EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 19xx
(กลางคืน)
หญิงสูงศักดิ์จากเอลเดีย
ผมตั้งสติได้จึงถามกลับไปว่า
"เธอ-อ้า... คุณเป็นใคร? แล้ว..พรินหายไปไหน?"
"พรินไม่ได้หายไปไหนหรอก เราคือพริน แต่พรินไม่
ใช่เรา!"
"เอ๊ะ! หมายความว่ายังไงกันครับนี่" คำตอบของเธอ
ผู้นี้ไม่ได้ให้ความกระจ่างแก่ผมเลย
"หึหึ" หญิงสาวตรงหน้ายิ้ม "เราขอขอบพระคุณท่าน
ที่ดูแลพรินเป็นอย่างดี และขอขอบคุณท่านด้วย ที่
ช่วยให้เราได้มีโอกาสออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
หนึ่ง"
"อะ... เอ่อ..." ผมพูดติดอ่างไปเสียแล้ว จนต้องสูด
ลมหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่งจึงคุมสติอยู่ "ตกลงคุณ
เป็นใครกันแน่ครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับพริน"
"หึ" หญิงสาวลึกลับยิ้มอีก แต่นัยน์ตาทอแววเศร้า
เล็กน้อย "ชักจะอิจฉาพรินเสียแล้วสิ... ขอแนะนำ
ตัวก่อนก็แล้วกันนะคะ เราคือเจ้าหญิงพริเชียแห่ง
ราชวงศ์เอลเดีย มีศักดิ์เป็นหลานลุงของกษัตริย์เอล
เดียองค์ก่อน และขณะนี้ เราเป็นผู้มีสิทธิ์ในราช
บัลลังก์แห่งเอลเดียโดยชอบธรรม!!!"
"!!!" ผมยืนตกตะลึงอยู่กับที่ ถ้าเป็นสถานการณ์
ปกติ มีใครมาแนะนำตัวกับผมอย่างนี้ มีหวังผม
หัวเราะจนฟันหลุดแน่ แต่บรรยากาศรอบ ๆ เราสอง
คนในตอนนี้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าเธอพูดความ
จริง
"พริน เป็นอีกภาคหนึ่งของเรา สตรอลแมน-เอ่อ เรา
หมายถึงสตรอลแมนโค ได้ให้ยาชนิดหนึ่งแก่เรา ซึ่ง
จะมีฤทธิ์เหมือนสะกดจิต ทำให้เราอยู่ในสภาพของ
พริน เมื่อได้ยินคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการคลายมนต์สะกด
ซึ่งท่านอ่านให้ฟังเมื่อสักครู่นี้ จึงทำให้เราสามารถ
กลับเป็นพริเชียได้ดังเดิม"
"หมายความว่า บทกลอนเมื่อกี้นี่คือ..." ผมเริ่ม
ปะติดปะต่อได้
"ใช่แล้ว รหัสที่ใช้ในการถอนอำนาจสะกดนั่นเอง ที่
จริงมันเป็นบทกลอนที่มีชื่อเสียงมากในเอลเดีย
และเป็นบผลงานของกวีที่เราชื่นชอบมากตั้งแต่
สมัยเด็ก"
"แต่..." ผมขยับจะถามว่าทำไมตอนที่ส่งกระดาษให้
ดูที่หน้าออฟฟิศผมนั้นจึงไม่มีผล แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า
จะต้องให้คนอื่นอ่านออกเสียงให้ฟังเท่านั้นมั้งจึงจะ
มีผล ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนคำถามเสียใหม่ "อ้า... แล้ว
ทำไมเจ้าหญิงจะต้องปลอมตัวเป็นนางกำนัลล่ะ
ครับ ในเมื่อมีฐานะเป็นถึงว่าที่กษัตริย์-ไม่สิ ว่าที่
ราชินีองค์ใหม่แห่งเอลเดีย"
"ก็เพราะมีผู้ที่ไม่ต้องการให้เราขึ้นครองราชย์นะสิ
