![]() |
|||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
Do
it yourself & Buy it yourself
|
|
สิ่งสำคัญที่จะทำให้การทาสีมีความสวย
สด และทนนานนั้น อยู่ที่การเลือกสีที่เหมาะสมกับพื้นผิวที่จะทา และระบบการทาสีที่ถูกต้อง การเลือกซื้อสี
และอุปกรณ์ คำนวณการใช้สี
จาก 1.
สีรองพื้น ขั้นตอนนี้จะมีความสำคัญต่อความคงทนของสีมากที่สุด โดยท่านจะต้องทราบก่อนว่าพื้นผิวที่ท่านต้องการจะทาสีเป็นเช่นไร 2.
สีทับหน้า สีทับหน้าเป็นสีที่สร้างสีสันให้กับพื้นผิวของท่าน 3. ตัวทำละลาย ทั้งของสีรองพื้นและสีทับหน้า จะเป็นสารที่ผสมกับสีเพื่อให้ได้ปริมาณการใช้สูงขึ้น ซึ่งสีต่างชนิดกันก็มีตัวทำละลายต่างกัน สีน้ำพลาสติกและสีรองพื้นปูนใหม่มักใช้ตัวทำละลายเป็นน้ำ ส่วนสีน้ำมัน สีรองพื้นปูนเก่ามักใช้เป็นน้ำมันสน หรือน้ำมันซักแห้ง หรือน้ำมันผสมสีเฉพาะ 4. อุปกรณ์ทาสี แปรงทาสี ลูกกลิ้ง ท่านจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของสี เช่นลูกกลิ้งก็จะมีทั้งของสีน้ำและสีน้ำมัน เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีอุปกรณ์อื่นๆเชช่นกระดาษทรายใช้เตรียมพื้นผิวไม่ เป็นต้น 1.
พื้นผิวปูนใหม่ ผนังปูนฉาบเสร็จใหม่ท่านควรทิ้งไว้ให้แห้งเต็มที่ประมาณ
28 วัน เพื่อให้ปูนคายน้ำ และด่างออกให้หมดเพื่อป้องกันการกัดกร่อนสีให้ลอกล่อนและเสียหาย
แล้วจึงทำความสะอาดพื้นผิวขจัดเศษซีเมนต์ และฝุ่นผงต่างๆออกให้หมด ทาสีรองพื้น 1 เที่ยวตามชนิดของพื้นผิว เพื่อให้สีทับหน้ายึดเกาะกับพื้นผิวดีขึ้น และยังป้องกันการเกิดปฎิกิริยาเคมีระหว่างสีทับหน้ากับพื้นผิวด้วย หลังจากที่สีรองพื้นแห้งแล้ว(การแห้งของสีขึ้นกับคุณสมบัติและชนิดของสี)ก็สามารถทาสีทับหน้าได้ โดยทารอบแรกแล้วทิ้งระยะให้สีแห้งก่อนจึงทาทับรอบสอง ซึ่งปกติสีน้ำมักใช้เวลา 20 นาที - 1 ชั่วโมง ส่วนสีน้ำมันมักใช้เวลา 6 ชั่วโมง อนึ่งไม่ควรใช่แม่สีที่คุณภาพไม่เหมาะสมกับเนื้อสี และไม่ควรใช้แม่สีคุณภาพต่ำ เช่นสีหลอด สีขวด สีฝุ่น เพราะจะทำให้สีซีดจางรวดเร็ว |
|
Best
viewed with 800x600 screen resolution on an Internet Explorer 5.5 |