EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

ลางร้ายจากข้อมูลใหม่


แยกจากมะรินะกับมะยะโกะแล้ว ผมย้อนกลับไปที่
สระว่ายน้ำก็พบว่า พรินเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุด
ธรรมดาแล้ว พอเห็นผมก็โผเข้ามากอดผมไว้แน่น
บรื๊อส์! พอนึกว่ายะโยยอาจจะอยู่แถวนี้ ผมก็อด
เสียวสันหลังไม่ได้ พลางพยายามแกะเอาตัวเด็ก
พรินออก แต่ไม่สำเร็จ
"โฮ! คุณโคะจิโร่ขา หายไปไหนมาคะ พรินตกใจ
หมดเลย เสียงสัญญาณก็ดังขึ้น พอหนูขึ้นสระมาก็
ไม่เจอคุณโคะจิโร่อีกเนี่ย ฮือ ๆ ๆ"
"ใจเย็น ๆ พริน" ผมพยายามผลักตัวเจ้าหล่อนออก
ห่าง ชักเขินสายตา 'ญี่ปุ่นมุง' รอบ ๆ เหมือนกัน
แฮะก็ไม่ถึงกับมุงหรอกครับ แค่หยุดฝีเท้าแล้วมอง
มาที่ผมกับพรินกันเป็นจุดเดียวเท่านั้นเอง
"ไม่มีอะไรหรอก สัญญาณนั่นเป็นพวกมือบอนมัน
แกล้งกดน่ะ" อันนี้ผมเดาเอาเอง จากการที่เห็นการ
ปฏิบัติการลักพาตัวเมื่อกี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า
สัญญานเตือนภัยที่ดังขึ้นคงเป็นฝีมือพวกมัน เพื่อ
เบี่ยงเบนความสนใจของคน โดยเฉพาะของมะรินะ
ซึ่งเป็นองครักษ์ของมะยะโกะ (ตามความเข้าใจของ
ผมนะครับ)
"เหรอคะ?" พรินเงยหน้าขึ้นถามผม ตายังมีน้ำตาอยู่
"ก็จริงน่ะสิ ... เรากลับกันเถอะ นะ" พูดแล้วก็หันตัว
ออกไปด้านข้างของเด็กพริน พลางเอามือโอบไหล่
หล่อน แล้วพาเดินออกไปทางหน้าโรงเรียน
...
พาพรินกลับมาที่สำนักงานได้เรียบร้อย พรินก็ขอตัว
ไปทำงานต่อ ก็ไม่พ้นพวกทำงานทำความสะอาด
จัดระเบียบลดเอ็นโทรปีของออฟฟิศผมนั่นแหละ
ครับ
"อ้อ! พริน เดี๋ยวก่อน" ผมเรียกไว้
"มีอะไรหรือคะ?"
"เก็บเงินนี่ไว้ด้วย นี่เงินก้อนสุดท้ายแล้วนา อย่าให้
หายนา" ผมส่งเงินก้อนสุดท้ายให้เด็กสาว
"เจ้าค่ะ หนูจะรักษาไว้สุดชีวิตเลยเจ้าค่ะ" พรินรับคำ
แล้วเดินไปด้านใน
"กริ๊ง ๆ ๆ" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ผมคว้าหูโทรศํพท์ขึ้นมาทันที
"ฮัลโหล!"
"..."
"ฮัลโหล นายเกล็นล่ะสิท่า"
"แหะ! แหะ! แหม! คุณโคะจิโร่ รู้ทันผมเรื่อยเลยนะ
ครับ"
"มีอะไรเหรอ?"
"ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณโคะจิโร่ ได้ข่าวว่า
ทำงานสำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอครับ"
"ฮะ! นายนี่ข่าวไวเหมือนเดิมนะ" แน่นอน ข่าวเกล็น
ไวเสมออยู่แล้ว
"ครับ เอ่อ ... ผมบังเอิญได้ข่าวใหม่ ๆ มาน่ะครับ ไม่
ทราบคุณโคะจิโร่สนใจซื้อไว้บ้างไหมครับ"
"นายคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อฉันเหรอ?"
