B-CLUB
chapter 25

storyby : subara nana

ยามะพีกระโดดขึ้นรถเข็นเก็บม้วนวีดีโอ สไลด์ไปทั่วร้าน สาวๆที่มาเช่าวีดีโอแอบดูกันเป็นแถว ติดอกติดใจในความเท่ห์ของยามะพี ขณะกำลังเก็บม้วนวีดีโอเข้าชั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นๆดังแว่วมาจากหน้าร้าน
โทมะ : พ่อ ผมอ่ะมาช่วย แค่ตอนคนขาดแค่นั้นนะ การบ้านยิ่งเยอะๆอยู่ด้วย
พ่อ : เออน่า ช่วยงานที่ร้านแค่นี้ทำเป็นบ่นไปได้ เฮ้ยามาชิตะ นี่ๆลูกชายฉันเอง เค้าจะมาช่วยงานตอนที่คนขาดนะ ฝากด้วยละกันนะ
โทมะ : (ทำหน้าเหมือนเห็นผี) เฮ้ย!! นายทำไมมาอยู่ที่ร้านฉันได้ไง
ยามะพี : (ทำหน้าเซ็งๆ) ก็ร้านนายรับสมัครพนักงานนี่นา แปลกตรงไหน
พ่อ : อ้าว! รู้จักกันเหรอ เอองั้นก็ดีสิ ทำงานกันดีๆหล่ะ
โทมะอยากจะเรียกพ่อให้มาไล่ไอ้คนกวนโอ้ยนี้ออกจากร้านไปทันที แต่ว่า พนักงานในร้านก็ยังขาดอยู่จำใจต้องยอมจ้างมันไว้ก่อน ยามะพียิ้มแบบเยาะ โทมะยิ่งโกรธหนักนี่ใครเป็นเจ้าของร้านนะ หัดรู้ไว้ซะบ้างสิเจ้าบ้านี่
พอดีมีลูกค้ามาถามหาหนังเรื่องนึง โทมะออกจะงงๆนิดหน่อยเพราะไม่ได้มาเฝ้าร้านนานแล้ว
โทมะ : ขอโทษนะครับเรื่องอะไรนะครับ
ลูกค้า : ปอบหวีดสยองอ่ะครับ
โทมะทำท่าเลิ่กลั่ก งง หาไม่ถูก
ยามะพี : ปอบหวีดสยอง ชั้นที่2 แถวK (เหมือนแกล้งพูดลอยๆขึ้นมายังงั้น)
โทมะเดินไปหยิบม้วนวีดีโอ อยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย เสร็จแล้วก็ยื่นให้ลูกค้าไป หันหน้ามามองยามะพีที่ยิ้มเยาะอีกแระ ใจนึงก็อยากโดตื๊บนัก แต่ไหนๆก็อุตส่าห์ช่วยบอกโทมะเลยอ้อมแอ้มออกมา
โทมะ : ขอบใจที่บอก!!
ยามะพี : (ทำเป็นเก็บวีดีโอเข้าที่ไม่สนใจ)เจ้าของร้านภาษาอะไร วีดีโอในร้านตัวเองถึงไม่รู้ว่าอยู่ไหนบ้างน้า
โทมะ : ก็จะทำไมอ่ะ ไม่ได้มาเฝ้าร้านนี่เว้ย !! จะถามหลายทีแล้วนายนี่กวนมาแต่กำเนิดไงวะ
ยามะพี : (หันมาทำหน้าเฉยๆ)ฉันก็เป็นงี้มานานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจกวนสักหน่อยมันเป็นไปเองตามธรรมชาติ แล้วก็ขี้เกียจเปลี่ยนด้วย
โทมะ : เออดีเนอะให้มันได้งี้สิ เดี๋ยวก็ได้ตายแบบธรรมชาติลงโทษหรอกนายอ่ะ ทำไมอ่ะ คนเค้าอยากคุยเป็นเพื่อนดีๆด้วยไม่ได้ไงวะ ทำตัวอย่างงี้เดี๋ยวไม่มีใครคบหรอกไอ้บ้าเอ้ย!!
