รายงานทริป ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูม 28-29 มิถุนายน 2545

ออกเดินทางจาก กทม 06:30 น. โดยต้องไปรวมพลกับเพื่อนๆอีก 5 คันที่ปั้ม JET แถววังน้อย ใช้เส้นทาง
สระบุรี ลพบุรี ชัยภูม ขับเรื่ื่อยๆไม่ได้เร่งรีบอะไร ไปพักทางก๋วยเตี๋ยวก่อนทางขึ้นอุทยานไทรทอง พอบ่ายโมง
กว่าๆก็ไปถึงที่ทำการ โดยต้องเสียค่าเข้าที่ด่านแรกเป็นคนละ20บาทต่อคน จากด่านแรกขับไปที่ศูนย์บริการ
นักท่องเที่ยวอีกเพียงอึดใจก็ถึง จากศูนย์จะต้องขับ 4WD ขึ้นไปอีกประมาณ 9 กม.จึงจะถึงบริเวณตั้งแคมป์
ทึ่งดอกกระเจียว และผา Humหด ที่ศูนย์มีแผนที่แจกฟรี ห้องน้ำสะอาด เราจะต้องมีการเสียค่ารถยนต์อีกคันละ
100 บาท หากไม่นำรถยนต์ขึ้นไป (ต้องเป็น 4WD เท่านั้น) ก็มีรถกระบะที่ใช้ไม้แผ่นปูคาดไว้ที่ขอบกระบะ
ไว้บริการรับส่ง(ไม่ทราบว่าค่าบริการเท่าไร)

จากจุดนี้เราขวาออกจากศูนย์ไปประมาณไม่กี่ร้อยเมตร จะเห็นลำธารใหญ่อยู่ซ้ายมือและมีด่าน ให้เลี้ยวลงไปที่
ด่านและแสดงตั๋วค่ารถให้เจ้าหน้าที่ ตรงนี้ต้องขับผ่านน้ำลึกประมาณครึ่งล้อรถ มุ่งตรงขึ้นไปเรื่อยจนไปเจอร้าน
ขายอาหารแบบเพิงหมาแหงน จะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกรถให้จอดเข้าที่ ตรงนี้ผมเสียรู้ เจ้าหน้าที่บอกว่านำรถไปต่อ
ไม่ได้ต้องฝากรถไว้โดยมีค่าฝาก 20บาทแล้วต้องเดินไปจุดตั้งแคมป์ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกมาก เรื่อง 20บาทผมไม่
หงุดหงิดแต่ที่ต้องขนสัมภาระไปอีกไกลนี่สิ มาทราบตอนหลังว่าสำหรับผู้ที่ไม่ได้นำรถมา พวกเจ้าหน้าที่พวกนี้จะทำ
หน้าที่เป็นผู้นำทางพาเดินไปแล้วมีเด็กๆเป็นลูกหาบ ฉนั้นหากพวกเรานำรถไปเองก็ไม่ต้องจ่ายครับสามารถขับ
ต่อไปจนถึงจุดตั้งแคมป์ได้เลย

คณะของผมเลือกตั้งแคมป์ที่ทุ่งเสม็ดที่อยู่ไกล้กับ ผาHumหด แต่มาทราบภายหลังว่ามีอีกจุดซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีก2กม.
ทาง ทุ่งที่4 ซึ่งอยู่ไกล้ลำธารและมีพื้นที่ราบที่น่านอนกว่าแต่รถและผู้ขับจะต้องชำนาญการขับ 4WD พอสมควร
เพราะทางบางตอนมีหินใหญ่ๆพอสมควรพวกเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ขับรถมาเอง เจ้าหน้าที่จะพามาตั้งแคมป์
ที่จุดนี้ (คงเห็นว่ามันไกลดี !!! ) ตรงทุ่งเสม็ดนี่จะเป็นทุ่งหญ้าต้นดอกกระเจียวและหินลอยเยอะมากเวลานอนใน
เต้นจะเจ็บหลัง ผมไม่ได้นำแผ่นโฟมไปก็เจ็บหลังนิดหน่อย

