อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๔๒๙. ไม่ใช่แค่...ฝัน

ขณะที่เธอกำลังตะลึงกับความอัศจรรย์ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านั้น หญิงชรานั้นก็ได้มอบองค์พระให้

เธอตกใจตื่นพร้อมกับความฝันที่แปลกมากในฝันคล้ายความจริง เธอสามารถจำได้ทุกเหตุการณ์ ทำให้เธอตื่นเต้นจนไม่สามารถ ข่มตาหลับต่อไปได้อีก จึงลุกขึ้นมาเปิดไฟใน ห้อง ครัว ให้สว่าง ลงมือทำขนมหวานเพื่อนำไปขายที่ศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าในเมืองภูเก็ต

คุณกฤษณา โพธิ์งาม ผู้หญิงร่างเล็กผอมบาง วัย ๔๐ เศษ หัวหน้าครอบครัวที่จะต้องรับภาระเลี้ยงดูคุณแม่ผู้ชราวัย ๗๒ ปี ลูกสาวในวัยเรียนอีก ๒ คน และหลานกำพร้าอีก ๑ คน รายได้จากการขายขนม ก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก บางวันเมื่อนับเงินที่ได้จากการขาย เข่าแทบทรุด กำไรเหลือเพียงแค่ค่ากับข้าวสำหรับวันพรุ่งนี้เท่านั้นเอง ต้องนั่งน้ำตาตก เมื่อนึกถึง ภาระที่ต้องส่งเด็กทั้งสามคนเรียนหนังสือ

นับตั้งแต่พ่อบ้าน ผู้นำครอบครัวได้เสียชีวิตลง คุณกฤษณาต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง คราใดที่ถูกความทุกข์เข้ามารุมเร้า สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งของเธอคือหลักธรรมของพระพุทธองค์ ไหว้พระ สวดมนต์ อ่านหนังสือธรรมะเพื่อให้เข้าใจสัจจธรรมของชีวิต เกิดกำลังใจสู้ต่อไป เธอบอกว่าจิตสำนึกลึกๆ นั้น คอยบอกอยู่เสมอว่าทางแก้ไขมีอยู่ในพุทธคุณ แต่เธอก็ยังมอง ไม่เห็นทางนั้น พอให้รู้แค่ว่าทางนั้นมีอยู่ ถึงแม้นยังหาไม่พบ แต่ก็ยังดีที่รู้ว่ามีอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หวังว่าสักวันหนึ่งคงต้องได้พบ

ทำงานไปภาพเหตุการณ์ในความฝันตอนใกล้รุ่งยังจำติดใจอยู่ เมื่อมารดาตื่นขึ้นมา เธอจึงเล่าให้ฟังว่า เธอฝันว่าได้ไปในที่แห่งหนึ่ง เป็นที่โล่งกว้าง รู้สึกถึงความอบอุ่นเมื่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ขณะที่กำลังชื่นชมกับธรรมชาติรอบข้างอยู่ ก็ปรากฏว่ามีหญิงสูงอายุท่านหนึ่งเดินมาหา ท่านอุ้มอะไรบางอย่างอยู่ในมือ มีแสงออกมาเรืองๆ สีทอง เมื่อเข้ามาใกล้ จึงเห็น ชัดเจนว่า ท่านถือองค์พระมา แสงสีทองเปล่งประกายทำให้เห็นตัวหนังสือที่ใต้ฐานองค์พระที่งดงามนี้สลักคำว่า ธรรมกาย

ขณะที่เธอกำลังตะลึงกับความอัศจรรย์ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านั้น หญิงชรานั้นก็ได้มอบองค์พระให้ ขณะที่ยื่นมือออกไปรับองค์พระ เธอก็ได้พบกับแววตาที่ดูมีความเด็ดเดี่ยว และ เต็ม ไปด้วยความเมตตา เธอยังจำดวงตาคู่นั้นได้ดี แต่เธอยังสงสัยกับคำว่า ธรรมกาย อยู่เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน พอมารดาฟังจบก็บอกลูกสาวว่า นับว่าเป็นความฝันที่ดีนะ แม่คิดว่า ลูกจะต้องได้ทำอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแน่