โทมะพูดยาวจนไม่หยุดหายใจ ทำท่าแบบเหนื่อยมากๆ ยามะพีหัวเราะออกมา
ยามะพี : เอ้าใจเย็นๆ อยากด่าฉันมากไง ค่อยๆด่าก็ได้เดี๋ยวจะขาดใจตายซะก่อน ฉันยังอยู่ให้นายด่าอีกนานเลย เชิญๆ
โทมะเห็นท่าทางยามะพีขำก็เลยหลุดขำออกมาด้วย
โทมะ : นายบ้าหรือโรคจิตฟ่ะ อยู่ดีๆก็มาให้คนด่า
ยามะพี : ก็พอๆกะนายละมั้งนะ
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน ดูเหมือนว่าตอนนี้ทั้งคู่จะญาติดีกันแล้วนะเนี้ย
โฉองได้รับจม.ตอบรับจากพ่อแล้ว พ่อบอกว่า แล้วแต่โฉองตัดสินใจ เพราะตอนนี้โฉองก็ดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว (ปกติพ่อหายตัวไปก็ดูแลมาตลอดนี่นา)พ่อรอทำข่าวเสร็จแล้วจะกลับมาเยี่ยมโฉองที่ญี่ปุ่นแน่นอน โฉองนำข่าวดีนี้มาบอกมาซากิและคุซาโนะทั้งคู่ท่าทางดีใจกันมาก โฉองเองก็ดีใจไม่น้อยกว่า2คนเลย ที่ไม่ต้องลาจากกันแล้ว
คุซาโนะ : นี่พ่อนายมาแล้วขอลายเซ็นให้ฉันด้วยนะ
โฉอง : จะบ้ารึเปล่า พ่อฉันเป็นนักข่าวนะไม่ใช่ดารา จะเอาลายเซ็นไปทำไม
คุซาโนะ : ก็แหม่ พ่อนายอ่ะผ่านสงครามมาได้ก็น่านับถือแล้ว ยังงี้ก็ต้องขอลายเซ็นไว้หน่อยแหละ
โฉอง : นี่ประชดหรือว่าชมจริงๆอ่ะ (ทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ)
คุซาโนะ : เอ้าจริงๆนะ นายนี่!! เอ๋ ! นั่นแยงกี้มีเพื่อนกับเค้าด้วยเหรอ เฮ้ยรุ่นพี่อิคุตะนี่นา
ยามะพีกับโทมะเดินมาพร้อมกันท่าทางคุยกันอย่างสนุกสนาน ลักษณะหมาป่าผู้โดเดี่ยวอย่างยามะพีแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเพื่อนสร้างความแปลกใจให้กับคุซาโนะ และโฉองมากๆ
โฉอง : เมื่ออาทิตย์ก่อนรุ่นพี่อุคุตะ ยังบ่นอยู่เลยนี่นา ทำไมอยู่ดีๆก็ทำท่ายังกับสนิทกันมานาน
คุซาโนะ : สงสัยทะเลาะกันมากจนสนิทกันไปเลยมั้ง เหมือนรุ่นพี่คาเมนิชิกับอาคานิชิไง เออแยกกันตรงนี้นะ
มาถึงหน้าชมรมยิงธนูแล้ว คุซาโนะขอแยกตัวไปชมรมคหกรรมที่ตัวเองอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะอะไรเพราะมีสาวๆเยอะที่สุดและมีของกินตลอดนะสิถึงได้อยู่ชมรมนี้ (จริงๆเลยนะหมีคุ)
ยามะพี : เออ ตกลงวันนี้นายจะไปค้างบ้านฉันจริงเหรอ
โทมะ : อืม ไปชัวร์ ขอกลับไปเก็บของที่บ้านนิดหน่อยนะ เจอกันที่ร้านเลยละกัน
ยามะพีโบกมือให้ โทมะเป็นการลาแล้วก็หันกลับมาเห็นโฉองยืนยิ้มอยู่
ยามะพี : (เขินนิดหน่อย) ยิ้มไร!!!
โฉอง : รุ่นพี่นะแหละ ยิ้มอะไร(หน้านิ่งขึ้นมานิดหน่อย)
ยามะพี : ไม่ได้ยิ้มสักนิด รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดไป้!!

