คุณประไพ กุดถวัลย์ จบการศึกษาพยาบาลสาธารณสุข วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (วท.ม.) จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงาน ที่วิทยาลัย พยาบาล บรมราชชนนีสระบุรี จังหวัดสระบุรี เล่าว่า
มีลูกสาววัย
๔ ขวบ จะต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล
โรงเรียนที่ดีที่สุดประจำจังหวัดสระบุรี
แต่การ เข้าเรียนมีหลายวิธี
บางรายใช้เงิน จำนวน หลายๆ
หมื่นบำรุงโรงเรียน
บางรายใช้บารมีของผู้ใหญ่
แต่ก็ไม่ได้ รับความสำเร็จ
ร้อยเปอร์เซนต์
ผู้ปกครองส่วนใหญ่
จึงฝากความหวังไว้กับ การ
จับฉลาก เสี่ยงดวง ซึ่งทำให้
ผู้ปกครอง แต่ละราย
มักมีอาการวิตกกังวล
และเครียดมากไปตามๆ กัน
คุณประไพ เป็นผู้ปกครองชนิดต้องอาศัยการจับฉลาก จึงมีอาการเครียดอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก คงปลอบใจตนเอง ด้วยการ ระลึกถึง บุญกุศล ที่ได้ร่วมสร้าง องค์พระธรรมกาย ประจำตัว บุญที่สามีได้มาร่วมบวชอุบาสกแก้ว
คุณประไพเล่าว่า ตนเองไม่ใคร่สนใจ ในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะคิดว่า ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ จิตสงบอะไร แต่ยอมรับว่า เมื่อได้มีโอกาสเห็น ทำให้จิตใจเปลี่ยนไป มีความเชื่อมั่นในตนเองว่า บุญเป็นสิ่งมีอยู่จริง
วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นวันที่คุณประไพ มารับสามีกลับจาก การบวชอุบาสกแก้ว คุณประไพกับลูกสาว ได้เห็นอัศจรรย์ตะวัน แก้ว ด้วยตาตนเอง ดวงอาทิตย์ ไม่แผดแสงจ้าอย่างเคย สามารถมองได้อย่างสบายตา เห็นแสงสีน้ำเงิน เหมือนพระนั่งสมาธิ อยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ แล้วแสงสีน้ำเงิน ก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม รูปองค์พระที่เห็นเมื่อสักครู่ เลื่อนลงจากข้างขวา ของดวงอาทิตย์ แล้วลงไปล่าง วนไปซ้าย ไปขวาช้าๆ วนอยู่หลายรอบ แสงสีชมพูอมส้ม ก็บังดวงอาทิตย์ไว้ คุณประไพอธิบายความรู้สึกไม่ถูก รู้แต่ว่า น้ำตาไหลหลั่งออกมา อย่างไม่อายใคร อุ้มลูก ขึ้นมา บอกให้แกมองดู ลูกพูดว่า พระหมุน พระหมุน พระหมุน คุณประไพนึกถึงเรื่อง ที่ลูกจะต้องเข้าโรงเรียน จึงรีบตั้งจิตอธิษฐาน ต่อเหตุการณ์ อัศจรรย์ในนาทีนั้นว่า ขอพระท่าน โปรดเมตตาให้ลูกสาวตัวน้อยคนนี้ จับฉลากเข้าโรงเรียนได้ด้วยเถิด
จากวันนั้นตลอดมา คุณประไพพยายามให้ลูกนั่งสมาธิทุกวัน แม้เพียง ๕ นาทีก็ให้ทำ พร้อมทั้งสวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ให้ลูกฟัง เสร็จแล้ว ตั้งจิตอธิษฐานขอพรว่า ขอให้จับฉลากได้นะคะ ทุกวัน ด้วยความเชื่อมั่นในอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุ และบุญกุศล ที่ได้เคยทำไว้ เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ที่มีลูกต้องจับฉลาก ๔ ราย ชวนให้พาลูกไปเป่ามือ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างๆ แต่คุณประไพไม่ยอมไป เพราะมั่นใจใน อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ที่มีอยู่ทั้ง ๒ องค์มาก
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ วันจับฉลาก คุณประไพเครียดมาก ตื่นขึ้นมาทำสมาธิตั้งแต่เวลาตี ๔ ใจรวมนิ่งได้ดีพอสมควร อธิษฐานจิต ต่อพระมหาสิริราชธาตุ และพระของขวัญทุกชนิด ที่ทางวัดให้มา รวมทั้งครูบาอาจารย์ทุกท่านที่วัด แล้วพูดว่า ช่วยให้ลูกสาวจับฉลากได้นะคะ คุณประไพ เห็นภาพในสมาธิเหมือน หลวงพ่อและคุณยายมายิ้มให้