"ครับ"
"โอเค งั้นเจอกันที่เดิมเป็นไง"
"แหะ! แหะ! ตัดสินใจไว อย่างนี้สิครับ ผมถึงชอบ
คุณโคะจิโร่ โอเคครับ ผมจะรออยู่ละกันครับ แล้ว
มานะครับ"
"โอเค"
แปลก! คราวนี้เจ้าเกล็นไม่ยักกำหนดเวลา แสดงว่า
หมอไปรออยู่ที่บาร์นั่น หรือไม่ก็แถว ๆ นั้นเรียบร้อย
แล้วสิ
ผมเรียกพรินมาฝากบ้าน เอ๊ย! สำนักงานไว้ แล้วก็
ออกไปข้างนอก
"อ๊ะ!" ผมหยุดชะงัก ใครบางคนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่
แถวหน้าโกดังซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของผม ไม่ใช่
ใครที่ไหน เจ้านิไคโดนั่นเอง
"โย! นายโตไคโด มาทำอะไรแถวนี้?"
"ฮึ! แกเองเหรอ?" นิไคโดชะงัก ทำหน้าเลิกลั่กหันมา
มองผม แต่แล้วก็กลับไปเก๊กเหมือนเดิม "เฮ้อ! นี่ผม
คงทำงานมากไปจนเครียดแล้วมั้งเนี่ย ถึงได้
ประสาทกินมาเดินแถวนี้ ที่ที่ไม่มีใครเขามาอยู่กัน
นอกจากนักสืบกระจอกกระจอกบางคน"
ใครกระจอกกันแน่ ยังไม่ทันที่ผมจะแย้งอะไร หมอก็
พูดขึ้นอีก
"ผมกำลังทำงานชิ้นใหญ่อยู่ คอยดูก็แล้วกันงานนี้
สำเร็จละก็ จะได้เห็นกันว่าใครจะแน่กว่าใคร"
ว่าแล้วก็เดินหนีไป
อืมห์ ... พิลึกคนแฮะ จะทำงานใหญ่อะไรก็ทำไปสิ
มาป้วนเปี้ยนแถวสำนักงานของผมทำไมนะ
...
เดินเข้าตัวล็อบบี้ของโรงแรมปรินเซส ผมก็สังเกต
เห็นใครบางคนที่ผมรู้จักยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่มุมห้อง
"อะคะเนะ! มาทำอะไรแถวนี้" ผมทักขึ้น
"ชู่ว์! อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน ขอร้อง กำลังดักคนอยู่ ไป
ชิ้ว! ชิ้ว!" อะคะเนะทำหน้าซีเรียส
ผมยักไหล่ ยอมผละจากหล่อนแต่โดยดี ท่าทางคง
ไม่แคล้วดักพวกบุคคลในข่าวอีกตามเคย โรงแรมนี้
มักมีพวกบุคคลในชั้นไฮโซ หรือพวกนักการเมืองมา
พักบ่อย ๆ ซะด้วยสิ
ผมเดินลงไปในบาร์ ก็พบเกล็นนั่งรออยู่แล้ว เกล็น
ยกมือทักผมทันที ผมเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย
"แหะ! แหะ! สวัสดีครับคุณโคะจิโร่" เกล็นทักขึ้น
"สวัสดี"
"แหม! ทีแรก ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับนายโค กับรูปวาด
นั่นเพิ่มเติมนะครับ แต่คิดว่าคุณโคะจิโร่คงไม่
ต้องการแล้วใช่ไหมครับ"
"ลองว่ามาก่อนละกัน แล้วฉันค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อ
รึเปล่า" ผมยังติดใจสงสัยเจ้าโคอยู่ไม่หาย เลยพูด
ออกไปแบบนี้
"ได้ครับ" เกล็นตอบ "แต่แปลกนะครับ ผมคิดว่าคุณ
โคะจิโร่จะไม่สนใจแล้วซะอีก อ่า...ขอโทษครับ ผม
ละลาบละล้วงมากไปแล้วนี่" เกล็นหัวเราะหึ ๆ แล้ว
สาธยายต่อ
"เกี่ยวกับรูปวาดนั้นก่อนครับ รูปวาดนั้นมีเรื่องเล่า
ว่ามีอาถรรพ์ติดตัวอยู่นะครับ"
"เรื่องคำสาปแช่งนะเหรอ เรื่องนั้นฉันรู้แล้วล่ะ"
"อ้าว! ทราบแล้วเหรอครับ แหะ! แหะ!" เกล็นทำท่า
ตกใจเล็กน้อย แต่แล้วก็กลับสู่มาดสุขุมเหมือนเดิม