โทมะเดินเข้ามาในห้องเช่าของยามะพี ถึงจะเล็กไปหน่อยแต่ก็พออยู่คนเดียวได้สบายๆเลยนะเนี้ย
โทมะ : เพิ่งรู้นะเนี้ยว่านายนอกจาก ทำงานที่ร้านแล้วยังทำงานก่อสร้าง ร้านมินิมาร์ท อีกตั้ง 2 ที่แนะ เป็นประเภทใช้แรงงานจริงๆนะนายเนี้ย
ยามะพี : ก็นี่มันเมืองหลวงนี่หว่า อะไรก็เป็นเงินไปหมด มาอยู่คนเดียวก็ต้องทำงานเยอะหน่อยแหละ
โทมะ : หือ! นายเนี้ยแมนจังเลยอ่ะอยู่แค่ปี2ก็แยกออกมาอยู่เองได้แร้วอ่ะ แต่ยังไงฉันว่านะการอยู่คนเดียวก็ดีสุดๆแหละ เป็นส่วนตัว อิสระเสรีจะตายไป ฉันนะอยู่ที่บ้านต้องสู้รบปรบมือกับพ่อ แม่ ไหนจะเจ้าตัวแสบน้องชายน้องสาวอีก โอ้ยแทบสลบ อยู่คนเดียวหล่ะเป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝัน
ยามะพี : (ขำหน้ามีแววเศร้านิดหน่อย) นายว่างั้นเหรอ
โทมะ : (นอนกลิ้งไปมาบนที่นอน) ก็เออนะสิ
ยามะพี : นายนอนเล่นหรือจะดูทีวีก็ได้นะ เดี๋ยวฉันไปซักผ้าก่อน
โทมะ : อ้าวเหรอ! อืมๆ (ลุกขึ้นมาดูยามะพีเก็บผ้าใส่ตระกร้า แล้วออกจากห้องไป)
โทมะนอนกลิ้งต่อไปสักพักก็เริ่มสำรวจห้อง ข้าวของมีไม่มากนัก ถ้าจะว่าไปแล้วออกจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำสำหรับห้องของเด็กผู้ชาย เกมเพลย์ คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี แม้แต่วีดีโอยังไม่มีเลย (ยังดีนะที่มีทีวี) มองไปของกินที่มีก็เป็นแต่อาหารสำเร็จรูป ท่าทางยามะพีต้องควบคุมรายจ่ายมากน่าดู คิดไปแล้วก็รู้สึกสงสารคนที่อยู่คนเดียวขึ้นมาซะแล้ว มองไปมองมาก็เจอรูปแม่ของยามะพีวางไว้ที่หัวนอน มีกระถางธูปอยู่ด้วย ทำให้โทมะรู้ในทันทีว่าแม่ยามะพีเสียไปแล้ว จะว่าไปยามะพีไม่เคยพูดถึงพ่อแม่เลยที่สำคัญเค้าก็ยังไม่เคยถามถึงสาเหตุที่ต้องแยกมาอยู่คนเดียวด้วย พอยามะพีซักผ้าหยอดเหรียญกลับมาแล้ว โทมะจึงกล่าวชวนยามะพีให้ไปค้างที่บ้านบ้าง
โทมะ : นี่ นายกินแต่พวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตลอดเลยเหรอ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ ไงนายไปกินข้าวเย็นที่บ้านฉันก็ได้
ยามะพี : ไม่เป็นไรหรอกน่า เกรงใจเจ้าของร้านน่ะ
โทมะ : (เอามือตบไหล่)บ้าน่า พ่ออ่ะ ชอบนายจะตายเค้าบอกว่านายอ่ะขยันกว่าฉันอีกไปเถอะนะๆ
ยามะพีทนการรบเร้าเซ้าซี้ของโทมะไม่ไหวก็เลยพยักหน้าแบบยอมๆไป โทมะท่าทางดีใจมากๆ
วันต่อมายามะพีก็มาที่บ้านของโทมะ ท่าทางที่บ้านดูวุ่นวายไม่น้อย โทมะกำลังไล่ฆ่าน้องๆอยู่พอดี
ยามะพี : นายทำอะไรน่ะ วิ่งไล่กับเด็กอยู่ได้ ปัญญาอ่อนดีจัง!! (พูดแล้วก็ขำแบบสุดๆ)
โทมะ : ก็นายลองมามีน้องกวนประสาทแบบนี้บ้างสิ ดื้อชมัดเลยทำข้าวของในห้องฉันพังไม่เว้นแต่ละวัน แถมมาเขียนรูปเล่นที่พนังห้องด้วยจะลบออกป่าวก็ไม่รู้
ยามะพีมองดูเด็กชายหญิงสองคนที่แววตาซุกซนไม่น้อย ยืนจ้องยามะพีกันตาแป๋ว ยามะพียิ้มให้เด็กน้อยทั้งสอง
ยามะพี : น้องนายน่ารักดีนี่ (เอามือลูบหัวเด็กทั้งสอง)
น้องสาว : พี่ชายก็หล่อจัง แต่งงานกับหนูนะคะ
ยามาพีหัวเราะก๊าก เด็กคนนี้ท่าทางจะแค่ป.2เองนะ โทมะอ้าปากค้าง
โทมะ : โทโมโกะ จะบ้าเหรอเป็นเด็กผู้หญิงเที่ยวไปพูดงี้ได้ไง!!
