EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 19xx
(กลางคืน)
บุกถ้ำเสืออีกครั้ง
ผมสอดตัวผ่านประตูเข้าไปในห้อง จากนั้นก็ย่อง
ตรงเข้าไปที่โต๊ะทำงานของนายมิโดซึ่งอยู่ติดผนัง
ด้านในหลังจากที่ตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่
ในห้อง รวมกับการที่ผมสำรวจด้วยสายตาเรียบ
ร้อยแล้วเมื่อตอนกลางวันว่าไม่มีเครื่องกันขโมย
หรือกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนี้ ระหว่างที่เดินผ่าน
ผนังด้านที่เป็นกระจกเงาทั้งแถบนั้น ผมก็ได้คำตอบ
ว่ามันคือ ห้องสำหรับซ่อนคนนั่นเอง โดยที่เป็น
กระจกเจือปรอท ที่สามารถมองทะลุออกมาได้ด้าน
เดียว นี่หมายความว่า เมื่อตอนกลางวัน ผมไม่ได้
เผชิญหน้ากับนายมิโดสองต่อสองละสินี่ คงมีสักอีก
สักคนแอบสังเกตการณ์อยู่ในห้องกระจกด้านข้างนี้
ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่คนคนนั้นจะเป็นยัย
โฮโจ มะรินะ
เอ๊ะ! นี่หมายความว่า???
แต่ผมต้องรีบสลัดความคิดดังกล่าวทิ้งจากหัวสมอง
ออกไปก่อน ปัญหาเฉพาะหน้าคือจะจัดการกับโต๊ะ
ทำงานของนายมิโดที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างไร
ผมลองดึงตู้เอกสารเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนซีกซ้ายของ
โต๊ะออกมาดูและพบว่า เป็นเอกสารธุรการทั่ว ๆ ไป
ส่วนเจ้าคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะนั้น ก็คงจะหมด
สิทธิ์แตะ เพราะคอมพิวเตอร์พวกนี้คงจะมีรหัสผ่าน
ล็อคเอาไว้ ผมลองดึงลิ้นชักโต๊ะออกมาดูโดยไล่ไปที
ละลิ้นชัก แล้วก็มาหยุดสายตาที่แฟ้ม ๆ หนึ่งที่เขียน
ว่า
รายงาน: สรุปผลของยาที่พัฒนาโดยสำนักงาน
พัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และสรุปสถานภาพ
ปัจจุบันของ ?-101
มิวหนึ่งศูนย์หนึ่ง!!!
ชื่อนั้นเองที่ทำให้ผมหยุดความสนใจอยู่ที่แฟ้มนี้
แล้วลองเปิดแฟ้มมาอ่านดูทันที
โอ้โฮ หนาเตอะเลยแฮะ ผมทำเสียงจึกในปาก
อย่างไม่สบอารมณ์ เพราะถ้าจะให้อ่านรายงาน
หนาเตอะนี้ มีหวังพวกคนของสถานทูตย้อนกลับมา
ก่อนแน่ และที่สำคัญเนื้อหาทั้งหมดเป็นภาษา
อาหรับสลับกับภาษาอังกฤษ
เอ๊ะ! มีกระดาษเย็บด้วยลวดต่างหากอยู่หนึ่งปีก
เสียบคั่นไว้ในรายงานฉบับนี้ด้วยนี่ ผมลองดึงมัน
ออกมาพบว่า
ภาษาญี่ปุ่นนี่!!! ผมอดอุทานในใจไม่ได้ ใช่ครับ
เอกสารที่เย็บต่างหากและมีอยู่เพียงสามสี่แผ่นนี้
เป็นภาษาญี่ปุ่นครับ
ผมกวาดสายตาคร่าว ๆ ไปบนเนื้อหาในเอกสาร
ฉบับนั้น เนื้อหาคร่าว ๆ ในตัวรายงานเป็นดังนี้ครับ
รายงานเสนอถึงหน่วยข่าวกรองทางทหารแห่งกอง
ทัพบก (กองกำลังป้องกันตัวเอง) ของญี่ปุ่น เรื่อง
