EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 19xx
(กลางคืน)
หนี
โครม
ร่างของผมหล่นตูมในหนองและเลยดิ่งลึกลงไปใต้
น้ำอีกพอสมควรตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก่อนที่ผม
จะลอยตัวขึ้นเหนือน้ำได้อีกครั้งหนึ่ง
ฮิมุโระ! อยู่ไหน! ผมมองเลิ่กลั่กซ้ายขวา เพื่อหา
หญิงสาวผู้ร่วมชะตากรรม ในใจภาวนาให้หล่อน
ปลอดภัย
ฮิมุโระ ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า ประโยคหลังพูดทีเล่นที
จริง แต่ในใจก็ชักแป้วเหมือนกัน
ฉัน-อยู่-นี่-นาย-โคะ-จิ-โร่!!! เสียงหนัก ๆ ของผู้ที่
ผมมองหาอยู่ ดังขึ้นเยื้องออกไปด้านขวา เกือบ ๆ
จะสุดขอบสระแล้ว ผมมองไปทางต้นเสียงแล้วก็
แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เพราะสาวเจ้าตัวเปียกมะ
ลอกมะแลก แถมมีพืชน้ำอะไรเกาะอยู่เต็มตัวไป
หมด รวมทั้งบนศีรษะของเจ้าหล่อนด้วย แต่พอนึก
อีกที ผมก็คงไม่อยู่ในสภาพที่แตกต่างไปสักเท่าไร
ผมว่ายน้ำตรงเข้าไปหาหล่อนทันที นึกโล่งใจว่า
หญิงสาวยังปลอดภัยดีอยู่ แต่ท่าทางจะช็อคและ
โกรธเอามาก ๆ ทีเดียว ถ้าตาของหล่อนสามารถ
เรืองแสงได้ละก็ ผมคงเห็นตาเธอลุกโชนเป็นไฟใน
ความมืดนี้แล้ว
คุณจะฆ่าฉันใช่ไหมนี่ อยู่ ๆ ก็จับโยนลงมาแบบนี้
เอาน่า ทูนหัว แล้วผมจะให้โกรธทีหลังนะจ๊ะ ผม
เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ความที่เสี่ยงภัยมาด้วยกันทำให้
ผมใช้คำสนิทสนมกับหล่อนโดยไม่รู้ตัว แต่ภายหลัง
เมื่อผมมาคิดดี ๆ แล้ว ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า
ฮิมุโระเปลี่ยนคำเรียกตัวเองเวลาพูดกับผม จาก
ดิฉัน เป็น ฉัน ตั้งแต่เมื่อไร
ฮึ! นี่ยังไม่จบความซวยของฉันอีกหรือนี่ ตอนนี้
ผมเข้ามาอยู่ข้าง ๆ ฮิมุโระแล้ว จึงสังเกตได้ถึงใบ
หน้าเหยเกจะร้องไห้มิร้องไห้แหล่ของเจ้าหล่อนได้
ปัง ๆๆๆ เสียงปืนกลดังกราดลงมาจากหน้าต่าง
บนตึก พร้อมกับที่น้ำบริเวณที่อยู่ใกล้ตัวตึกแตก
กระจาย พวกสถานทูตคงกะยิงเอาตรงตำแหน่งที่
ผมกระโดดลงมานั่นเอง โชคดีที่ผมว่ายน้ำมาอยู่
ตรงนี้แล้ว
นั่นไงฮะ คำตอบ คุณรีบวิ่งนำไปเถอะครับ
ค่า ค่า เฮ้อ วันเคราะห์ร้ายอะไรของฉัน
หญิง
สาวกระแทกกระทั้นเข้าให้ ตอนหลังบ่นอุบอิบขณะ
ที่พาตัวเองขึ้นฝั่งโดยย่อตัวต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้ววิ่งตรงไปในเงามือใต้ต้นไม้ใหญ่น้อยที่อยู่ใน
สวนนี้ทันที ผมอดชื่นชมความรอบคอบของหล่อน
ไม่ได้ นี่แสดงว่าคงได้รับการฝึกมาอย่างดี สมกับที่
เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผมตามหลังหล่อนไป หันไปทางรั้วสถานทูตพบว่ามี
