B-CLUB
chapter 26

storyby : subara nana


ยามะพี : พ่องั้นเหรอ……..
ยามะพีมองโฉองที่วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายร่างสูงใหญ่ ท่าทางใจดี มองดูด้วยสายตาที่เจ็บปวดไม่น้อย
พยายามฝืนเพ่งมองหน้าของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ใช่จริงๆนะแหละหน้าตาเหมือนกับรูปถ่ายที่แม่มีจริงๆ ถึงเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน หน้าตาก็ยังดูหล่อเหลาไม่เปลี่ยน
พวกKAT-TUN วิ่งมาถึงพร้อมกันต้องเบรคกระทันหันเมื่อเห็นยามะพียืนขวางทางอยู่ โฉองกำลังคุยสนุกสนานกับพ่อ เมื่อเห็น KAT-TUN มาเสียงดังไม่น้อยก็หันมามอง
โฉอง : พวกรุ่นพี่ นี่นา มาทำอะไรกันอ่ะครับ ไหนบอกว่าจะไปร้านราเมงกันไม่ใช่เหรอฮะ?
ทุกคนทำท่าเก้กัง ทำอะไรไม่ถูก เห็นยามะพีที่ทำหน้านิ่งๆก็ ไม่ได้พูดตอบอะไรกัน พ่อหันมามองหน้าทุกคนแล้วก็มาสะดุดที่ยามะพี ใบหน้าสวยๆที่ดูคุ้นเคยตาเหลือเกิน แม้ว่าดวงตาดูแข็งกร้าว แฝงไปด้วนความปวดร้าวก็ตาม
โฉอง : อ่ะ ! นี่พ่อผมครับ พ่อฮะนี่รุ่นพี่ที่ดูแลผมมาตลอดฮะ
ทุกคนโค้งกันยกใหญ่ ท่าทางเก้กังๆ มียามะพีคนเดียวที่ยังยืนตัวแข็งหน้าเข้มมองไม่ละสายตา
พ่อ : ขอบคุณมากนะทุกคนที่ช่วยกันดูแลโฉองเป็นอย่างดี
ทุกคนยิ้มแบบเด็กๆเวลาเจอผู้ใหญ่ทำท่าน่ารักเรียบร้อยกันก็เป็นด้วย ต่างแนะนำชื่อกันตามมารยาททุกคน มีก็แต่ยามะพีที่ยังยืนนิ่งๆ
จิน : ไม่มีมารยาทไงวะ น่าจะแนะนำตัวสักหน่อยยืนทื่ออยู่ได้ (บ่นอุบอิบ)
อูเอดะ : นายอ่ะเงียบเหอะ ท่าทางน่ากลัวจะตาย เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก
ยามะพีได้ยินที่จินพูด จึงเชิดหน้านิ่งๆขึ้น แล้วกล่าวทักทายพร้อมทั้งบอกชื่ออกไป
ยามะพี : ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ !!
พ่อได้ยินแค่นั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที หน้าตาดูตกใจมาก
พ่อ : ยามาชิตะเหรอ แม่ของเธอ………คงไม่ใช่คาโอริหรอกนะ
ยามะพี : ยังอุตส่าห์จำได้ดีจริงๆนะครับ!! (น้ำเสียงเข้มมาก)
ทั้งโฉองและทุกคนงงไปตามๆกัน พ่อรู้จักกับยามะพีเหรอนี่ มันมีอะไรกันแน่นะ
โฉอง : พ่อครับ มีอะไรรึป่าวครับ
พ่อมีท่าทางอึกอักพูดไม่ออก โฉองได้แต่ทำหน้าสงสัยเข้าไปอีก ยามะพียิ้มเหยียดๆ
ยามะพี : พูดไม่ออกเลยเหรอครับ หมอนี่คงถูกเลี้ยงมาบนความสุขและอบอุ่นมากสินะฮะ จะให้ฟังเรื่องที่เจ็บปวดคงทนรับไม่ได้
พ่อ : (เอามือจับไหล่ของโฉองเอาไว้แน่น)โฉ พ่อมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกลูกหลายเรื่อง แต่ว่าพ่อจะเล่าให้ลูกฟังทั้งหมด ขอแค่ลูกเข้าใจพ่อนะ
โฉองพยักหน้างง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญเอาการ พ่อถึงมีท่าทางเครียดๆแบบนี้
พ่อ : ลูกยังมีพี่ชายอยู่อีกคนนึง เป็นพี่ชายคนละแม่ เค้าคนนี้เป็นพี่ชายของลูกนะ
จิน : อว๊า!!!……………..
จินเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เพื่อนๆช่วยกันปิดปากก่อนที่จะทำให้เรื่องเสีย
โฉอง : พ่อ!! จริงนะเหรอ !! (ท่าทางตกใจไม่น้อยเหมือนกัน)
ยามะพีหันหน้าหลบไม่อยากมองหน้าโฉองที่หันมามองพร้อมทำตาโต
โฉอง : ก็ดีนะสิฮะ ได้อยู่พร้อมกันหมดเลย!!
ยามะพีไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ทำไมเด็กคนนี้ทำใจได้เร็วนัก ไม่คิดติดใจสงสัยอะไรบ้างเหรอ แม้แต่พวก KAT-TUN ก็ยังคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
พ่อ : โฉ ลูกจะไม่ถามอะไรพ่อหน่อยเหรอ
โฉอง : (ยิ้ม) จะถามอะไรอีกหล่ะฮะ ก็ผมก็เข้าใจทุกอย่างแล้วนี่ฮะ ผมน่ะเชื่อใจพ่อนะฮะ เชื่อว่าพ่อมีเหตุผลของพ่อ นะฮะ
พ่อยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แล้วก็เดินมาหายามะพีที่ยืนตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก
พ่อ : โทโมฮิสะใช่มั้ย ดีจังนะที่ได้พบกันอีก พ่อคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะแล้ว นี่น้องของลูกนะ ตอนที่พ่อไม่อยู่คงช่วยดูแลน้องด้วยสินะ เป็นเด็กดีจริงๆ (ทำท่าจะเอามือแตะไหล่)
ยามะพี : อย่ามาแตะตัวผมน่ะ!! บ้าไปแล้วรึไง คิดว่าคนอื่นเค้าจะรับได้ เข้าใจคุณไปซะหมดทุกคนเหรอ คนที่ถูกทิ้งน่ะ ไม่เข้าใจอะไรง่ายๆหรอก!! (พูดจบก็วิ่งออกมา)
KAT-TUN หน้าตาตื่นตกใจ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก โฉองเองก็ตกใจที่ยามะพีท่าทางโกรธขนาดนั้น ได้แต่มองหน้าผู้เป็นพ่อที่มีท่ทางกังวลมากๆ ด้วยความเป็นห่วง

เย็นวันนั้นพ่อออกมานั่งสูบบุหรี่ที่สวนสาธารณะแถวๆบ้านป้า โฉองเป็นห่วงก็เลยเดินตามมาด้วย พอพ่อเห็นโฉองมาก็ทิ้งบุหรี่ลุกขึ้นหันมายิ้มให้
พ่อ : โฉมาเล่นชิงช้ากันหน่อยมั้ยลูก
โฉองทำหน้าเหรอ เค้าโตเกินกว่าจะเล่นชิงช้าแบบเด็กๆ แต่ก็ยิ้มตอบรับกับพ่อไป ทั้งคู่นั่งไกวชิงช้าไปมาพ่อนิ่งไปพักใหญ่ๆอยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา
พ่อ : พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้บอกลูกมาก่อน
โฉองไม่พูดอะไรได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
พ่อ : เด็กคนนั้นท่าทางจะไม่ให้อภัยพ่อแน่ๆ เลยคิดแล้วเศร้าใจจัง แต่คนที่ผิดก็คือพ่อเองนะแหละนะ
โฉอง : พี่เค้าคงไม่ได้โกรธจริงจังหรอกฮะ อาจจะเป็นเพราะเหงามากกว่า
พ่อหันมามองโฉอง รู้สึกแปลกใจที่ลูกชายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นขนาดนี้ การที่ปล่อยให้เค้าอยู่ที่นี่สอนอะไรดีๆให้เค้าได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ
พ่อ : พ่อเองก็ปล่อยให้โฉต้องอยู่คนเดียวหลายครั้งเหมือนกันนะ พ่อขอโทษจริงๆ
โฉอง : (ไกวชิงช้าตัวเองแรงขึ้น สีหน้ายิ้มๆ) โธ่พ่อ มาพูดอะไรป่านนี้ครับ ผมนะชินแล้ว แต่โชคดีที่ผมเจอแต่คนดีๆที่รร. มันก็เลยทำให้ผมไม่มีเวลาเหงาเลยนะฮะ (คิดถึงพวกในชมรม ก็อดยิ้มออกมาอีกไม่ได้)
พูดยังไม่ทันจบพ่อก็ลุกขึ้นมากอดโฉองอย่างเต็มที่ โฉองแทบจะตกชิงช้า ปากก็ร้องโวยวายขึ้นมา
โฉอง : พ่อ พอทีได้ไหม ฮะ เบาๆหน่อยสิ ผมหายใจไม่ออกนะ จะตกชิงช้าด้วย!!
พ่อ : ก็พ่อดีใจนี่นา โฉองโตขึ้นมาเป็นผู้ชายดีๆแถมน่ารักขนาดนี้ ฮือๆ
โฉอง : อ้าวพ่อ อย่าร้องไห้สิฮะ อายชาวบ้านเค้าน่า
พ่อลูกกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุขมีก็แต่ยามะพีที่แอบมาดู กล้ำกลืน ความเจ็บปวดไว้ภายในกับภาพที่เห็น ความอบอุ่นที่เค้าไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง

มาซากิ : โฉ ฉันรู้เรื่องนายแล้วนะ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย
คุซาโนะ : ใช่ๆอย่าคิดมากไปเลยนะ
โฉอง : (งงกับท่าทางเป็นห่วงมากมายของทั้ง2 คน คิดว่าKAT-TUN คงไปกระจายข่าวซะเรียบร้อย)ฉันไม่เป็นไร ฉันตอนนี้ดูแย่รึไง หือ!! (ว่าแล้วก็ยิ้มให้เพื่อนๆดู)
มาซากิ : นายนี่แปลกคนจัง คิดว่าจะคิดมากซะอีก
คุซาโนะ : จริงด้วย ยังมีหน้ามายิ้ม อีกคนอื่นเค้าเป็นห่วงนะเฟ้ย
โฉอง : โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง พวกรุ่นพี่คงเอาไปขยายความผิดๆอีกหล่ะสิ ฉันน่ะ ไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอก
คุซาโนะ : แล้วไม่รู้สึกไรบ้างไง ใจเย็นเกินไปม้าง อยู่ดีๆก็มีพี่ชายตัวเบ้อเร้อโผล่มา เป็นฉันคงช็อคตายไปแล้ว
โฉอง : (เอามือตีหน้าผากคุซาโนะเป็นการแกล้ง ในความหมั่นไส้)เกินไปมั้ง ตอนแรกก็ตกใจแหละ แต่ว่า ฉันก็รู้สึกอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นพี่น้องกันหรอกนะ ฉันเองก็ดีใจนะ ฉันอยากมีพี่น้องมาตั้งนานแล้ว
มาซากิ : นายนี่นะ ลางสังหรณ์แม่นจริงๆเลย แต่ท่าทางฝ่ายนั้นเค้าไม่ค่อยจะอยากรับนายเป็นน้องไม่ใช่รึไง
โฉอง : (หน้าคิดหนัก) นั้นนะสิ อาจจะเป็นเพราะว่า แม่ฉันแย่งพ่อมาจากแม่พี่เค้าละมั้ง
มาซากิ : (เอามือตบไหล่เพื่อนเบาๆ)ช่างเถอะนั้น มันเรื่องของผู้ใหญ่นี่นานะ นายไม่ผิดหรอก ฉันเชื่อว่าความดีของนายต้องทำให้เค้ารับนายเป็นน้องแน่ๆ
คุซาโนะ : ใช่ๆ ท่าทางแยงกี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรด้วย ฉันว่าอีกไม่นานเค้าต้องรับนายเป็นน้องแหง่ๆ
โฉองยิ้มพร้อมกอดคอเพื่อนทั้งคู่เดินไปพร้อมๆกัน เผอิญเจอยามะพีที่ทางเดินพอดี มาซากิและคุซาโนะค้างพร้อมๆกัน เพราะไม่รู้จะทหน้ายังไงกันดี โฉองยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
โฉอง : สวัสดีฮะ พี่ไม่ไปที่บ้านหน่อยเหรอฮะ
ยามะพี : ใครเป็นพี่นายกัน แม่ฉันไม่มีลูกอย่างนายหรอก หลีกไป (ยามะพีพลักโฉองให้หลบทาง)
ทั้งมาซากิและคุซาโนะทำหน้าเหนื่อยไปตามๆกัน แต่โฉองไม่มีสีหน้าที่จะยอมแพ้เลย เค้าต้องทำให้ยามะพีรับเค้าเป็นน้องให้ได้
โทมะที่รู้เรื่องต่างๆจาก KAT-TUN รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มากๆ ไม่อยากให้ทำตัวอย่างงี้ต่อไปเลย โทมะเข้าใจดีว่ายามะพีนั้นเหงาแค่ไหนกับการใช้ชีวิตตามลำพัง ก็เลยพาลโกรธโฉอง ที่มีโอกาสอยู่กับพ่อได้รับความรักอย่างเต็มที่
โทมะ : นายคิดว่าทำแบบนี้จะดีแน่เหรอ นายกำลังทำร้ายตัวเองนะ
ยามะพี : หุบปากไปเลย นายไม่พูดก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้หรอกนะ!!
