คุณพิศมัย ผ่องศรีใส เป็นผู้เล่าว่า
นับตั้งแต่เวลาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยมอบพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ ให้สาธุชนที่ทำบุญสร้างองค์พระ แกนกลาง มหาธรรมกาย เจดีย์บูชาธรรม คุณพิศมัย ผ่องศรีใส มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ต้องการทำบุญบูชาธรรมครูบาอาจารย์ และต้องการเป็นเจ้าของ พระของขวัญสักองค์หนึ่งเหมือนคนอื่นด้วย
แต่คิดแล้วก็เป็นเพียงความฝัน มองไม่เห็นว่าตนเองจะมีความสามารถ ทำบุญได้อย่างไร ยุคเศรษฐกิจวิกฤติ สามีตกงาน ลูกสาวตกงาน เงินเดือนข้าราชการเล็กๆ อย่างคุณพิศมัยต้องใช้ เลี้ยงทั้งครอบครัว แต่ละเดือนแม้จะกระเหม็ดกระแหม่เต็มที่ ก็ยังไม่มีเหลือทำบุญได้ อย่างมาก แค่เห็นใครจะสร้างองค์พระที่แกนกลาง ก็ขอสมทบกับเขาไปได้บ้างเล็กน้อย
เมื่อมองไม่เห็นทางสร้างให้ตนเอง ก็ไม่ท้อแท้คิดว่า ถ้าสวดมนต์สรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุทุกๆ วัน วันละหลายๆ ครั้ง ก็คงได้บุญ เหมือนกัน คุณพิศมัยจึงสวดมนต์บทนี้อยู่เสมอๆ แม้กระทั่งขึ้นรถเมล์ไปทำงานหรือไปไหนมาไหน เวลาได้ที่นั่งในรถ จะต้องสวดมนต์บทนี้
จนกระทั่งวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ วันประชุมรวมพลังผู้นำบุญ ทดแทนคุณผู้ค้นพบ วิชชาธรรมกาย ในภาคบ่าย เมื่อพากันเดินทางไป ยังมหาธรรมกายเจดีย์เพื่อถ่ายภาพประวัติศาสตร์นั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ถาม คำถาม ให้เหล่าศิษย์ตอบหลายข้อ เช่น
เมื่อวันปีใหม่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๘ ใครมานั่งสมาธิกลั่นแผ่นดินบ้าง ให้ยืนขึ้น
เมื่องานตอกเสาเข็มต้นแรกของมหาธรรมกายเจดีย์นี้ ใครมาบ้าง ให้ยืนขึ้น
ใครมาร่วมบุญเทคอนกรีตฐานรากองค์มหาธรรมกายเจดีย์บ้าง ให้ยืนขึ้น
คำถามของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแต่ละครั้ง ผู้ที่มาร่วมงานต่างพากันยืนขึ้น ทุกคำถาม ผู้ที่ไม่ได้มาร่วมงานยังคงนั่งอยู่ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ จะทักผู้ที่ไม่ได้มา ร่วมงานว่า เห็นไหม ลูกๆ ที่นั่งอยู่ เป็นไงบ้าง ลูกมาช้าไปแล้วนะ
คุณพิศมัยจำได้ว่า ตนเองได้มาร่วมงานทุกงานที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเปล่งเสียง ถามออกมา เธอจึงต้องลุกขึ้นยืนเป็นการตอบคำถาม แล้วนั่งลง เมื่อท่านสั่งทุกครั้ง
ความรู้สึกของตนเองเวลานั้นตื้นตันใจเป็นที่สุด มีปีติเหลือล้นอธิบายไม่ถูก ภูมิใจที่มาร่วมงานไม่เคยขาด แม้แต่ครั้งเดียว ในคำถามเหล่านั้น
เหตุนี้เมื่อถึงเวลาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้นั่งสมาธิและอธิษฐานจิต คุณพิศมัย ยืนยันว่า เพียงเธอหลับตาลง กำหนดใจไม่ถึง ๒ นาที เธอเห็นภาพพระบรมพุทธเจ้าสีขาวองค์ใหญ่ ซึ่งประดิษฐานในเจดีย์มาอยู่ตรงหน้าเธอ เห็นองค์ใหญ่ชัดเจนมากอยู่ครู่หนึ่ง แล้วท่านก็ลอยหาย เข้าไปในมหาธรรมกาย เจดีย์ตามเดิม หลังจากนั้นมีพระธรรมกายทองคำองค์เล็กๆ เท่าของจริงที่เราทำพิธีหล่อกัน ลอยมาให้เห็นชัดมาก แล้ว ก็หายไปอีก
พอดีพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ออกจากสมาธิ เมื่อออกจากสมาธิ คุณพิศมัยคิดทันทีขณะนั้นว่า เมื่อไม่มีเงินของตนเองทำบุญ ก็จะต้อง ชักชวนผู้คนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักร่วมทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ถวายบูชา ธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำให้ได้ ยิ่งพอได้ยิน ผู้ที่เป็นโฆษกประกาศพร้อมให้ยกธงขึ้น โดยพูดดังๆ ว่า ทุ่มสุดฤทธิ์ ปิดแกนกลาง ให้ส่งเสียงกันดังที่สุดทุกคน ถึง ๓ ครั้ง
การเปล่งเสียงครั้งที่ ๓ คุณพิศมัยมีน้ำตาไหลพรากอาบหน้า คิดในใจ ขณะนั้นว่า คราวนี้ ขอยอมตายถวายชีวิตแล้ว เป็นหรือตายก็ยอม ขอสร้างองค์พระปิดแกนกลาง ถวายหลวงพ่อให้ได้ จากนั้นเดินทางกลับบ้านด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา ต้องทำให้สำเร็จ
รุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ไปทำงานตามปกติ สวดมนต์สรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ อยู่ตลอดเวลา บอกสามีว่าอยู่บ้านว่างๆ ให้นั่งสวดมนต์บทนี้ไป เป็นกำลังใจให้ตัวเธอด้วย เมื่อไปถึงที่ทำงาน นึกได้ว่าตนเองยังไม่มีพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุติดตัวเลย มีแต่ ภาพถ่ายขององค์ท่านที่ได้รับแจกมา จึงหยิบออกมาถือไว้ พร้อมเอกสารหลายอย่างสำหรับชวนผู้คน ทำบุญ ทำให้ต้องถือของเต็ม มือพะรุงพะรัง
ขณะนั้นมีความคิดผุดขึ้นในใจว่า เอาห้อยคอซิ เอาห้อยคอ คุณพิศมัยคิดตามคำพูดที่ผุดขึ้นมาว่า เอ.. เอาห้อยคอจะทำยังไง รู้สึกงงเป็นกำลัง สักครู่จึงคิดออกว่า ต้องเอาภาพองค์พระไปใส่กรอบพลาสติกใช้ห้อยคอ จึงรีบไปที่ตลาดใกล้ที่ทำงาน ให้ช่างอัดกรอบพระ จัดการให้
เมื่อมีรูปพระมหาสิริราชธาตุคล้องคอแล้ว เธอเล่าว่ารู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เกิดกำลังใจมากมาย เดินไปพบคนโน้น ไปหาคนนี้ อธิบายชักชวน จนกระทั่งพบเพื่อนคนหนึ่งซึ่งคงเห็นใจ คุณพิศมัยมาก ออกปากว่า หากหาเงินได้ไม่ครบ ขาดเหลือเท่าไรให้บอก เขาจะออก ส่วนที่ขาดอยู่ทั้งหมด
คำพูดของ เพื่อนยิ่งทำให้คุณพิศมัยมีกำลังใจเพิ่มยิ่งขึ้น ตั้งใจชวนผู้คนทำบุญด้วยความสบายใจไม่กังวล อีกเลย เพราะอุ่นใจว่า ถึงอย่างไร ก็ต้องหาเงินได้ครบ ชวนผู้คนทำบุญ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อน ๆ และคนรู้จัก กันแถวที่ทำงาน รวมทั้งสิ้น ๓ วัน ได้เงินครบจำนวน โดยไม่ต้องรบกวน เพื่อนที่ออกปากสมทบส่วนที่ขาด และทำบุญทันในวันที่ ๕ กันยายน
ใครๆ ที่ฟังคุณพิศมัยเล่าแล้ว ก็ต้องชื่นชมในจิตใจที่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาเต็มเปี่ยมของเธอ ด้วยความเชื่อมั่นแน่วแน่ดังกล่าว แม้เป็นเพียง ภาพในแผ่นกระดาษ ก็ยังทรงพลานุภาพเต็มที่ ทำความ ปรารถนาของเธอให้สำเร็จได้อย่างอัศจรรย์
คนที่มีกำลังใจในการทำสิ่งใดก็ตาม กระแสพลังเข้มแข็งจากใจ จะแผ่ซ่านออกมาทั่วทั้งร่างกาย แขนขาเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีอาการ เหน็ดเหนื่อย ใบหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้กระทั่งน้ำเสียง ก็องอาจกล้าหาญ คำพูดแต่ละคำล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง พบปะติดต่อ กับผู้ใด ผู้นั้นย่อมสัมผัสได้ถึง ความจริงใจ ความตั้งใจอันแรงกล้าเด็ดเดี่ยวของเธอ แม้เขาไม่มีศรัทธาในบุญ แต่ก็อยากบริจาคเพื่อให้ผู้รับ มีความสุข และประสพความสำเร็จ การเห็นความสุขของผู้อื่น แล้วตนเองพลอยเป็นสุขตามไปด้วย จัดว่าเป็น คนมีมุทิตาธรรม
[สารบัญ] [ ๔๑ ] [ ๔๒ ] [ ๔๓ ] [ ๔๔ ] [ ๔๕ ] [ ๔๖ ] [ ๔๗ ] [ ๔๘ ] [ ๔๙ ] [ ๕๐ ]