EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

ข่าวของคะทสึระงิ เก็นซะบุโร่


กว่าจะออกจากบ้านคุณโค ก็กินเวลาพอควร โดย
ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้นเท่าไรนอกจากข้อความ "
เดินให้ไกลขึ้นไปอีก" ยอมรับครับ ว่ามืดมนจริง ๆ
ขนาดผมคิดว่าผมเดินมาถูกทางแล้วนะครับเนี่ย
แล้วทางยะโยย ซึ่งนำโดยเจ้านิไคโดล่ะ ทางนั้นจะ
เป็นอย่างไรบ้างหนอ ผมอดไม่ได้ที่จะหันทิศทาง
เดินไปยังเซ็นทรัลอะเวนนู
...
"มีใครอยู่...ไหม" พูดยังไม่ทันจบประโยค ก็สังเกต
เห็นว่า ทั่วทั้งสำนักงานเงียบเชียบ คนคงกลับกัน
หมดแล้วกระมัง
'ไม่มีใครอยู่แฮะ แต่ทำไมประตูไม่ล็อคไว้หว่า' ผม
ขยับตัวจะกลับ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงกุกกักจากด้าน
ใน ซึ่งเป็นห้องของผู้อำนวยการ
'ยะโยยยังอยู่อีกเหรอ ดึกแล้วนะเนี่ย'
ผมเดินเข้าไปทางนั้นทันที เคาะประตู
"ใครน่ะ" เสียงยะโยยจริง ๆ ด้วย
"เอาพิซซ่ามาส่งคร้าบ" ผมทำเสียงทะเล้นตอบ
"โคะจิโร่เหรอ? เข้ามาก่อนสิ" ไม่รับมุขกันเลยแฮะ
(^^; แต่เธอก็จำเสียงผมได้ทันที
"สวัสดี ดึกแล้วนะ ยังไม่กลับอีกเหรอ" ผมทักขึ้น สิ่ง
แรกที่ผมเห็นในห้องของยะโยยก็คือ โต๊ะทำงานที่มี
เอกสารสุมอยู่ท่วมหัวเจ้าของห้อง
"ฮึ ยังหรอก งานยุ่งจะตาย" ยะโยยส่ายหน้า "ฉัน
เป็นผอ. แล้วนะ จะทำงานสบาย ๆ ได้ยังไง ต้องรับ
ผิดชอบคนทั้งสำนักงาน"
"ระวังสุขภาพนา"
"ยังเป็นห่วงฉันอีกเหรอ ฮึ" ยะโยยทำหน้าเครียด "
แกคนหนึ่งที่จากฉัน ไป แล้วก็ยังป๊ะป๋าอีก"
"คุณลุงนะเหรอ ก็แค่ติดคุกอยู่เท่านั้นเองนี่ อีกไม่
นานก็ออกมาแล้ว" ผมพูดไม่เต็มเสียงนัก
"นี่แกจะมาเยาะเย้ยฉัน หรือว่าแกไม่รู้กันแน่ หา!
โคะจิโร่" ยะโยยขึ้นเสียงดัง "ป๊ะป๋าเสียไปแล้ว เมื่อ
วันก่อน"
"อะไรน่ะ!" ผมตกใจ ไม่รู้มาก่อนเลยจริง ๆ "คุณลุง
ท่าน... สะ..เสียไปแล้วเหรอ"
"ฮึ! ดูจากท่าทางของแกแล้วท่าจะไม่รู้จริง ๆ นะ" ยะ
โยยยิ้มเครียด ๆ "เรือนจำเกิดไฟไหม้น่ะ ป๊ะป๋าถูกไฟ
คลอกตาย พร้อมกับนักโทษคนอื่นอีกหลายคนเลย
แหละ"
"ฉันเสียใจด้วย" ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่านั้น
"ไม่ต้องหรอก นี่ฉันเองก็งานยุ่งมาก จนไม่มีเวลาจะ
มาเสียใจเลย … งานศพของป๊ะป๋าก็ยังไม่ได้
กำหนดว่าจะจัดการเมื่อไหร่เลย กะว่า ถ้างานใหญ่
ๆ ที่รับมาตอนนี้เคลียร์ให้คนจ้างเขาเสร็จแล้ว ก็จะ
จัดงานศพให้ป๊ะป๋า"
"อย่าลืมเรียกฉันด้วยนะ แล้วเอ่อ ... มีอะไรจะให้
ช่วยก็บอกนะ ไม่ต้องเกรงใจ ... ยะโยย"
"ฮึ! ทีงี้มาทำใจดี พ่อคนผดุงความยุติธรรม" ยะโย
ยกระแทกกระทั้นเข้าให้ "แกทำงานของแกไปเถอะ
นี่ฉันก็จะทำงานของฉันเหมือนกัน งานเพียบเลย
เห็นไหม"
โดนไล่ซะแล้ว
"ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบายจ้ะ" ผมกลับแต่โดยดี
"ระวังสุขภาพด้วยล่ะ"
"อื้อ" ยะโยยตอบ ก้มหน้าลงมองเอกสาร แล้วพูดต่อ
โดยไม่หันมามอง ขณะที่ผมกำลังเปิดประตูห้อง "
แล้วถ้าแกว่าง ... แวะมาหากันบ้างก็ได้"
...