โทมะ : จะมาฐิติ อะไรกันนักวะ ครอบครัวที่นายต้องการรอนายอยู่นะ
ยามะพีลุกขึ้นจับคอเสื้อโทมะเบียดจนชนกำแพง
ยามะพี : นายเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมี แล้วก็ยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง นายอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก นายไม่เข้าใจอะไรหรอก!!
พูดจบก็เดินจากไป โทมะได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง เค้านะเหรอไม่เข้าใจ แค่มองตาก็รู้แล้ว่ายามะพีอ้างว้างแค่ไหน รอคอยครอบครัวขนาดไหน แต่เพราะความเจ็บใจที่มีกำลังจะทำร้ายมันลงทั้งหมดนะทำไมถึงกลับไม่เข้าตัวเองซะได้นะนี่
โฉองรออยู่ที่ห้องซ้อมนานแล้ว ยามะพีเดินเข้ามาอย่างหัวเสียพลางดึงคันธนูออกมาอย่างรุนแรง ไม่มีมาดเยือกเย็นเหมือนที่เคย โฉองมองดูก็รู้สึกเป็นห่วงพี่ชาย ไม่อยากให้อารมณ์รุนแรงมากไปกว่านี้
โฉอง : ผมว่ารอใจเย็นๆดีกว่ามั้ย ฮะ แล้วค่อยซ้อม
ยามะพี : ฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย อย่ามายุ่งกับฉัน!!
โฉอง : แต่ว่า ……. พี่จะไม่ไปที่บ้านจริงๆเหรอฮะ พ่อรอคุยกับพี่อยู่นะฮะ
ยามะพี : ฉันไม่เคยมีพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ใครที่ไหนกันเป็น พ่อ พ่อฉันป่านนี้คงตายไปแล้วมั้ง!!
โฉองไม่พอใจยามะพีขึ้นมาที่พูดจาประชดรุนแรงขนาดนี้
โฉอง : ถึงยังไงพ่อก็เป็นพ่อ พี่ไม่น่าพูดแบบนี้เลยนะฮะ พ่อเองก็รักพี่ไม่ต่างจากผมเลยทำไมต้องหนีด้วยหล่ะฮะ ทำไมไม่เปิดใจบ้าง!!
ยามะพีไม่สนใจโฉองหันหน้าไปหยิบลูกศร เตรียมตัวจะซ้อมยิงธนู โฉองเดินเข้ามาใกล้
โฉอง : ยังไงฟังพ่ออธิบายหน่อยเถอะนะฮะ พี่!! (เอ ามือจับแขนยามะพีไว้)
ยามะพีรำคาญเลยสลัดมือโฉองแล้วหันมาจะผลักแต่ว่าลูกศรที่ถืออยู่ผลาดมาโดนโฉองเข้า

ยามะพี : พ่องั้นเหรอ……..
ยามะพีมองโฉองที่วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายร่างสูงใหญ่ ท่าทางใจดี มองดูด้วยสายตาที่เจ็บปวดไม่น้อย
พยายามฝืนเพ่งมองหน้าของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ใช่จริงๆนะแหละหน้าตาเหมือนกับรูปถ่ายที่แม่มีจริงๆ ถึงเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน หน้าตาก็ยังดูหล่อเหลาไม่เปลี่ยน
พวกKAT-TUN วิ่งมาถึงพร้อมกันต้องเบรคกระทันหันเมื่อเห็นยามะพียืนขวางทางอยู่ โฉองกำลังคุยสนุกสนานกับพ่อ เมื่อเห็น KAT-TUN มาเสียงดังไม่น้อยก็หันมามอง
โฉอง : พวกรุ่นพี่ นี่นา มาทำอะไรกันอ่ะครับ ไหนบอกว่าจะไปร้านราเมงกันไม่ใช่เหรอฮะ?
ทุกคนทำท่าเก้กัง ทำอะไรไม่ถูก เห็นยามะพีที่ทำหน้านิ่งๆก็ ไม่ได้พูดตอบอะไรกัน พ่อหันมามองหน้าทุกคนแล้วก็มาสะดุดที่ยามะพี ใบหน้าสวยๆที่ดูคุ้นเคยตาเหลือเกิน แม้ว่าดวงตาดูแข็งกร้าว แฝงไปด้วนความปวดร้าวก็ตาม
โฉอง : อ่ะ ! นี่พ่อผมครับ พ่อฮะนี่รุ่นพี่ที่ดูแลผมมาตลอดฮะ
ทุกคนโค้งกันยกใหญ่ ท่าทางเก้กังๆ มียามะพีคนเดียวที่ยังยืนตัวแข็งหน้าเข้มมองไม่ละสายตา
พ่อ : ขอบคุณมากนะทุกคนที่ช่วยกันดูแลโฉองเป็นอย่างดี
ทุกคนยิ้มแบบเด็กๆเวลาเจอผู้ใหญ่ทำท่าน่ารักเรียบร้อยกันก็เป็นด้วย ต่างแนะนำชื่อกันตามมารยาททุกคน มีก็แต่ยามะพีที่ยังยืนนิ่งๆ
จิน : ไม่มีมารยาทไงวะ น่าจะแนะนำตัวสักหน่อยยืนทื่ออยู่ได้ (บ่นอุบอิบ)
อูเอดะ : นายอ่ะเงียบเหอะ ท่าทางน่ากลัวจะตาย เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก
ยามะพีได้ยินที่จินพูด จึงเชิดหน้านิ่งๆขึ้น แล้วกล่าวทักทายพร้อมทั้งบอกชื่ออกไป
ยามะพี : ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ !!