เสถียรภาพของยารักษาสถานะนีโอซีรีบรัม (Neo
Cerebrum) สรุปผลจากการทดลองใช้ยาที่พัฒนา
ขึ้นกับผลผลิตของโปรเจคซีคือมิวหนึ่งศูนย์หนึ่งนี้
พบว่า ตัวยาไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทำให้การทำงาน
ของนีโอซีรีบรัมขาดเสถียรภาพ ต้องแก้ปัญหา
เฉพาะหน้าด้วยการให้ยานี้ซ้ำโดยฉีดผ่านทางเลือด
เพื่อเข้าไปกระตุ้นการทำงานและรักษาความเป็น
ปัจเจกบุคคลเดิมไว้เป็นระยะ ๆ
สาเหตุที่ยานี้ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากก่อน
หน้าที่การวิจัยในขั้นสุดท้ายจะเสร็จสิ้นลง นายโคล
แมน โค ผู้รับผิดชอบโครงการฯ ได้ถูกลอบสังหาร
เสียชีวิตกระทันหัน
ความเห็นของคณะนักวิทยาศาสตร์ที่เหลืออยู่ใน
ขณะนี้ คือ ไม่มีทางหยุดยั้งความเสื่อมสภาพของนี
โอซีรีบรัม หรือ มิวหนึ่งศูนย์หนึ่งนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ในขณะนี้ได้พยายามให้ยาเพื่อยืดอายุออกไปให้
นานที่สุด แต่ก็คงเป็นแค่การแก้ปัญหาชั่วคราวเท่า
นั้น คงจะปฏิเสธความจริงไม่ได้อีกแล้วว่า นีโอซีรี
บรัมกำลังเสื่อมสภาพลงไปเรื่อย ๆ และคงจะถึงจุด
ดับสลายในเร็ว ๆ นี้
สำหรับผลพลอยได้จากการวิจัยในโปรเจคซีอีกสอง
อย่าง จะมีรายงานอีกหนึ่งฉบับเสนอต่อนายกรัฐ
มนตรีลอยด์ เพื่อเก็บไว้ขั่วคราวจนกว่าจะได้ประมุข
ของประเทศพระองค์ใหม่จึงจะเสนอต่อพระองค์
หากทางรัฐบาลญี่ปุ่น โดยผ่านทางหน่วยข่าวกรอง
ทางทหารนี้ต้องการให้ติดต่อกับนายกฯ ลอยด์โดย
ตรง
???!!!
ผมขนลุกซู่ และรู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มไหลซึมที่แผ่นหลัง
ของผม เอกสารนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ธรรมดาเสียแล้ว
เป็นเรื่องใหญ่ ๆๆๆๆ มาก ๆๆๆๆ เลยทีเดียวเชียวล่ะ
ที่สำคัญอันดับแรกก็คือ เป็นเอกสารที่ระบุอย่างชัด
เจนว่า รัฐบาลญี่ปุ่นของเรานั่นเองมีส่วนร่วมในโปร
เจคลึกลับนี้เพียงใด ซึ่งเมื่อรวมกับข้อมูลที่ฮิมุโระดึง
ออกมาจากฐานข้อมูลของสันติบาลด้วยละก็
.แต่
อย่างไรก็ตาม เอกสารนี้ก็เขียนอย่างที่ให้คนในเท่า
นั้นที่อ่านรู้เรื่อง จากข้อความในเอกสารนี้ ไม่ได้ให้
ความกระจ่างถึงเนื้อหาของโปรเจคซีหรือนีโอซีรี
บรัมเพิ่มขึ้นแก่ผมสักเท่าไร ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้
ช่วยให้รู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ ผลผลิต ของโปรเจคคือ
อะไรบางอย่างที่มีโค้ดเนมว่า มิวหนึ่งศูนย์หนึ่งสัก
เท่าไรเลย นอกจากจะรู้เพียงว่า มิวหนึ่งศูนย์หนึ่งอยู่
ในภาวะวิกฤติ ใกล้จะดับสลายไปโดยตัวของมัน
เอง