พวกนั้นได้วางแผนที่จะลอบสังหารเรา แต่สตรอล
แมน โคได้ช่วยให้เราหนีออกจากประเทศเอลเดีย
มาได้เสียก่อน โดยก่อนที่จะให้เราหลบหนีออกมา
เขาได้ใช้ยาสะกดจิตเราไว้ เพื่อไม่ให้เราแสดงตัว
ก่อนเวลาอันสมควร"
"อ้าว แล้วอยู่ในสภาพของพรินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะ
ไรเลย จะมิยิ่งอันตรายกว่าหรือครับ" ผมสงสัย
เพราะจากที่ได้คลุกคลีกับพรินมาสองสามวันทำให้
ผมแน่ใจว่าพรินไม่ทราบเรื่องราวเบื้องหลังละเอียด
อย่างที่เจ้าหญิงพริเชียกำลังเล่าอยู่นี้แน่
"ไม่หรอกค่ะ โคะจิโร่ มันมีเหตุผลอยู่" หญิงผู้สูงศักดิ์
ตอบ "อย่างเหตุการณ์ที่ผ่านมาสองวันนี้ ก็คงเป็น
เครื่องยืนยันได้"
"พวกสถานทูตใช่ไหมครับ" ผมเสริมให้ แล้วก็นึกได้
"เอ๊ะ หมายความว่า พวกสถานทูตเป็นพวกศัตรูของ
คุณอย่างนั้นหรือครับ"
"ใช่แล้ว" ราชนิกูลแห่งเอลเดียผงกศีรษะ "หรือพูดให้
ถูกก็คือ พวกของอดีตกรมข่าวกรองเอลเดียที่นำ
โดยนายมิโดนั่นเอง พวกนี้กำลังต้องการชูคนอีกคน
หนึ่งขึ้นมาอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์เอลเดียแทนเรา"
"ใครหรือครับ" ผมซักไซร้ต่อ
"คนทั่วไปรู้จักคนผู้นั้น ในชื่อว่า มิโด มะยะโกะ มี
ฐานะเป็นบุตรสาวของนายมิโด อดีตหัวหน้ากรม
ข่าวกรองเอลเดีย!"
"???" ผมงง รู้สึกสะดุดใจกับสำนวนแปลก ๆ ในคำ
บอกเล่าของหญิงสูงศักดิ์ผู้นี้ "แต่... ฐานะตอนนี้
ของเด็กคนนั้นก็แค่ลูกสาวของทูตเอลเดียประจำ
ญี่ปุ่นเท่านั้นเองนี่ครับ"
"พวกนั้นมีหลักฐานยืนยันได้ค่ะ ว่ามิโด มะยะโกะ
เป็นพระธิดาของเสด็จลุงที่เกิดกับนางสนมคนหนึ่ง
ที่หนีออกจากวังและไปอยู่ในความดูแลของนายมิ
โด!"
"!!!" ผมเริ่มหัวหมุน (ที่จริงหัวหมุนมาตั้งนานแล้วล่ะ
ครับ) แต่แล้วก็นึกถึงเรื่องสำคัญสำหรับผมขึ้นได้อีก
หนึ่งเรื่องจึงรีบถามทันที "เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ที่ว่าเข้าไป
ในสถานทูตโดยไม่เป็นอันตรายน่ะ เจ้าหญิงเข้าไป
ในฐานะพรินใช่ไหมครับ แล้วทำไมรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ด้วยล่ะ"
"ก็เพราะความทรงจำของพริน ยังคงเหลืออยู่กับตัว
ของเรานะสิ"
"อืมห์... แต่ในขณะที่เป็น 'พริน' นั้น ไม่มีความทรง
จำของ 'เจ้าหญิงพริเชีย' อยู่เลยใช่ไหม อย่างนี้นี่เอง
ที่คุณบอกว่า คุณคือพริน แต่พรินไม่ใช่คุณ" ผมพูด
เองเออเอง เพื่อถ่วงเวลาให้สมองหมุนเต็มสตีม แต่
ปากก็ไม่วายเซ้าซี้ (นิสัยที่แก้ไม่หายของผมนะเนี่ย)
ว่า "จริงเหรอครับที่ว่าความทรงจำในฐานะพริน
เหลืออยู่กับตัวเจ้าหญิงพริเชียคนนี้ด้วย"
"ใช่"
ทุกเรื่องเลยหรือครับ
ใช่ค่ะ
"เรื่องที่ผมใช้พรินเป็นแม่บ้านด้วยนะ?"