คุณกฤษณาบอกว่าในวันนั้นออกไปขายของด้วยใจที่แปลกกว่าทุกๆ วัน ภาพองค์พระที่เห็นในฝันมาปรากฏลอยในห้วงจิตสำนึกตลอดเวลา คิดว่าถ้าสร้างบุญใหญ่แล้ว เราจะไป เอาเงินที่ไหน มาทำ  ไปถึงห้างสรรพสินค้าในตอนเช้า ขณะเดินผ่านพนักงาน ๒ คนที่คุ้นเคยกัน เห็นเขากำลังดูเอกสารหนังสืออะไรบางอย่าง พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอต้อง สะดุ้งใจ เต้นแรง

ภาพปกหนัาที่มองเห็นเป็นรูปพระพุทธรูปปางสมาธิสวยงามมาก แบบเดียวกับที่เห็นในฝันทุกอย่าง อะไรกันเนี่ย พระที่ฝันเห็น มีองค์จริงด้วยหรือ ขอดูรายละเอียดจากเพื่อน พบว่า มีแผนที่พอสังเขป สามารถไปสถานที่นี้ได้ เธอตัดสินใจทันทีอยู่ไม่ได้ยังไง ก็ต้องไปให้ได้ 

ถูกเพื่อนห้ามว่า ทำไมต้องรีบไป ไว้ค่อยไปวันอื่นก็ได้ แต่คุณกฤษณา มีความมั่นใจว่าเธอตัดสินใจถูกต้องแล้ว ไปจองตั๋วรถเลย ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันออกเดิน ทางในวันนี้ ไม่เช่นนั้น จะยิ่งช้าเข้าไปอีก ต้องไปให้ถึงวัดพระธรรมกายแห่งนี้ให้จงได้ ซื้อตั๋วรถ ๓ ใบเผื่อลูกสาวและคุณแม่ด้วย พบหนทางที่ดีแล้วต้องพาบุคคลอันเป็นที่รักไปด้วย

เธอจำได้แม่นว่า ออกเดินทางจากภูเก็ตเย็นวันศุกร์ ถึงกรุงเทพฯ เช้าวันเสาร์ วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๐ ทั้งที่ไม่เคยมา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พอลงรถที่ท่ารถ ก็อาศัยถาม ร้านค้า ให้เขาช่วยแนะนำบอกทาง ขึ้นรถเมล์เป็นทอดๆ จนมาถึงรังสิต แวะถามร้านขายข้าวขาหมู เจ้าของร้านบอกถ้าไม่เคยมาแบบนี้ ให้จ้างแท็กซี่เข้าไป แท็กซี่แล่นเข้าเขตอำเภอ คลองหลวง ผ่านสะพานข้ามคลองถึงสองแห่ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของวัด รถกำลังวิ่งจะข้ามสะพานแห่งที่สาม 

คุณกฤษณาสะดุดตากับภาพคัทเอ๊าท์ ด้ายซ้ายมือ รู้สึกคุ้นๆ โดยเฉพาะแววตาคู่นั้นที่อยู่ในภาพ รู้สึกเอะใจ เธอตัดสินใจบอกให้แท็กซี่ย้อนกลับมาที่ป้ายนั้นอีกครั้ง แวะถาม ที่ป้อม ยาม ว่า มาตามแผนที่นี้จากภูเก็ต ต้องการจะมาวัดพระธรรมกาย โอ้นี่แหละครับวัดพระธรรมกาย ผู้มีบุญนะเนี่ย มาถึงที่นี่ได้ เชิญครับ ยามแนะนำ สามแม่ลูกไปอาคาร ประชา สัมพันธ์ ผ่านพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศเงียบสงบ น้องที่คอย ต้อนรับบอกว่า พี่มาวันนี้โชคดีนะคะ พรุ่งนี้วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นวันบุญใหญ่ ทอดกฐินคุณยาย พร้อม ส่งภาพคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งจะเป็นประธานใหญ่ในครั้งนี้ให้ และเชิญชวนมาร่วมงานวันพรุ่งนี้

