อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๔๓๑. จะเกือบสิ้น...ชื่อ

คนที่เป็นโรคนี้แล้วไม่มีโอกาสรอด และคุณหมอคงไม่ผ่าตัดให้เพราะถึงผ่าตัดคนไข้ก็ไม่รอด

คุณพะเนิน ผิวผ่อง และคุณดวงจิต สองสามีภรรยารีบร้อนออกจากบ้านที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ขับรถมุ่งหน้าสู่ จ.นครปฐม ทันทีที่ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อสมนึก หนูทอง คุณพ่อของคุณดวงจิต มีอาการป่วยหนักด้วยโรคที่ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งสองคนร้อนใจอยากไปให้ถึงบ้านคุณพ่อโดยเร็ว เพราะไม่ทราบว่าคุณพ่อมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง

พอมาถึงบ้านที่จังหวัดนครปฐม คุณพะเนินและภรรยารีบเข้าไปดูอาการคุณพ่อ พอเห็นก็ต้องตกใจมาก เพราะบริเวณตั้งแต่เท้าถึงโคนขาซ้ายบวมพอง และแดงเหมือนมีน้ำ อยู่ข้าง ใน ใสๆ เริ่มมีอาการครั้งนี้เพียง ๒ วัน ทำไมแผลถึงลุกลามมากขนาดนี้ คุณพะเนินคิดอย่างแปลกใจว่านี่มันโรคอะไรกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

คุณพ่อมีอาการ เจ็บปวด บริเวณแผลที่ขาข้างซ้าย ซึ่งบวมเป่งออกมาดูน่ากลัว เหมือนกับลูกโป่งที่ใส่น้ำพร้อมที่จะแตกได้ทุกเมื่อ เขาและภรรยาจึงรีบนำตัวท่าน ไปรักษาที่โรง พยาบาล มะการักษ์ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทันทีที่ถึงมือคุณหมอ คุณหมอบอกว่า นี่ถ้าคุณพาคนไข้มาส่งเร็วหน่อย แผลอยู่แค่น่องอาจจะทำการผ่าตัดได้ แต่นี่แผลลุกลาม ใหญ่โต เข้าไปถึงในกระดูก และเชื้อกระจายอย่างรวดเร็วมาก ถ้าใครเป็นแล้วโอกาสรอดมีน้อยมาก

วันแรกที่คุณพ่อสมนึกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และวันนั้นแผลเริ่มแตกพุพองเป็นน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมา แผลเริ่มเน่าเฟะจนคุณหมอต้องขูดเอาเนื้อที่เน่าทิ้งไป เพื่อสะกัดไม่ให้ แผล ลุกลามต่อไป คุณพ่อร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทรมาน คุณหมอบอกว่าต้องทำใจแล้ว โรคนี้เป็นโรคใหม่ที่คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดเชื้ออย่างรุนแรง (Necro-Tizing Fascitis-left leg) และคนไข้ยังเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย คนที่เป็นโรคนี้แล้วไม่มีโอกาสรอด และคุณหมอคงไม่ผ่าตัดให้ เพราะถึงผ่าตัดคนไข้ก็ไม่รอด เพราะเชื้อแพร่กระจาย อย่าง รวดเร็ว จากขาซ้ายไปขาขวา ลามจนถึงท้อง และแทรกเข้าไปถึงในกระดูก ถึงแม้จะต้องตัดขาทิ้งไป โอกาสรอดก็มีน้อยมากหรือไม่มีเลย คุณแม่และคุณดวงจิต ร้องไห้โฮออกมา อย่างสุดรันทดในโชคชะตาของคุณพ่อสมนึก อาการของคุณพ่อไม่ดีขึ้นเลย เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว คุณพะเนินเองก็ไม่ทราบว่าจะช่วยเหลือท่านได้อย่างไร คงต้องปล่อยไป ตามยถากรรม

