![]() |
|||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() ![]() ![]() |
|
Q:อยากทราบความรู้เรื่องสี และการทาสี | |
A:สามารถดูความรู้เรื่องสี และความรู้เรื่องการทาสีได้จากหน้า DIY และ BIY (Do It Yourself & Buy It Yourself ของเรา |
|
Q:บริเวณที่เกิดเชื้อรามีสาเหตุมาจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร | |
A:สาเหตุการเกิดเชื้อราส่วนใหญ่มาจาก
บริเวณนั้นมีความชื้นสูง (และส่วนใหญ่แสงแดดส่องไม่ถึง) รวมถึงอาจมีแหล่งของเชื้อราอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
และการแก้ไขทำได้โดย |
|
Q:ส่วนใหญ่แล้ว สีทั่วไปสามารถป้องกันเชื้อราได้นานที่สุดเท่าไหร่่ | |
A:สามารถป้องกันเชื้อราได้นานที่สุด คือ ตามอายุการใช้งานของสีเกรดนั้นๆ เช่น สีที่มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี ก็จะมีระยะเวลาการป้องกันเชื้อราประมาณ 3-5 ปีเช่นกัน *สีของ TOA ได้ใส่สารที่ช่วยในการป้องกันเชื้อรามาตั้งแต่ต้นแล้ว (ตั้งแต่เริ่มผลิต) | |
Q:เพราะเหตุใด ในบางครั้งเมื่อทาสีบ้านด้วยสีเกรดที่ดีๆ แล้ว ก็ยังเกิดปัญหาเรื่องเชื้อราอีก |
|
A:เพราะฟิล์มสีอาจเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน
(เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากๆ หรือจากสาเหตุอื่น) ทำให้สารที่ป้องกันเชื้อราเสื่อมสภาพไปด้วย
จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อราได้อีกต่อไป |
|
A:สาเหตุหลักๆ เกิดจากพื้นผิวไม่สะอาดหรือพื้นผิวมีความชื้นอยู่สูง ทำให้สีไม่สามารถเกาะยึดกับพื้นผิวได้ การแก้ไขทำได้โดย ขูดลอกสีบริเวณที่หลุดล่อนออก (เท่าที่สามารถทำได้) พร้อมทั้งล้างทำความสะอาด แล้วทิ้งให้ผนังแห้งสนิท จากนั้นทาสีรองพื้นปูนเก่า 1 เที่ยว แล้วทาสีทับหน้าอีก 2 เที่ยว | |
Q:ทำไมเมื่อทาสีน้ำมันบนปูน แล้วมักเกิดปัญหาสีไม่แห้งและเป็นรอยด่าง |
|
A:เพราะในเนื้อปูนมีสภาพความเป็นด่างอยู่ และสีน้ำมันก็ทำมาจากกาวประเภทไขมัน (อัลขีดเรซิ่น) ซึ่งจะเสื่อมคุณภาพได้เร็วมากเมื่อโดนสภาพด่างจากปูน จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว | |
A:เพราะบนผิวคอนกรีตหล่อแบบจะมีคราบน้ำมันหรือน้ำยาที่ใช้ในขั้นตอนการหล่อติดอยู่ ดังนั้นก่อนการทาสี จึงต้องล้างทำความสะอาดผิวคอนกรีตหล่อแบบให้ดีเสียก่อน | |
Q:ทำไมเมื่อนำสีน้ำมันมาทาต่อกับบริเวณที่ทาไว้เดิม เฉดสีจึงไม่เหมือนกัน |
|
A:เพราะสีน้ำมันทำมาจากกาวประเภทไขมัน (อัลขีดเรซิ่น) จึงเกิดการเหลืองตัวขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อป้องกัน จึงควรทารวดเดียวให้เสร็จงาน (ไม่ควรทิ้งไว้เกิน 1 สัปดาห์) |
