B-CLUB
chapter 24

storyby : subara nana

 

โฉองเดินออกมาเอาหนังสือพิมพ์ที่ตู้รับจม.หน้าบ้าน แล้วก็มีโปสการ์ดตกออกมาด้วย โฉองเก็บขึ้นมาอ่านอย่างสงสัย
โฉอง : หา!! ของคุณพ่อนี่นา
เป็นเรื่องน่าตกใจที่สุด พ่อกลับมาแล้ว คราวนี้อยู่ที่อเมริกา ยังไม่มีกำหนดที่จะกลับมาญี่ปุ่นแน่นอนเพียงแต่ส่งข่าวมาถึงเท่านั้น ให้โฉองไม่ต้องเป็นห่วง(นี่เกือบจะลืมไปแล้วนะว่ามีพ่ออ่ะ)
คุซาโนะ : พ่อนายนี่สุดยอดเลยอ่ะ ทำไมเป็นนักข่าวอะไรไม่เป็นมาเป็นนักข่าว เสี่ยงตายแบบนี้น้า
มาซากิ : ถ้าไม่มีคนแบบพ่อโฉ เราก็ไม่มีทางรู้ข่าวสารพวกนี้ได้เลยนะ
โฉอง : แต่มันก็จริงนะแหละ ฉันน่ะเป็นไปได้ไม่อยากให้พ่อทำงานเสี่ยงๆนักหรอกนะ อยากให้ไปประจำสำนักงานมากกว่า
มาซากิ : แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่พ่อปลอดภัยนะ เออ แล้วท่านบอกว่าจะกลับมาญี่ปุ่นเมื่อไหร่อ่ะ
โฉอง : (มีสีหน้ากังวลนิดหน่อย) ไม่รู้เลย แต่ว่าเรื่องนี้ฉันยังไม่กล้าบอกคุณป้าเลยนะ
มาซากิ+คุซาโนะ : อ้าว ทำไมหล่ะ!!!
โฉอง : ก็คุณป้ากับคุณลุงไม่มีลูกนี่นา ยังไงท่านก็คงไม่อยากให้พ่อมารับตัวฉันเท่าไหร่หรอก
มาซากิ : เฮ!! นายคงไม่ย้ายตามพ่อไปอีกนะ
คุซาโนะ : จริงด้วย อยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอ
สีหน้าทั้งคู่ดูกังวลขึ้นมาที่เพื่อนสนิท มีวี่แววว่าจะจากกันไป โฉองเองก็มีสีหน้าไม่แน่ใจ
โฉอง : ตอนแรกกนะ ถ้าฉันไม่ได้รู้จักกับพวกนาย แล้วก็ทุกคนในชมรม ฉันก็คงคิดที่จะไปอยู่กับพ่อแล้วหล่ะ แต่ว่าพอคิดว่าต้องจากพวกนายไป ฉันก็รู้สึกทนไม่ได้น่ะ
มาซากิ : (เอามือแตะที่หลังโฉอง )เอาเถอะ พ่อนายก็ยังไม่ได้บอกสักหน่อยนี่เนอะว่า จะให้นายไปอยู่ด้วย อะไรยังไม่เกิด ก็อย่าเพิ่งคิดมากเลย
คุซาโนะพยักหน้าเห็นด้วย โฉองยิ้ม ก็ได้แต่หวังว่า พ่อจะยอมให้เค้าอยู่ที่นี่ต่อไป โฉองจึงตัดสินใจที่จะเขียนจม.ไปหาพ่อเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่ต้องเป็นห่วง เค้าอยู่ที่นี่ มีความสุขดี มีเพื่อนที่ดีๆ และรู้สึกรักญี่ปุ่นซะแล้ว
ขณะที่นั่งเขียนจม.ในห้องชมรมนั้น รุ่นพี่โทมะเดินเข้ามาหน้าตาไม่ค่อยดีนักเหมือนไปโกรธกับใครมา
