อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๕๔. สยบมะเร็ง

คุณนราธิป สายทองอินทร์ กรุงเทพฯ เล่าว่าตนเองเคยมา มาอบรมบวชธรรมทายาทรุ่นที่ ๑๖ จนถึงปัจจุบันนี้ ร่วมสิบกว่าปีแล้ว ที่ตนเอง และครอบครัวได้มาศึกษาธรรมะ ได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการมาวัดพระธรรมกาย เป็นประจำนอกเหนือจาก ใช้ชีวิตในทางโลก

ครอบครัวของคุณนราธิป มีคุณแม่บุญล้อม สายทองอินทร์ ซึ่งปัจจุบัน อายุ ๗๐ ปีแล้ว เป็นศูนย์รวมในด้าน ความรักความอบอุ่นของ บ้าน ตอนที่ท่านแข็งแรงดี ท่านจะคอยดูแลให้ทุกคนสุขสบาย คอยที่จะทำอาหารอร่อยๆ ให้ ลูกหลานได้ทาน ทำให้ทุกคนรักบ้าน รักครอบครัว แต่เมื่อไม่นานมานี้ คุณหมอได้ตรวจพบว่า คุณแม่ ป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะ ที่ ๒ ที่เต้านมข้างซ้าย และได้ทำการผ่าตัดเต้านม ตรงที่ตรวจ พบเนื้องอก ทิ้งไป และฉีดสารเคมีที่เรียกว่าคีโม อย่างต่อเนื่อง เพื่อไปสกัดการลุกลามของมะเร็ง 

ซึ่งการรักษาแบบนี้ จะมีผลข้างเคียงทำให้ผู้ที่ได้รับ บำบัด ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย ซึ่งในระหว่างที่ยังอยู่ในการรักษา คุณนราธิป พร้อมทั้ง ภรรยาและลูกได้ สวดมนต์นั่งสมาธิ อธิษฐานจิต ขอให้หายป่วย จากโรคภัยไข้เจ็บโดยเร็ว อาการของคุณแม่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยู่ใน ความดูแลของแพทย์ อย่างใกล้ชิด 

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดถึงก็เกิดขึ้น วันนั้นตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๒ คุณแม่ก็เริ่มมีอาการ หนาวสั่น มีไข้ขึ้นสูงถึง ๔๐ องศา ในวันเดียวกันนั้น อาการของคุณแม่ เริ่มหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ควบคุมตนเองไม่ค่อยอยู่ เริ่มจะปัสสาวะไหลออกมา โดยไม่รู้ตัว จึงรีบนำ คุณแม่ ส่งโรงพยาบาลไปพบหมอเวร คุณหมอก็ไม่กล้ารับคนไข้ เพราะทราบว่า ป่วยด้วยโรคมะเร็ง บอกว่า ต้องรอวันจันทร์ คุณหมอเจ้าของ ไข้ รายนี้ถึงมา ก็เลยต้องพา คุณแม่กลับมาบ้านก่อน 

คุณแม่มีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ปัสสาวะเหม็น และเริ่มเพ้อ นอนหลับไม่ได้เลย เพ้อทั้งคืน ลูกๆ ทุกคนต่างก็วิตกกังวล รีบปรึกษากันว่า จะหา วิธีไหน ให้คุณแม่ได้รับการรักษา อย่างรีบด่วน พอดีพี่ชายรู้จักกับคุณหมอ อีกท่านหนึ่ง ที่โรงพยาบาล พระนั่งเกล้า จึงไปปรึกษาเล่าอาการ ของคุณแม่ให้ฟัง คุณหมอก็บอกว่า คุณแม่ติดเชื้อ ทางเดินปัสสาวะ อย่างรุนแรงเสียแล้ว

จากประสบการณ์ที่เคยเห็น คนไข้โรคมะเร็ง ต่อไป ไตจะวาย น้ำจะท่วมปอด และเสียชีวิตในที่สุด จึงบอกให้ญาติๆ เตรียมใจไว้เลย โอกาส ที่จะรอดแทบไม่มีเลย ส่วนคุณนราธิปได้ยินเช่นนั้นก็ใจหาย สุดที่จะกลั้นน้ำตา แห่งความสูญเสียไว้ได้ ถ้ามีวิธีไหนที่จะช่วยชีวิตคุณแม่ไว้ได้ ก็จะยอมทำตามทันที 

ในวันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๒ คุณแม่ยังมีไข้ขึ้นสูง ปัสสาวะไหลราดและเพ้อตลอดเวลา จึงตัดสินใจนำคุณแม่ส่งโรงพยาบาล อีกครั้ง ไปพูดอ้อนวอน ให้คุณหมอรับคนไข้ คุณหมอก็ยอมรับ แต่ยังไม่ให้การรักษา แต่ประการใด ให้แต่น้ำเกลืออย่างเดียว รอคุณหมอ เจ้าของไข้ ในวันจันทร์ 