บุรุษชุดดำบางส่วนตามมาถึงนอกรั้วแล้วและกำลัง
วิ่งอ้อมสระน้ำมา พลางสาดปืนมาสุ่ม ๆ อาศัยการ
คาดเดาว่า ผู้บุกรุกทั้งสองคงจะพยายามหลบหนีไป
ในทางตรงกันข้ามกับสถานทูต ซึ่งเป็นการคาดเดา
ที่ถูกต้องเสียด้วย ส่วนปืนกลที่ยิงจากด้านบนนั้น
หยุดไปแล้ว คงกลัวยิงถูกพวกเดียวกันนั่นเอง
ผมขยับจะยิงปืนตอบโต้ไปแต่แล้วก็ล้มเลิกความคิด
หันหลังวิ่งตามฮิมุโระไปติด ๆ สถานการณ์ในตอนนี้
แสดงว่า ฝ่ายตรงข้ามยังไม่เห็นตัวของพวกเรา ได้
แต่อาศัยการยิงสุ่ม ถ้าผมยิงปืนตอบโต้ กลับจะเป็น
การบอกที่อยู่ของตัวเองให้พวกนั้นเสียอีก ทางเลือก
ที่ดีที่สุดของผมในตอนนี้คือ อาศัยความมืดกำบัง
ตัววิ่งหนีไปแบบนี้แหละครับ ที่เหลือ ก็คงต้องพึ่ง
โชคชะตาอย่างเดียวเสียแล้ว
เฮ้อ!
ผมกับฮิมุโระถอนหายใจออกมาพร้อมกันในทันทีที่
ก้าวเข้าไปในห้องพักของฝ่ายหญิงที่หอพักนักเรียน
นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ผมเปรยขึ้นมา
ฮึ ยังมาทำปากดีอีก ฉันไม่น่าไปกับคุณเลย หญิง
สาวยังคงบ่นกระปอดกระแปด
เอาน่า รอดมาได้ก็แล้วไปน่า ผมพยายามปลอบ
ตัวเปียกมะล่อกมะแล่กเป็นลูกหมาตกน้ำ
ยัง
ไม่เลิกบ่นแฮะ ตอนนี้บนเนื้อตัวของเราสองคน เอา
พวกพืชน้ำที่เกาะอยู่ตอนโดดลงไปในหนองออก
แล้ว แต่เนื้อตัวก็ยังคงชื้น ๆ อยู่ แม้จะเวลาจะผ่าน
มาพอสมควรโดยที่เราสองคน วิ่งมาตลอดทางแล้ว
ก็ตาม
เฮ้อ สรุปแล้วก็ได้เอกสารที่อ่านไม่รู้เรื่องมาปึก
เดียว ผมบ่นขึ้นบ้าง พลางดึงเอกสารออกมาจาก
ใต้เสื้อชั้นนอกอย่างระมัดระวัง กระดาษถูกน้ำและ
ยังเปียกหมาด ๆ อยู่ ผมส่งไปให้ฮิมุโระ
หญิงสาวยื่นมือมารับไป แกะ กระดาษออกวางผึ่ง
เรียงบนโต๊ะ และคงจะอ่านอย่างรวดเร็วไปด้วย ผม
สังเกตเห็นเธอแอบถอนหายใจยาวตอนที่อ่านจบ
แล้วเธอก็หันมาทางผม
คุณรอเดี๋ยวนะคะ ฉันขออาบน้ำก่อน แล้วเราค่อย
มาคุยกัน หรือถ้าคุณจะอาบน้ำด้วยก็รอฉันก่อนละ
กัน ประโยคท้ายสุดแสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อออกมา
เมื่อเธอคงนึกได้ว่า ผมก็อยู่ในสภาพไม่ต่างจากตัว
เองเท่าไรนัก
อาบด้วยกันไม่ได้เหยอ ผมแกล้งอ้อน
ไม่ได้ ให้ใช้ห้องน้ำก็บุญแล้ว ฮิมุโระตวาดแว้ดมา
ทำตาเขียวใส่ผม แต่แล้วก็ชะงักเพ่งมาที่ไหล่ซ้าย
ของผมเขม็ง
เอ๊ะ! หญิงสาวอุทาน พลางตรงรี่เข้ามาที่ผม ผม
พยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าหล่อน
เอื้อมมือมาจับต้นแขนซ้ายผมไว้แน่น มองไปที่ไหล่
แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองผม ด้วยสายตาตำหนิ
คุณถูกยิงนี่!