คุณกฤษณารับมาด้วยอาการตื่นเต้นกับรูปที่เขาส่งมาให้ ทันทีที่เธอเห็นได้ตอกย้ำว่า เธอมาถูกทางแล้ว คุณยายในฝันที่นำองค์พระมาให้คือคนที่อยู่ในภาพนี้ เธอขอปวารณา สร้าง พระด้วยความศรัทธาทั้งที่มีเงินติดตัวมาแค่ ๑,๐๐๐ กว่าบาท ตัดสินใจทำบุญจนหมดกระเป๋าทันที

ทำบุญเสร็จนึกถึงพี่สาวที่อยู่รังสิต จึงพาคุณแม่กับลูกสาวไปพักค้างที่นั่นก่อน รุ่งเช้าเตรียมข้าวปลาอาหารเท่าที่จัดหาได้ไปถวายพระ เธอชวนพี่สาวกับพี่เขยไปด้วย วันนั้นทุกคน ต่างปีติขนลุก น้ำตาไหลอาบแก้ม บอกกับตัวเองได้คำเดียวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็น ภาพแห่งการทำความดี ที่งดงาม ทุกขั้นตอนสง่างาม ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการสร้าง มหากุศล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เธอกลับภูเก็ตด้วยดวงใจที่เบิกบาน เต็มไปด้วยประกายแห่งความดีงาม ต่อสู้ชีวิตด้วยความมั่นใจในความสำเร็จ เธอค้นพบธาตุแห่งความสำเร็จแล้ว คือบุญที่อยู่ในกลางกาย ด้วย การ กลั่นใจให้บริสุทธิ์ทุกๆ วัน ทำขนมขายไปก็มุ่งทำใจให้ใสอยู่กับของ ขวัญชิ้นใหญ่ที่เธอได้รับมาจากวัด

เธอได้รับฟังธรรมะในวันนั้น จำได้แม่นว่าเป็นเรื่องของมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง เมื่อเกิดอุทกภัย แห้งแล้งทั่วทั้งเมือง ผู้คนไม่สามารถอาศัยอยู่ในเมืองนี้ได้ หนีไปอยู่เมืองอื่นหมด ที่บ้านของ เศรษฐี เหลือกันอยู่แค่ ๕ คนคือ เศรษฐี ภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ และทาสสนิทอีกหนึ่งคน เศรษฐีได้นำข้าวที่เก็บไว้หลายแห่ง มาบริโภคจนหมด ท้ายสุดนำข้าวที่ฉาบทาฝาบ้าน มาแช่น้ำเอาเฉพาะข้าว เปลือกมาบริโภค จนเหลือมื้อสุดท้าย ภรรยาได้แบ่งข้าวออกเป็น ๕ ส่วน เท่าๆ กัน ขณะที่กำลังจะบริโภคด้วยความหิวอยู่นั่นเอง พระปัจเจกพุทธเจ้า พระองค์ หนึ่งพึ่งออกจากนิโรธสมาบัติได้เสด็จผ่านมา เศรษฐีเห็นเกิดความเลื่อมใส บรรจงตักข้าวใส่บาตรจนข้าวในส่วนของเศรษฐีเหลือครึ่งหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงปิดฝา บาตร เศรษฐีก็อ้อนวอนให้ท่านเปิดฝาบาตรอีกครั้ง เศรษฐีมีความตั้งใจจะถวายให้หมด เพราะหวังประโยชน์ถึงภพเบื้องหน้าด้วย ตักข้าวใส่บาตรด้วยความเบิกบาน

พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า ความอดอยากเช่นนี้ อย่าได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีกเลย ในทุกๆ ที่ที่ข้าพเจ้าเกิด ขอให้ข้าพเจ้ามีอาหารเลี้ยงมนุษย์ได้ทั่วโลก เมื่อข้าพเจ้าทำความสะอาด ยุ้งฉาง แล้วมองไปบนฟ้า จงให้ข้าวตกลงมาเต็มยุ้งฉางทั้งหมด

พระปัจเจกพุทธเจ้าทรงกล่าวให้พรว่า จงเป็นอย่างนั้นเถิด ทุกคนในบ้านเศรษฐีต่างพร้อมใจกันถวายข้าวในส่วนของตนแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าเช่นเดียวกับเศรษฐี

ในวันนั้นข้าวได้ตกลงมาเต็มทุกยุ้งฉางของท่านเศรษฐี ตั้งแต่นั้นมา เมืองแห่งนี้ก็กลับอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม เศรษฐีและบริวารละจากโลกนี้ไป เสวยสุขเป็นเทวดาอยู่ในสวรรค์ ในชาติสุดท้ายได้เกิดเป็นเศรษฐีที่มีสมบัติตักไม่พร่อง ชื่อ เมณฑกเศรษฐี มีโอกาสรับฟังพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน

เธอได้เล่าเรื่องนี้กับเพื่อนๆ และคนที่รู้จักเสมอๆ ถือว่าเป็นของที่ระลึกอันล้ำค่าที่ได้รับมอบจากการได้มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายครั้งแรกในชีวิต จากนั้น ก็พยายามหาโอกาส ไป ศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ภูเก็ต พบเพื่อนกัลยาณมิตรปฏิบัติธรรมร่วมกัน และปฏิบัติเองที่บ้าน ใช้วิธีเปิดเทปธรรมะฟังขณะนั่งสมาธิ ชีวิตเริ่มดีขึ้น ขายของแล้วแบ่งทรัพย์ ที่หามาได้ ด้วย ความเหนื่อยยากบางส่วน มาเปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ บำเพ็ญทาน เมื่อใจดีสิ่งแวดล้อมจึงดีตาม เธอบอกว่าต่างกับเมื่อก่อนที่มีแต่ความเศร้าหมอง หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม คิดสิ่งใด ก็ไม่ออก มองเห็นแต่ปัญหา ตั้งแต่เรียนรู้วิธีทำสมาธิ ทำใจสบายๆ จิตใจไม่วิตกกับเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ไม่กังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต ทำใจสบายๆ อยู่กับปัจจุบัน เริ่มมี ความคิดที่ดีๆ จัดแต่งร้านไป เรื่อยๆ ให้ดูน่าแวะเข้ามาชม ของก็ขายได้ดีขึ้น ใจเกาะอยู่กับความดีงาม แบ่งกำไรสะสมไว้ตักบาตร สร้างองค์พระทุกวัน

แล้วช่องทางก็เปิด มีคนมาติดต่อให้ไปช่วยจัดร้าน ขายขนมให้ โดยยกให้คุณกฤษณาออกแบบจัดร้านทั้งหมด ขนมทุกชิ้นก็ซื้อจากร้านของคุณกฤษณาไปวางขาย ทำให้เธอ ได้เงินก้อนจากการจัดร้านอีกร่วม ๓๐,๐๐๐ บาทต่อราย ซึ่งแต่ละรายนั้นยินดีจะสั่งขนมจากร้านเธอไปขายอย่างต่อเนื่อง เธอจึงนำเงิน มาลงทุนขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น

ชีวิตพลิกผันจากรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ยอดขายจากเดือนละไม่กี่หมื่นบาท ต้องเหนื่อยทำขนมเองเพราะทุนน้อย ไม่พอไปสั่งซื้อเขา แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นเดือนละเกือบ สองแสน บาท มีลูกน้องคอยดูแลจัดร้านขายขนมให้ ร้านของเธอขายดีเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาร้านขนมด้วยกัน ซึ่งต่างจากเมื่อก่อน ร้านของเธอ วันๆ แทบจะขายไม่ได้เลย ได้แต่นั่งมอง คนอื่นขาย ทำยังไงเราถึงจะขายดีอย่างคนอื่นเขาบ้าง