กลับมาที่โกดังสำนักงานของตัวเอง แล้วผมก็นั่งซึม
ไป ลุงคะทสึระงิตายแล้ว เจ้าหมอนั่นน่ะนะตาย
แล้ว ผมไม่อยากเชื่อเลย คนอย่างคะทสึระงิ เกนซะ
บุโร่ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ จะมาตายเพราะไฟ
ไหม้เรือนจำนี่นะ เอ! คุ้น ๆ อยู่แฮะอ้อ นึกออกแล้ว
อะคะเนะพูดไว้เมื่อตอนเย็นนี่นา ว่าไฟไหม้เรือนจำ
ยะโยยดูผอมไปเยอะเลยจากเมื่อสามเดือนก่อน คง
กรำงานหนัก ซึ่งก็ใช่ ทั้งบริษัทมีนักสืบที่มีฝีมือคลี่
คลายคดีใหญ่ ๆ ได้เพียงตัวเธอคนเดียว เจ้านิไคโด
ซึ่งเป็นคนที่เก่งที่สุดของบริษัทก็ยังไม่ถึงขั้น แล้ว
งานอื่น ๆ อีกล่ะ ไม่ว่าจะพวกงานธุรการ ติดต่อลูก
ค้า การเงินก็ต่างจะต้องไปจมอยู่ที่ยะโยยใน
ฐานะผอ. สำนักงานหมด จะไม่ให้ผอมได้ไงไหว
เธอบอกว่า งานหนักและมากจนไม่มีเวลาจะมา
เศร้าเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมื่อสามเดือนก่อน
เรื่องที่ผมหลบหน้าเธอมา รวมทั้งเรื่องที่ลุงคะทสึระ
งิเสียชีวิต
"กุกกัก ๆ... ตึกตักๆ"
เสียงใครวิ่งไล่กันอยู่ด้านนอกของโกดัง โดยปกติ
แล้วบริเวณนี้ ในตอนดึก ๆ เช่นนี้ไม่น่าจะมีคนนะ
เพราะมันเป็นสถานที่เปลี่ยว ห่างไกลจากชุมชน จะ
เคยมีก็พวกคนจรจัดหลงเข้ามาสองสามคน แล้วก็
พวกเด็กเกเรแอบเข้ามาเสพยากัน
แต่ตอนนี้ ที่นี่ถือว่าเป็นบ้านของผม ผมคงจะยอม
ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายในบริเวณใกล้บ้านไม่ได้หรอก
ผมเดินขึ้นบันไดโกดังไป เปิดประตูออกสู่ข้างนอก
อากาศเย็นจัด และท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
'เสียงมาจากไหน?' ผมสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ
หาที่มาของเสียง
"ตึ้ก ๆ ๆ " เสียงดังมาจากด้านหลังโกดังที่ไม่ใช่แล้ว
หลังหนึ่งนั่นเอง ผมก้าวเท้าไปทางนั้นทันที
พยายามซุ่มตัว และให้มีเสียงฝีเท้าของตัวเองเบาที่
สุด ใกล้เข้าไปทีละนิด ในที่สุด พอผมค่อย ๆ โผล่
หน้าพ้นมุมอาคารของโกดังไปที่ลานแคบๆ หลัง
โกดัง ก็เห็น... เด็กวัยรุ่นรูปร่างล่ำบึ้กสามคน สวม
เสื้อแจ๊กเก็ตทับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ คล้าย ๆ กันยืน
ล้อมเด็กผู้ชายตัวเล็กกว่าคนหนึ่ง เจ้าหนูที่ตกอยู่ใน
วงล้อมเนื้อตัวมอมแมมเชียว ใส่หมวกแก๊ป ทำให้
เห็นใบหน้าไม่ถนัด แต่ก็เดาได้ว่า คงกำลังกลัวสุด