"ค่ะ"
"เรื่องที่ทำกับข้าวให้ผมด้วย?"
"ค่ะ"
"เรื่องที่ผมทะเล่อทะล่าเข้าไปตอนพรินกำลังอาบน้ำ
อยู่...ก็ด้วยเหรอ???"
"..." คราวนี้เงียบ ไม่มีคำตอบจากปากสาวสูงศักดิ์ผู้
นี้ แต่ แก้มนวลเปล่งปลั่งที่เริ่มกลายเป็นสีแดงระ
เรื่อบอกถึงคำตอบได้เป็นอย่างดี
ผมแอบถอนหายใจอยู่ในใจ ถ้าผมอ่านความรู้สึก
ของบุคคลที่อยู่เบื้องหน้าผมไม่ผิด และผมเชื่อว่า
ผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองด้วย เธอผู้นี้ มีใจให้ผมใน
ทางนั้นอยู่ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว แต่
สำหรับ
กรณีของพริน-ไม่สิของเจ้าหญิงพริเซียองค์นี้แล้ว
ผมสาบานให้ก็ได้เลยครับว่า ผมไม่ได้มีใจคิดเป็น
อื่นเลย นอกจากความหวังดี ความห่วงใย ความ
เอื้ออาทรและอาจจะรวมความเอ็นดูที่ผมเคยให้กับ
เด็กสาวที่ชื่อพรินเท่านั้น และตอนนี้ความรู้สึกเหล่า
นั้นก็เผื่อแผ่มาถึง ตัวจริง ของพรินคนนี้ด้วย ผมแน่
ใจในความรู้สึกของตัวเองอย่างนี้นะครับ
เอาล่ะ
ผมหมุนตัว เอามือไขว้หลังเดินเป็นหนู
ติดจั่น ก้มหน้ามองพื้นปูพรมหรูในห้อง แล้วทำลาย
ความเงียบขึ้น หลังจากที่เราสองคนอยู่ในภวังค์มา
ครู่หนึ่งจากคำถามแส่หาเรื่องของผมเองเมื่อกี้นี้
แล้วเจ้าหญิงจะทำยังไงต่อไปครับ
จบคำถาม ผมหันไปมองหน้าของเจ้าหญิงแห่งเอล
เดียอีกครั้ง ฝ่ายนั้นตอบมาในเกือบจะทันที แสดง
ว่าเตรียมคำตอบไว้แล้ว
เราจะไปแสดงตัวกับสถานทูต
!!! เมื่อเห็นผมเลิกคิ้วอย่างสงสัย เธอจึงเฉลยต่อ
ว่า
โดยจะต้องมีเจ้าของบ้าน คือ คนญี่ปุ่นร่วมอยู่ด้วย
เรามั่นใจว่า นายมิโดจะต้องตกกระไดพลอยโจน ไม่
สามารถทำอะไรเราได้แน่ ในประเทศนี้
อืมห์ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั้งครับ ผมเอ่ยช้า ๆ
อย่างใช้ความคิด แล้วผมก็เห็นด้วยกับเธอ อืมห์
ฉลาดล้ำลึกไม่เบาทีเดียวครับ เจ้าหญิงองค์นี้
แต่เรื่องสำคัญคือ คืนวันพรุ่งนี้จะมีพิธีเปิดตัวรัช
ทายาทแห่งราชบัลลังค์เอลเดีย พร้อมกับพิธีสวม
มงกุฎขึ้นครองราชสมบัติ นายมิโด เมื่อไม่สามารถ
กำจัดเราได้ก่อนถึงวันพรุ่งนี้ ก็ย่อมต้องปล่อยเลย
ตามเลยแน่ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะไปตัดสินกันอีกที
ในพิธีนั้น เพราะ
เจ้าหญิงพริเซียถอนหายใจเล็กน้อย แล้วจึงพูดต่อ
ว่า
ของสำคัญที่เราควรจะได้รับจากสตรอลแมน โค
แต่เรากลับไม่ได้ ถ้าของสำคัญนั้น ไปตกอยู่ในมือ
ฝ่ายตรงข้าม สถานการณ์ในงานพิธีคืนพรุ่งนี้ก็จะ
พลิกผันไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวค่ะ
ของสำคัญที่ พริน ต้องไปรับจากคุณโค
มันคือ
อะไรครับ
ตราแผ่นดินค่ะ! เจ้าของดวงตาคู่งามประหลาดคู่
นั้นตอบ สำหรับพวกท่านอาจเห็นว่าเป็นเรื่องไร้
สาระที่จะตัดสินสิทธิในการขึ้นครองราชย์จากการ
ครอบครองตราแผ่นดินอันเล็ก ๆ อันเดียวในมือ แต่
นี่คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ สำหรับประเทศเอล
เดียเราค่ะ
อืมห์ ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่านั้น
หญิงผู้สูงศักดิ์มองด้วยผมสายตาวิงวอน แล้วเอ่ย
ขึ้นว่า แต่ช่างเถอะค่ะ ปัญหาตอนนี้คือ เราต้องไป
แสดงตัวกับสถานทูตเอลเดียก่อน
โคะจิโร่ ท่าน
ไปกับเราได้ไหม?
