คุณจิรวัฒน์ ภู่เพียงใจ เล่าว่า
เมื่อ ๒-๓ ปีมาแล้ว คุณจิรวัฒน์และครอบครัวต้องการมีบ้านอยู่ใกล้ๆ วัด จึงซื้อที่อยู่อาศัยเป็น อาคารชุดที่อยู่ข้างวัด โดยใช้วิธีผ่อนส่ง ได้ชำระเงินดาวน์และผ่อนมาได้ครบหนึ่งปี ขณะนั้นประเทศไทยเข้าสู่ ยุคเศรษฐกิจวิกฤต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การการก่อสร้างต่างๆ ชะงักงันไปด้วย ผู้ดำเนินการค้าขาย ที่อยู่อาศัยกำลังพากันล้มละลาย เนื่องจาก สถาบันการเงินหลายแห่งถูกสั่งปิดกิจการ ไม่สามารถปล่อยเงิน ให้ภาคธุรกิจกู้ไปลงทุน หรือให้เอกชนกู้ไปสั่งซื้อที่อยู่อาศัยเหล่านั้น
ในที่สุด รัฐบาลยุคที่ผ่านมาได้อนุมัติวงเงินให้ธนาคารบางแห่งนำ ไปให้เอกชนซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ โดย คิดดอกเบี้ยราคาต่ำกว่าปกติมาก เพียงร้อยละ ๙ แต่วงเงินดังกล่าวมีจำนวนจำกัด ผู้คนจึงจำเป็นต้องแย่งกัน ขอกู้เงิน ซึ่งได้เปิดให้กู้วันแรกเพียงครึ่งวัน เงินกู้ก็หมดเกลี้ยงลง
แม้ว่าคุณจิรวัฒน์ ภู่เพียงใจ จะเป็นผู้หนึ่งซึ่งสามารถยื่นกู้ตามโครงการนี้ได้ แต่ก็หวุดหวิดจะหมด สิทธิ์ไปหลายครั้งหลายคราว เพราะโครงการสร้างอาคาร เสร็จไม่ทันกำหนด ทั้งๆ ที่ขีดเส้นตายไว้ให้โอนภายใน ปี ๒๕๔๐ โชคดีที่ยังได้รับการผ่อนผันยืดเวลามาให้หลายครั้ง
ครั้งสุดท้าย ก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะมีเหตุขัดข้องเกี่ยวกับการทำเรื่องขอปลอดจำนองกับทาง ป.ร.ส. ซึ่งดูตามระยะเวลาที่ทางธนาคาร กำหนดเป็นเส้นตายแล้วคงยากที่จะดำเนินการได้ทัน พนักงานหลายคนยังบอกว่า คงจะไม่ทันแล้วเสียใจด้วย คุณจิรวัฒน์ไม่ย่อท้อ และหมั่นทำสมาธิ อธิษฐานจิตกับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ทางธนาคารผ่อนผันการยื่นหลักฐานเรื่องโฉนด และยอมให้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๙ เช่นเดิม
วันสุดท้ายของกำหนดเวลาในการนำโฉนดและหลักฐานอื่นๆ ไป แสดงพนักงานของทาง ป.ร.ส. ได้นำโฉนด จากกระทรวงการคลัง มาให้คุณจิรวัฒน์ที่สำนักงานที่ดินก่อนเวลาที่นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพียง ๑๐ นาที เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ หลักฐานที่จะได้มา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะดำเนินการให้เสร็จภายใน ๑ สัปดาห์ และคุณ จิรวัฒน์เป็นรายสุดท้ายที่ทางธนาคารคอยอยู่ เพื่อปิดงบการกู้ยืมเงินช่วยเหลือ พอดี
คุณจิรวัฒน์โล่งใจ เดินออกมาจากธนาคารด้วยความสุขและปีติใจ และเอ่ยออกมาท่ามกลางสายฝนว่า อานุภาพ อานุภาพ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
[สารบัญ] [ ๑๑ ] [ ๑๒ ] [ ๑๓ ] [ ๑๔ ] [ ๑๕ ] [ ๑๖ ] [ ๑๗ ] [ ๑๘ ] [ ๑๙ ] [ ๒๐ ]