อ๋อ! นิดหน่อยน่ะครับ ไม่เป็นไรมากหรอก ผม
แกล้งตอบไม่อยากให้เธอเป็นห่วง ที่จริงผมรู้ตัวตั้ง
แต่ตอนถูกยิงแล้ว มันเป็นลูกฟลุคจากการยิงสุ่ม
ของฝ่ายองค์รักษ์สถานทูตที่ไล่ตามมาในสวน
สาธารณะ ตอนที่ถูกยิงแรก ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรนัก
หรอกครับ แต่มาตอนนี้ ผมเริ่มรู้สึกปวดแผลขึ้นมา
ตะหงิด ๆ ชำเลืองสายตาลงไปที่ไหล่ตัวเองก็พบว่า
มีเลือดซึมออกมาจ้ำใหญ่ทีเดียว
ไม่นิดหน่อยแล้วนะคะนี่! ตำรวจสาวตวาดแว้ด
เลือดออกใหญ่แล้ว ไม่รีบทำแผลดี ๆ เดี๋ยวเกิดติด
เชื้อขึ้นมาจะว่าไง
หญิงสาวฉุดแขนผมตรงไปที่โต๊ะทำงานในห้อง ดึง
เก้าอี้ออกมาแล้วก็ดันตัวผมให้นั่งลงบนเก้าอี้นั้น
พลางบอกให้ผมอยู่เฉย ๆ ตัวเองหมุนตัวไปค้นของ
อยู่กุกกัก พักหนึ่งก็กลับมาพร้อมกับอุปกรณ์และยา
ในการทำแผล
ผมปล่อยให้ฮิมุโระแกะกระดุมเสื้อผมและร่นเสื้อให้
พ้นไหล่ด้านที่บาดเจ็บของผมโดยดี จากนั้นเธอก็ลง
มือทำความสะอาดบาดแผลและใส่ยาอย่างคล่อง
แคล่ว
โดนเข้าตอนไหนล่ะ
ก็ตอนหนีมาไง
ฉันรู้ หญิงสาวหันมาทำตาดุใส่นิดหนึ่ง ฉันหมาย
ถึงตอนไหน ให้มันละเอียดหน่อย
ก็.. ในสวน
มือที่ทำแผลชะงัก ที่คุณวิ่งอยู่ข้างหลังฉันใช่
ไหม อย่าบอกนะว่าคุณตั้งใจวิ่งเพื่อกำบังให้ฉัน
ผมไม่ตอบ แต่แค่นยิ้ม ฮิมุโระถอนหายใจอย่าง
เอือมระอา แล้วพูดขึ้นว่า
คุณไม่น่าทำอย่างนั้นเลย นึกว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์
แมนเหรอ
แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอฮะ คุณไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
นี่
แต่คุณบาดเจ็บ ฝ่ายนั้นสวนมาทันที เงียบไปนิด
หนึ่งก่อนจะดุว่า คนบ้า! ทำอะไรไม่นึกถึงตัวเอง
เลย
อู้ย เจ็บครับ ผมร้องอุทธรณ์ขึ้นมา เพราะมือข้างที่
กำลังถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ของหญิงสาว บี้ลงบน
ปากแผลอย่างแรง
อ๊ะ! ขอโทษค่ะ ฮิมุโระตื่นจากภวังค์ รีบถอนมือ
กลับไป ผมสังเกตเห็นเธอเม้มปากแน่น ขณะที่ทำ
แผลให้ผมจนเสร็จ พร้อมพันผ้าพันแผลให้เรียบร้อย
ขอบคุณครับ คุณทำแผลเก่งจังเลย ผมรู้สึกเหมือน
หายดีแล้วเลยนะครับเนี่ย
เวอร์ไปย่ะ เวอร์!