น้องสาว : ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย พี่นี่หัวโบราณชมัด
โทมะ : หา!!…………(ช็อคที่น้องเถียง)
ยามะพียิ่งขำไปกันใหญ่ น้องชายที่รำคาญที่ยามะพีจับหัวเอาเท้าเตะยามะพีไปทีนึงแต่เพราะเป็นแรงเด็กๆก็เลยไม่เจ็บนัก โทมะเห็นน้องทำแบบนั้นก็รีบด่าออกมา
โทมะ : เฮ้ย!! ไอ้โทยะไปเตะรุ่นพี่แบบนี้ได้ไงวะ!
น้องชาย : ก็ไม่ชอบให้ใครมาจับหัวเนะ ไมพี่ไม่ดูแลเพื่อนให้ดีๆหน่อยอ่ะ
โทมะ : (ท่าทางสุดทน)ไอ้พวกเด็กบ้านี่ จะฆ่าแกให้หมดเลย
เด็กๆพากันร้องเสียงดังวิ่งหนีไปคนละทาง ส่วนยามะพีก็ขำกลิ้งไปแล้ว
โทมะ : นายก็โรคจิตไง ขำอยู่ได้ (ท่าทางหมดแรง)
ยามะพี : บ้านนายสนุกดีวะ มิน่าท่าทางนายตอนแรกที่พบกันดูเจ้ากี้เจ้าการน่าดูเพราะว่าเป็นพี่ชายที่เข้มงวดนี่เอง แต่ดูน้องๆจะไม่เชื่อฟังเอาซะเลยนะ 555555
โทมะ : เออๆ หัวเราะเข้าไป ที่บ้านไม่มีน้องบ้างไม่รู้หรอกเว้ย!!
ยามะพี : (นิ่งไปทีเดียว มีแววตาเศร้านิดหน่อย) มีพี่น้องน่ะก็ดีแล้ว
โทมะสังเกตอาการที่แปลกไปของยามะพีได้ ในใจก็อึดอัดอยากจะเปิดอกคุยกันซักทีว่ายามะพีมีอะไรข้างในกันแน่ คืนนั้นเองยามะพีกำลังเตรียมปูฟุตงนอนที่พื้น โทมะนอนอยู่บนเตียงก็ถามยามะพีขึ้นมา
โทมะ : นายอ่ะ ทำไมต้องออกมาอยู่คนเดียวหล่ะ ที่บ้านไม่ว่าอะไรเหรอ นายก็ยังเด็กนะ แถมมาจากต่างจังหวัดด้วย ที่บ้านก็น่าจะคัดค้านบ้างนี่นา
ยามะพี : คัดค้านเดะ แต่ว่าฉันก็ออกมา ก็ฉันมันคนหัวดื้อนี่นา
โทมะ : อ้าว!! แล้วนายมีปัญหาอะไรเหรอ ถึงออกมาน่ะ
ยามะพี : (ถอนหายใจนิดหน่อย) เห็นว่าเป็นนายนะ ถึงยอมบอกน่ะ ฉันนะแม่เสียไปตั้งแต่อยู่ม.ต้นก็เลยย้ายไปอยู่กับคุณตาที่เป็นพระที่เกียวโต แล้วเมื่อเร็วๆนี้ ตาฉันก็บอกฉันว่าฉันนะมีน้องชายต่างแม่อยู่อีกคนก็เลย อยากหาให้เจอสักหน่อยน่ะ ตาก็คัดค้าน แต่ฉันก็ดันทุรังออกมา
โทมะ : หา!! เหรอแล้วน้องชายอยู่ที่ไหนอ่ะ หาเจอรึยัง!! ถ้าเจอก็ดีสิเนอะ
ยามะพี : (หน้านิ่งไร้อารมณ์) รู้ว่าอยู่ที่รร.เดียวกันที่อยู่ตอนนี้แหละ แต่ว่าฉันไม่ได้อยากจะญาติดีกับเค้าเท่าไหร่หรอกนะ
โทมะ : (หน้างง)หมายความว่าไงอ่ะ