ขีด ผมจำได้ว่าเห็นเจ้าหนูคนนี้มาป้วนเปี้ยนแถว
สำนักงานผมตั้งแต่กลางวันแล้ว
ท่าทางของเจ้านักเลงที่ล้อมอยู่สามคน ดูปาดเดียว
ก็รู้เลยว่ากำลังไถเงินอยู่นั่นเอง
'จะช่วยดีไหมหนอ' ผมคิดในใจ ใจจริงก็ทนเห็นคน
ถูกทำร้ายไม่ได้ อยากจะช่วยอยู่หรอก แต่สามรุม
หนึ่งนี่สิ แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นต่อ
หน้าต่อตาซะด้วยสิ
"ว่าไง ไอ้หนู ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ส่งเงินมาซะดี ๆ
ท่าทางอย่างนี้ ขโมยเงินแม่มาเที่ยวล่ะสิ หือ!" วัยรุ่น
คนหนึ่งพูดตะคอกขึ้น
"เฮ้ย! ไม่ต้องพูดมากหรอก ฉันกำลังคันไม้คันมือ
อยากจะชกกระสอบทรายอยู่พอดีเลยว่ะ" คนที่ท่า
ทางล่ำบึกที่สุดพูดขึ้น พลางหักข้อนิ้ว เสียงดังเป๊าะ
ๆ "เอาเจ้านี่เป็นกระสอบทรายก่อน พอเสร็จธุระ
แล้วค่อยค้นเงินก็ได้"
"แกสองคนจะเอาไงก็รีบ ๆ เข้าสิวะ จะได้ไปซิ่งกัน
ต่อ" คนที่สามเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ
".... อย่า อย่าทำอะไรผมนะ ปล่อยผมไปเถอะครับ"
เด็กน้อยที่ตกอยู่ในวงล้อมระล่ำระลัก ร้องขอความ
เห็นใจ แต่คงจะไม่มีผลหรอก
'เฮ้อ! รู้สึกว่าเราจะไม่มีทางเลือกซะแล้ว' ผมคิด ถ้า
ช้ากว่านี้ แค่เจ้าตัวที่อยากชกกระสอบทราย อัดใส่
เจ้าหนูแค่หมัดเดียวนี่ก็ปางตายแล้ว ผมก้าวตรงไป
ยังกลางลานนั้น แล้วพูดขึ้นเสียงดังฟังชัดว่า
"ทำอะไรกันน่ะ พวกคุณ"
"โอ๊ะโอ๋ มีผู้ใหญ่ด้วยแฮะ" วัยรุ่นคนที่จะรีบไปซิ่งพูด
ขึ้น ท่าทางไม่ยี่หระเท่าไรที่มีผมอยู่ "น้า ๆ อย่ามา
ยุ่งดีกว่า เดี๋ยวเจ็บตัวหรอก"
"ไม่ต้องแล้วล่ะ น้ามาก็ดีแล้ว พวกผมกำลังไม่มีตังค์
เที่ยวอยู่พอดีเลย" คนที่ล่ำบึกสุดพูด เจ้านี่แหละที่
ผมจะต้องจัดการก่อน
"อ๋อ เหรอ งั้น 'น้า' ให้ตังค์พวกหนูไปเที่ยวก็ละกัน
น่ะเอาไหม" ผมล้วงกระเป๋ากางเกง นึกฉุนอยู่
เหมือนกัน เรายังไม่ทันแก่ซะหน่อยมาเรียกเราเป็น
น้าซะแล้วเหรอ อย่างผมนี่ต้องเรียกพี่ชายสิครับ
ได้ผลแฮะ เจ้าตัวล่ำบึกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ทันที
พลางบอก "โอ้โฮ น้านี่พูดจารู้เรื่องแฮะ..." ไม่ทัน
ขาดคำ กำปั้นไม่มีรูของผมก็พุ่งเข้าที่คางของมัน
อย่างจัง
"พล่อก" "อ๊ะ!" "เฮ้ย" เสียงดังขึ้นไล่เลี่ยกัน ผมไม่
ปล่อยจังหวะให้หลุดหายไป ส่งหมัดต่อไปตามไป
ทันที
...