คุณนราธิปก็ค่อยใจชื้น ถึงอย่างไรคุณแม่ก็อยู่ใกล้คุณหมอ และพยาบาล อยู่ดูเฝ้าไข้คุณแม่จนหมดเวลาเยี่ยม ก็กลับบ้านในใจ ก็คิดหาวิธีช่วย คุณแม่อยากให้ท่านมีอายุยืนยาว และหายจากความเจ็บป่วยในครั้งนี้ 

พลันคำพูดที่เคยได้ยินมาจากหลวงพ่อเทศน์สอน ก็ผุดขึ้นมาว่า บุญเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกของพวกเราทุกคน เมื่อคิดได้เช่นนั้น ตนเองก็มี กำลังใจขึ้นอย่างประหลาด รีบชวนภรรยาและลูกๆ ขึ้นไปห้องพระสวดมนต์ ทำวัตรและสวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ขอพรจากท่าน โดยคุณนราธิป เปล่งวาจาว่า

ลูกจะถวายปัจจัยสร้างพระธรรมกายประจำตัวอีก ๑ องค์ โดยจารึกชื่อของลูกเอง ด้วยอานิสงส์ และบุญบารมี ที่ลูกและครอบครัว ได้สั่งสม มาดีแล้ว และจะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต จงมาช่วยคุณแม่บุญล้อม สายทองอินทร์ หายจากอาการป่วย อย่างอัศจรรย์ มีชีวิตยืนยาว จนครบอายุขัยของท่านเถิดครับ (ครอบครัวของคุณนราธิป สร้างพระไว้แล้ว ๔ องค์ แต่ยังขาดของตนเอง เพราะตั้งใจสร้างให้คนอื่นก่อน)

แล้วคุณหมอเจ้าของไข้ก็เริ่มให้ยารักษา อาการของคุณแม่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายและทานข้าวได้เป็นปกติภายใน ๓ วัน และสามารถกลับบ้านได้ ภายในวันศุกร์ ทำให้เชื่อมั่นบุญในคุณ ของพระรัตนตรัย จากไม่มีทางรักษา ก็สามารถรักษาได้ถูกกับโรค ปัจจุบันคุณแม่หายป่วยแล้ว สามารถมาร่วมงานหล่อ พระธรรมกายประจำตัว วันนั้น เห็นคุณแม่ปีติจนน้ำตาแห่งความปีติ เอ่อไหลออกมา

ต่อมาก็ประสบกับอานุภาพ ที่เป็นผลมาจากที่ คุณนราธิปอธิษฐานจิต ช่วยคุณแม่ด้วยความกตัญญู หลังจากคุณแม่กลับมาอยู่บ้านได้ สัปดาห์เดียว ก็ได้รับข่าวดี จะมีทรัพย์ได้สร้างพระ สมความปรารถนา คือ คุณนราธิปมีรถปิคอัพอีซูซุ อยู่ ๑ คัน เคยประกาศขาย ตั้งแต่ ช่วงต้นปี 

ประกาศขายทางหนังสือพิมพ์ ลงอยู่ ๑ เดือนก็ไม่สามารถขายได้ ในราคาที่พอใจจนลืมไปแล้ว จู่ๆ ก็มีคนติดต่อเข้า มาเป็นจ่าสิบเอก บอกว่า สนใจ รถของคุณนราธิป ทราบว่าจะขาย จึงขอมาดู พอมาดูก็ถูกใจ คุณนราธิป บอกขายไปราคา ๓๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งแปลกใจมาก บอก คำเดียว ก็ตกลงซื้อขายกันได้ โดยที่เขาไม่ต่อรองเลย และยังจ่ายเป็นเงินสดอีกต่างหาก ทำให้มีเงินมาสร้าง องค์พระธรรมกาย ประจำตัว จารึกชื่อให้ตัวเองได้ สมความปรารถนา เชื่อบุญ ๑๐๐% บุญช่วยแก้ไขสถานการณ์คับขันทั้งหมด ให้ราบรื่น อุปสรรคที่มองไม่เห็นทางแก้ไข ตั้งแต่แรก กลับมลายหายสูญไปหมดสิ้น อย่างเป็นอัศจรรย์

โรคมะเร็งเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด เพียงแต่ใช้วิธียับยั้งการเจริญของเซลล์เนื้อร้ายให้ช้าลง ตามระยะอาการของโรค บางรายใช้วิธี ฉายแสง บางรายใช้ฝังแร่ บางรายใช้วิธีเคมีบำบัด หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ฉีดคีโม

