EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

ศัตรูเก่า


“กริ๊ง ๆๆๆ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขณะที่ผมกำลังจะออกไปนอก
สำนักงานเพื่อไปตามที่นัดไว้กับฮิมุโระ
‘เอ ใครโทรฯ มานะ’ ผมนึกในใจขณะที่ยื่นมือไปยก
หูโทรศัพท์
“ฮัลโหล ที่นี่สำนักงานนักสืบอะมะกิคร้าบ”
“สวัสดีครับ ผมเองครับ”
“!!!” ผมนิ่งไปทันที ถ้าความจำของผมไม่ผิดละกัน
สำเนียงการพูดแบบนี้ และน้ำเสียงแบบนี้มัน….
แต่อย่างไรก็ตามผมก็พูดกรอกหูโทรศัพท์ไปว่า
“ผมไม่มีคนรู้จักที่ชื่อ ผมเอง คุณโทรฯผิดแล้วมั้ง
ครับ”
“แหม! คุณอะมะกินี่เหมือนเดิมเลยนะครับ ผมเอง
ไงครับ ผมเอง ที่ให้คุณอะมะกิช่วยสืบหารูปภาพให้
ไงล่ะครับ”
“แก จริง ๆ ด้วยหรือ นายหมูตอน” ผมใช้คำพูดแบบ
ไม่เกรงใจทันที ที่แน่ใจว่าผู้ที่โทรฯ มาโดยไม่คาด
หมายคือ นายโคตัวปลอม ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ผม
อยากพบตัวมากที่สุดอยู่ในขณะนี้ “โทรฯ มาทำไม
ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนนี่ รู้รึเปล่าว่าแกทำให้พวกเรา
เดือดร้อนมากนะ” ที่จริงประโยคหลังนี่พูดตีกันไว้
ก่อน เพราะที่จริงแล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่
ชัดว่า การตายของนายโคตัวจริงและมีเจ้านิไคโด
เป็นแพะรับบาปนั้นเป็นฝีมือของนายคนนี้ แต่อย่าง
น้อยหมอนี่ก็เป็นต้นเหตุล่ะ
“แหม ๆ คุณอะมะกิท่าทางกำลังอารมณ์ไม่ดีนะ
ครับ เอางี้ไหมครับ เรามาหาที่เย็น ๆ คุยกันดีกว่า
คิดว่าคุณคงอยากมาพบผมอยู่พอดีเลยใช่ไหม
ครับ”
“!!!” เจอไม้นี้เข้าผมก็อึ้งเหมือนกัน เพราะนึกไม่ถึง
ว่า ทางฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายเชิญชวนให้ไปพบเอง
อย่างไม่คาดฝัน แต่ทำไงดีล่ะ เพราะนี่ก็คงจะได้
เวลาที่ผมควรจะไปพบกับฮิมุโระที่หน้าโรงเรียนนัก
ศึกษาต่างชาติเอลเดียแล้ว
แต่ผมไม่มีเวลาตัดสินใจมากนัก โอกาสที่จะจับเจ้า
หมูตอนนี่คงมีไม่มาก เพราะเท่าที่ผ่านมาในช่วง
สองวันนี้ หมอนี่หายเข้ากลีบเมฆไปเลย เรียกว่าหา
ตัวไม่เจอแม้แต่เงา
“โอเค นายจะให้ฉันไปพบที่ไหน”
“ตัดสินใจเร็วเหมือนเดิมนะครับ คุณ อะมะกิ” เสียง
นั้นตอบมา “ตอนนี้ผมอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมปรินเซสที่
คุณนิไคโดถูกฆ่าตายน่ะครับ รีบมาหน่อยก็แล้วกัน
นะครับ ผมไม่รับรองว่าผมจะอยู่ถึงเวลาไหน”
พูดเท่านั้น ก็วางหูไป
คำว่า ‘คุณนิไคโดที่ถูกฆ่าตาย’ และ ‘ให้รีบมา’ ทำ
ให้ผมขาดสติยั้งคิดไปนิดหนึ่ง รีบวิ่งพรวดออกนอก
