เมื่อวันที่ 20-22 ได้มีโอกาสไปร่วมคาราวาน offroad กับคณะของ Jeep@Thailand จัดโดยคุณวิสรัส เจ้า
ของอู่ GMC ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Jeep โดยเฉพาะ มีรถในขบวนด้วยกัน 15 คัน กอปด้วย Wrangler
3 คัน ที่เหลือเป็น Chorokee.

นัดพบที่บริเวณ NorthPark แล้วเคลื่อนขบวนสู่ จ.ตาก โดยแวะกินกลางวันที่ตาก ระยะทาง กทม-ตาก
ประมาณ 400 กม.     ออกจากตากประมาณบ่ายสองหลังจากที่ซื้อเสบียงเรียบร้อย ประมาณ 60 กมก่อน
มาจอดจัดขบวนรถใหม่ที่หน้าทางขึ้นดอยสอยมาลัย หลังจากขออนุญาติทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อย และซ่อม
รถ 2 คันในขบวนที่เกิดมีปัญหาเรื่องหม้อน้ำ ก็เลยเวลาไปถึง 16:30 น.ล้อ 4wd จึงจะเริ่มแตะพื้นโคลน

ดอยสอยมาลัยมีความสูงประมาณ 1550 ม. จากระดับน้ำทะเล ระยะทางจากปากทางขึ้นถึงจุดกางเต๊นท์
ประมาณ 15 กม. ช่วง 5 กม.แรกเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ที่เหลือเป็นทางลงเขา สภาพทางเป็นดินแน่นอยู่
บนไหล่เขาตลอดทาง หากฝนตกทางจะลื่นและลำบากมากไม่เหมาะกับมือใหม่ offroad แต่ในวันเดินทาง
ไม่มีฝนเลย แต่สภาพทางบางช่วงก็เป็นบ่อโคลนเป็นช่วงๆ

 ขบวนรถเคลื่อนไปช้าๆ เพราะแวะถ่ายรูปมาตลอดตามเส้นทาง อีกทั้งมีสื่อมวลชนมาด้วยเลยต้องให้ช่างภาพ
ได้ถ่ายรูปขบวนเป็นระยะๆ    พอคล้อยเข้าประมาณ 19:00 น. รถนักข่าวที่นำหน้าไปก่อนก็ติดหล่มโคลนดิ้น
ไม่หลุดอีกทั้งไม่มีอุปกรณ์กู้รถที่พร้อมจืงต้องให้รถ Wrangler ของคุณวิสรัส ข้ามแอ่งโคลนไปแล้วลากรถ
นักข่าวขึ้น แต่กว่า Wrangler จะผ่านแอ่งนี้ไปก็ต้องเหนื่อยนิดหน่อยเพราะยางที่ใส่ติดรถมาไม่ได้ใช้แบบ
Mud Terrain

จากนั้นรถที่เหลือก็ทยอยกันลงไปติดในบ่อโคลนกันทีละคัน ต้องลากขึ้นบ้าง ใช้คนโยกขึ้นบ้าง และบาง
คันมี Winch ก็ลากตัวเองขึ้นบ้าง คนที่ลงไปช่วยก็พลอยต้องบริจากเลือดให้ทากไปไม่มากก็น้อย รวมทั้ง
ตัวผมด้วย

พอมาถึง Wrangler ของผมซึ่งยกสูงและใส่ยาง Mud มาก็เลยผ่านไปได้แบบเนียนๆ แล้วถือโอกาสทำไลน์
ใหม่ในบ่อโคลนให้คันหลังๆได้ใช้ คันหลังผมไปก็เลยผ่านฉลุยไป แต่พวกที่เก่งๆบอกว่าเสียดายไม่ได้โชว์
ฝีมือเลย จากนั้นคณะก็ต้องเดินทางอย่างช้าๆ เพราะอากาศชึ้นมากและมีน้ำค้างลงตลอดทางทำให้ทาง
ลื่นขึ้นแต่ก็ยังไม่อันตรายเท่าไร กว่าคณะจะผ่านจุดนี้ไปต้องเสียเวลาไปหลายชั่วโมง ทำให้เริ่มหิวข้าวกัน
มาก กว่าจะถึงจุดกางเต้นบนยอดดอยก็ปาเข้าไปประมาณ 22:00 น. ทุกคนรีบทำกับข้าวกางเต้นกันทัน
ทีที่ถึงจุดนี้