คุณชาตรี สูติวราพันธ์ เป็นกัลยาณ มิตร ผู้ที่พยายามชวนคุณพะเนินไปวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๐ และคุณพะเนินเคยซื้อหนังสือพิมพ์ มาอ่านได้เห็นภาพ มหาธรรมกาย เจดีย์ และพระมหาสิริราชธาตุด้านหลังปก พอเห็นพระมหาสิริราชธาตุรู้สึกสะดุดตามาก แต่ก็ยังไม่ได้ไปวัดทั้งๆ ที่คุณชาตรีเฝ้าแวะเวียนถามชวนไปวัดตลอด เพราะเห็นว่า บ้าน ใกล้ กัน คุณพะเนินพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา เพราะตอนนั้นเริ่มมีกระแสข่าวโจมตีวัดพระธรรมกาย แต่คุณชาตรีก็ไม่ได้ท้อแท้ต่อการชักชวนคนไปทำความดี เขาแวะทักทาย คุณพะเนินบ่อยๆ เข้า จนในที่สุดคุณพะเนินได้ตัดสินใจไปวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรกในงานบุญบูชาข้าวพระอาทิตย์ต้นเดือน

พอมาถึงวัด คุณพะเนินบอกว่า รู้สึกตื่นตาตื่นใจที่มองเห็นผู้คนมากมายสวมชุดสีขาว มีแต่รอยยิ้มให้กันดุจดังญาติพี่น้อง และการนำนั่งสมาธิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ท่านดูแล้วน่าเลื่อมใสยิ่งนัก น้ำเสียงที่ฟังนุ่มนวลเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ฟังแล้วชื่นใจ ทำให้เขารู้สึกปีติมาก

ก่อนจะมาวัดคุณพะเนิน ติดเหล้า ติดการพนันงอมแงม เขาแทบไม่อยากไปไหนเวลาที่มีใครมาชวนไม่ว่าจะเป็นที่ใด เพราะเขาติดการพนัน ติดเหล้า เขาใช้เวลากับสิ่งนี้ ไปอย่าง ไม่รู้ตัวว่า เวลาของตัวเองสูญเสียไปอย่างไร้ค่า บางครั้งเวลาป่วยหนัก คุณหมอบอกให้งดเหล้า แต่เขายังแอบดื่มเหล้า เป็นอย่างนี้มา ๒๐ กว่าปี

แต่พอเริ่มเข้าวัดพระธรรมกาย เริ่มนั่งสมาธิจึงคิดไปว่า เราน่าจะนั่งสมาธิอย่างจริงจังสักครั้ง ไหนๆ ก็เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ที่สามารถ ประพฤติปฏิบัติธรรม ได้โดยสะดวก พอจิตใจเริ่มละเอียด ก็เกิดปัญญาว่า สิ่งที่ผ่านมาในชีวิตของเขานั้น มีแต่บาปอกุศล เมื่อมาวัดพระธรรมกายเข้าอาทิตย์ที่ ๓ เขาตัดสินใจหยุดเหล้า และตระหนักว่า การดื่มเหล้า เป็นสิ่งที่ผิดศีล ๕ สุราเมระยะ...ที่ดังก้องหูเวลาที่อาราธนาศีล และเขาก็ทำได้สำเร็จ เขาสามารถตัดเหล้าได้ และตระหนักถึงผลของอกุศลดังกล่าว เริ่มคิดถึงพี่สาวและน้องชาย ที่ติด เหล้าพอๆ กัน จึงชักชวนพี่สาวและน้องชายมาเข้าวัดด้วย และเมื่อเขาเข้าใจเริ่มประพฤติปฏิบัติธรรม จึงเลิกเหล้าได้ในเวลาต่อมา