พ่อได้ยินแค่นั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที หน้าตาดูตกใจมาก
พ่อ : ยามาชิตะเหรอ แม่ของเธอ………คงไม่ใช่คาโอริหรอกนะ
ยามะพี : ยังอุตส่าห์จำได้ดีจริงๆนะครับ!! (น้ำเสียงเข้มมาก)
ทั้งโฉองและทุกคนงงไปตามๆกัน พ่อรู้จักกับยามะพีเหรอนี่ มันมีอะไรกันแน่นะ
โฉอง : พ่อครับ มีอะไรรึป่าวครับ
พ่อมีท่าทางอึกอักพูดไม่ออก โฉองได้แต่ทำหน้าสงสัยเข้าไปอีก ยามะพียิ้มเหยียดๆ
ยามะพี : พูดไม่ออกเลยเหรอครับ หมอนี่คงถูกเลี้ยงมาบนความสุขและอบอุ่นมากสินะฮะ จะให้ฟังเรื่องที่เจ็บปวดคงทนรับไม่ได้
พ่อ : (เอามือจับไหล่ของโฉองเอาไว้แน่น)โฉ พ่อมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกลูกหลายเรื่อง แต่ว่าพ่อจะเล่าให้ลูกฟังทั้งหมด ขอแค่ลูกเข้าใจพ่อนะ
โฉองพยักหน้างง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญเอาการ พ่อถึงมีท่าทางเครียดๆแบบนี้
พ่อ : ลูกยังมีพี่ชายอยู่อีกคนนึง เป็นพี่ชายคนละแม่ เค้าคนนี้เป็นพี่ชายของลูกนะ
จิน : อว๊า!!!……………..
จินเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เพื่อนๆช่วยกันปิดปากก่อนที่จะทำให้เรื่องเสีย
โฉอง : พ่อ!! จริงนะเหรอ !! (ท่าทางตกใจไม่น้อยเหมือนกัน)
ยามะพีหันหน้าหลบไม่อยากมองหน้าโฉองที่หันมามองพร้อมทำตาโต
โฉอง : ก็ดีนะสิฮะ ได้อยู่พร้อมกันหมดเลย!!
ยามะพีไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ทำไมเด็กคนนี้ทำใจได้เร็วนัก ไม่คิดติดใจสงสัยอะไรบ้างเหรอ แม้แต่พวก KAT-TUN ก็ยังคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
พ่อ : โฉ ลูกจะไม่ถามอะไรพ่อหน่อยเหรอ
โฉอง : (ยิ้ม) จะถามอะไรอีกหล่ะฮะ ก็ผมก็เข้าใจทุกอย่างแล้วนี่ฮะ ผมน่ะเชื่อใจพ่อนะฮะ เชื่อว่าพ่อมีเหตุผลของพ่อ นะฮะ
พ่อยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แล้วก็เดินมาหายามะพีที่ยืนตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก
พ่อ : โทโมฮิสะใช่มั้ย ดีจังนะที่ได้พบกันอีก พ่อคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะแล้ว นี่น้องของลูกนะ ตอนที่พ่อไม่อยู่คงช่วยดูแลน้องด้วยสินะ เป็นเด็กดีจริงๆ (ทำท่าจะเอามือแตะไหล่)
ยามะพี : อย่ามาแตะตัวผมน่ะ!! บ้าไปแล้วรึไง คิดว่าคนอื่นเค้าจะรับได้ เข้าใจคุณไปซะหมดทุกคนเหรอ คนที่ถูกทิ้งน่ะ ไม่เข้าใจอะไรง่ายๆหรอก!! (พูดจบก็วิ่งออกมา)
KAT-TUN หน้าตาตื่นตกใจ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก โฉองเองก็ตกใจที่ยามะพีท่าทางโกรธขนาดนั้น ได้แต่มองหน้าผู้เป็นพ่อที่มีท่ทางกังวลมากๆ ด้วยความเป็นห่วง

เย็นวันนั้นพ่อออกมานั่งสูบบุหรี่ที่สวนสาธารณะแถวๆบ้านป้า โฉองเป็นห่วงก็เลยเดินตามมาด้วย พอพ่อเห็นโฉองมาก็ทิ้งบุหรี่ลุกขึ้นหันมายิ้มให้
พ่อ : โฉมาเล่นชิงช้ากันหน่อยมั้ยลูก
โฉองทำหน้าเหรอ เค้าโตเกินกว่าจะเล่นชิงช้าแบบเด็กๆ แต่ก็ยิ้มตอบรับกับพ่อไป ทั้งคู่นั่งไกวชิงช้าไปมาพ่อนิ่งไปพักใหญ่ๆอยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา
พ่อ : พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้บอกลูกมาก่อน
โฉองไม่พูดอะไรได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
พ่อ : เด็กคนนั้นท่าทางจะไม่ให้อภัยพ่อแน่ๆ เลยคิดแล้วเศร้าใจจัง แต่คนที่ผิดก็คือพ่อเองนะแหละนะ
โฉอง : พี่เค้าคงไม่ได้โกรธจริงจังหรอกฮะ อาจจะเป็นเพราะเหงามากกว่า
พ่อหันมามองโฉอง รู้สึกแปลกใจที่ลูกชายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นขนาดนี้ การที่ปล่อยให้เค้าอยู่ที่นี่สอนอะไรดีๆให้เค้าได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ
พ่อ : พ่อเองก็ปล่อยให้โฉต้องอยู่คนเดียวหลายครั้งเหมือนกันนะ พ่อขอโทษจริงๆ
โฉอง : (ไกวชิงช้าตัวเองแรงขึ้น สีหน้ายิ้มๆ) โธ่พ่อ มาพูดอะไรป่านนี้ครับ ผมนะชินแล้ว แต่โชคดีที่ผมเจอแต่คนดีๆที่รร. มันก็เลยทำให้ผมไม่มีเวลาเหงาเลยนะฮะ (คิดถึงพวกในชมรม ก็อดยิ้มออกมาอีกไม่ได้)
พูดยังไม่ทันจบพ่อก็ลุกขึ้นมากอดโฉองอย่างเต็มที่ โฉองแทบจะตกชิงช้า ปากก็ร้องโวยวายขึ้นมา
โฉอง : พ่อ พอทีได้ไหม ฮะ เบาๆหน่อยสิ ผมหายใจไม่ออกนะ จะตกชิงช้าด้วย!!