|
Q:ทำไมเมื่อใช้ทินเนอร์ที่ระเหยเร็ว เช่น ทินเนอร์ผสมแลกเกอร์ ทินเนอร์ AAA ผสมในสีน้ำมันแล้ว เกิดปัญหาสีไม่เงาหรือสีเป็นฝ้า |
|
A:เพราะทินเนอร์ผสมแลกเกอร์ ทินเนอร์ AAA เป็นทินเนอร์ที่มีอัตราการระเหยเร็วเกินไป ทำให้ไม่สมดุลกับ การแห้งตัวของสีน้ำมันซึ่งเป็นสีแบบแห้งช้า (ปกติใช้น้ำมันผสมสีเคลือบ ทินเนอร์ R-21 หรือ R-22) | |
Q:ทำไมใช้โพลียูรีเทนทาบริเวณนอกบ้าน แล้วเกิดปัญหาสีแตกล่อนได้ง่าย |
|
A:เพราะยูรีเทนจะมีฟิล์มสีที่แข็งมาก ทำให้ไม่สามารถยืดหยุ่นตามไม้ได้ เมื่อไม้มีการยืดหยุ่น หรือบิดตัวตามสภาพอากาศ |
|
Q:ขอทราบวิธีการใช้งานแลกเกอร์ด้านหรือวานิชด้านที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขึ้นฝ้า |
|
A:ต้องใช้แลกเกอร์เงาหรือวานิชเงาทาจนได้ความหนาตามที่ต้องการก่อน แล้วทับหน้าด้วยแลกเกอร์ด้าน หรือวานิชด้าน อีกเพียง 1-2 เที่ยวสุดท้ายเท่านั้น | |
Q:ทำไมทาสีบนสังกะสี อลูมิเนียมหรือแม้แต่ท่อแป๊บ สีมักหลุดล่อนได้ง่าย และควรป้องกันอย่างไร |
|
A:เพราะสังกะสี อลูมิเนียม ท่อแป๊บ (เป็นกัลวาไนซ์) เป็นโลหะที่เกิดสนิมได้ง่าย แต่จะเป็นสีเดียวกับเนื้อโลหะ ดังนั้นจึงเท่ากับเราทาสีลงบนสนิม สีจึงหลุดล่อนได้ง่าย การแก้ไขทำได้โดยใช้สีรองพื้นวอชไพรเมอร์ทารองพื้นก่อนเสมอ 1 เที่ยวก่อนทาสีรองพื้นกันสนิมอื่นๆ (สีรองพื้นวอชไพรเมอร์จะยึดเกาะกับโลหะประเภทนี้ได้ดี และยังช่วยชะลอการเกิดสนิมที่ผิวโลหะได้) | |
A:เพราะสีทาถนนแบบสะท้อนแสง จะผสมลูกแก้วลงในสีเพื่อช่วยในการสะท้อนแสง ดังนั้นเมื่อนำสีไปทาลูกแก้วจะถูกฟิล์มสีกลบไว้ จึงต้องมีการเสียดสีให้ฟลิ์มสีสึกก่อน ลูกแก้วจึงจะสะท้อนแสงได้ | |
![]() |
|
A:ไม่ได้ เพราะผนังปูนที่เพิ่งฉาบเสร็จจะมีความชื้นสูงมาก ต้องทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 30 วันก่อน เพื่อให้ความชื้นระเหยออกมาจากผิวปูน | |
A:เพราะจะทำให้เกิดคราบสนิมในภายหลังซึ่งมีผลต่อเฉดสีเกิดคราบเหลืองอมเขียว (ให้ใช้แปรงพลาสติกหรือแปรงกาบมะพร้าวแทน) | |
A:เพื่อช่วยป้องกันความเป็นด่างในปูนละลายขึ้นมาทำปฏิกริยากับสีทับหน้า | |
A:เพื่อช่วยประสานคราบฝุ่นที่หลงเหลือจากการทำความสะอาดให้เกาะยึดกับพื้นผิว | |
Q:การทาสีน้ำมันเที่ยวที่ 2 ควรทิ้งให้ห่างจากเที่ยวแรกนานเท่าไหร่่ |
|
A:เนื่องจากสีน้ำมันเป็นสีที่แห้งช้า จึงควรทิ้งให้สีแต่ละเที่ยวแห้งอย่างน้อย 8 ชม. จึงจะทาเที่ยวต่อไปได้ | |
A:เพราะดินสอพองหรือผงยิปซั่มจะร่วนและละลายน้ำได้ เมื่ออุดโป๊วผนังจึงหลุดล่อนได้ง่าย | |
A:ควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เพื่อให้รอยโป๊วนั้นยุบตัว ก่อนที่จะขัดตกแต่งและทาสี | |
Q:จะใช้สีรองพื้นหรือสีประเภทใด เมื่อจะทาสีบนท่อน้ำ (ท่อ PVC) |
|
A:ไม่ต้องใช้สีรองพื้นใดๆ แต่ใช้กระดาษทรายลูบที่ผิวท่อให้เกิดความหยาบแล้วทำความสะอาด จากนั้นใช้สีน้ำหรือสีน้ำมัน (คุณภาพระดับ TOA) ทาทับได้เลย | |
![]() |
|
A:อะครีลิค คือ ชนิดหรือประเภทหนึ่งของกาว (สารยึดเกาะ) ที่ใช้ในการผลิตสี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญที่สุดในสี เนื่องจากสีจะมีความคงทนต่อแดด ฝน ต่อสภาพแวดล้อม หรือแม้แต่สภาวะการใช้งาน มากน้อยแตกต่างกันเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับกาวหรือสารยึดเกาะนี้ และอะครีลิคเองก็ถือว่าเป็นกาวหรือ สารยึดเกาะที่มีความคงทนมากชนิดหนึ่ง ซึ่งได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิตสีปัจจุบัน แต่ทั้งนี้อะครีลิคที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพดี และเป็นที่เชื่อถือกันทั่วโลก จะเป็นอะครีลิคที่ผลิตโดย โรห์ม แอนด์ ฮาสส์ สหรัฐอเมริกา | |
A:จะใช้ทาในกรณีที่ไม้มียางหรือเลือกใช้เฉดสีอ่อนๆ เพราะสีรองพื้นไม้อลูมิเนียมจะมีเกล็ดอลูมิเนียม เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ จึงช่วยป้องกันไม่ให้ยางไม้ซึมขึ้นมาทำให้สีทับหน้าเป็นรอยด่างในภายหลัง | |
Q:ทำไมสีน้ำทาไม้ทิมเบอร์ชิลด์จึงทนทานกว่าสีเคลือบเงาทั่วไปถึง 3-4 เท่า |
|
A:เพราะสีทิมเบอร์ชิลด์ทำมาจากกาวอะครีลิกพิเศษ ซึ่งทนทานต่อแดด ฝน และสภาพภายนอก ทั้งยังมีความยืดหยุ่นดี จึงทนทานและไม่แตกล่อนได้ง่าย | |
A:เพื่อช่วยปรับความข้นเหลวของสีให้เหมาะสมกับการใช้งาน และการใช้ทินเนอร์ที่เหมาะสมตามประเภทสีนั้น ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการยึดเกาะ เพิ่มความเงางามของสี ช่วยให้ฟิล์มสีเรียบและทาได้ลื่นแปรงด้วย | |
A:ใช้ลอกสีที่เป็นระบบน้ำมันหรือทินเนอร์ได้เกือบทุกประเภท
เช่น สีน้ำมัน (สีเคลือบเงา) สีพ่นอุตสาหกรรมวานิช แลกเกอร์ ฯลฯ ยกเว้นระบบสีน้ำพลาสติกหรือสีน้ำอะครีลิกที่ใช้ทาอาคารทั่วไป |
|
A:ใช้ได้กับงานที่เป็นหินล้าง ทรายล้าง อิฐโชว์ รวมถึงผนังคอนกรีตทั่วไปหรือพื้นผิวอื่นๆ ที่มีลักษณะมีความหยาบซึ่งสามารถให้น้ำยาซิลิโคนซึมลงเข้าได้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือความชื้นซึมเข้าไปในพื้นผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ (แต่ไม่ได้เคลือบเงา) | |
Best
viewed with 800x600 screen resolution on an Internet Explorer 5.5 |