ยามะพี : ก็เจ้านั่นน่ะ เป็นลูกของผู้หญิงที่แย่งพ่อไปจากฉันต่างหากหล่ะ แม่ต้องลำบากเลี้ยงดูฉันมาตามลำพังนานแค่ไหนกัน ฉันเองก็ต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ ในขณะที่เจ้าเด็กนั่นมีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ทุกอย่าง
โทมะพูดอะไรไม่ออก เหมือนมีอะไรมาดูดเสียงให้แห้งเหือดไปหมด ท่าทางยามะพีที่ดูเย็นชาก็เพราะว่าต้องอยู่ตามลำพังมาตลอดยังงี้สินะ น่าสงสารจริงๆ
โทมะ : แล้วนายจะตามหาเค้าทำไมหล่ะ
ยามะพี : ก็แค่อยากดูหน้าไงหล่ะ เลือดเนื้อของคนที่แย่งพ่อไปจากฉัน (หน้าตาจริงจังมากๆ)
โทมะ : อืมๆ แล้วนายรู้อะไรเกี่ยวกับเด็กนั่นบ้างมั้ย
ยามะพี : ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าใช้นามสกุลยามาชิตะเหมือนกัน แค่นั้น
ได้ฟังแค่นั้นโทมะก็อึ้งไปทันที ในหัวก็คิดถึงโฉองขึ้นมากระทันหัน ไม่หรอกนะ คงไม่ใช่ยามาชิตะ โฉองหรอกนะ ถ้าเป็นยังงั้น แล้วเรื่องจะเป็นยังไงเนี้ย ทั้งที่ท่าทางโฉองก็เป็นที่เอ็นดูของยามะพีดีหรอกนะ ถ้ายามะพีกับโฉองเป็นพี่น้องกันจริงๆ ความเอ็นดูนั้นคงเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม เค้าจะทำยังไงดีนะเนี้ย
วันต่อมาโทมะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านประธานทั้งสอง
ซึบาสะ : อะไรจะขนาดนั้น ไม่รุนแรงกันไปหน่อยเหรอ ถ้าเป็นพี่น้องกันจริงๆก็ไม่น่าจะโกรธแค้นกันเลยนะ สายเลืดครึ่งนึงก็เป็นสายเลือดเดียวกันน่ะ
ทักกี้ : (กำลังตรวจสอบรายชื่อนร.ทั้งรร.ด้วยคอมพิวเตอร์)ใช่ๆ เป็นพี่เป็นน้องกันน่าจะรักกันนะดีที่สุดแล้ว
โทมะ : ผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงหรอกครับ ท่าทางเค้าก็คงเก็บกดความแค้นมานานแล้วด้วย
ทักกี้ : แย่แล้วหล่ะ เรื่องที่เราสงสัยท่าทางจะเป็นจริงซะแล้วหล่ะ
ซึบาสะ : หมายความว่ายังไง อย่าบอกนะว่าทั้งรร. มีนามสกุลยามาชิตะแค่ 2 คนนั้น
ทักกี้หันมาพยักหน้า ทั้งสามมองหน้ากันแบบไม่ค่อยสบายใจนัก
ยามะพีถูกประธานชมรมยิงธนูมาเรียกตัวที่ชมรมเคนโด้
ประธานชมรม : นี่ อีกสามอาทิตย์จะมีแข่งขันยิงธนูน่ะ อยากให้นายช่วยลงชื่อแข่งเป็นทีมด้วยกันหน่อยน่ะ จะได้ช่วยเทรนให้เด็กๆที่จะแข่งด้วย