"นึกว่าจะแน่" ผมยืนมองวัยรุ่นซ่าทั้งสามจากไป
โดยมีสองคนหิ้วปีกเจ้าตัวที่ถูกผมน็อคตั้งแต่แรก
โชคดีที่การณ์เป็นไปตามคาด พอผมล้มเจ้าตัวที่ท่า
ทางจะแข็งแรงที่สุดได้ อีกสองคนโดนเข้าไปคนละ
ตุ้บก็ร้องขอชีวิตแล้ว
ผมหันไปทางเจ้าหนูน้อยซึ่งก้มหน้างุดอยู่ ตัวสั่น
เชียว
"ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าหนู" ผมปลอบ แต่แล้วก็เห็นว่า
ผมของเจ้าหนูซึ่งสูงระดับไหล่ของผม เป็นสีทอง "
เอ๊ะ! ฝรั่งเหรอนี่"
"อย่าทำอะไรผมนะ อย่าทำอะไรผม ผมกลัวแล้ว"
เจ้าหนูยังคงกลัวไม่หาย พูดภาษาญี่ปุ่นก็ชัดดีนี่
เสียงก็แหลม ๆ คงเพิ่งเข้าวัยรุ่นกระมังเสียงเลยยัง
ไม่แตก
"นี่ ไอ้พวกนั้น น้าไล่ไปหมดแล้วล่ะ" อยากเรียกตัว
เองว่าพี่อยู่หรอก แต่การยกตัวเองให้ดูแก่ขึ้นอาจจะ
ช่วยให้เด็กหายตกใจได้เร็วขึ้นก็ได้ ผมวางมือบน
ศีรษะเจ้าหนู พลางลูบคลำอย่างปลอบโยน "ไม่เป็น
ไรแล้ว พวกคนไม่ดีไปหมดแล้วนะ"
"ผมไม่เป็นไรแล้วเหรอฮะ" เจ้าหนูถาม
"เออ"
"ผมรอดแล้วเหรอ...ฮะ" เจ้าหนูย้ำอีกที เสียงค่อย ๆ
แผ่วหายไปในลำคอ คราวนี้ยังไม่ทันที่ผมจะตอบ
เจ้าหนูก็ค่อย ๆ ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
"เฮ้ ๆ เดี๋ยวสิไอ้หนู อย่าเพิ่งล้ม บอกมาก่อนบ้าน
ช่องอยู่ไหน จะได้ไป...ส่ง...ถูก" ไม่ได้การณ์ สลบไป
ซะแล้ว คงจะช็อคมาก
เอาไงดีหว่า จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้ก็ไม่ได้เฮ้อ เอาก็
เอา ช่วยแล้วต้องช่วยให้ถึงที่สุด
ผมก้มลงอุ้มเจ้าหนูขึ้นมา แล้วเดินตรงไปยังโกดังที่
เป็นสำนักงานของผม เอ! เจ้าหนูนี่ ตัวเบาแฮะ เบา
อย่างผิดปกติเลย น้ำหนักสักสี่สิบกว่ากิโลเห็นจะได้
เข้าไปในโกดังแล้ว ผมก็ยืนหันรีหันขวางอยู่พักหนึ่ง
ก็ตัดสินใจสละเตียงนอนของตัวเองให้เจ้าหนู ให้
ตายเถอะ วันนี้เป็นวันอะไรของผมนะนี่ หาเรื่องใส่
ตัวแท้ ๆ เลย ทั้งเรื่องรับงานแปลก ๆ ของคุณโคเข้า
มา ตามคำแนะนำจากยัยอะคะเนะ แล้วก็ดันไปเจอ
ยะโยยเข้าอีก ท้ายที่สุดก็เสี่ยงภัย (แต่สรุปแล้ว ผม
ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย โชคดีน่ะ) ไปช่วยเด็กที่ไม่รู้จัก
กัน แถมยังต้องสละเตียงให้อีก เฮ้อ! ยอมให้เฉพาะ
คืนนี้เท่านั้นนะ พรุ่งนี้ถ้าตื่นแล้ว ต้องถามกันให้รู้
เรื่องว่าบ้านอยู่ที่ไหน จะได้ส่งตัวกลับไปหาพ่อแม่
ซะที
'หือ!' พอผมวางเจ้าหนูลงบนเตียงของผมแล้ว
ปรากฏว่าเจ้าหนูก็นอนส่ายหน้าไปมา แล้วก็เพ้อ
ออกมาว่า
"โอ๊ย! ปวดหัว... ปวดหัวจังเลย " พลางขมวดคิ้ว ย่น
หน้าผาก ท่าทางจะปวดศีรษะเอาจริง ๆ แฮะ
"เป็นอะไรไปรึ ไอ้หนู" ผมถาม แต่ไม่ได้คำตอบ มอง
จากสีหน้าของเจ้าหนูแล้ว ท่าทางจะเป็นเอามาก
เฮ้อ! ได้เรื่องอีกแล้วไหมล่ะ จะปล่อยไว้อย่างนี้ก็
สงสาร ฮึ่ม! แย่งที่นอนเจ้าของบ้านแล้วยังไล่เจ้า
ของบ้านออกไปซื้อยาอีกหรือเนี่ย ผมก็เหมือนกัน
ทำไมเป็นคนใจอ่อนนักนะ หยูกยาผมเคยใช้กับเขา
ที่ไหนล่ะ เกิดมาก็แข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยเลย เอ้า!
เอาก็เอา (วะ) ออกไปซื้อยาให้ก็ได้
ดึก ๆ อย่างนี้ จะหาซื้อยาได้ที่ไหนหนอ อืมห์ ใช่แล้ว
ถ้าเป็นที่นั่นล่ะก็ต้องมีร้านขายยาบางร้านเปิดอยู่
แน่ เพราะที่นั่นเป็นแหล่งราตรีอยู่แล้วนี่
...

back index next