แต่เดี๋ยวนี้เธอถือกุญแจแห่งความสำเร็จทุกๆ วัน ด้วยการทำจิตใจให้ผ่องใส หากุศโลบายสร้างบุญกุศลตลอดเวลา พูดคุยแต่สิ่งดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ ถือคติว่า คิดดี พูดดี ทำดี เธอบอกว่า ปัจจุบันครอบครัวมีความสุขมาก ไม่ทุกข์เหมือนเมื่อก่อน ที่บางครั้งเธอถึงกลับต้องแอบนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวทุกข์ใจกับปัญหาในชีวิตที่แก้ไม่ตก

มีเพื่อนที่เห็นความ เปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในชีวิตของคุณกฤษณาไต่ถาม ด้วยความสงสัย เดี๋ยวนี้ทำไมดูดีจัง ทั้งในเรื่องส่วน ตัว และกิจการค้า คุณกฤษณาถือโอกาส ทำหน้าที่ กัลยาณมิตรทันที ตอบว่า ถ้าเธออยากรู้ก็ไปที่บ้านเราซิ เธอต้องการให้เพื่อนได้พบกับบรรยากาศของการปฏิบัติธรรม มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ครอบครัวเราสวดมนต์ และนั่ง สมาธิ กัน ทุกวัน เพื่อให้ใจสบาย ใจมีประสิทธิภาพ และเอาใจที่ดีนี่แหละไปประกอบอาชีพการงาน ก็สะดวกสบายอย่างอัศจรรย์

คุณกฤษณาบอกว่ามีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อคุณติ๋ม มาร่วมปฏิบัติธรรมพร้อมกับสามี ทั้งคู่เกิดศรัทธาอยากสร้างองค์พระบ้าง คุณกฤษณาจึงแนะนำให้เขานึกถึงองค์พระที่อยากสร้าง นึกให้อยู่ในใจตลอด อธิษฐานแล้วจะสำเร็จ คุณติ๋มแย้งว่า แล้วเงินจะมาจากทางไหนล่ะ หนูทำงานประจำ เงินเดือนก็น้อย คุณกฤษณากล่าวว่า ให้เธอหมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ และ อธิษฐานจิตทุกๆ วัน ใจเป็นธาตุสำเร็จ ถ้าเธอเชื่อมั่นในอานุภาพบุญ บุญต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คุณติ๋มปฏิบัติตาม 

ต่อมาอีกไม่นาน คุณติ๋มมาพบด้วยใบหน้าที่สดชื่นสมหวัง บอกว่า หนูได้ลาภพิเศษมา ๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมที่ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวแล้วค่ะ

ทุกวันนี้ถ้าใครมาแวะซื้อขนมจากร้านคุณกฤษณา เมื่อเข้ามาในร้าน จะได้ยินบทสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ เบาๆ สบายสบาย ตลอดเวลา และไม่ต้องสงสัยว่า ร้านนี้ ทำไม ขายดีจัง เพราะเจ้าของร้านยืนทำหน้าที่หลักเป็นทนายแก้ต่าง คอยเล่า ตอบคำถามเกี่ยวกับการสร้างความดีในพระพุทธศาสนา โดยเล่าธรรมบทประวัติของนักสร้างบารมี ในกาล ก่อน ให้คนที่ได้รับฟัง เกิดกำลังใจในการทำความดี เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวไว้ในใจ แล้วทุกคนจะได้รับความสุขความสำเร็จเป็นรางวัล


[สารบัญ] [๔๒๘] [๔๒๙] [๔๓๐] [๔๓๑] [๔๓๒] [๔๓๓]