเรื่องทุกอย่างภายในชมรมแม้กระทั้งว่าประธานชมรมเป็นพี่ทั้ง 2 คนก็ห้ามบอกใครเด็ดขาด ไม่ว่าจะพ่อแม่ ญาติหรือ แฟนนะ อันนี้สำคัญที่สุด
ทักกี้ : ใช่ผลของผู้ที่ไม่รักษาสัญญานี้ ก็ศพไม่ค่อยสวยหรอกนะ ไม่ได้ขู่นะแค่เตือนเฉยๆ
โฉองมองหน้ามาซากิ ต่างก็คิดในใจว่านี่ตัดสินใจถูกรึป่าวเนี้ย
ซึบาสะ : ชมรมของเราเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปว่า B - CLUB(B=BOY) ไม่เคยมีใครรู้เรื่องภายในชมรมนอกจากสมาชิก ชมรมนี้มีมานานตั้งแต่การก่อตั้งรร.แล้วด้วย
ทักกี้ : กฎของชมรมก็คือต้องรักษาความลับให้ได้ แล้วก็สู้ให้เต็มที่เท่านั้นเอง
โฉอง+มาซากิ : สู้!!!!!!!!!
ทักกี้ : ใช่ต้องต่อสู้ไงหล่ะ วัตถุประสงค์หลักของชมรมเลย สมาชิกทุกคนเป็นผู้ชายหมดก็เพราะเหตุผลนี้
ซึบาสะ : แล้วอย่าคิดว่าเป็นแค่เกมส์หรือการแข่งขันนะ จริงจังด้วยเพราะมันคือการต่อสู้ของลูกผู้ชาย

ทั้งโฉองและมาซากิหน้าเริ่มถอดสี นี่อุตส่าห์เข้าชมรมเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงไปๆมาๆทำไมต้องมาตีกันอีกเนี้ย ไม่แปลกใจเลยที่รุ่นพี่KAT -TUN ทั้ง 6 อยู่ในชมรมอย่างมีความสุขขนาดนี้
ทักกี้ : อ้อ แล้วทั้งคู่นะอยู่คนละฝ่ายกันนะ
ซึบาสะ : ใช่ๆ บัตรเชิญต่างสีกันก็คือสังกัดคนละกลุ่มไง ยามาชิตะนายสังกัดอยู่กับฉันนะ ส่วนโฮชิโนะ ก็สังกัดกับทักกี้
ทักกี้ : อย่างพวก KAT- TUN หน่ะ (ชี้มือไปที่KAT-TUN) กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเพื่อนกันนะ แต่ว่าต่างก็สังกัดกันคนละสี จิน โคคิ อูเอดะ นี่เป็นพวกสีแดงสีเดียวกับซึบาสะ แล้วที่เหลือก็เป็นสีขาวไงสีเดียวกับฉัน
มาซากิ : อะไรกันครับทำไมต้องทำยังงี้ด้วย มันดีแล้วหรือครับที่ให้คนที่เป็นเพื่อนกันมาทะเลาะกัน(โฉอง ทำท่าเห็นด้วย)
ซึบาสะ : เฮๆ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ พวกนายที่เข้ามาจะถูกจับเป็นคู่ๆเอาไว้ เพื่อให้เป็นคู่ต่อสู้กัน อย่างนาย 2 คนนี่ก็เป็น partner กัน ก็คือต้องสู้กันทั้ง 2คน
โฉอง+มาซากิ : หา!!!!!!!!!!……………………
ซึบาสะ : ฟังให้จบก่อนสิ การต่อสู้นี่ไม่ใช่การชกต่อยกันซะอย่างเดียว สำหรับกรณีของคาเมะกะจินนี่ไม่ใช่นะ อันนั้นมันบ้ากันเอง 2 คน สำหรับชมรมเนี้ยการต่อสู้คือการแย่งกันทำคะแนนต่างหากเล่า
ทักกี้ : ใช่แล้ว ในแต่ละสีจะมีการแข่งขันกันทำคะแนน โดยที่เมื่อถึงเวลาจบปีนึงจะสรุปคะแนนกัน ฝ่ายที่แพ้ก็จะต้องทำตามผู้ชนะ ที่สำคัญคนที่มีคะแนนสะสมของตัวเองต่ำที่สุดจะถูกลงโทษจากคนที่มีคะแนนสูงสุดในแต่ละสีด้วยนะ

