ทันตแพทย์หญิงวิไล สุริยาแสงเพชร เปิดคลีนิคส่วนตัว เล่าว่า เคยมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกเมื่อพ.ศ.๒๕๒๔ แล้วไม่ได้ไปวัดอีกเลย เพราะไปติดธุระเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน เรื่องครอบครัว ฯลฯ กระทั่งวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ทราบว่า มีการทำบุญสร้าง พระแกนกลาง องค์ละ ๓ หมื่นบาท จึงนึกสงสัย อะไรกัน ให้คนทำบุญคนละตั้ง ๓ หมื่น ที่วัดนี้เอาเงินไปทำอะไรกัน แต่ก็ไม่คิดจะทำบุญทันที ไม่ว่าใครจะพูด ชวนว่า บุญมากแค่ไหน ก็ไม่คิดยอมเชื่อ จะเชื่ออยู่ก็เรื่อง เสี่ยงทายที่ศาล หลักเมือง จึงไปที่นั่น เพื่อยกพระเสี่ยงทาย อธิษฐานกับ องค์พระเสี่ยงทาย ว่า ถ้าทำบุญที่วัดพระธรรมกายในครั้งนี้ดี ถูกต้อง ขอให้ยก องค์พระเสี่ยงทายขึ้น ปรากฏว่ายกขึ้น จึงทดลองใหม่ เป็นครั้งที่สองว่า ถ้าทำบุญที่ วัดพระธรรมกายดี ขอจงยกไม่ขึ้น ก็ยกไม่ขึ้นจริงๆ จึงตัดสินใจเบิกเงิน แล้วเดินทางไปทำบุญที่วัด อยากรู้ว่า วัดจะเอาเงินมากมาย ไปทำอะไร เมื่อ ไปถึงวัดก็รู้สึกตกใจ เห็นคนยืนเข้าแถวเรียงสี่ แย่งกันทำบุญ พอดีมีอุบาสกผู้หนึ่ง บอกขายรถเก่า คุณวิไลจึงบอกว่า รุ่งขึ้น จะพาคุณแม่และพี่ชาย มาดู
รุ่งขึ้นก็พากันมาทั้งหมด
รวมทั้งสามีด้วย
ไม่มีใครอยากซื้อรถ ไม่ถูกใจ
กำลังคิด จะกลับ พอดีพบ
คุณหมอมงคล ชวนให้อยู่หล่อพระ
ช่วงนั้นเอง
ที่เห็นพระท่านหยอดโลหะ
ลงในเบ้าหลอม น้ำตาของคุณวิไล
ก็ไหลออกมา
ครั้นถึงเวลาเกิดอัศจรรย์ตะวันแก้ว วันนั้น ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คนเป็นหมื่นๆ คนมองเห็น แต่คุณวิไลมองไม่เห็น เพราะไม่รู้วิธีทำจิต ให้หยุดนิ่ง แต่ทำให้มั่นใจว่า ถ้าทางวัด ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ อย่างที่กล่าวโจมตีกัน เธอจะต้องมองเห็นด้วย เมื่อมองไม่เห็น จึงคิดว่า ไม่น่าจะเป็น อย่างที่เขาโจมตีกัน
ต่อมา เมื่อได้รับพระมหาสิริราชธาตุไปห้อยคอ รู้สึกแปลกใจ ที่เห็นธาตุคำแก้วมณี เพิ่มขึ้นเองได้ทุกวัน เห็นด้วยตาตนเอง โผล่ขึ้นเอง วันละเส้น ๕ วันเท่านั้น ก็มีเต็มพระเศียร พอคุยให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า เป็นพระพลาสติก เวลาอุณหภูมิเปลี่ยน ก็เปลี่ยนสีได้
คุณวิไลจึงทำการทดลอง ใช้เหล็กแหลม สำหรับแคะฟัน ลนไฟให้ร้อน ไปจิ้มที่ องค์พระ ถ้าเป็นพลาสติก จะต้องละลาย ปรากฏว่า องค์พระ ไม่เป็นอะไร แต่เหล็กนั้น งอไปเลย จึงแน่ใจเต็มเปี่ยมว่า พระเป็นหิน
คุณหมอมงคลได้อธิบาย อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ให้ฟังหลายอย่าง แล้วให้คุณวิไล ทำหน้าที่ชวนผู้คนทำบุญ โดยพูดแค่เฉพาะ อานุภาพที่ได้พบมาเท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว เธอจึงได้ทำตาม ปรากฏว่ามีคนทำบุญด้วยถึง ๑๗ องค์
ต่อมาได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ ทำใจหยุดนิ่งเป็น และได้เห็นที่กลางท้อง มีดวงแก้วที่สวยงามมาก มีรัศมีชัดเจน ทั้งสีแดง สีอื่นๆ ออกมาเป็นริ้วๆ ดวงแก้วมีลักษณะเหมือนเพชร หมุนได้ คุณวิไล ปีติน้ำตาหลากไหล เชื่อมั่นในบุญเต็มเปี่ยม ลงมาจากเชียงใหม่ สมัครใจเป็น ประธานรอง ฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ทันที ถวายเงินที่เก็บไว้นานแล้ว ทั้งหมด ๑ ล้านบาท กล่าวก่อนจบว่า
เมื่อนั่งสมาธิจิตหยุดสนิทดี ได้เห็นภาพมหาธรรมกายเจดีย์ ที่ศูนย์กลางกายชัดเจน สวยงามระยิบระยับ รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสมาทำบุญ ร่วมสร้างด้วย ตอนนี้ชวนคนทำบุญได้ราว ๒๐๐ องค์แล้ว จะชวนต่อไป มหาธรรมกายเจดีย์นี้ เพื่อแผ่นดินไทย ซึ่งจะเป็น ศูนย์รวมพุทธศาสนา ของโลก คนดีจะมารวมกัน ที่ประเทศของเรา สันติสุข ก็จะต้องเกิดขึ้น อย่างแน่นอน เราจะเป็นเพื่อนกันหมด มองกันด้วยสายตาเป็นมิตร
[สารบัญ] [๑๘๒] [๑๘๓] [๑๘๔] [๑๘๕] [๑๘๖] [๑๘๗] [๑๘๘] [๑๘๙] [๑๙๐]
[๑๙๑] [๑๙๒] [๑๙๓] [๑๙๔] [๑๙๕] [๑๙๖] [๑๙๗] [๑๙๘] [๑๙๙] [๒๐๐] [๒๐๑]