ผมไม่มีเวลาคิดมาก เพราะนี่ก็ควรจะได้เวลาที่ผม
จะขอบอกลาสถานที่นี้เสียที ผมดึงเอาเฉพาะ
เอกสารภาษาญี่ปุ่นสี่แผ่นนั้นพับเก็บในกระเป๋าเสื้อ
เก็บแฟ้มที่เหลือเข้าลิ้นชักดังเดิม แล้วถอนตัวออก
จากห้องทำงานของนายมิโด ตรงดิ่งไปที่ห้องโถง
ใหญ่เพื่อสมทบกับฮิมุโระซึ่งคงมารออยู่แล้ว
ผมถลาเข้าห้องโถงใหญ่ชั้นล่างของตึกสถานทูตเอล
เดีย และสังเกตพบฮิมุโระรออยู่แล้วในเงามืดสลัว ๆ
ในห้องนั้น
เป็นไงบ้าง ผมรีบถามขึ้น
ไม่เจออะไรเลย ฉันลองดูทุกห้องเท่าที่จะดูได้แล้ว
นะ ไม่พบใครสักคน รวมทั้งเด็กผู้หญิงที่คุณว่า
แล้วคุณล่ะ
ไม่เจอพรินเหมือนกันครับ แต่เจอเด็ด ๆ ไปอีก
แบบ
อะไรเหรอคะ ฮิมุโระปราดเข้ามาประชิดตัวผม
พร้อมกับถามขึ้น
เอกสารเกี่ยวกับมิวหนึ่งศูนย์หนึ่ง
มิวหนึ่งศูนย์หนึ่ง! หญิงสาวทวนคำเสียงแหลม
เรารีบเผ่นก่อนดีกว่าฮะ นี่ผมเอาเอกสารนั่นมา
ด้วยแล้ว เดี๋ยวเราค่อยไปหาที่อ่านกันสบาย ๆ
เดี๋ยวคุณ ฮิมุโระทำท่าตกอกตกใจ ยื้อยุดแขนเสื้อ
ผมไว้ทันที อย่าบอกนะว่าคุณเอาเอกสารของเขา
ออกมาด้วย
ผมนึกรู้ทันทีว่าฮิมุโระกำลังคิดอย่างไร ก็เธอเป็น
ตำรวจนี่ครับ ย่อมต้องเคร่งครัดต่อตัวบทกฎหมาย
เป็นธรรมดา การกระทำของผมนี่เข้าข่ายบุกรุก
สถานที่ แล้วยังขโมยของอีก
ไม่ได้เอามาเลย แค่ยืมมาดูเท่านั้นแหละ คุณก็ซี
เรียสไปได้ ผมตอบบ่ายเบี่ยง พลางทำท่าจะดึงตัว
ฮิมุโระให้รีบเผ่นออกจากที่นี่ แต่แล้ว
ถ้าอย่างนั้น ก็กรุณาคืนซะตรงนี้เลยสิครับ เพราะ
ผมไม่ยินดีให้ยืม!!!
แช้ะ
เสียงเรียบ ๆ แต่ทรงอำนาจของผู้ชายดังขึ้น พร้อม
กับที่ไฟทุกดวงในห้องโถงสว่างขึ้น ผมเสียวสันหลัง
วาบ ยืนตัวแข็งอยู่กับที่พร้อมกับตาพร่าไปนิดหนึ่ง
เพราะเจอแสงสว่างกระทันหัน และแล้วผมก็พบว่า
เบื้องหน้าของผมซึ่งเป็นประตูของห้องโถงใหญ่
ขณะนี้ถูกยืนขวางไว้ด้วยชายในสูทดำกลุ่มใหญ่
ตรงกลางกลุ่มคือ นายมิโด และเจ้าองค์รักษ์ร่าง
ยักษ์ที่ผมเจอตอนกลางวันก็ยืนอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ที่
สำคัญที่สุด ทุกคนถืออาวุธปืนครบทุกคนและหัน
ปากกระบอกมาทางเราสองคน ยกเว้นหัวหน้าใหญ่
คือนายมิโดที่ยืนกอดอกอย่างไว้เชิง
สวัสดีครับ คุณนักข่าวอิสระอะมะจิ นี่คงไม่ใช่การ
นัดสัมภาษณ์รอบดึกนะครับเนี่ย
แหม ผมก็อยากจะสัมภาษณ์คุณอยู่เหมือนกัน
แหละครับ ท่านทูตมิโด แต่คุณคงไม่ยอมตอบผม
หรอก ผมทำใจดีสู้เสือ ส่วนฮิมุโระที่อยู่ข้าง ๆ ผม
นั้น ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าคงจะหน้าซีดและเหงื่อแตก
พลั่ก
รู้สถานการณ์ดีนี่ครับ คุณนักข่าว
ไม่สิ คุณ
ตำรวจ มิโดพูดมาอีก ทำให้ผมใจชื้นขึ้นเล็กน้อย