"สมกับเป็นคุณโคะจิโร่แท้ ๆ เชียว งั้นข้อมูลนี้ผมก็
ขายไม่ได้แล้วสิครับเนี่ย"
"อืมห์ โทษที" ผมตอบเนือย ๆ
"ถ้างั้นเกี่ยวกับนายโคอะไรนั่น" เกล็นพูดต่อ "เขา
เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนักเรียนต่างชาติเอลเดีย
อ่า.. อันนี้คุณโคะจิโร่ก็คงจะทราบแล้วนะครับ ทีนี้
เรื่องที่คุณโคะจิโร่ยังอาจจะยังไม่ทราบก็คือ นายคน
นี้เพิ่งเดินทางไปเอลเดียกระทันหันเมื่อไม่นานมานี้
เอง และมีข่าวว่ากลับมาแล้วด้วย แต่ยังไม่มีใคร
เห็นแกไปปรากฏตัวที่โรงเรียน"
"อืมห์ ฉันรู้แล้วล่ะ แล้วมีอะไรอีกไหม ท่าทางนาย
จะเรียกฉันมาเสียเที่ยวซะแล้วมั้ง" ผมตอบ ในใจก็
นึกกระหยิ่มว่า ผมก็แน่ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนี่นา หา
ข่าวเองตัดหน้าเจ้าหมอนี่ได้ แต่ฟังจากน้ำเสียงนาย
เกล็นที่พูดเรื่องนายโคมากกว่าเรื่องภาพ แสดงว่า
มั่นใจว่าเรื่องนี้ มันกำลังรู้อะไรดีกว่าผม
"หึ! หึ! สมกับเป็นคุณโคะจิโร่จริง ๆ " เกล็นหัวเราะ
อย่างมั่นใจ แล้วขยายความต่อ "นายโคคนนี้มีข้อ
มูลมาว่า ไม่ใช่ผู้อำนวยการโรงเรียนกระจอก ๆ นะ
ครับ ข่าวว่าเป็นคนที่พัวพันกับการเมืองภายในของ
เอลเดียอย่างค่อนข้างลึกซึ้งคนหนึ่งด้วยครับ และก็
รู้สึกว่าทางตำรวจของญี่ปุ่นเอง ผมยังไม่แน่ใจว่า
เป็นหน่วยงานไหน อาจจะไม่เชิงตำรวจก็ได้ครับ
เอ่อ...ที่แน่ ๆ คือ ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเราก็กำลังจับตา
มองเจ้าโคคนนี้อยู่..." เกล็นหยุดระยะนิดหนึ่ง เมื่อ
เห็นว่าผมกำลังสนใจฟังก็ขยายความต่อ
"มีข้อมูลมาว่า เจ้าหมอนี่ยักยอกเงินของทางโรง
เรียนไปจำนวนมากครับ นี่เป็นประเด็นที่ทำให้ทาง
ญี่ปุ่นจับมามองเจ้านี่อยู่นะครับ"
"หืมห์ ยักยอกเงินหรือ?" ผมทวนคำ เอ! จะเกี่ยวกับ
เจ้ารูปวาดนั้นหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจนัก ก็ข้อมูลที่ได้
จากเกล็นในครั้งก่อนเองบอกเองนี่ว่ารูปภาพที่ผม
เพิ่งหาเจอนั่นไม่มีราคาค่างวด แต่อืมห์ นายโคอาจ
ยักยอกเงินไปทำอย่างอื่นก็ได้เนอะ
"ข้อมูลมีแค่นี้เหรอ?" ผมถาม
"ครับ เพิ่งสืบมาได้เท่านี้เองครับ" เท่านี้ก็เยี่ยมแล้ว
ขนาดสืบรู้มาว่าทางรัฐบาลหรือพูดให้ถูกก็คือ ทาง
ราชการก็กำลังเคลื่อนไหวอยู่นี่นะ
"โอเค ฉันซื้อข้อมูลนี้ก็แล้วกัน คิดเงินเหมือนเดิมนะ"
ผมตอบทันที "แล้วก็ ถ้ามีข่าวคืบหน้าก็ช่วยตามต่อ
ไปให้ด้วยก็แล้วกัน" ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ผม
สั่งเกล็นไปอย่างนั้น
"ครับ ข้อมูลแรก คุณโคะจิโร่ทราบอยู่แล้ว ผมไม่คิด
นะกัน ส่วนข้อมูลอันหลังนี่ คุณโคะจิโร่ก็ทราบเป็น
บางส่วนแล้ว ผมจะคิดราคาให้พิเศษก็แล้วกันครับ"
เกล็นพูดยิ้ม ๆ
"เพื่อเป็นการขอโทษที่ทำให้คุณโคะจิโร่มาเสียเวลา
โดยไม่คุ้มค่าแบบนี้ ผมขอแถมให้อีกข่าวหนึ่งก็แล้ว
กันครับ เกี่ยวกับคู่แข่งของคุณโคะจิโร่"
"หือ? ใครน่ะ?"