โฉองกับมาซากิค่อยโล่งอกที่การต่อสู้ไม่ใช่การใช้กำลังอย่างที่คิด แต่ก็รู้สึกแปลกๆกับกติกานิดหน่อย
ซึบาสะ : แล้วการคิดคะแนนนี่ขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องด้วยนะ เช่นการต่อสู้ด้านการเรียน กีฬา หรือแม้แต่เรื่องผู้หญิงอันนี้นับเป็นเรื่องส่วนตัวจะได้แต้มเมื่อชนะคู้ต่อสู้ของตัวเองครั้งล่ะ 1 คะแนน แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่นเช่นการทำตามใบขอร้องก็จะได้ครั้งละ 10 คะแนน
โฉอง : ที่แท้ก็เป็นการต่อสู้แบบนี้นี่เอง เล่นเอาตกใจหมด
ทักกี้ : อย่าประมาทไปหล่ะ ถ้าทำคะแนนไม่ได้เลยชะตากรรมน่าสงสารเป็นที่สุดนะ!!
ซึบาสะ : ใช่ๆปีที่แล้ว นาย อาคานิชิ จิน นี่ครองตำแหน่ง KING เชียวนะ คนที่ได้ที่โหล่แบบว่าน่าสงสรมากเลยหล่ะ หึๆ
โฉองมองหน้ารุ่นพี่จินที่ยิ้มแบบยิงฟันให้ดูไม่น่าไว้วางใจจริงๆเลย
โฉอง : มาซานายว่าไงหล่ะ
มาซากิ : เท่าที่ฟังดูก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดๆไว้อ่ะนะ ยังไง เราก็ลองมาสู้กันเองสักตั้งแล้วกัน
โฉอง : เอางั้นเหรอ จะไม่ออมมือให้หรอกนะ (พูดจบก็ชกเบาๆที่ไหล่1ที)
มาซากิ : ไม่ต้องออมหรอกน่า!! (หัวเราะออกมา)
โฉองและมาซากิได้รับเข็มของชมรมมาคนละอันซึ่งมีสีต่างกัน แสดงถึงความเป็นสมาชิก ของ B - CLUB อย่างเต็มตัว จากนั้นทั้งคู่ก็ถูก KAT-TUN พาไปทัศนศึกษาชมรม ตึกหลังนี้ทั้งตึกเป็นของชมรม มีทั้งหมด 4 ชั้น มีห้องสำหรับทำอะไรได้หลายอย่าง มีห้องชั้นใต้ดินเอาไว้ประชุมลับ ชั้น 4 เป็นห้องทำงานของประธานทั้ง2 ส่วนชั้นที่เหลือเป็นชั้นของแต่ละปีตั้งแต่ปี 1-3 ทั้งม.ต้นม.ปลาย ออกจะเป็นชมรมที่ใหญ่ที่สุด แต่ว่าอาคาก็เก่าที่สุดเหมือนกัน
อูเอดะ : นี่พวกนาย 2คน เวลาเดินน่ะ เบาๆนิดนึงนะ อาคารมันเก่ามากแล้ว เวลาเจ้าจินกับเมะมันทะเลาะกันที่ทุกคนต้องเตรียมจับเสาไว้เลยหล่ะ
จิน+คาเมะ : เงียบไปเลยนะ โรบะ อยากตายไง!!
โฉองกับมาซากิอดขำไม่ได้ เวลาจะหาเรื่องคนอื่นทั้ง 2 คนจะสามัคคีกันโดยไม่รู้ตัวจริงๆนะนี่ โฉองได้เจอกับเด็กคนอื่นๆหลายต่อหลายคน มีทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ที่สังกัดสีแดงเช่นเดียวกับเค้า
พ่อครับ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า การมาญี่ปุ่นครั้งแรกของผมจะได้เจอกับเรื่องแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็สนุกดีครับ ผมไม่คิดว่าจะมีเพื่อนกับเค้าด้วยซ้ำ แต่นี่ผมกำลังอยู่ในชมรมที่มีเพื่อนเยอะมากๆที่สำคัญเพื่อนสนิทที่สุดก็กลายเป็นคู่ต่อสู้ไปซะแล้ว ไม่ต้องตกใจหรอกนะครับพ่อ มันเป็นการต่อสู้ที่สันติครับ การต่อสู้แบบลูกผู้ชายไงครับ รีบกลับมาไวๆนะครับพ่อ
วันนี้เจออะไรมาตั้งมากมาย โฉองเผลอหลับไปทั้งที่ในมือก็ยังกำเข็มของชมรม B - CLUB เอาไว้แน่น

CHEPTER 2 END
TO BE CONTINUTE……………

 

 

setstats 1