พ่อ : ก็พ่อดีใจนี่นา โฉองโตขึ้นมาเป็นผู้ชายดีๆแถมน่ารักขนาดนี้ ฮือๆ
โฉอง : อ้าวพ่อ อย่าร้องไห้สิฮะ อายชาวบ้านเค้าน่า
พ่อลูกกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุขมีก็แต่ยามะพีที่แอบมาดู กล้ำกลืน ความเจ็บปวดไว้ภายในกับภาพที่เห็น ความอบอุ่นที่เค้าไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง

มาซากิ : โฉ ฉันรู้เรื่องนายแล้วนะ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย
คุซาโนะ : ใช่ๆอย่าคิดมากไปเลยนะ
โฉอง : (งงกับท่าทางเป็นห่วงมากมายของทั้ง2 คน คิดว่าKAT-TUN คงไปกระจายข่าวซะเรียบร้อย)ฉันไม่เป็นไร ฉันตอนนี้ดูแย่รึไง หือ!! (ว่าแล้วก็ยิ้มให้เพื่อนๆดู)
มาซากิ : นายนี่แปลกคนจัง คิดว่าจะคิดมากซะอีก
คุซาโนะ : จริงด้วย ยังมีหน้ามายิ้ม อีกคนอื่นเค้าเป็นห่วงนะเฟ้ย
โฉอง : โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง พวกรุ่นพี่คงเอาไปขยายความผิดๆอีกหล่ะสิ ฉันน่ะ ไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอก
คุซาโนะ : แล้วไม่รู้สึกไรบ้างไง ใจเย็นเกินไปม้าง อยู่ดีๆก็มีพี่ชายตัวเบ้อเร้อโผล่มา เป็นฉันคงช็อคตายไปแล้ว
โฉอง : (เอามือตีหน้าผากคุซาโนะเป็นการแกล้ง ในความหมั่นไส้)เกินไปมั้ง ตอนแรกก็ตกใจแหละ แต่ว่า ฉันก็รู้สึกอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นพี่น้องกันหรอกนะ ฉันเองก็ดีใจนะ ฉันอยากมีพี่น้องมาตั้งนานแล้ว
มาซากิ : นายนี่นะ ลางสังหรณ์แม่นจริงๆเลย แต่ท่าทางฝ่ายนั้นเค้าไม่ค่อยจะอยากรับนายเป็นน้องไม่ใช่รึไง
โฉอง : (หน้าคิดหนัก) นั้นนะสิ อาจจะเป็นเพราะว่า แม่ฉันแย่งพ่อมาจากแม่พี่เค้าละมั้ง
มาซากิ : (เอามือตบไหล่เพื่อนเบาๆ)ช่างเถอะนั้น มันเรื่องของผู้ใหญ่นี่นานะ นายไม่ผิดหรอก ฉันเชื่อว่าความดีของนายต้องทำให้เค้ารับนายเป็นน้องแน่ๆ
คุซาโนะ : ใช่ๆ ท่าทางแยงกี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรด้วย ฉันว่าอีกไม่นานเค้าต้องรับนายเป็นน้องแหง่ๆ
โฉองยิ้มพร้อมกอดคอเพื่อนทั้งคู่เดินไปพร้อมๆกัน เผอิญเจอยามะพีที่ทางเดินพอดี มาซากิและคุซาโนะค้างพร้อมๆกัน เพราะไม่รู้จะทหน้ายังไงกันดี โฉองยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
โฉอง : สวัสดีฮะ พี่ไม่ไปที่บ้านหน่อยเหรอฮะ
ยามะพี : ใครเป็นพี่นายกัน แม่ฉันไม่มีลูกอย่างนายหรอก หลีกไป (ยามะพีพลักโฉองให้หลบทาง)
ทั้งมาซากิและคุซาโนะทำหน้าเหนื่อยไปตามๆกัน แต่โฉองไม่มีสีหน้าที่จะยอมแพ้เลย เค้าต้องทำให้ยามะพีรับเค้าเป็นน้องให้ได้
โทมะที่รู้เรื่องต่างๆจาก KAT-TUN รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มากๆ ไม่อยากให้ทำตัวอย่างงี้ต่อไปเลย โทมะเข้าใจดีว่ายามะพีนั้นเหงาแค่ไหนกับการใช้ชีวิตตามลำพัง ก็เลยพาลโกรธโฉอง ที่มีโอกาสอยู่กับพ่อได้รับความรักอย่างเต็มที่
โทมะ : นายคิดว่าทำแบบนี้จะดีแน่เหรอ นายกำลังทำร้ายตัวเองนะ
ยามะพี : หุบปากไปเลย นายไม่พูดก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้หรอกนะ!!
โทมะ : จะมาฐิติ อะไรกันนักวะ ครอบครัวที่นายต้องการรอนายอยู่นะ
ยามะพีลุกขึ้นจับคอเสื้อโทมะเบียดจนชนกำแพง
ยามะพี : นายเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมี แล้วก็ยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง นายอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก นายไม่เข้าใจอะไรหรอก!!