หลังจากทำอาหารดึกง่ายๆแล้วก็ไปร่วมสังสรรทานเบียร์ 2-3 กระป๋องผมก็เข้านอนเพื่อเก็บแรงไว้ปั่น
จักรยานพรุ่งนี้

ผมตื่นตั้งแต่ 05:00 น. เพราะไก่ป่ามันขันอยู่ข้างๆเต้น ระหว่างที่เพื่อนทำกับข้าวผมก็เตรียมเจ้า C'dale
และอุปกรณ์จักรยานให้พร้อม

หลังจากมื้อเช้าง่ายๆด้วย ต้มยำปลากระป๋อง ไข่เจียว กับข้าว ผมก็ช่วยเก็บเต้นท์และสัมภาระขึ้น Wrangler
แล้วเตรียมพร้อมสำหรับการไต่เขาในช่วงแรก 10 กม.ที่ความชันประมาณ 500 ม.

เริ่มต้นปั่นที่เวลา 8:30 น. ซึ่งผมตั้งใจว่าจะปั่นล่วงหน้าขบวนไปสักพักแล้วให้ขบวนตามทันกลางทาง
หมอกยังลงหนาแน่นมากมองไปข้างหน้าไม่เกิน 10ม. เนื่องจากอากาศเย็น (ประมาณ 15 องศา) และ
มีน้ำค้างมากทางจึงเปียกชื้นตลอด ทางเป็นการขึ้นเสียส่วนใหญ่

ปั่นมาสักพักหมอกเริ่มจากลงทำให้สามารถเห็นทัศนียภาพโดยรอบแต่เสียดายไม่ได้ติดกล้องไปด้วย
เนื่องจากฟิตมาดีก็เลยพอจะสู้กับเส้นทางได้ และรู้สึกเพลิดเพลินกับป่ารอบด้านอย่างยิ่ง ทางบางช่วงที่
เป็นทางลงต้องระวังเพราะสภาพเส้นทางเป็นร่องลอยล้อ 4wd ที่ลึกมาก โชคดีที่ผ่านมาได้ตลอด ใช้เวลา
ประมาณ 2 ชมก็ลงไปถึงจุดที่นัดว่าจะพบกับขบวนด้านหลัง พอถึงก็จัดการถอดเสื้อออกผึ่งลมและเปลี่ยน
เป็นเสื้อกันหนาวที่เอาติดมาด้วย

นั่งรอขบวนอยู่ประมาณ 1 ชม. เห็นบอกว่ามัวแต่ถ่ายรูปกันตลอดทางเลยล่าช้า พอขบวนมาถึงผมก็เตรียม
ตัวไต่ดอยที่สองที่ระยะทาง 5 กม.ที่ความชันประมาณ 250 ม. โดยผมนำขบวนไปไกลกว่ากิโลในช่วงแรกที่
เป็นทางลง ขบวนมาตามผมทันประมาณปลายดอยผมจึงต้องให้แซงไปก่อน

ทางช่วงนี้เป็นไหล่เขาที่สวยงามมากแต่อากาศตอนนี้เริ่มร้อนเพราะแดดจัดมาก ขึ้นมาถึงยอดดอยแล้วทุก
คนก็ทำอาหารกลางวันง่ายๆทานกัน  ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะทยอยกลับ ผมและคุณวิสรัสเลยปั่นลง
ไปด้วยกัน ระหว่างทางผมหยุดพักที่ที่ทำการ แต่ขบวนส่วนใหญ่ไม่หยุดทำให้ผมหมดโอกาสแซงขบวนในขา
ลงได้ จึงตัดสินใจขึ้น Wrangler กลับครับ

คืนที่สองพักที่เขึ่อนภูมิพลแล้วแยกย้ายกลับกทมในตอนเช้า

สรุปแล้ว ทางสวย ลื่น อากาศเย็น หมอกเยอะ แรงต้องดี อุปกรณ์ต้องพร้อม และต้องมี 4wd มาช่วยขนของ
หลายคันหน่อย แต่สำหรับท่านที่ไม่ชอบทรมานตัวเองในการปั่นขึ้นเนินก็อาจจะปั่นแบบลงเนินอย่างเดียว
ก็ได้ครับ

 รูปที่เพื่อนถ่ายไว้ให้มีไม่มากเท่าไรพอได้บรรยากาศบ้างครับ เชิญชม.... 

คุณซ้ง
1 พ.ย. 2544