เมื่อฝ่ายนั้นแสดงว่ายังไม่รู้จักตัวจริงของผม พวก
คุณไม่อยู่ในสถานะที่จะถามผมแล้ว มีแต่จะต้อง
ตอบคำถามของผมเท่านั้น
แล้วถ้าเราไม่ตอบล่ะ ผมลองถามดู
ผมรู้จักวิธีที่ทำให้คุณเปลี่ยนใจอยู่หลายร้อยวิธี
เชียวล่ะ คุณจะลองไหมล่ะ
จะใช้วิธีทรมานนักโทษหรือครับ ท่านอดีตหัวหน้า
หน่วยสืบราชการลับแห่งเอลเดีย
โฮะโฮ่ รู้มาเหมือนกันรึ แสดงว่าคุณยอมรับว่าเป็น
คนของตำรวจญี่ปุ่นแล้วสิครับ ก็ดีจะได้ยอม
สารภาพแต่เนิ่น ๆ ไม่ต้องให้ทางเราเหนื่อย มิโด
หยุดไปนิดหนึ่ง ยิ้มอย่างเหี้ยม ๆ หันไปทางฮิมุโระ
แล้วพูดว่า อย่างคุณผู้หญิงนั่น อาจจะเสียสติไป
เลยก็ได้ ถ้าเจอการทรมานสไตล์ของหน่วยสืบราช
การลับของเรา
มะ..ไม่เอานะ
ฮิมุโระร้องครางอย่างท้อแท้
ผมได้โอกาส รีบระล่ำระลักขึ้นทันทีว่า
อ้า ใช่แล้วครับ คุณมิโด ยัยคนนี้แหละครับเป็นตัว
การชวนผมเข้ามาค้นเอกสารในนี้ ผมแค่รับคำสั่ง
เขามาเฉย ๆ ครับ
นี่! ฮิมุโระหันขวับมาทางผม
ผมไม่ปล่อยให้หญิงสาวพูดมากกว่านั้น เดี๋ยวจะ
เสียแผนหมด
คุณมิโดมีอะไรก็ถามยัยหมูอ้วนคนนี้เองนะครับ
ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ คุณมิโดก็น่าจะรู้ งานแบบนี้ ยิ่ง
คนอยู่ระดับล่างยิ่งไม่รู้อะไร ใช่ไหมครับ
โอ๊ะโอ๋ จวนตัวเข้าก็ขายเจ้านายทิ้งเลยหรือครับ
คุณอะมะจิ จารชนลูกครึ่งญี่ปุ่นพูดถากถาง
ก็ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ นี่ครับ นี่เดี๋ยวผมคืนเอกสาร
นั่นให้นะครับ ขอรับรองครับยังไม่ได้อ่านเลย แหะ
แหะ ผมพูดเน้นตรงคำว่าจะคืนเอกสารให้ พลาง
ล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อชั้นนอกที่ผมใส่โดยไม่ติด
กระดุม ผมคืนให้แล้วปล่อยผมไปนะครับ เอายัย
หมูอ้วนนี่ไปทรมานซะให้เข็ด ให้มันบ้าไปเลย ชอบ
ใช้งานผมนัก
นี่ จะบ้าเหรอนายนะ
ฮิมุโระฟิวส์ขาดตรงให้มากระชากคอปกเสื้อของผม
โดยที่เธอเข้ามาบังระหว่างผมกับพวกนายมิโดพอดี
ได้การณ์ละครับ สิ่งที่ผมดึงออกมาจากใต้เสื้อนอก
ไม่ใช่เอกสารลับนั้น แต่เป็น
ปัง ปัง
เจ้ากล็อค 22 คู่ใจของผมนั่นเอง ผมยิงไปที่แผงไฟ
ฟ้าที่ข้างผนังซึ่งผมสังเกตไว้แล้วสองนัดซ้อนเพื่อกัน
พลาด ไฟในห้องดับพรึบ ห้องมืดสนิทลงทันตาเห็น
พร้อมกับที่ผมดึงฮิมุโระออกวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้น
สองของอาคาร คล้อยหลังผมไปนิดเดียวกระสุนปืน
จากฝ่ายตรงข้ามยิงกราดมาตรงตำแหน่งที่ผมกับฮิ
มุโระเคยอยู่อย่างไม่นับ
ผมไม่มีทางเลือกพาฮิมุโระวิ่งขึ้นบันไดไป พลางยิง
ปืนในมืสกัดพวกข้างล่างไม่ให้ขึ้นมา จากความรู้สึก