หญิงสาวทิ้งบรรดายาและอุปกรณ์พยาบาลไว้บน
โต๊ะ หันไปคว้าเสื้อผ้าชุดใหม่และผ้าเช็ดตัว พลาง
บอกผม
ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวเต็มทีแล้ว
คุณรอสักครู่นะคะ
ผมก็อยากอาบเร็ว ๆ เหมือนกันนะฮะ อาบพร้อม
กันเลยไม่ได้เหรอ ผมอ้อนอีก
คราวนี้ หญิงสาวอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
ไม่ได้
น่านะ แผลผมโดนน้ำไม่ได้ด้วยสิ ช่วยผมด้วยนะ
ครับ ฮิมุโระคนดีคนดี๊ ผมใช้ลูกตื๊อ เนี่ยตอนนี้ก็
เท่ากับผมเหลือแขนข้างเดียวแล้ว โอ๊ย ชักเจ็บแผล
แฮะ โอ๊ย แผลนี้ได้มาแต่ไรหนอ
สุดท้ายแล้ว ฮิมุโระก็ยอมให้ผมเข้าไปอาบน้ำพร้อม
กันจนได้ โดยมีข้อแม้ว่า ต้องใช้ผ้าเช็ดตัวผูกปิดตา
ผมไว้ ซึ่งผมก็ยอมแต่โดยดี หญิงสาวจัดแจงสระผม
ให้ผมก่อน โดยที่ตัวเองยังไม่ยอมถอดเสื้อผ้าทั้ง
หมด แล้วก็หันหลังเข้าผนัง ให้ผมซึ่งยังไม่ต้องปิด
ตาจัดการอาบน้ำชำระร่างกายอย่างรวดเร็วโดยใช้
น้ำจากฝักบัว เสร็จแล้ว ผมก็ลงไปแช่น้ำร้อนในอ่าง
น้ำ หญิงสาวหันมาก็ขมวดคิ้วเป็นสัญญานให้ผม
ทำตามสัญญา ผมจึงยอมหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันปิด
ตาเสียโดยดี
เฮ้อ! ได้โอกาสเข้าห้องอาบน้ำสองต่อสองกับผู้หญิง
สาวสวยแท้ ๆ แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลย น่าเสีย
ดาย เอ๊ย! ไม่ใช่ เป้าหมายผมไม่ใช่อย่างนั้นสัก
หน่อย
ผมฟังเสียงดู รู้ว่าหญิงสาวกำลังนั่งบนเก้าอี้ตัวเตี้ย
ๆ ในห้อง และกำลังอาบน้ำจากผักบัวอยู่ แสดงว่า
ตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังอยู่ในชุดวันเกิดละสิ อยาก
แอบดูจังเลย-ชะเอ๊ย! ไม่ใช่- ทำไมผมชอบคิดไป
ทางนั้นเรื่อยเลยนะ เอาใหม่ ๆ
และกำลังอาบน้ำ
จากฝักบัวอยู่ ตลอดเวลานี้ เราสองคนต่างอยู่ใน
ความเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ถ้าเป็นตาม
ธรรมดาแล้ว ผมก็คงจะคิดว่า เพราะหญิงสาวเขิน
อายที่มีชายมาอยู่สองต่อสองในที่รโหฐานอย่างนี้
แถมยังล่อนจ้อนทั้งคู่ด้วยนั่นเอง แต่สำหรับใน
สถานการณ์นี้ ผมพอจะคาดการณ์ได้ว่าไม่ใช่เหตุ
ผลดังกล่าว ที่เธอเงียบไปนั้น เพราะกำลังอยู่ใน
สภาวะช็อคต่างหาก หืมห์ ช็อคเรื่องอะไรหรือครับ
ก็เรื่อง
ไง เดี๋ยวผมลองแย็ปดูละกัน