"ก็สำนักงานนักสืบคะทสึระงิไงละครับ รู้ไหมครับว่า
คุณโคะจิโร่เอาชนะเขาได้ครั้งนี้ ทำให้สภาพเขา
ง่อนแง่นมากทีเดียวเลยครับ อาจจะถึงขนาดต้อง
ปิดบริษัทก็ได้นะครับ"
ตรงกับที่ผมทราบจากเคโกะ แต่ความร้ายแรงของ
ข้อมูลมากกว่ากันมาก ตอนที่ผมฟังจากเคโกะก็แค่
ว่า กิจการไปได้ไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง แต่นี่ตามที่เกล็
นบอก บริษัทของยะโยยกำลังเข้าขั้นอันตรายถึง
เพียงนี้เชียวหรือนี่?
"ถ้าคุณโคะจิโร่จะทำลายคู่แข่งคุณทิ้งละก็ โอกาสก็
มาถึงแล้วนะครับ แกล้งรับงานตัดหน้าเขาอีกสัก
รายก็เป็นอันตอกตะปูปิดฝาโลงได้เลยครับ" เกล็น
แนะต่อมาอีก
"นี่เกล็น" ผมพูดเสียงเครียด "ข้อมูลนี้ฉันก็ซื้อละกัน
มีข้อแม้อย่างหนึ่ง"
"เอ๊ะ! อะไรกันครับ? ผมให้ฟรี ๆ นะครับ" เกล็นงง
"เออ! เอาเป็นว่าฉันซื้อละกัน มีข้อแม้ว่า นายห้าม
เอาไปขายให้คนอื่นอีก โดยเฉพาะพวกในวงการนัก
สืบด้วยกัน เข้าใจไหม" ผมพูดเสียงหนัก
"อ้า! ครับ ได้ครับ อ๋อ! รู้แล้ว เพราะคุณคะทสึระงิ
หรือครับ...โอ๊ะ โอ่! ผมก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวคุณโคะ
จิโร่อีกแล้ว ขออภัยครับ แหะ! แหะ!"
หมอนี่หัวไวเหมือนเดิมแฮะ แต่ทำไงได้ล่ะ? ผมจะ
ยอมให้ยะโยยต้องเผชิญวิกฤติหนักไปกว่านี้ไม่ได้
หรอก
"แล้วกัน ผมกะจะแถมให้นะนี่ เอ...เอาไงดี" เกล็น
บ่นพึมพำ อะไรกันฟะ คนเขาซื้อของแล้วยังมาบ่น
อีกแฮะหมอนี่ "ตอนนี้ผมมีข่าวแปลก ๆ อันหนึ่งผม
แถมให้คุณโคะจิโร่ฟรี ๆ อีกข่าวหนึ่งก็ละกันครับ
แม้ว่าจะไม่ค่อยเกี่ยวกับคุณโคะจิโร่เท่าไรนักก็ตาม"
"บ๊ะ! แถมจริง นายนี่" ผมอดหัวเราะไม่ได้ "เอ้า! ว่า
ไปซิ"
"ครับ เกี่ยวกับเอลเดียครับ" เกล็นพูดเสียงต่ำ ผม
เริ่มสังหรณ์ใจว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่ "ตอนนี้มีข่าวว่า มี
นักฆ่า ซึ่งทางตะวันออกกลางเขาเรียกว่า อ ะซะชิน
น่ะครับ แอบแฝงตัวเข้าญี่ปุ่นนี่แล้วครับ เจ้าอะซะ
ชินคนนี้นี่ฝีมือร้ายกาจมาก คดีลอบสังหารบุคคล
สำคัญในวงการการเมืองของประเทศต่าง ๆ ใน
ตะวันออกกลาง ซึ่งก็คือพวกอาหรับนั่นเอง ในระยะ
หลัง ๆ นี้เป็นฝีมือของเจ้าหมอนี่หมดเลยครับ"
"อะซะชินหรือ"
"ครับ ล่าสุดก็มีข่าวลับ ๆ มาว่า กษัตริย์ของเอลเดีย
ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยฝีมือของเจ้าหมอนี่
แหละครับ เอ! จะเรียกว่าเจ้าหมอนี่ก็ไม่ถูกนัก
เพราะ... เชื่อไหมครับคุณโคะจิโร่ เจ้านี่มีชื่อเสียง