ผมสบตาเธอกลับ แน่นอนครับ ความหมาย
ของเธอก็คือ ขอให้ผมเป็นผู้คุ้มครองและ เตรียม
การณ์ ให้พร้อมก่อนที่เราจะไปปรากฏตัวที่สถาน
ทูตนั่นเอง เอ๊ะ เตรียมการณ์อะไรหรือครับ ก็แจ้งกับ
ตัวแทนทางราชการของญี่ปุ่น และแจ้งกับสื่อมวล
ชนไงล่ะครับ เพื่อเป็นการมัดมือชก ไม่ให้พวกนายมิ
โดทำอะไรเราได้
เมื่อเห็นผมนิ่งไป ไม่ตอบในทันที เจ้าหญิงพริเซียก็มี
สีหน้าหมองไปเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างทำใจว่า
ถ้าท่านไม่ยินดีก็ไม่ต้องค่ะ เพราะเราทราบว่างาน
นี้มันอันตรายมาก และไม่มีหลักประกันความ
ปลอดภัยอะไรให้กับท่านได้เลย ที่สำคัญที่สุด ท่าน
เป็นคนญี่ปุ่นซึ่งไม่มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น
เราขอโทษที่ขอร้องท่านในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
พูดจบก็ก้มศีรษะมาทางผมเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ
ผมรีบคว้าแขนเธอไว้ เจ้าหญิงเงยหน้าขึ้นมามอง
ผมอย่างสงสัย
ราชบัลลังค์เอลเดียจำเป็นต่อเจ้าหญิงเพียงใดครับ
คือถ้าเจ้าหญิงได้เป็นประมุขของประเทศเอลเดีย
ต่อไปแล้ว เจ้าหญิงจะทำอะไรบ้างครับ
เราจะเป็นประมุขคนสุดท้ายที่อยู่ในระบอบ
กษัตริย์! เจ้าหญิงพริเซียตอบมาทันที เราจะล้ม
เลิกระบอบกษัตริย์นี้ทันที เมื่อเราได้ปูพื้นฐานการ
ศึกษาให้กับประชาชนพร้อมแล้ว นี่เป็นจุดมุ่งหมาย
ใหญ่และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราต้องอาศัย
อำนาจแห่งราชบัลลังค์เอลเดียมาเป็นเครื่องมือ
โอ้โฮ พูดดีนี่ครับ
อ้า ขอโทษครับ ผมพูดจาก
ความรู้สึกจริง ๆ ไม่ได้พูดประชด ผมหมายความ
อย่างที่ผมพูด แต่ เท่าที่ผมทราบมา นายมิโดซึ่ง
เป็นพวกของนายกลอยด์ ก็เป็นพวกหัวก้าวหน้า
ต้องการพาประเทศให้พัฒนาโดยไม่อาศัยระบอบ
กษัตริย์เหมือนกันไม่ใช่หรือครับ ทำไมเจ้าหญิงไม่
ปล่อยพวกเขาไปละครับ ในเมื่อ
ผมกำลังจะพูดว่า ในเมื่อจุดมุ่งหมายเหมือนกัน แต่
หญิงสาวตรงหน้าผมขัดขึ้นทันควันว่า
ไม่ค่ะ พวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้นจริง เจ้าหญิงสั่น
ศีรษะจนผมสีทองสลวยกระจายพริ้ว อย่างน้อยที่
สุด พวกเขาก็มีผลพวงของโปรเจคลับที่ชื่อว่า นีโอซี
รีบรัมอยู่ในมือ แต่เรา
เราต้องการขัดขวางและ
ยุติโปรเจคเลวร้ายนั้นด้วย!!!