คนสมัคร ๙๑๓ คน โรงเรียนรับเด็กเพียง ๒๓๐ คน ซึ่งก่อนหน้าที่ลูกของคุณประไพ จะจับฉลาก มีคนจับไปแล้ว ๒๕ คน จับได้เพียง ๖ คน ลูกๆ ของเพื่อนร่วมงาน ๔ คน จับไม่ได้แม้แต่คนเดียว แต่ลูกของคุณประไพจับได้ เธอนึกในใจและเชื่อมั่นมากๆ ว่า ได้ด้วยบุญจริงๆ
การที่จะได้สิ่งใดๆ ตามใจปรารถนา ต้นเหตุที่แท้จริงมาจากบุญเท่านั้น บุญก็คือกรรมฝ่ายดี ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี จากกายก็ตาม วาจาก็ตาม ใจก็ตาม เรียกว่า เป็นที่เกิดบุญได้ทั้งสิ้น บุญเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มีหน้าที่ติดตามส่งผล ให้เจ้าของ ทั้งพาให้ไปพบแต่สิ่งดีๆ พบแล้ว ก็อุปถัมภ์ให้อยู่กับ สิ่งดีงามเหล่านั้น นานๆ หากบังเอิญ มีบาปกรรมเก่าอื่นใด เกิดตามมาทัน บุญที่มีอยู่ จะทำหน้าที่ป้องกัน เบียดกรรมชั่วนั้น ไม่ให้ส่งผลได้เต็มที่ หรือ หากมีบุญอยู่มากมาย กรรมชั่วนิดหน่อย ตามมาทัน บุญก็ทำหน้าที่ ตัดรอนฝ่ายบาป ให้สูญสิ้นไป กลายเป็น อโหสิกรรม เลิกตามส่งผล
การเห็นปาฏิหาริย์แล้วแต่จิตใจของคน คนดื้อหน่อย ก็จะคิดเหมือน คุณประไพในตอนแรก เห็นแล้ว ไม่ทำให้ใจสงบ หมดกิเลสอะไร คิด อย่างนั้น ก็คิดได้ แต่เหมือนกับ ไก่ได้พลอย เหมือนกับ วานรได้แก้ว ไม่รู้ค่าของ สิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าใจรู้จักคิด ด้วยอุบายที่แยบคาย การเห็น ปาฏิหาริย์ ย่อมชักชวนใจ ให้เกิดความเลื่อมใส ในสิ่งที่ควรเลื่อมใส อย่างน้อยประสบการณ์ ที่พบเห็นอยู่ นั่นคือผลของ การปฏิบัติธรรม ระดับหนึ่ง นับเป็นพยานยืนยัน ความเป็นอกาลิโก ของพระธรรม คำสั่งสอน ของพระบรมศาสดาว่า ถ้าตั้งใจปฏิบัติจริงเมื่อใด ย่อมเกิดผลสำเร็จให้เห็น ไม่ว่า จะเป็นเวลาเนิ่นนานจาก สมัยพุทธกาล มาแล้วสักเท่าใด เราก็ยังพิสูจน์ได้อยู่เสมอ
คิดได้เพียงเท่านี้ ก็เป็นกำลังใจเหลือหลายของนักสร้างบารมีแล้ว ไม่ควรดื้อดึง
โชคดีที่คุณประไพไม่ดื้อ แถมยังรีบอธิษฐานจิตขอพร ในขณะเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ อธิษฐานจิตเวลานั้น ก็เหมือนต่อสาย เชื่อมเข้ากับ แหล่งบุญ บุญก็หลั่งไหลเข้าตนเอง ความสำเร็จอะไรๆ จึงเกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์
อย่างไรก็ตาม ในการดำรงชีวิตอยู่ของชาวโลก ย่อมมีการแข่งขันกันอยู่ทุกรูปแบบ จะเรียนอนุบาล ก็ต้องแย่งที่เรียน จะเข้าเรียนชั้นไหนๆ กระทั่ง เข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องแข่งขัน แย่งชิงที่เรียนกัน เรียนจบ ก็ต้องแย่งกันทำงาน ชีวิตชาวโลก จึงดำเนินไปด้วย การแก่งแย่งชิง ผลประโยชน์ ซึ่งกันและกัน หากทำใจไม่เป็น ย่อมเครียด กังวล เสียสุขภาพจิต การบำเพ็ญบุญกุศล อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่วัยเด็ก ให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม ปฏิบัติ ธรรม เหมือนฉีดวัคซีน ให้แก่จิตใจ เรื่องในโลก จะวุ่นวายสับสน แค่ไหน คนมีบุญ นึกถึงบุญเป็นที่พึ่ง จะมีทางออกที่ดีงาม ให้แก่ตนเองเสมอ แม้ ไม่คิดอะไรมาก คิดนิดหน่อยว่า เราเกิดอยู่ในโลกนี้ แค่ชั่วคราว ไม่กี่ปีก็ทิ้งโลกนี้ไปแล้ว ความยึดถือ จะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ ย่อมจะลดลงไปได้ บ้าง ชีวิตจะพอทนอยู่ได้ ไม่เสียสุขภาพจิตจนเกินไป
[สารบัญ] [๑๘๒] [๑๘๓] [๑๘๔] [๑๘๕] [๑๘๖] [๑๘๗] [๑๘๘] [๑๘๙] [๑๙๐]
[๑๙๑] [๑๙๒] [๑๙๓] [๑๙๔] [๑๙๕] [๑๙๖] [๑๙๗] [๑๙๘] [๑๙๙] [๒๐๐] [๒๐๑]