โทมะ : บ้าชมัด ไอ้เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามานั่นนะ ทำไมถึงได้กวนขนาดนั้นก็ไม่รู้
นากามารุ : เหอ มีเด็กเข้าใหม่เหรอห้องนายอ่ะ มาเข้าซะกลางเทอมเนี้ยแปลกดีนะ
โทมะ : เออ แปลกมากๆเลย น่าตื๊บด้วย คิดดูสิคนอุตส่าห์ช่วยพาชมรร.มันไม่สนใจแถมยังกวนประสาทอีก
นากามารุ : น่าดูๆ อยากเจออ่ะ ไปจัดการให้มันหงอไปเลยดีกว่ามั้ยเนี้ย
โทมะ : ก็อยากอยู่ แต่ว่ามันเป็นเคนโด้ ขั้นสูงนะสิ เลยไม่กล้าแหยม
นากามารุ : อ้าวเป็นงั้นเหรอ งั้นไม่ยุ่งดีกว่า
โทมะก็หลุดขำนากามารุออกมาได้ แล้วก็หันไปเจอโฉองที่นั่งเขียนจม.อยู่
โทมะ : เออ นามสกุลยามาชิตะเหมือนนายเลยด้วยนะ เป็นญาตินายรึป่าวอ่ะเจ้าคนบ้านั่นน่ะ
โฉอง : นามสกุลเหมือนผมเหรอ? ไม่เคยรู้เลยฮะว่ามีญาติแบบนั้นมาก่อนนะฮะ
โทมะ : นั่นนะสิเทียบกันแล้วกับนาย คนละเรื่องเลยเจ้านั่นน่ะ กวนที่สุด นายก็ออกจะเรียบร้อยนี่เนอะ
โฉองทำหน้าเหรอนิดนึง แล้วก็ตั้งใจเขียนจม.ต่อ ไม่ได้ติดใจสงสัยเรื่องอะไร มาซากิที่เลิกชมรมเร็วเป็นพิเศษ เผอิญเจอคุซาโนะที่ทางเดินก็เลยชวนไปชมรมB-CLUB พร้อมๆกัน ขณะที่ทั้งคู่เดินคุยกันมาก็ต้องสะดุดตากับคนที่คุ้นเคย ตอนนี้ผมที่เคยทองเป็นสีดำและมีไฮไลท์ประปราย แต่ก็แน่ใจว่าเป็นคนที่เคยเจอกันที่เกียวโต
ยามะพีในชุดเคนโด้ กำลังดื่มน้ำอัดลม อย่างสบายอารมณ์ตรงทางเดิน แค่อยู่เฉยๆก็ดูยียวนกวนประสาทแล้ว ขัดกับชุดเคนโด้ที่สวมจริงๆ
คุซาโนะ : เฮ !! หนุ่มแยงกี้ มาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะ (ร้องทักหน้าตาตื่น)
ยามะพี : (ท่าทางแปลกใจเหมือนกัน) เฮ้ยไอ้น้องหมีกับเจ้าโย่งนี่นา พวกนายเรียนที่นี่เหรอ
มาซากิ : ครับ คุณเด็กวัด เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เหรอครับ
ยามะพี : (ทำหน้าแบบไม่ค่อยพอใจ) เฮ้ย!! พวกนายนี่นึกอยากเรียกอะไรก็เรียกกันไง หนุ่มแยงกี้งี้ เด็กวัดงี้ ฉันน่ะมีชื่อนะเฟ้ย!!
มาซากิ : ขอโทษคร๊าบ ก็พวกผมไม่รู้ชื่อนี่นา คุณเองก็เรียกพวกผมตามใจเหมือนกันนะแหละ
ยามาพี : (ทำหน้าแบบขอไปที) ยามาชิตะ โทโมฮิสะ
มาซากิกับคุซาโนะมองหน้ากันแล้วหันกลับมามองหน้ายามะพี
คุซาโนะ +มาซากิ : ยามาชิตะ!!!