สำนักงานไปทันที โดยที่ในตอนนั้น ผมไม่มีโอกาสรู้
เลยว่า นั่นเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์พลาดและ
ตัดสินใจพลาดครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของผม
…
‘ไหนอยู่ไหน’ ผมก้าวเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมปรินเซ
ส พลางเหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่กเพื่อมองหานาย
หมูอ้วนโคตัวปลอม แต่หลังจากเดินวนหาอยู่สอง
รอบ ในห้องล็อบบี้ ก็แน่ใจว่า นายนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ ในห้องล็อบบี้มีแขกของ
โรงแรมอยู่ประปราย ส่วนในห้องอาหารของโรงแรม
ซึ่งอยู่ข้าง ๆ ล็อบบี้ก็มีแขกบางโต๊ะ นั่งดื่มเบียร์กัน
อยู่
‘หรือว่าไปแล้ว เอาไงดี เจ้าโคะจิโร่’ ผมถามตัวเอง
จะลองรออยู่ที่นี่ต่อไป หรือว่ารีบวิ่งไปที่โรงเรียนนัก
ศึกษาต่างชาติเอลเดีย ซึ่งต่อให้รีบวิ่งไปตอนนี้ก็
แน่นอนว่าไปผิดเวลานัดกับฮิมุโระแน่แล้ว
ช่วยไม่ได้ เจ้าหมูตอนนั่นคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้
เห็นทีต้องรีบไปหาฮิมุโระก่อนล่ะ
คิดแล้วผมก็รีบวิ่งออกจากโรงแรมตรงดิ่งไปยังจุด
หมายทันที
ในภายหลัง ผมอดมาคิดไม่ได้ว่า ในตอนนั้น ถ้าผม
รอบคอบกว่านี้อีกหน่อย หรือแวะเข้าสำนักงานของ
ผม ซึ่งเป็นทางผ่านอยู่แล้ว เหตุการณ์ต่าง ๆ ใน
ภายหลังคงจะผันแปรไปไม่มากก็น้อยทีเดียว ถึงแม้
ว่าจะไม่มีใครรับประกันได้ว่า ‘ถ้าตอนนั้นผมทำ
อย่างนี้อย่างนั้น’ แล้วอะไร ๆ มันจะดีขึ้นก็เถอะ
…
“โคะจิโร่!”
เด็กนักเรียนหญิงในเครื่องแบบคนหนึ่ง ก้าวออก
จากใต้ร่มไม้ที่ริมฟุตบาธ แล้วกระซิบกระซาบเรียก
ผมทันทีที่ผมวิ่งทะเล่อทะล่าไปถึงหน้าโรงเรียน ไม่
ต้องบอกนะครับว่าคือใคร
“หวัดดี ฮิมุโระ แฮ่กๆ” ผมทักตอบ พลางหอบ
หายใจ “อื้อฮือ ขนาดรู้แล้วนะนี่ เห็นคุณแต่งชุด
อย่างนี้ยังเชื่อสนิทเลยว่าคุณเป็นเด็กนักเรียนจริง
ๆ” ประโยคสุดท้ายรีบหยอดคำชมเข้าไว้เพื่อบิด
เบือนเรื่องที่ผมไปสาย แต่ไม่ได้ผลแฮะ
“ไปทำอะไรมา” สาวเจ้าติงมาเสียงเขียวทันที “ฉัน
มารอตั้งนานแล้วนะยะ” แน่ะ! ขึ้นย่ะด้วยแฮะ
“จุ๊! จุ๊! ใจเย็นสิครับ ผมกำลังจะออกมาหาคุณแล้ว
ล่ะ แต่พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา จากนายโคตัวปลอมที่
ผมเล่าให้คุณฟังไปแล้วไงล่ะครับ”
“เอ๊ะ! จริงเหรอคะ?” ฮิมุโระเลิกคิ้วสูง ทำสีหน้า
ประหลาดใจ “แล้วเขาว่าไงคะ?”
“ก็… เรียกผมให้ไปพบที่โรงแรมปรินเซส อืมห์!