ผมรอจังหวะที่รู้สึกว่าฮิมุโระถือฝักบัวค้างไว้และรด
น้ำอยู่ที่เดียวโดยไม่เปลี่ยนที่ตั้งนานแล้ว (อยากเป็น
ฝักบัวจังเลย-เอ๊ย นอกเรื่องอีกแล้ว) ค่อย ๆ เลียบ
เคียงขึ้นว่า
หลับรึไง ฮิมุโระ
ไม่มีเสียงตอบ
ฮิมุโระ ผมเรียกอีก เอามือมาแตะที่ ผ้าปิดตา
พลางขู่ว่า ถ้าไม่ตอบจะเอาผ้าออกนะ
ลองเอาออกสิ! เสียงหญิงสาวดังเนือย ๆ มา
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วผมแอบเลิกผ้าขึ้นนิดหนึ่ง พอ
ให้เห็นสถานการณ์ในห้องน้ำ แล้วก็รีบดึงผ้าลงมา
ปิดตาตามเดิม
เป็นไปตามที่ผมคาด ตอนที่ผมแอบดู ฮิมุโระปิดน้ำ
จากฝักบัวแล้ว และเริ่มถูสบู่อย่างช้า ๆ ท่าทาง
ซังกะตาย สีหน้าก็ไม่ดีเลย นัยน์ตาก็เหม่อลอยเชียว
อ๊ะ ๆ สงสัยว่าผมแอบดูนานขนาดไหนเหรอครับ ก็
ไม่นานหรอกครับแค่แวบเดียวจริง ๆ ครับ แต่เพราะ
คุณสมบัติความเป็นนักสืบยังไงล่ะครับที่ทำให้ผม
เก็บรายละเอียดได้ขนาดนี้
เราสองคนเงียบไปอีกพักใหญ่ ผมตัดสินใจพูดขึ้น
ตรง ๆ ว่า
ช็อคมากสิท่า
ไม่ตอบแฮะ
เรื่องที่หลงผิดไปทำงานให้ไอ้พวกหน้าเนื้อใจเสือ
ตั้งนาน
ใช่ไหม ผมหมายถึง การที่เธอมีอุดม
การณ์ต้องการเป็นตำรวจเพื่อทำงานให้กับประเทศ
ชาติ ซึ่งในความเป็นจริง เธอได้เป็นเจ้าหน้าที่ใน
หน่วยตรวจสอบการทุจริตในสถานศึกษา แต่แล้ว
เหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เธอทราบว่า เบื้องหลังแล้ว
ประเทศนี้- หรือจะพูดให้ถูกก็คือ รัฐบาล ไม่ได้เป็น
อะไรอย่างที่เธอคิด ประเทศ-โดยการบริหารของรัฐ
บาล-แอบเอาเงินภาษีของประชาชน ทุ่มเทลงไปใน
โปรเจคลึกลับที่ร่วมมือกับเอลเดีย (หรือพูดให้ถูก
คือ ทางเอลเดียเป็นคนทำทั้งหมด โดยมีญี่ปุ่นเป็นผู้
สนับสนุนด้านเงินทุน) ทั้งนี้ โดยที่อย่าว่าแต่ประชา
ชนตาดำ ๆ ผู้เสียภาษีเลย แม้แต่เจ้าหน้าที่อย่างเธอ
ยังไม่รู้ระแคะระคายถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
ฉันอยากรู้จริง ๆ เลย ว่าพวกนายที่อยู่เหนือฉันขึ้น
ไปอีก จะรู้เรื่องพวกนี้ไหม หญิงสาวพูดมาเสียงเบา
แทบไม่ได้ยิน
คงต้องระดับบนจริง ๆ มั้งครับ
ฮึ ๆ เสียงของผู้ประสบความผิดหวังหัวเราะมาใน
ลำคอ
แต่จนแล้วจนรอด เราก็ยังไม่รู้เนื้อหาจริง ๆ ของ
โปรเจคซีอยู่ดีนี่ครับ ผมพยายามปลอบ แต่แล้วก็รู้