โฉองเขียนจม.เสร็จเรียบร้อยเตรียมส่งได้ทันที ขณะที่กำลังจะเก็บกระเป๋ากลับบ้าน และแวะส่งจม. คุซาโนะกับมาซากิก็กระหืดกระหอบเข้ามาในห้องชมรม
โฉอง : จะรีบไปใหนกันน่ะ ท่าทางตื่นเต้นกันเชียวนะ

มาซากิ : นายจำคนที่เราไปเจอที่ โตเกียวได้ไหม แฮ่กๆ (ยังหอบอยู่)
โฉอง : อ้อ!! คนผมทองนะเหรอ ทำไมหล่ะ
คุซาโนะ : ตอนนี้ เค้าย้ายมาที่นี่แล้วนะ มาเรียนที่นี่
โฉอง : (ท่าทางแปลกใจนิดหน่อย) อ้า งั้น เหรอก็ดีสิ คราวนั้นยังไม่ได้ถามชื่อเลยนี่นะ ได้เจอกันอีกจนได้
มาซากิ : ไม่ต้องถามแล้ว หมอนั้นชื่อ ยามาชิตะ โทโมฮิสะ นามสกุลเหมือนนายเปะ
โฉองนิ่ง ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไง ก็แล้วทำไมไม่เห็นแปลกอะไร แต่ว่าเค้าก็เคยรู้สึกคุ้นกับยามะพีไม่น้อยแต่ว่าเท่าที่จำได้เค้าไม่น่ามีญาติอายุขนาดนี้อีกนี่นา
โฉอง : นี่พวกนายรีบวิ่งมาเพื่อบอกแค่นี้นะ บ้าไปป่าว ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอกฉันไม่มีญาติอายุขนาดนี้สักกะหน่อย
มาซากิกับคุซาโนะมีสีหน้าผิดหวังนิดหน่อยโฉองหัวเราะขำๆเพื่อนสองคน แล้วเดินจากไป
ยามะพีที่ย้ายมาใหม่ ถึงท่าทางจะยียวนกวนประสาท แต่ว่า เก่งกีฬาที่เป็นรูปแบบญี่ปุ่นขนานแท้แทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นเคนโด้ ยิงธนู แม้แต่การเขียนพู่กันจีน หมากรุกญี่ปุ่นก็เพรียบพร้อมไปซะหมดจนสาวๆพากันขนานนามว่าเป็นท่านชายเกนจิกลับชาติมาเกิดใหม่ก็ไม่ปาน ถึงรูปลักษณ์จะดูซ่าส์ๆขัดกับบุคคลิกก็ตามมันกลับเพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีก จินเองถึงกับตาร้อนผ่าวขึ้นมา
จิน : ไรเนี้ยไอ้เด็กวัดบ้านนอกเนี้ยนะ ทำมาเป็นเก่งโด่งดัง มีไรดีนักวะ
อูเอดะ : นายนี่ก็ ยามาชิตะเค้าอยู่ในวัดมาก่อน กีฬาประเภทเก่าแก่เค้าก็ต้องเล่นเป็นสิ ดูเข้าดีออก
นากามารุ : เออ จริงด้วยนะ แต่ว่าสีผมแบบนั้นไม่ค่อยจะเข้าเท่าไหร่อ่ะนะ เป็นเด็กวัดที่แหวกแนวดีวะ น่าสนุกอ่ะ
จิน : สนุกกะผีเดะ สาวๆไมต้องไปกรี๊ดด้วยวะ เสียคะแนนชมัด กะอีแค่เคนโด้ฉันไปเล่นบ้างก็ได้ไม่เห็นจะยาก