ผมมั่นใจว่า ยิงถูกฝ่ายตรงข้ามในเงามืดอย่างน้อย
สองคน ซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายนั้นไม่กล้า
ผลีผลามเข้ามา เสียงเจ้าองค์รักษ์เมื่อกลางวันสบถ
อย่างหัวเสียว่า ลืมไปว่าผมมีปืน
ส่วนผมก็สบถในใจเช่นกันว่า ไอ้ยักษ์บ้ามาบอกกัน
ได้ว่ามีปืนไว้ยิงขู่ นี่มันยิงขู่ที่ไหนกันวะ อานุภาพ
ของปืนร้ายแรงขนาดจะยิงทะลุผนังได้เลยนี่ (เวอร์
ไปมั้ง)
โคะจิโร่ จะให้วิ่งไปไหน
ฮิมุโระเริ่มตั้งสติได้ ถามผมมา
ไม่รู้เหมือนกัน วิ่งนำไปเถอะอย่าหยุด
ผมตอบ หญิงสาวจึงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งนำขึ้นไปจนถึง
ชั้นบนสุดของอาคาร แล้วก็วิ่งไปยังห้องไกลสุดริม
ระเบียง โดยระหว่างทางก็เอามือลองบิดลูกบิด
ประตูมาทุกห้อง จนมาพบห้องที่ไม่ได้ล็อคเอาห้อง
สุดท้ายเข้าพอดี
ผมกับฮิมุโระไม่รอช้ารีบเข้าไปซ่อนในห้องนั้นทันที
แต่เราทั้งสองคนก็ทราบดีแก่ใจว่า นี่เป็นการถ่วง
ประวิงเวลาไปชั่วคราวเท่านั้น ไม่เร็วก็ช้าพวกของ
สถานทูตจะต้องตามมาจนถึงแน่นอน
ขณะที่ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องซึ่งเป็นห้อง
เก็บของจิปาถะอยู่นั้นเอง
พลั่ก
อยู่ ๆ ฮิมุโระก็ทุบกำปั้นน้อย ๆ เข้ากลางหลังผมเข้า
ให้
โอ้ย! ผมเซถลาไปข้างหน้า พอตั้งหลักได้ก็หัน
ขวับไปทางผู้ที่ทำร้ายร่างกายผมทันที พบว่าเจ้า
หล่อนยืนหน้าบึ้ง แก้มป่องมาเชียว จะว่าไปก็น่ารัก
ไปอีกแบบ อะไรกันครับคุณ อยู่ ๆ มาทุบเปรี้ยงเข้า
ให้
เมื่อกี้คุณว่าฉันยัยหมูอ้วนใช่ไหม อ้อ นึกว่าเรื่อง
อะไร
แหม ก็
มันจำเป็นนี่ครับ ไม่งั้นเราจะรอดมาได้รึ
ผมขอโทษก็ละกัน ผมพูด เอื้อมมือไปถู ๆ ที่บริเวณ
ถูกทุบ พลางสูดปากและบ่นอุบอิบ มือหนักจังเลย
ผ่านมาตั้งนานแล้ว ยังโกรธอยู่อีก
ก็ฉันเพิ่งนึกได้นี่ หญิงสาวแก้ตัวมาอุบอิบบ้าง แต่
แล้วก็ทำตาโตอย่างนึกได้ ยื่นหน้าเข้ามาเกือบจะ
ชิดผม พลางเอาเรื่องว่า คุณโกหกฉันนี่ เรื่องปืน
ไหนบอกว่าเป็นปืนเก๊ไง แล้วเมื่อกี้มันยิงได้ยังไง
ก็
แหม ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้างสิครับ คุณ
ตำรวจ ผมชักฉุนเหมือนกัน คนอะไร้ เถรตรงเหลือ
เกิน ฮิมุโระทำฟึดฟัดอยู่แต่แล้ว
!!! เราสองคนตัวแข็งทื่อ สบตากันอีกครั้ง เพราะ
ประสาทสัมผัสของเราบอกว่า พวกนั้น กำลังขึ้น
บันไดมาและกระจายกำลังกันเต็มระเบียงชั้นนี้แล้ว
ผมวิ่งตรงไปที่หน้าต่างห้อง และเปิดมันออกไป ใน
ใจคิดว่านี่คงเป็นทางรอดสุดท้ายแล้ว ผมภาวนาให้
ตัวเองคิดถูกขณะที่มองลงไปด้านล่าง และพบว่า
เบื้องล่างลงไปจากความสูงของตึกสี่ชั้นนี้ เป็นสระ
น้ำขนาดเล็ก