ตัวว่าพลาดไปถนัด
ก็แล้ว
ไอ้ที่เราเกือบตายกันมาวันนี้ล่ะ มันไม่ได้
เป็นสิ่งบ่งบอกหรอกเรอะ ว่าไอ้โปรเจคบ้านั่น ไม่ใช่
เรื่องดีอย่างแน่นอน ไม่อย่างงั้น เขาจะต้อง
พยายามปิดปากเราทำไม
หางเสียงตอนท้ายสั่น
เล็กน้อย พอที่จะให้ผมจับได้
ผมอึ้งไปไม่รู้จะปลอบใจเธออย่างไรดี นึกไปถึง
วันที่ผมเจอเธอครั้งแรก ก็ไม่นานหรอกครับ เมื่อ
วานซืนนี้เอง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจัง ๆ ในเหตุ
การณ์พบศพคุณสตรอลแมน โค จนกระทั่งตอนที่
บุกเข้าไปในสถานทูตเอลเดียด้วยกัน เจ้าพนักงาน
สาวผู้นี้ แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่า เป็นผู้ที่ยึด
มั่นในอุดมคติของตนเองอย่างเหนียวแน่น จริงจัง
กับงานและการรักษากฎหมายเป็นอย่างมาก (แม้
ว่าเรื่องหลังนี้ ตั้งแต่เจอผม เธอยอมผ่อนผันให้ผม
ในหลาย ๆ เรื่องมาแล้วก็ตาม) ยิ่งเธอเป็นคนดีมาก
เท่าไร เมื่อเจอกับเบื้องหลังซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับ
อุดมคติของเธอแบบนี้ เธอก็ยิ่งช็อคและสะเทือนใจ
หมดกำลังใจมากขึ้นเท่านั้น
พรุ่งนี้ฉันจะลาออก อยู่ ๆ เสียงอีกฝ่ายก็โพล่งออก
มา ทำเอาผมตกใจ
อะไรนะ
ฉันบอกว่าฉันจะไปลาออก
ไม่เสียดายรึ กว่าจะเป็นตำรวจได้ยากนา เห็นเขา
ว่าลำบากมากไม่ใช่เหรอ
ก็
มันไม่มีค่า ไม่มีศักดิ์ศรีอะไรที่พอจะจูงใจให้
ฉันทำงานนี้แล้วนี่ หญิงสาวตอบ พอกันที กับชีวิต
ที่ต้องคอยรับคำสั่งเขามาแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ฉัน
จะหางานอิสระทำบ้าง
งานที่ไหนเหรอฮะ
ก็
คุณไง ฮิมุโระตอบมาหน้าตาเฉย (เดาเอาน่ะ
เพราะผมปิดตาอยู่) รับฉันเป็นผู้ช่วยสักคนไหม
จะบ้าเหรอ ผมแกล้งตอบ แต่ในใจก็นึกดีใจที่หัน
เหหัวเรื่องจากเรื่องอึมครึมมาได้ คุณก็เห็นอยู่ว่า
ผมไส้แห้งขนาดไหน
ไม่เป็นไร ขอให้มีจ่ายก็ละกัน ว่าไงคะ
ผมเลื่อนมือไปร่นผ้าผูกตาขึ้นไปอีก เพื่อจะขอดูสี
หน้าของหญิงสาวสักหน่อยว่าพูดจริงแค่ไหน แล้วก็
พบว่า เจ้าหล่อนกำลังจ้องมาเขม็ง สีหน้าเอาจริง
เอาจัง ผมทำท่าสะดุ้งขยับจะดึงผ้าลงมาปิดตา
เหมือนเดิม
พอเหอะคุณ เอาผ้าออกเถอะ ฉันรำคาญแทน
อ้าว ไม่กลัวผมดูคุณโป๊เรอะ ผมแกล้งถาม ทั้งที่
ในใจกำลังกระโดดโลดเต้นสุดขีด เอ๊ย! ไม่ใช่ เอ๊ะ!