บอกด้วยนะว่า เขารู้ว่านายนิไคโดไม่ได้ฆ่าตัวตาย
แต่ถูกฆาตกรรม ผมก็เลยรีบไปแต่ปรากฏว่าไม่เจอ
แม้แต่เงา”
“…” เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวหน้าขรึมไป คงกำลัง
พยายามคิดอยู่ แล้วก็พูดขึ้นว่า “แสดงว่าเขาไม่ได้
ตั้งใจจะพบคุณจริง ๆ นะสิ คุณได้โทรศัพท์แล้วก็รีบ
ออกไปเลยใช่ไหมคะนี่”
“ใช่ฮะ” ผมพยักหน้ารับ ได้มาหยุดคุยกับฮิมุโระ
อย่างนี้ทำให้ผมเริ่มมีเวลาคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา
เมื่อครู่ และก็เริ่มจะมองออกลาง ๆ ว่าฮิมุโระกำ
ลังคิดอะไรอยู่ “อะ! … หรือว่า จุดมุ่งหมายของเจ้า
หมูตอนนั่น คือ…”
“แผนล่อเสือออกจากถ้ำ!!!” ฮิมุโระพูดเร็วปรื๋อ ด้วย
ความตื่นเต้น
“บ้าชมัด” ผมสบถออกมา พลางหมัดขวายกขึ้น
แล้วทิ้งลงข้างลำตัวอย่างแรงด้วยความเจ็บใจ
“พลาดจนได้” จะว่าไป ผมค่อนข้างจะปล่อยปละ
เงื่อนงำทางสายนายโคตัวปลอมนี้ไปพอสมควร
เพราะมัวแต่ท้อใจว่า ไม่มีข้อมูลจากทางแหล่งไหน
ให้สืบสาวหาตัวหมอนี่ได้เลย ทำให้ผมมุ่งความสน
ใจในระยะหลังไปที่นายมิโดเสียมาก พอเจอเจ้าหมู
ตอนนี่ติดต่อมากระทันหันก็เลยปรับขบวนท่ารับไม่
ถูก
“แล้วจะทำยังไงดีคะ? จะกลับไปออฟฟิศคุณตอนนี้
ไหม”
“กลับไปตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะครับ ช่างมันเถอะ
ผมคิดว่าในนั้นไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหมู
ตอนนั่นหรอก”
ใช่ครับ ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าในสำนักงานของผม
จะมีของมีค่า หรืออะไรที่มีค่าต่อเจ้าหมอนั่น
คอมพิวเตอร์ของผม ก็ใส่โปรแกรมรักษาความ
ปลอดภัย กันคนอื่นที่ไม่ใช่ผมมาเปิดเครื่องไว้แล้ว
หลังจากที่เมื่อวันก่อนผมรู้ว่า ยัยอะคะเนะถือ
วิสาสะเข้าไปขโมยดูข้อมูลในเครื่องของผม
“ก็ เอาตามโปรแกรมเดิมละกันครับ ไหน ๆ ก็มาถึง
ที่นี่แล้วนี่” ผมบอก
“…” หญิงสาวไม่พูดอะไร เดินนำหน้าผมไปยัง
ประตูโรงเรียนทันที แล้วควักบัตรของตนเองออกมา
รูดผ่านเครื่องอ่านบัตรที่อยู่ข้างประตู เสียงดังคลิก
ดังขึ้นมาจากประตูเล็กสำหรับคนผ่าน แล้วฮิมุโระก็
หันมาบอกผมว่า “เข้าได้แล้วค่ะ”
“อ้าว ไม่มียามเหรอครับ”
“นอกเวลาทำการแบบนี้ ที่นี่เขาใช้เครื่องย่ะ”
เราสองคนเดินลอดประตูเข้าไปในโรงเรียน ฮิมุโระ
เดินนำหน้าไปยังตึกที่ผมเดาว่าเป็นตึกอำนวยการ
ทันที
…
เรามาหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ซึ่งฮิมุโระอธิบายว่า
เป็นห้องผู้อำนวยการโรงเรียน
“ห้องนี้แหละค่ะ” ฮิมุโระหันมาบอกผม พลางเอื้อม
มือไปบิดลูกบิดประตู แล้วก็อุทานขึ้น “เอ๊ะ!”
“ทำไมหรือครับ” ผมรีบถาม แต่ก็รู้คำตอบในทันที
ว่า
“ไม่ได้ล็อก!” เสียงหญิงสาวอุทานแผ่วเบา
“แปลกนะ” ผมรำพึง ที่จริงผมไม่ได้คาดหวังมาก่อน
เลยว่า ประตูห้องนี้จะไม่ได้ล็อก และเตรียมพร้อมที่
จะต้องใช้วิชาสะเดาะประตูแล้วด้วย (ขอยืนยันนะ
ครับ ว่าผมไม่เคยใช้วิชานี้ในทางที่ผิด แฮ่ม!)