การรักษาด้วยเคมีบำบัดนั้น คือการใส่สารเคมีที่มีฤทธิ์ ในการทำลายเซลล์ลงในน้ำเกลือ ที่ฉีดเข้าทางเส้นเลือดผู้ป่วย สารนั้นจะทำลาย ทั้ง เซลล์ร้ายเซลล์ดี จนตายไปด้วยกันในระดับหนึ่งแล้ว จึงใช้วิธีฟื้นฟู เซลล์ดีใหม่ในภายหลัง เมื่อเซลล์ร้ายหมดกำลังไป ตามที่แพทย์เห็นสมควร

ดังนั้นผู้ป่วยทุกรายที่ถูกรักษาด้วยวิธีนี้ จึงมีร่างกายอ่อนแอมาก ทั้งในช่วงเวลาระหว่างการรักษา และต่อเนื่องไปถึง ภายหลังที่ถูกรักษาไป แล้ว เพราะสารเคมีจะไปทำให้เซลล์ในอวัยวะอื่นๆ ที่ไม่มีเนื้อร้ายอ่อนแอหรือ เสื่อมสภาพไปด้วย มีภูมิคุ้มกันน้อยลง ติดเชื้อต่างๆ ง่ายกว่าคน ธรรมดา

รายคุณบุญล้อม มารดาของคุณนราธิปตกอยู่ในสภาพนี้ การติดเชื้อทางกระเพาะปัสสาวะ เป็นอันตรายมาก สามารถลามไปถึงไตได้ง่าย ทำให้ไตวาย ถึงแก่ชีวิตรวดเร็ว

เป็นโชคดีที่คุณบุญล้อมมีลูกแสนดี เคยรับการอบรมบวชธรรมทายาทรุ่น ๑๖ หลังจากลาสิกขาบทแล้ว ได้พาครอบครัว มาทำบุญกุศล อยู่ตลอดมา เมื่อคราวคับขัน เกี่ยวพันถึงชีวิตของผู้เป็นแม่ ลูกชายจึงนึกถึงคำสอนของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อออกว่า บุญเท่านั้น เป็นที่พึ่ง ของเราทุกคน

คุณนราธิปจึงชวนภรรยาและลูกๆ สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย พระมหาสิริราชธาตุ และตั้งอธิษฐานจิต ทำบุญสร้างองค์พระเพิ่ม ซึ่งก็เป็น เรื่องอัศจรรย์ หายภายใน ๓ วันอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อตั้งใจทำบุญ ทั้งที่ยังไม่มีเงิน แต่ความตั้งใจนั้น ย่อมทำให้บุญเกิดแล้ว เรียกว่า ปุพพเจตนากุศล บุญก็บันดาลให้ได้เงินมา อย่างอัศจรรย์ 

ด้วยเหตุนี้ การทำบุญกุศลทุกๆ อย่าง จึงควรตั้งเจตนาให้ครบทั้ง ๓ กาล คือ

๑. ปุพพเจตนา เป็นการตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องทำ
๒. บุญจเจตนา ตั้งใจขณะกำลังประกอบการกุศลนั้น
๓. อปราปรเจตนา ตามคิดถึงกุศลกรรมที่กระทำไปแล้ว

เรื่องการตามระลึกถึงบุญกุศลที่เคยทำไว้แล้ว เป็นสิ่งดีควรกระทำบ่อยๆ นึกถึงครั้งใด บุญใหม่ก็เกิดขึ้นทุกครั้ง ตรงข้ามเรื่องบาปอกุศล ที่เคย กระทำไว้ ห้ามนำมาคิดถึงเป็นอันขาด เพราะคิดถึงคราวใด บาปใหม่ก็เกิดขึ้นทุกครั้ง ทำนองเดียวกัน การทำงานของวิถีจิต เป็นเช่นว่านี้ จริงๆ ด้วยเหตุนี้คนฉลาด เมื่อเคยประมาทพลาดพลั้ง ทำอกุศลกรรมใด ไว้ จึงพยายามไม่นึกถึง พยายามลืมสิ้นเชิง

การสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย เป็นการทำอปจายนกุศล ทั้งทางกาย วาจา ใจ การพนมมือ เป็นกายกุศล การเปล่งเสียง เป็นกุศลทาง วาจา การน้อมนึกไปตามถ้อยคำ เป็นกุศลมโนกรรมปฏิบัติครั้งใดๆ ได้บุญมากทุกครั้ง ดังนั้น จึงไม่ควรให้ใจหมกมุ่น เรื่องวุ่นวายอื่น ให้สวด สรรเสริญไว้เสมอดีที่สุด


[สารบัญ] [๓๔๘] [๓๔๙] [๓๕๐] [๓๕๑] [๓๕๒] [๓๕๓] [๓๕๔]