โปรเจคซีนะหรือ?!!! ผมอุทาน เป็นผลให้ดวงตาสี
ฟ้าและสีทองจ้องผมเขม็ง
ท่าน
ท่านทราบเรื่องนี้ได้ยังไง
ก็ไม่ทราบละเอียดหรอกครับ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้สัก
ทีว่า เนื้อหาของโปรเจคซีคืออะไรกันแน่ ผมตอบ
เจ้าหญิงผู้เลอโฉมมองผมอย่างชั่งใจอีกครั้ง ก่อนที่
จะพูดขึ้นในอีกเรื่อง ซึ่งผมมาคิดในตอนหลังแล้ว ก็
เข้าใจได้ว่า เธอต้องการเบนหัวเรื่องไปจากเรื่องโปร
เจคซี ไม่ให้ผมซักไซร้เธอต่อนั่นเอง แต่ในตอนนั้น
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าถูกหันเหความสนใจ
อีกเรื่องนึงที่เราอยากจะให้ท่านรับทราบไว้
พริน
เป็นบุคคลที่เคยมีตัวตนจริง ๆ ค่ะ หยุดไปนิดหนึ่ง
เมื่อเห็นผมมองเธออย่างสนใจ พรินเป็นนางกำนัล
ในวังเอลเดียจริง ๆ และเป็นเพื่อนเล่นของเราตั้งแต่
สมัยเด็ก ๆ แต่เมื่อสี่ปีก่อน เธอถูก
(ถอนหายใจ
นิดหนึ่ง) ถูกเสด็จลุงของเราทำทารุณกรรมจน
ตาย!
!!!
นี่เป็นสาเหตุที่เราเลือกพริน เป็นต้นแบบของอีก
ภาคหนึ่งของเรา เข้าใจไหมโคะจิโร่ เจ้าหญิงสรุป
สั้น ๆ เพียงนั้น แต่เมื่อผมคิดตามเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่า
ความหมายลึกซึ้งที่แฝงอยู่คืออะไร
ตกลงครับ ผมตกลงใจทันที กระหม่อม ขออาสา
ทำหน้าที่อัศวินพิทักษ์องค์หญิงเองพะยะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เจ้าหญิงพริเซียดีใจอย่างเห็นได้ชัด
แต่แล้วก็ทำสีหน้าจริงจัง พูดต่อไปว่า แต่เรามีอีก
เรื่องหนึ่งอยากจะขอร้องท่าน ช่วยปฏิบัติต่อเรา
เหมือนกับที่ทำกับพรินได้ไหมค่ะ แม้ว่า เราจะไม่
สามารถทำตัวเลียนแบบพรินได้ก็ตาม
ทำไมล่ะครับ
เราไม่ต้องการลืมพรินค่ะ และท่านก็คงจะคิดเช่น
กัน ตอนนี้ ในเมื่อเรากลับมาเป็นเจ้าหญิงพริเซีย
แล้ว พรินก็คงจะหลับไหลอยู่ในตัวเราไปตลอดกาล
ไม่มีโอกาสออกมาอีก
ผมขยับปากจะแย้งว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่
แล้วก็เปลี่ยนใจ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด
อีก และถ้าคิดกันดี ๆ ผมสนิทกับ พริน มากกว่า
องค์หญิงพริเซีย! การเรียกสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้เป็นพริน
ย่อมทำให้ผมคุยและปฏิบัติกับเธอได้สะดวกใจมาก
กว่า
โอเค ถ้างั้นเราไปเลยไป ยัยพริน
ค่ะ
back index next