ไม่สิ หนองน้ำต่างหาก ซึ่งอยู่ในเขต
สวนสาธารณะที่อยู่ด้านหลังของสถานทูตเอลเดียนี้
โดยเมื่อทอดสายตามองลงไปตรง ๆ ผมก็ยังเห็นได้
ถึงกำแพงรั้วที่กั้นไว้ชิดกับผนังตึกทางด้านนี้อยู่
นี่หมายความว่า ถ้าเราสามารถโดดลงไปในหนอง
น้ำนั้น ก็พ้นเขตของสถานทูตเอลเดียแล้วสิ ผมคิด
ในใจอย่างนั้นพลางบวกลบคูณหารอยู่ในใจถึง
โอกาสรอดในครั้งนี้
แต่ดูเหมือนจะไม่มีเวลาเหลือให้เราสองคนมากนัก
เพราะฝ่ายตรงข้ามคงจะรู้ตัวแล้วว่า เราสองคนซ่อน
ตัวอยู่ในห้องนี้ และคงกำลังเตรียมจะบุกเข้ามาใน
เร็ว ๆ นี้ ต้องขอบคุณเข้ากล็อค 22 ของผมที่สำแดง
อานุภาพไว้เมื่อกี้นี้ ทำให้พวกนั้นไม่ผลีผลามเข้ามา
ฮิมุโระ ว่ายน้ำเป็นไหม ผมถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มี
ขลุ่ย พลางกวักมือเรียกเธอให้มายืนข้าง ๆ ผม
เป็น หญิงสาวตอบ มองลงไปที่หนองน้ำเบื้องล่าง
แล้วเคยเล่นโดดน้ำไหม
ก็เคยบ้าง แต่
อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันโดดลงไป
นี่ นี่มันชั้นสี่นะคุณ แล้วน้ำมันลึกขนาดไหนก็-อุ๊!
หญิงสาวซึ่งอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ไม่มีโอกาสได้
พูดจบก็ต้องหยุดกลางคัน เพราะ
ผมรวบตัวเธอ
เข้ามากอดไว้ แล้วประทับจูบลงไปบนปากคู่น้อย
นั้นอย่างไม่ยอมให้ฝ่ายนั้นตั้งตัวติด แรก ๆ หญิง
สาวก็ขัดขืน แต่แล้วก็ตัวอ่อนปวกเปียก หลับตา
พริ้มอีกแน่ะ อย่างนี้ยังเป็นสาวที่ไร้เดียงสาในเรื่อง
ความรักแน่เลย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวคิดเรื่องนี้
นะ
ผมถอนริมฝีปากออกมาจากเจ้าหล่อน ฮิมุโระยังคง
หลับตาพริ้มอยู่ เนื้อตัวอ่อนระทวยไปหมด ก็ดี เข้า
ล็อคตามที่ผมกะไว้พอดี สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำก็คือ
เอ๊ะ! ผู้ที่ถูกฉวยโอกาสจูบโดยไม่ตั้งตัว สะดุ้งตื่น
จากภวังค์ เมื่อผมรวบตัวเจ้าหล่อนขึ้นมาจากพื้น
และ
เดี๋ยวเจอกันใหม่
ข้างล่างนะจ๊ะ ผมบอกพลาง
ยิ้มให้อย่างใจเย็น
มะ..ไม่เอาวววว์ ว้ายยยยยย
หญิงสาวร้องเสียงหลง เมื่อผมวางตัวหล่อนลงบน
ขอบหน้าต่าง แล้วผลักออกไปสุดแรง เสียงสุดท้าย
ของเจ้าหล่อน ดังลั่นตลอดทางที่ร่างน้อย ๆ ร่วงลง
ไปกลางอากาศ และอีกอึดใจต่อมาก็มีเสียงตูม เมื่อ
ร่างของเธอตกกระทบผิวน้ำด้านล่าง ผมสังเกตเห็น
ผิวน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้างทันที
เฮ้ย ลุยเลย ไม่ต้องรอแล้ว เสียงหลายเสียงดังขึ้น
จากหน้าประตูห้อง ผมพุ่งหลาวออกทางหน้าต่าง
ทันที โดยที่ได้ยินเสียง
.ซึ่งให้ตายเถิด ผมไม่อยาก
จะคิดเลยว่า มันเป็นเสียงปืนกล ดังมาทางประตู
back index next