คาเมะ : อย่าเลยดีกว่า กีฬาชั้นสูงที่ใช้ความสงบ อย่างแกอ่ะเล่นไม่ได้หรอก ยอมตกกระป๋องไปซะเถอะไป
จินกระโดดล็อคคอคาเมะตามระเบียบ แล้วทั้งคู่ก็ตีกันต่อไปตามปกติ มาซากิที่ได้ยินการสนทนาถึงยามะพีจึงหันมาชวนโฉอง
มาซากิ : นายยังไม่เคยไปทักทายเลยนี่นา ไม่ไปหน่อยเหรอ
โฉอง : อืมนั่นสิ ไปสักหน่อยก็ดี
ยามะพีในชุดยิงธนูแบบญี่ปุ่นดูราวกับเจ้าชายในอดีตทีเดียวกำลังยิงธนูอย่างมีสมาธิ โฉองกับมาซากิตั้งใจดูเป็นพิเศษ พอเสร็จแล้ว ยามะพีจึงเดินออกมาหาทั้งสองคน
ยามะพี : ไง!! (ยกมือข้างนึงเป็นการทักทาย)
โฉอง : สวัสดีฮะ เป็นไง ถึงย้ายมาที่นี่หล่ะฮะ
ยามะพี : (กำลังเก็บคันธนูอย่างบรรจง) เหตุผลส่วนตัว ไม่อยากบอกใคร (อ้าวกวนอีกแระ)
โฉองทำหน้านิ่ง มาซากิรู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนมีอะไรบ้างอย่างต่อกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงคิดแบบนั้น แต่เวลาที่ทั้งคู่คุยกันทีไรมันรู้สึกอย่างงั้นทุกทีนี่นา แต่ยังงี้กลัวจะทะเลาะกันเปล่าๆ มาซากิเลยกลบเกลื่อนให้
มาซากิ : ท่าทางจะยากนะฮะการยิงธนูเนี้ย รุ่นพี่เก่งจังนะฮะที่เล่นได้
ยามะพี : ก็ฉันอยู่วัดนี่กีฬาประเภทนี้มันก็ใช้ในการทำพิธีด้วย เล่นไปก็สนุกดี นายจะลองมั้ยหล่ะ จะสอนให้
มาซากิ : ไม่ดีกว่าฮะ ผมไม่ถนัดแบบนี้อ่ะ ดูละเอียดอ่อนเชียว เออให้โฉลองดีกว่ามั้งฮะ หมอนี่ก็ถนัดเรื่องชงชาน่าจะทำได้นะฮะ
โฉอง : ใครบอกว่าจะเล่นกัน (หน้านิ่งๆอีกตามเคย)
มาซากิ : อ้าว!!! (หน้าเอ๋อไปเลย)
ยามะพี : อะไรกัน มันไม่อันตรายขนาดนั้นหรอกนะ เอาเถอะนายคงเป็นประเภทคุณหนูชงชาอย่างเดียวละมั้ง ยังกับผู้หญิงแนะ
โฉอง : เมื่อกี้ว่าอะไรนะครับ!! (ตอนท้ายเริ่มลงเสียหนัก หน้ายังนิ่งอยู่ แต่หนังคิ้วกระตุกแล้ว)
ยามะพี : (ทำหน้าเฉยเมย กวนที่สุด)อืม เปล่าๆ แถวนี้ไม่มีเด็กผู้หญิงมาชงชานี่เนอะ อืมๆ
โฉอง : งั้นช่วยสอนผมหน่อย จะยากสักแค่ไหนกัน!! (เสียงดังขึ้นมาจนน่ากลัว)
มาซากิกลืนน้ำลาย โฉองตบะแตกแล้วนะสิ ส่วนยามะพีก็ยียวนไม่ยอมเลิกลา บรรยากาศไม่ค่อยดีซะแล้วนะเนี้ย เฮ้อ!!