หรือใช่หว่า??? ชักไม่แน่ใจตัวเองเสียแล้ว
แอบดูไปตั้งหลายทีแล้ว มาพูดมากอีก
พอได้ไฟเขียวผมก็ดึงเจ้าผ้าเช็ดตัวนั่นออกทันที
เป็นจังหวะเดียวกับที่ฮิมุโระคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่
มาพันตัวไว้ อ้าว! แล้วกัน แต่เอ๊ะ ๆ เธอเดินมาทาง
ผมทำไม
ขยับหน่อยสิ ฉันจะแช่น้ำร้อนบ้าง
ผมขยับตัวไปชิดขอบอ่างด้านหนึ่งให้ หญิงสาวเดิน
ก้าวข้ามขอบอ่างลงมาในอ่าง แล้วค่อย ๆ ทรุดตัว
ลงแช่ในน้ำร้อน ขาของเราสองคนสัมผัสกันใต้น้ำ
เพราะอ่างอาบน้ำในห้องพักนักเรียนนี้ใช่ว่าจะกว้าง
ใหญ่นัก
เราสองคนเงียบกันไปอีก ฮิมุโระแก้มเป็นสี
ชมพูเรื่อ ๆ เพราะไอร้อนจากน้ำ และอาจจะเพราะ
สาเหตุอื่นอีกก็ได้ ส่วนผมเอง ท่าทางจะหน้าแดง
เพราะ
แช่น้ำร้อนมาตั้งนานแล้วครับ
พอตัดใจได้ ว่าฉันจะเลิกงานนี้แล้ว นึก ๆ ไปไอ้สิ่ง
ที่ฉันทำมามันก็น่าสังเวชสิ้นดีเลยนะคะ หญิงสาว
เปรยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ผมซึ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าร้อนผ่าวด้วยพิษความ
ร้อน ก็เลยต้องนั่งนิ่งฟังหญิงสาวรำพันต่อไป
ทั้งชีวิต มีแต่งาน ๆ ๆ และงาน เพื่อที่จะมารู้ภาย
หลังว่า ไอ้ที่ทำไปน่ะ ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
เสมอไป
ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในสมองผมทันที
สงสัยบรรยากาศมันให้แฮะ เลยทำให้สมองแล่นเร็ว
ผิดปกติ ทั้งที่ตามธรรมดาแล้ว ผมยอมรับว่าค่อน
ข้าง ซื่อบื้อ ในเรื่องพวกนี้
พูดบ่นว่าทำแต่งาน แสดงว่า กำลังเสียดายชีวิตวัย
รุ่นละสิ คำว่า ชีวิตวัยรุ่น ในสังคมญี่ปุ่นเรา หมาย
ถึง ความรักในวัยแรกรุ่นนั่นเอง
อืมห์ ก็ใช่นะสิ หญิงสาวยอมรับแต่โดยดี ทำตา
ลอย ไม่รู้นึกถึงอดีตแต่ปางไหน คุณรู้ไหม ผู้ชายกี่
คนต่อกี่คนที่มาติดพันฉัน แต่ฉันก็ไล่ตะเพิดไปหมด
เลย เพราะกลัวเสียงาน หรือตอนที่ยังเป็นนักเรียน
ตำรวจอยู่ก็คือ กลัวว่าจะเรียนไม่จบน่ะ
ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก คิดในใจว่าเห็นด้วยอย่าง
ยิ่ง นึกถึงสภาพตอนที่ผมพบกับฮิมุโระในคราบนัก
เรียนหญิงใหม่ ๆ แล้ว ใครเจอเจ้าหล่อนตะเพิดแล้ว
ไม่หนีก็คงจะต้องเจอดีละครับ
อึ๊บ โทษนะครับ ผมบอกหญิงสาวให้รู้ตัวก่อน ที่
จะลุกขึ้นยืน ก้าวข้ามขอบอ่างออกไปแต่แล้วกลับ
ทรุดตัวนั่งลงบนขอบอ่างนั้นเอง ฮิมุโระซึ่งเบือนหน้า
ไปทางผนังห้องขณะที่ผมลุกออกมา หันหน้ากลับ
มาแล้วทำตาโตเป็นเชิงถาม
โทษที ผมเอานี้วชี้ชี้มาที่ขมับตัวเอง แล้วควงหมุน
ข้อมือสองสามรอบ บอกให้เธอรู้ว่า ผมกำลังเจอ
อาการเลือดคั่งบนใบหน้า เพราะการแช่น้ำร้อนนาน
เกินไป เสียงหญิงสาวทำเสียงคิก หัวเราะในลำคอ
อย่างน่ารัก
แสดงว่า ฮิมุโระยังไม่มีแฟนล่ะสิ
หญิงสาวชะงักกึก เงยหน้าขึ้นมองผม
แก้มแดงขึ้นอีก ไม่มี
ถ้างั้น โกรธรึเปล่าฮะ ที่ผมจูบคุณไปวันนี้น่ะ
ฮิมุโระอึ้งไป ผมสังเกตเห็นตาหล่อนเป็น
ประกาย ก่อนที่ริมฝีปากงามคู่นั้นจะเอ่ยขึ้นว่า
โกรธตรงที่ว่า มันเป็นเฟิร์สท์คิสของฉันก็จริง แต่
ช่างไม่ประทับใจเลย เพราะหลังจากนั้น เจ้าหล่อน
ก็ถูกผม จับโยน ลงจากตึกสี่ชั้นไปยังหนองน้ำที่
เต็มไปด้วยวัชพืชนั่นเอง
ฮะ ๆ ๆ ผมหัวเราะเบา ๆ โทษทีครับ บรรยากาศ
ตอนนั้นมันขาดความโรแมนซ์ไปหน่อย ให้ผมแก้ตัว
ได้ไหมครับ
ก็เอาสิคะ เป็นคำตอบที่ผมไม่คาดฝันว่าจะได้รับ
เราสองคนมองตากันอึดใจหนึ่ง ซึ่งเราต่างรู้สึกว่า
มันนานเหมือนชั่วชีวิตเลยทีเดียว ก่อนที่ผมจะก้ม
ตัวลงไปใช้มือโอบหลังเธอรั้งเข้ามาหาผม ริมฝีปาก
ของเราสองคนประกบกันอย่างแผ่วเบาก่อนในที
แรก ก่อนที่จะเพิ่มความหนักแน่นขึ้นตามลำดับ ฮิมุ
โระหลับตาพริ้ม เนื้อตัวอ่อนระทวยเหมือนครั้งแรก
ที่ผมจุมพิตหล่อนไม่มีผิด ผมออกแรงรั้งตัวหล่อนให้
ขึ้นจากน้ำมานั่งบนขอบอ่างเหมือนผม โดยที่เรา
สองคนยังคงประกบริมฝีปากกันอยู่
ได้เรื่องแล้วสิ มันไม่หยุดแค่จุมพิตนะสิครับ
(เซ็นเซอร์จ้า จินตนาการกันเอาเองนะครับ)
back index next