พูดจบก็เดินจากไป โทมะได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง เค้านะเหรอไม่เข้าใจ แค่มองตาก็รู้แล้ว่ายามะพีอ้างว้างแค่ไหน รอคอยครอบครัวขนาดไหน แต่เพราะความเจ็บใจที่มีกำลังจะทำร้ายมันลงทั้งหมดนะทำไมถึงกลับไม่เข้าตัวเองซะได้นะนี่
โฉองรออยู่ที่ห้องซ้อมนานแล้ว ยามะพีเดินเข้ามาอย่างหัวเสียพลางดึงคันธนูออกมาอย่างรุนแรง ไม่มีมาดเยือกเย็นเหมือนที่เคย โฉองมองดูก็รู้สึกเป็นห่วงพี่ชาย ไม่อยากให้อารมณ์รุนแรงมากไปกว่านี้
โฉอง : ผมว่ารอใจเย็นๆดีกว่ามั้ย ฮะ แล้วค่อยซ้อม
ยามะพี : ฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย อย่ามายุ่งกับฉัน!!
โฉอง : แต่ว่า ……. พี่จะไม่ไปที่บ้านจริงๆเหรอฮะ พ่อรอคุยกับพี่อยู่นะฮะ
ยามะพี : ฉันไม่เคยมีพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ใครที่ไหนกันเป็น พ่อ พ่อฉันป่านนี้คงตายไปแล้วมั้ง!!
โฉองไม่พอใจยามะพีขึ้นมาที่พูดจาประชดรุนแรงขนาดนี้
โฉอง : ถึงยังไงพ่อก็เป็นพ่อ พี่ไม่น่าพูดแบบนี้เลยนะฮะ พ่อเองก็รักพี่ไม่ต่างจากผมเลยทำไมต้องหนีด้วยหล่ะฮะ ทำไมไม่เปิดใจบ้าง!!
ยามะพีไม่สนใจโฉองหันหน้าไปหยิบลูกศร เตรียมตัวจะซ้อมยิงธนู โฉองเดินเข้ามาใกล้
โฉอง : ยังไงฟังพ่ออธิบายหน่อยเถอะนะฮะ พี่!! (เอ ามือจับแขนยามะพีไว้)
ยามะพีรำคาญเลยสลัดมือโฉองแล้วหันมาจะผลักแต่ว่าลูกศรที่ถืออยู่ผลาดมาโดนโฉองเข้า

ยามะพี : พ่องั้นเหรอ……..
ยามะพีมองโฉองที่วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายร่างสูงใหญ่ ท่าทางใจดี มองดูด้วยสายตาที่เจ็บปวดไม่น้อย
พยายามฝืนเพ่งมองหน้าของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ใช่จริงๆนะแหละหน้าตาเหมือนกับรูปถ่ายที่แม่มีจริงๆ ถึงเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน หน้าตาก็ยังดูหล่อเหลาไม่เปลี่ยน
พวกKAT-TUN วิ่งมาถึงพร้อมกันต้องเบรคกระทันหันเมื่อเห็นยามะพียืนขวางทางอยู่ โฉองกำลังคุยสนุกสนานกับพ่อ เมื่อเห็น KAT-TUN มาเสียงดังไม่น้อยก็หันมามอง
โฉอง : พวกรุ่นพี่ นี่นา มาทำอะไรกันอ่ะครับ ไหนบอกว่าจะไปร้านราเมงกันไม่ใช่เหรอฮะ?
ทุกคนทำท่าเก้กัง ทำอะไรไม่ถูก เห็นยามะพีที่ทำหน้านิ่งๆก็ ไม่ได้พูดตอบอะไรกัน พ่อหันมามองหน้าทุกคนแล้วก็มาสะดุดที่ยามะพี ใบหน้าสวยๆที่ดูคุ้นเคยตาเหลือเกิน แม้ว่าดวงตาดูแข็งกร้าว แฝงไปด้วนความปวดร้าวก็ตาม
โฉอง : อ่ะ ! นี่พ่อผมครับ พ่อฮะนี่รุ่นพี่ที่ดูแลผมมาตลอดฮะ
ทุกคนโค้งกันยกใหญ่ ท่าทางเก้กังๆ มียามะพีคนเดียวที่ยังยืนตัวแข็งหน้าเข้มมองไม่ละสายตา
พ่อ : ขอบคุณมากนะทุกคนที่ช่วยกันดูแลโฉองเป็นอย่างดี
ทุกคนยิ้มแบบเด็กๆเวลาเจอผู้ใหญ่ทำท่าน่ารักเรียบร้อยกันก็เป็นด้วย ต่างแนะนำชื่อกันตามมารยาททุกคน มีก็แต่ยามะพีที่ยังยืนนิ่งๆ
จิน : ไม่มีมารยาทไงวะ น่าจะแนะนำตัวสักหน่อยยืนทื่ออยู่ได้ (บ่นอุบอิบ)
อูเอดะ : นายอ่ะเงียบเหอะ ท่าทางน่ากลัวจะตาย เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก
ยามะพีได้ยินที่จินพูด จึงเชิดหน้านิ่งๆขึ้น แล้วกล่าวทักทายพร้อมทั้งบอกชื่ออกไป
ยามะพี : ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ !!
พ่อได้ยินแค่นั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที หน้าตาดูตกใจมาก
พ่อ : ยามาชิตะเหรอ แม่ของเธอ………คงไม่ใช่คาโอริหรอกนะ
ยามะพี : ยังอุตส่าห์จำได้ดีจริงๆนะครับ!! (น้ำเสียงเข้มมาก)
ทั้งโฉองและทุกคนงงไปตามๆกัน พ่อรู้จักกับยามะพีเหรอนี่ มันมีอะไรกันแน่นะ
โฉอง : พ่อครับ มีอะไรรึป่าวครับ
พ่อมีท่าทางอึกอักพูดไม่ออก โฉองได้แต่ทำหน้าสงสัยเข้าไปอีก ยามะพียิ้มเหยียดๆ
ยามะพี : พูดไม่ออกเลยเหรอครับ หมอนี่คงถูกเลี้ยงมาบนความสุขและอบอุ่นมากสินะฮะ จะให้ฟังเรื่องที่เจ็บปวดคงทนรับไม่ได้
พ่อ : (เอามือจับไหล่ของโฉองเอาไว้แน่น)โฉ พ่อมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกลูกหลายเรื่อง แต่ว่าพ่อจะเล่าให้ลูกฟังทั้งหมด ขอแค่ลูกเข้าใจพ่อนะ
โฉองพยักหน้างง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญเอาการ พ่อถึงมีท่าทางเครียดๆแบบนี้
พ่อ : ลูกยังมีพี่ชายอยู่อีกคนนึง เป็นพี่ชายคนละแม่ เค้าคนนี้เป็นพี่ชายของลูกนะ
จิน : อว๊า!!!……………..
จินเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เพื่อนๆช่วยกันปิดปากก่อนที่จะทำให้เรื่องเสีย
โฉอง : พ่อ!! จริงนะเหรอ !! (ท่าทางตกใจไม่น้อยเหมือนกัน)
ยามะพีหันหน้าหลบไม่อยากมองหน้าโฉองที่หันมามองพร้อมทำตาโต
โฉอง : ก็ดีนะสิฮะ ได้อยู่พร้อมกันหมดเลย!!
ยามะพีไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ทำไมเด็กคนนี้ทำใจได้เร็วนัก ไม่คิดติดใจสงสัยอะไรบ้างเหรอ แม้แต่พวก KAT-TUN ก็ยังคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
พ่อ : โฉ ลูกจะไม่ถามอะไรพ่อหน่อยเหรอ
โฉอง : (ยิ้ม) จะถามอะไรอีกหล่ะฮะ ก็ผมก็เข้าใจทุกอย่างแล้วนี่ฮะ ผมน่ะเชื่อใจพ่อนะฮะ เชื่อว่าพ่อมีเหตุผลของพ่อ นะฮะ
พ่อยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แล้วก็เดินมาหายามะพีที่ยืนตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก
พ่อ : โทโมฮิสะใช่มั้ย ดีจังนะที่ได้พบกันอีก พ่อคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะแล้ว นี่น้องของลูกนะ ตอนที่พ่อไม่อยู่คงช่วยดูแลน้องด้วยสินะ เป็นเด็กดีจริงๆ (ทำท่าจะเอามือแตะไหล่)
ยามะพี : อย่ามาแตะตัวผมน่ะ!! บ้าไปแล้วรึไง คิดว่าคนอื่นเค้าจะรับได้ เข้าใจคุณไปซะหมดทุกคนเหรอ คนที่ถูกทิ้งน่ะ ไม่เข้าใจอะไรง่ายๆหรอก!! (พูดจบก็วิ่งออกมา)
KAT-TUN หน้าตาตื่นตกใจ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก โฉองเองก็ตกใจที่ยามะพีท่าทางโกรธขนาดนั้น ได้แต่มองหน้าผู้เป็นพ่อที่มีท่ทางกังวลมากๆ ด้วยความเป็นห่วง

เย็นวันนั้นพ่อออกมานั่งสูบบุหรี่ที่สวนสาธารณะแถวๆบ้านป้า โฉองเป็นห่วงก็เลยเดินตามมาด้วย พอพ่อเห็นโฉองมาก็ทิ้งบุหรี่ลุกขึ้นหันมายิ้มให้
พ่อ : โฉมาเล่นชิงช้ากันหน่อยมั้ยลูก
โฉองทำหน้าเหรอ เค้าโตเกินกว่าจะเล่นชิงช้าแบบเด็กๆ แต่ก็ยิ้มตอบรับกับพ่อไป ทั้งคู่นั่งไกวชิงช้าไปมาพ่อนิ่งไปพักใหญ่ๆอยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา
พ่อ : พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้บอกลูกมาก่อน
โฉองไม่พูดอะไรได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
พ่อ : เด็กคนนั้นท่าทางจะไม่ให้อภัยพ่อแน่ๆ เลยคิดแล้วเศร้าใจจัง แต่คนที่ผิดก็คือพ่อเองนะแหละนะ
โฉอง : พี่เค้าคงไม่ได้โกรธจริงจังหรอกฮะ อาจจะเป็นเพราะเหงามากกว่า
พ่อหันมามองโฉอง รู้สึกแปลกใจที่ลูกชายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นขนาดนี้ การที่ปล่อยให้เค้าอยู่ที่นี่สอนอะไรดีๆให้เค้าได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ
พ่อ : พ่อเองก็ปล่อยให้โฉต้องอยู่คนเดียวหลายครั้งเหมือนกันนะ พ่อขอโทษจริงๆ
โฉอง : (ไกวชิงช้าตัวเองแรงขึ้น สีหน้ายิ้มๆ) โธ่พ่อ มาพูดอะไรป่านนี้ครับ ผมนะชินแล้ว แต่โชคดีที่ผมเจอแต่คนดีๆที่รร. มันก็เลยทำให้ผมไม่มีเวลาเหงาเลยนะฮะ (คิดถึงพวกในชมรม ก็อดยิ้มออกมาอีกไม่ได้)
พูดยังไม่ทันจบพ่อก็ลุกขึ้นมากอดโฉองอย่างเต็มที่ โฉองแทบจะตกชิงช้า ปากก็ร้องโวยวายขึ้นมา
โฉอง : พ่อ พอทีได้ไหม ฮะ เบาๆหน่อยสิ ผมหายใจไม่ออกนะ จะตกชิงช้าด้วย!!