จิน : ไหนๆ ใครบอกว่าเจ้าโฉองมานท้าประลองกะเจ้าเด็กวัดบ้านนอกเหรอ
มาซากิเอามือจุ๊ๆปากให้จินเงียบ เพราะการยิงธนูต้องใช้สมาธิสูง ห้ามเสียงดังแม้แต่คนดูก็ต้องเงียบๆ แค่จินกับพวก KAT-TUN มาทุกคนในชมรมก็หันมาตาเขียวแร้ว
มาซากิ : (แอบกระซิบกับหมีคุ)ทำไม ให้รุ่นพี่มากันด้วยอ่ะ
คุซาโนะ : โธ่เอ้ย มีเรื่องไหนบ้างที่พวกรุ่นพี่ไม่เจ๋อบ้างอ่ะ บอกหน่อยดิ ข่าวเร็วกันจะตาย
คาเมะ : นี่ตกลงจะสู้กันจริงเหรอ ธนูจริงไม่ใช่เหรอ
โคคิ : เฮ้ย !!งี้ก็มีตายเดะ รร.เรามีกีฬาโหดแบบนี้ด้วยเหรอ
มาซากิ : (ทำหน้าเจื่อนๆ นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่กันนะ)รุ่นพี่ฮะ ข่าวเร็วก็จริง แต่ไม่ได้ถูกเลย รุ่นพี่ยามาชิตะจะสอนโฉยิงธนูต่างหากหล่ะฮะ เฮ้อ
ทุกคนจึงพยักหน้าไปพร้อมๆกัน โฉองกำลังเปลี่ยนชุดอยู่เพื่อจะยิงธนู ยามะพีกำลังสวมให้อย่างชำนาญ ทุกคนมองตามไป ดูๆไปแล้วท่าทางยังกับพี่กับน้องไม่มีผิด
ยามะพี : ผ้ารัดเอวแน่นไปไหม นายนี่กินไรบ้างป่าว ผอมซะเป็นก้าง
โฉอง : รุ่นพี่เองก็เถอะครับ ผอมกว่าผมซะอีกนะ ผ้าน่ะพอดีแล้วครับ
ยามะพีหมั่นไส้เอามือตีหลังแรงๆ2-3ที เป็นการแกล้ง
โฉอง : โอ้ย มันเจ็บนะ!!
ยามะพี : เอ้าเสร็จแร้ว หยิบคันธนูแล้วตามมา
โฉองมองตัวเอง ตอนนี้รู้สึกแต่งตัวเหมือนคนทำพิธีในศาลเจ้าก็ไม่ปาน รู้สึกแปลกไปอีกแบบ ยามะพีสอนการก้าวเท้า การนับลมหายใจ แล้วก็เข้าสู่ท่าเตรียมสำหรับการยิงธนู ทั้งคู่ดูนิ่งสงบราวกับภาพเขียนที่สวยงามก็ไม่ปาน ผู้หญิงในชมรมบางคนถึงกับเคลิ้มไปเลย ตรงข้ามกับพวกที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์
จิน : เมื่อไหร่มานจะสู้กันอ่ะ
มาซากิ : ก็บอกกี่หนแร้วอ่ะครับ ว่าไม่ได้สู้กัน เค้าจะสอนยิงธนูกัน
นากามารุ : ไมเป็นกีฬาที่น่าเบื่ออย่างงี้นะ กว่าจะก้าวกว่าจะเดินกว่าจะยิง ถ้าเป็นสงครามไม่ตายไปก่อนไงเนี้ย
จุนโนะ : อืมๆ กีฬาแบบนี้ ใครทนดูได้ก็สุดยอดแล้ว เห็นแล้วง่วงเลยนะเนี้ย
คาเมะ : เฮ้ย โรบะหลับในเลยเหรอ
อูเอดะ : (หน้าตาสลึมสลือ )หลับไม่ลงหรอกเหน็บกินขาหมดแล้ว โน้นคิกับหมีคุสิหลับไปเลย
มาซากิ : (เอามือสะกิดคุซาโนะ)นี่ รักษามารยาทหน่อยสิ เอ้อ!!
เมื่อเข้าใจวิธีการเป็นอย่างดีแล้วโฉองก็ทดลองยิงดู ลูกธนูพุ่งตรงเข้าเป้าไปอย่างสวยงาม โฉองรู้สึกสัมผัสที่สั่นไหวของสายธนูที่มือจับอยู่ แล้วก็ยิ้มออกมา
โฉอง : รู้สึกดีจังเลย!!
ยามะพี : (ยิ้มมุมปาก)ใช่ม้า พอยิงออกไปแล้วรู้สึกดีอย่างประหลาดเลยใช่ม้า มันเป็นการฝึกสมาธิแล้วก็ปลดปล่อยไงหล่ะ นายก็ทำได้ดีนี่
โฉองรู้สึกเขินนิดหน่อยกับคำชมเชยของยามะพี แล้วตั้งหน้าตั้งตายิงใหม่ ไปๆมาๆชักติดใจการยิงธนูซะแล้วสิ รุ่นพี่ที่เป็นประธานชมรมเห็นแววของโฉองถึงกับออกปากชวนให้เข้าชมรม
โฉอง : แต่ว่าผมอยู่ชมรมชงชาแล้วนะฮะ
ยามะพี : ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฉันยังอยู่ตั้งหลายชมรม เค้าไม่บังคับนี่นายจะอยู่สักกี่ชมรมก็ได้ไม่ใช่เหรอ
โฉองมองยามะพี ที่ทำท่าไม่ค่อยสนใจ ถ้าเข้าชมรมก็ต้องเจอกันทุกวันนะสิ มันจะดีเหรอเนี้ย คนที่นามสกุลเหมือนกันคนนี้มีอะไรแปลกบางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก เอาเป็นว่าลองดูไปเรื่อยๆก็ดี โฉองจึงตัดสินใจเข้าชมรมยิงธนู


CHEPTER 24 END
TO BE CONTINUTE……………

 

 

 

setstats 1