ผมกับหญิงสาวสบตากันนิดหนึ่ง ก่อนที่ผมจะตัด
บทว่า “ก็ดีแล้วนี่ครับ เรารีบเข้าไปเถอะ ระวังตัว
หน่อยละกัน” ประโยคสุดท้ายลดเสียงลงจนเกือบ
เป็นกระซิบ พลางทุ่มเทสมาธิจับกระแสภายในห้อง
นั้นว่ามีใครแอบอยู่หรือไม่
หญิงสาวไม่ตอบ แต่พยักหน้า แล้วก็แง้มประตูออก
มาเป็นช่องว่างพอที่จะสอดตัวเข้าไปได้ จากนั้นก็
‘แวบ’ เข้าไปอย่างระแวดระวัง ผมมองซ้ายขวาดูว่า
ตลอดทั้งระเบียงที่ยืนอยู่นี้ไม่มีใครอยู่ แล้วก็รีบ
แทรกตัวผ่านประตูเข้าไปอีกคน ปิดประตูตามหลัง
อย่างเงียบกริบพลางสอดส่ายสายตามองในห้อง
อย่างรวดเร็ว ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวเต็มที่
เพื่อจับสิ่งผิดปรกติในห้อง เพราะตามธรรมดาแล้ว
ห้องนี้ควรจะถูกล็อคเอาไว้ โดยเฉพาะในสถาน
การณ์ที่เจ้าของห้องเป็นผู้ล่วงลับไปแล้ว และตัวโรง
เรียนเองก็อยู่ในสถานะ ‘ปิดทำการอย่างไม่มี
กำหนด’ แบบนี้
แสงสลัว ๆ จากแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่ส่องลอดช่อง
ว่างระหว่างม่านกันแดดเข้ามาทำให้เรามองเห็น
อะไร ๆ ภายในห้องได้พอสมควรโดยไม่ต้องใช้แสง
จากไฟฟ้าช่วย ซึ่งเราก็ไม่ต้องการทำเช่นนั้นด้วย ฮิ
มุโระซึ่งเข้าไปก่อน ยืนอยู่ลึกเข้าไปกลางห้อง เธอ
หันมาสบตาผม แล้วสั่นหน้าน้อย ๆ ส่วนผมก็พยัก
หน้ารับ เป็นอันรู้กัน ว่า ในห้องนี้ ไม่มีสิ่งผิดปรกติ
อะไร
ผมยกมือขวาขึ้น เอานิ้วชี้หมุนควงเป็นวงกลมเล็ก ๆ
ในอากาศ เป็นทำนองถามว่า เป้าหมายอยู่ที่ไหน ฮิ
มุโระก็พยักหน้า แล้วเดินไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ติด
ผนังห้องทันที กวาดสายตาแวบหนึ่งก็ดึงเอาหนังสือ
เล่มหนาเตอะออกมาเล่มหนึ่ง ผมรีบเดินเข้าไปสม
ทบ ขณะที่หญิงสาวพลิกหน้ากระดาษในหนังสือ
เล่มนั้น ซึ่งผมสังเกตว่าเป็นแคตตาล็อกเกี่ยวกับ
งานภาพเขียนและภาพลายเส้นของอิสลาม คล้าย
ๆ กับที่คุณมะทสึโนะเคยโชว์ให้ผมดูที่ห้องสมุด สี
หน้าของฮิมุโระเปลี่ยนไป ขณะที่พลิกหน้ากระดาษ
บริเวณกลาง ๆ เล่มกลับไปกลับมาสองสามเที่ยว
แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม พลางระล่ำระลักว่า
“ไม่มีค่ะ หายไปแล้ว” หมายถึงแผ่นโลหะที่หล่อน
เคยเล่าให้ผมฟังว่า เคยพบมันเสียบอยู่ในแคตตาล็
อกเล่มนี้ และมีลวดลายเหมือนกับลายในภาพที่ผม
เคยรับจ้างสืบหาให้กับเจ้าโคตัวปลอม
“แน่ใจว่าเป็นเล่มนี้หรือครับ” ผมพยายามสร้าง
ความหวัง
“แน่ใจคะ เนี่ยมีแคตตาล็อกงานศิลปะอยู่เล่มเดียว
ในนี้ ซึ่งมันเด่นกว่าหนังสือเล่มอื่น ๆ เห็นไหมคะ”
เจ้าหล่อนชี้มือกวาดไปบนสันหนังสือที่เรียงเป็นตับ
ในชั้นหนังสือ “ไม่มีทางจำผิดเล่มแน่ ๆ”
“ใครมาเอาไปแล้วหรือ” ผมเปรยขึ้น “คนที่รู้ว่ามี
แผ่นโลหะนี่ในนี้ก็มีคุณ แล้วก็..”
“ยัยโฮโจคนนั้น” ฮิมุโระเสริมขึ้น
“แล้วก็เจ้าของห้องนี้ ซึ่งตายไปแล้ว” ผมเสริม “และ
ก็… อาจจะมีคนอื่นอีกนะที่เราไม่รู้” ผมเว้นระยะ
นิดหนึ่ง ก่อนจะต่อว่า ““อย่างเช่น เจ้าคนที่เปิดห้อง
ทิ้งไว้เมื่อกี้ไงครับ”
“เอ๊ะ!” ฮิมุโระอุทานเสียงแผ่วเบา พลางสบตาผมนิ่ง
นี่แสดงว่าเจ้าหล่อนก็รู้ตัวเหมือนกับผมแล้วล่ะสิ ว่า
กำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“หลบเร็ว!” ผมพูดไม่ทันขาดคำ ฮิมุโระก็กระโจน
แผล็วเข้าไปที่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไป
ด้านในของห้องทันที ผมไม่รอช้ารีบกระโดดตามเข้า
ไปอย่างรวดเร็ว และผลก็คือเข้าไปเบียดกับฮิมุโระที่
เข้าไปนั่งซ่อนตัวอยู่หลังโต๊ะอย่างช่วยไม่ได้
back index next