พ่อ : ก็พ่อดีใจนี่นา โฉองโตขึ้นมาเป็นผู้ชายดีๆแถมน่ารักขนาดนี้ ฮือๆ
โฉอง : อ้าวพ่อ อย่าร้องไห้สิฮะ อายชาวบ้านเค้าน่า
พ่อลูกกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุขมีก็แต่ยามะพีที่แอบมาดู กล้ำกลืน ความเจ็บปวดไว้ภายในกับภาพที่เห็น ความอบอุ่นที่เค้าไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง

มาซากิ : โฉ ฉันรู้เรื่องนายแล้วนะ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย
คุซาโนะ : ใช่ๆอย่าคิดมากไปเลยนะ
โฉอง : (งงกับท่าทางเป็นห่วงมากมายของทั้ง2 คน คิดว่าKAT-TUN คงไปกระจายข่าวซะเรียบร้อย)ฉันไม่เป็นไร ฉันตอนนี้ดูแย่รึไง หือ!! (ว่าแล้วก็ยิ้มให้เพื่อนๆดู)
มาซากิ : นายนี่แปลกคนจัง คิดว่าจะคิดมากซะอีก
คุซาโนะ : จริงด้วย ยังมีหน้ามายิ้ม อีกคนอื่นเค้าเป็นห่วงนะเฟ้ย
โฉอง : โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง พวกรุ่นพี่คงเอาไปขยายความผิดๆอีกหล่ะสิ ฉันน่ะ ไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอก
คุซาโนะ : แล้วไม่รู้สึกไรบ้างไง ใจเย็นเกินไปม้าง อยู่ดีๆก็มีพี่ชายตัวเบ้อเร้อโผล่มา เป็นฉันคงช็อคตายไปแล้ว
โฉอง : (เอามือตีหน้าผากคุซาโนะเป็นการแกล้ง ในความหมั่นไส้)เกินไปมั้ง ตอนแรกก็ตกใจแหละ แต่ว่า ฉันก็รู้สึกอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นพี่น้องกันหรอกนะ ฉันเองก็ดีใจนะ ฉันอยากมีพี่น้องมาตั้งนานแล้ว
มาซากิ : นายนี่นะ ลางสังหรณ์แม่นจริงๆเลย แต่ท่าทางฝ่ายนั้นเค้าไม่ค่อยจะอยากรับนายเป็นน้องไม่ใช่รึไง
โฉอง : (หน้าคิดหนัก) นั้นนะสิ อาจจะเป็นเพราะว่า แม่ฉันแย่งพ่อมาจากแม่พี่เค้าละมั้ง
มาซากิ : (เอามือตบไหล่เพื่อนเบาๆ)ช่างเถอะนั้น มันเรื่องของผู้ใหญ่นี่นานะ นายไม่ผิดหรอก ฉันเชื่อว่าความดีของนายต้องทำให้เค้ารับนายเป็นน้องแน่ๆ
คุซาโนะ : ใช่ๆ ท่าทางแยงกี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรด้วย ฉันว่าอีกไม่นานเค้าต้องรับนายเป็นน้องแหง่ๆ
โฉองยิ้มพร้อมกอดคอเพื่อนทั้งคู่เดินไปพร้อมๆกัน เผอิญเจอยามะพีที่ทางเดินพอดี มาซากิและคุซาโนะค้างพร้อมๆกัน เพราะไม่รู้จะทหน้ายังไงกันดี โฉองยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
โฉอง : สวัสดีฮะ พี่ไม่ไปที่บ้านหน่อยเหรอฮะ
ยามะพี : ใครเป็นพี่นายกัน แม่ฉันไม่มีลูกอย่างนายหรอก หลีกไป (ยามะพีพลักโฉองให้หลบทาง)
ทั้งมาซากิและคุซาโนะทำหน้าเหนื่อยไปตามๆกัน แต่โฉองไม่มีสีหน้าที่จะยอมแพ้เลย เค้าต้องทำให้ยามะพีรับเค้าเป็นน้องให้ได้
โทมะที่รู้เรื่องต่างๆจาก KAT-TUN รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มากๆ ไม่อยากให้ทำตัวอย่างงี้ต่อไปเลย โทมะเข้าใจดีว่ายามะพีนั้นเหงาแค่ไหนกับการใช้ชีวิตตามลำพัง ก็เลยพาลโกรธโฉอง ที่มีโอกาสอยู่กับพ่อได้รับความรักอย่างเต็มที่
โทมะ : นายคิดว่าทำแบบนี้จะดีแน่เหรอ นายกำลังทำร้ายตัวเองนะ
ยามะพี : หุบปากไปเลย นายไม่พูดก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้หรอกนะ!!
โทมะ : จะมาฐิติ อะไรกันนักวะ ครอบครัวที่นายต้องการรอนายอยู่นะ
ยามะพีลุกขึ้นจับคอเสื้อโทมะเบียดจนชนกำแพง
ยามะพี : นายเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมี แล้วก็ยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง นายอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก นายไม่เข้าใจอะไรหรอก!!
พูดจบก็เดินจากไป โทมะได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง เค้านะเหรอไม่เข้าใจ แค่มองตาก็รู้แล้ว่ายามะพีอ้างว้างแค่ไหน รอคอยครอบครัวขนาดไหน แต่เพราะความเจ็บใจที่มีกำลังจะทำร้ายมันลงทั้งหมดนะทำไมถึงกลับไม่เข้าตัวเองซะได้นะนี่
โฉองรออยู่ที่ห้องซ้อมนานแล้ว ยามะพีเดินเข้ามาอย่างหัวเสียพลางดึงคันธนูออกมาอย่างรุนแรง ไม่มีมาดเยือกเย็นเหมือนที่เคย โฉองมองดูก็รู้สึกเป็นห่วงพี่ชาย ไม่อยากให้อารมณ์รุนแรงมากไปกว่านี้
โฉอง : ผมว่ารอใจเย็นๆดีกว่ามั้ย ฮะ แล้วค่อยซ้อม
ยามะพี : ฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย อย่ามายุ่งกับฉัน!!
โฉอง : แต่ว่า ……. พี่จะไม่ไปที่บ้านจริงๆเหรอฮะ พ่อรอคุยกับพี่อยู่นะฮะ
ยามะพี : ฉันไม่เคยมีพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ใครที่ไหนกันเป็น พ่อ พ่อฉันป่านนี้คงตายไปแล้วมั้ง!!
โฉองไม่พอใจยามะพีขึ้นมาที่พูดจาประชดรุนแรงขนาดนี้
โฉอง : ถึงยังไงพ่อก็เป็นพ่อ พี่ไม่น่าพูดแบบนี้เลยนะฮะ พ่อเองก็รักพี่ไม่ต่างจากผมเลยทำไมต้องหนีด้วยหล่ะฮะ ทำไมไม่เปิดใจบ้าง!!
ยามะพีไม่สนใจโฉองหันหน้าไปหยิบลูกศร เตรียมตัวจะซ้อมยิงธนู โฉองเดินเข้ามาใกล้
โฉอง : ยังไงฟังพ่ออธิบายหน่อยเถอะนะฮะ พี่!! (เอ ามือจับแขนยามะพีไว้)
ยามะพีรำคาญเลยสลัดมือโฉองแล้วหันมาจะผลักแต่ว่าลูกศรที่ถืออยู่ผลาดมาโดนโฉองเข้า


CHEPTER 26 END
TO BE CONTINUTE……………


 

 

setstats 1