ยามะพี : อ๊ะ! แต่ว่าอาทิตย์นี้ผมจะต้องมาเข้าชมรมเคนโด้นี่นา ตกลงกันไว้แล้วว่าเข้าชมรมอาทิตย์เว้นอาทิตย์นี่ฮะ(เนื้อหอมจังนะพี)
ประธานชมรม : ไม่เป็นไรหรอก ฉันน่ะขอไว้แล้ว เอา ใบลงชื่อ ช่วยเซ็นหน่อย เหลือแต่นายคนเดียว
ยามะพี ทำหน้าเบื่อๆก่อนลงมือเซ็น ตาก็ไปสะดุดกับชื่อใครบ้างคน
“ ยามาชิตะ โฉอง ชั้นปี2 มัธยมศึกษาตอนต้น ห้อง C “
ยามะพีถึงกับค้างไปเลย
ยามะพี : ชื่อนี้อยู่ในชมรม เราด้วยเหรอฮะ (หน้าตาดุดัน)
ประธานชมรม : หะ….หา (ท่าทางกลัวๆ)อ๊ะ อ๋อ ยามาชิตะ โฉองนะเหรอ ก็เด็กใหม่ที่นายเคยสอนเค้ายิงธนูไง นี่ไม่รู้จักชื่อจริงเลยเหรอ ?
ยามะพีได้ยินก็วิ่งออกมาจากที่นั่นทันที เล่นเอาประธานชมรมถึงกับงงไปเลย
โฉองกำลังล้างหน้าที่ก็อกน้ำนอกอาคาร หลังจากซ้อมยิงธนูเสร็จ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ยามะพีเดินตามหาโฉอง ท่าทางร้อนรน พวก KAT-TUN กำลังจะไปหาอะไรกินหลังเลิกเรียนพร้อมกันเจอยามะพีก็กล่าวทักทายตามปกติ
จิน : หวัดดี เด็กวัดอินเตอร์ หาไรอยู่อ่ะ
ยามะพี : (วิ่งมาคว้าคอเสื้อจิน ท่าทางน่ากลัว)ไอ้ปากมาก เห็นเด็กที่ชื่อโฉองมั้ย!!
ทุกคนงงไปตามๆกันที่ท่าทาง ยามะพีดูน่ากลัวผิดไปจากทุกที คาเมะ ที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบเข้าไปดึงจินให้ออกมาจากยามะพี
คาเมะ : เฮๆ ทำไรอ่ะ ใจเย็นๆสิ อยู่ดีๆจะมีเรื่องกันรึไง
จินไอออกมา เกือบหายใจไม่ออกโชคดีที่คาเมะมาช่วยไว้ได้ก่อน ยามะพีท่าทางร้อนรนอยู่ตวาดออกมาเสียงดัง
ยามะพี : พวกนายไม่เห็นเจ้าเด็กที่ชื่อโฉองบ้างเลยรึไง!!!
อูเอดะ : เค้าล้างหน้าที่ก็อกน้ำข้างอาคารกิจกรรมน่ะ
พูดยังไม่ทันจบ ยามะพีก็วิ่งออกไปทันที
จิน : มันบ้าอะไรวะ แรงเยอะชมัดเกือบตายแนะ
จุนโนะ : ถามถึงยามาชิตะทำไม?
นากามารุ : แถมทำท่ายังกับจะฆ่าคนยังงั้น?
โคคิ : เฮ้ย!! คงไม่ได้ไปทำอะไรเจ้าโฉองหรอกนะ
แค่โคคิพูดออกมาทั้งหมดก็พากันวิ่งตามไปยังตึกกิจกรรมทันที
โฉองที่ล้างหน้าเสร็จ เงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจสุดขีด พอดีกับที่ยามะพีวิ่งมาถึงข้างๆตึกพอดี
โฉอง : พ่อ!!!!
ยามะพีหันไปมองตามเสียงนั้น


CHEPTER 25 END
TO BE CONTINUTE……………


 

 

setstats 1