หลังจากนำกางเต้นและเตรียมอุปกรณ์ยังชีพลงจากรถเข้าที่แล้ว ตอนนั้นประมาณ 16:00 น. ผมเลยออกไปขึ่สำรวจ
เส้นทางก่อนหนี่งรอบเพื่อนำเสนอรายละเอียดต่อเพื่อนๆ ผมเลือกเส้นทางที่เป็น DoubleTrack และคาดว่าคงจะ
วนมาบรรจบเป็นวงกลมได้ตามแผนที่ แต่พอขึ่ไปเจอโขดหินที่เป็นลำธารผมไม่สามารถหาทางไปต่อได้จึงหันหลังกลับ
มาทางเดิมแล้วไปเริ่มใหม่โดยวนไปทาง SingleTrack ซึ่งเป็นเส้นทางขนานกับหน้าผาตลอดแนว คราวนี้วนไปชน
กับลำธารน้ำและหินจนได้ ตลอดเส้นทาง SingleTrack จะผ่านทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงานเป็นช่วงๆ เป็นทิวทัศที่สวย
งามมาก เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าเดือนสิงหาคมจะสวยกว่านี้อีก แต่ตลอดทาง SingleTrack นี้จะมีผู้คนเดินไปมาตลอด
ผมพยายามจะไม่ใช้ความเร็วและพยายามทำตัวสุภาพ แต่ไม่วายที่บางคนจะตกใจที่มาเจอนัก MTB บนนั้น หากเพื่อนๆ
จะไปปั่นขอให้ระลึกไว้ด้วยว่าทางเส้นนี้เขาทำไว้ให้คนเดินครับ

สภาพเส้นทางเริ่มจากร้านขายอาหารตงด่านสุดท้ายจะเป็นทางรถยนลงเนินมาประมาณ 100 เมตรก็จะถึงทางแยก ผม
เลี้ยวขวาไปทางผาHumหด สภาพเส้นทางเป็นดินแขง SingleTrack มีต้นไม้หนาทึบตลอดสองข้างทาง ขึ้นๆลงๆ เหมือน
ถ้ำประทุน ทางเส้นนี้จะผ่านทุ่งดอกกระเจียวสองสามทุ่งทางซ้าย ผมปั่นมาประมาณ 2กม.จะมาสุดที่ทุ่ง1 ผมเลี้ยวซ้ายอ้อม
ชายทุ่งลงเนินลาดๆที่เต้มไปด้วยร่องน้ำและหินลอยไปจนเจอกับจุดตั้งแคมป์ แล้วปั่นขึ้น DoubleTrack ที่เต้มไปด้วย
หินลอย (ตรงนี้ต้องเข็นบ้างแต่ถ้าเอา FullSus ไปอาจจะขึ้นได้ตลอด) ไปประมาณ 300 เมตรต่อด้วยทางดินแข็งสลับ
กับลำธารหินเป็นช่วงๆ ขึ้นเนินไม่ยาวและยากนักพอได้เหนื่อยบ้าง ข้างทางเป็นป่าสมบูรณ์ จนมาบรรจบกับจุดเริ่มต้น
ทั้งหมด 6 กม/รอบ แต่ละรอบผมปั่นแบบไม่เร่งมากและหยุดพักเข็นผ่านทางขึ้นเนินที่เต็มไปด้วยหินลอยที่ความเร็ว
เฉลี่ย 6 กม/ชม. เช้าวันรุ่งขึ้นหลังทานมาม่าสองห่อก็ไปปั้นอีก 2 รอบโดยมีครอบครัวคุณสุรเดชที่ร่วมคณะไปปั่นด้วย
แต่ครอบครัวนี้ต้องหยุดถ่ายรูปบ่อยผมจึงไม่ได้รอ สรุปเส้นทางสวย อากาศตอนเช้าประมาณ 20 องศา ทิวทัศน์เยี่ยม
ไม่ยากแต่สำหรับมือใหม่คงต้องเข็นเยอะตอนผ่านหินลอย จะมีจุดอันตรายอยู่เพียงไม่กี่จุดซื่งเป็นการปั่นผ่านหินใหญ่
ที่ต้องใช้ทักษะในการยกหน้ารถและบังคับรถให้เลื้อยผ่านแง่หินในบางจุด รอบแรกๆที่ผ่านก็เสียวแต่รอบสองสามก็ผ่าน
ได้ครับ คราวนี้ลองมาชมภาพสวยๆที่มาเก็บมาฝากไว้ได้เลยครับ ผมจะเรียงภาพตามเส้นทางที่ผมปั่นผ่านครับ เชิญชมครับ

ซ้ง
2 ก.ค. 2545