โด่งดังขนาดขึ้นเป็นแบล็คลิสต์อันดับหนึ่งของหลาย
ๆ ประเทศก็ตาม แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรู้ข้อมูลเกี่ยว
กับมันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ รูปร่าง หน้า
ตา แฟ้มข้อมูลของรัฐบาลทุกประเทศที่เป็นผู้เสีย
หาย เหมือนกันหมดเลยครับคือ ว่างเปล่า ไม่มีข้อ
มูลของเจ้าอะซะชินคนนี้แม้แต่นิดเดียว"
"โห! ขนาดนั้นเชียว"
"ครับ! ข้อมูลที่มีก็คือว่า เจ้านี่จะสังหารเหยื่อด้วย
มีดซึ่งเป็นมีดที่ทางประเทศเอลเดียประกาศใช้เป็น
มีดประจำตัวของทหารในกองทัพเอลเดียอย่างเป็น
ทางการนะครับ เมื่อสังหารเสร็จ เจ้านี่จะทิ้งมีดเอา
ไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ทุกครั้ง ที่สำคัญไม่มีเหยื่อราย
ไหนรอดพ้นฝีมือมันไปได้ คิดดูเถอะครับ แม้แต่
กษัตริย์ของประเทศเอลเดียก็ยังไม่รอดเลย แต่เรื่อง
นี้ทางเอลเดียก็ปิดไว้เป็นความลับสุดยอดนะครับ
ออกข่าวเพียงแต่ว่า พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยโรค
ปัจจุบันเท่านั้น และตัวตั้งตัวตีที่ตั้งรางวัลนำจับเจ้า
อะซะชินคนนี้ก็คือ รัฐบาลเอลเดียนี่แหละครับ"
"...." ผมพูดอะไรไม่ออก มีคนน่ากลัวอย่างนี้อยู่ใน
โลกนี่ด้วยเหรอ "แล้วเจ้านี่มาญี่ปุ่นอยู่เนี่ยนะ?"
"ตามข่าวว่าอย่างนั้นครับ ตอนนี้มันมาอยู่ในญี่ปุ่น
เรียบร้อยแล้วครับ"
"..."
"แหะ! แหะ! อย่าคิดมากสิครับคุณโคะจิโร่ ผมบอก
ไว้เฉย ๆ เพราะเห็นมันมีอะไรเกี่ยวโยงไปถึงเอลเดีย
เหมือนกัน แต่คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับพวกเรา ๆ หรอก
ครับ ไม่มีใครบ้าจ้างเจ้าอะซะชินนี่มาจัดการคน
ธรรมดาอย่างพวกเราหรอกจริงไหมครับ แหะ!
แหะ!"
"ก็... จริงของนาย อืม... เอาละ ฉันกลับก่อนละกัน
ขอบใจมากสำหรับข้อมูลทุกอย่าง"
...
"กลับมาแล้วจ้า" ผมร้องทักขึ้นทันทีที่เดินเข้าสำนัก
งานของตัวเอง แต่เงียบ ไม่มีเสียงตอบของเด็กสาว
ผมทองคนนั้น
'เอ! หายไปไหนอีกแล้ว' ผมคิด กวาดตาดูรอบ
ออฟฟิศ ก็รู้สึกว่ามันสะอาดสะอ้านขึ้นกว่าเมื่อครู่นี้
อีกแล้ว คงเป็นฝีมือพรินนั่นเอง
ผมนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดถึงข้อมูลที่ได้รับจากเกล็น
เมื่อครู่นี้ โดยเฉพาะเรื่องนายโค และเรื่องของยะโย
ย ครู่หนึ่งผ่านไป ไม่มีวี่แววว่าพรินจะกลับมา ผมไม่
มีอะไรทำจึงตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกอีกที เป้า
หมายคือ โรงเรียนนักเรียนต่างชาติเอลเดีย
...
back index next