ช่วงระหว่างที่คุณพ่อสมนึกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น คุณชาตรีได้มาชวนคุณพะเนินไปร่วมบวชอุบาสกแก้วในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ เขาอยากไปมาก แต่ภรรยาซึ่งเป็นห่วง อาการ คุณพ่ออยากให้เขาอยู่ดูแลท่านด้วยกัน เขาได้พูดกับภรรยาว่า ถึงพี่อยู่ก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้หรอกนะ พี่ไม่ใช่หมอ ให้พี่ไปร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว จะได้นำบุญมาช่วยคุณพ่อ ได้ คุณดวงจิตนั้นเป็นคนที่ไม่เคยขัดศรัทธาในบุญ ถึงแม้เธอจะยังไม่เคยเข้าวัดพระธรรมกายในตอนนั้น และกระแสข่าวที่โจมตีวัดยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็นิ่งเฉยไม่ไหล ไป ตาม กระแสสื่อ คุณพะเนินก็ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วย เธอก็ไม่เคยพูดให้เสื่อมศรัทธาเลย

คุณพ่อมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ คุณหมอบอกว่า ไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้ว ทางเลือกสุดท้ายของคุณพะเนินก็คือ หวังพึ่งอานุภาพบุญ อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เพราะทราบว่า เคยมีหลายคนทำน้ำมนต์ให้คนป่วยดื่มหรือทาแล้ว หายอย่างเป็นอัศจรรย์ เขาคิดว่าเป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยพ่อตา ได้ เพราะเขาก็ศรัทธา ในคุณของพระรัตนตรัยอยู่แล้ว จึงคิด ว่า น่าจะลองดู

ก่อนออกเดินทางมาร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว ในคืนนั้นคุณพะเนินสวดมนต์ทำวัตรเย็น สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ ๓ จบ และนั่งสมาธิตามที่ได้รับการถ่ายทอด จากครูบา อาจารย์ เขานั่งจรดใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย จนใจเริ่มนิ่งประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นเขายังไม่ได้รับพระของขวัญ จึงขอยืมพระมหาสิริราชธาตุจากคุณชาตรีมาแช่ไว้ในน้ำ อธิษฐาน จิตขอให้อานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงช่วยดลบันดาลให้คุณพ่อสมนึกหายจากโรคร้ายนี้ด้วย จากนั้นบอกให้ภรรยานำน้ำมนต์แอบไปให้คุณพ่อดื่ม และทาตามแผลที่บวมและเน่า อย่าให้คุณหมอเห็น เพราะเขาไม่ให้บาดแผลคนไข้ถูกน้ำ

วันรุ่งขึ้นคุณพะเนินเดินทางมาวัดพร้อมกับคณะของคุณชาตรีซึ่งเป็นผู้นำรถ มุ่งหน้าสู่วัดพระธรรมกาย เพื่อไปร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว เขาตั้งจิตอธิษฐาน ขอบุญกุศลที่ได้มา ร่วม งาน บวชอุบาสกแก้วในครั้งนี้ช่วยให้คุณพ่อสมนึกรอดตายด้วย ถ้าหากท่านหายเป็นอัศจรรย์ จะได้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัยมากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่า สิ่งที่ปฏิบัติอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถูกทาง แล้ว

คุณพะเนินกลับจากวัดด้วยหวังที่จะนำบุญที่เปี่ยมล้นมาฝากทุกคน ถึงโรงพยาบาลราว ๘ โมงเช้า คุณดวงจิตรีบบอกเขาอย่างตื่นเต้นว่า ในวันที่พี่ให้น้ำมนต์มาก็รีบไปให้พ่อดื่ม และทาตามแผลที่พุพอง พอทาเสร็จ ท่านไม่ร้องเจ็บปวดทรมานเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา เนี่ย! พอเช้านี้ดูซิแผลยุบหมดเลย คุณพะเนินมองดูที่แผลของคุณพ่อด้วยความแปลกใจ ที่หายทันตาเห็นจริงๆ ทำให้เขามั่นใจว่า อานุภาพบุญมีจริง และเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยยิ่งขึ้น

เวลา ๙ โมงเช้าคุณหมอเข้ามาดูอาการคนป่วย พอเห็นแผลถึงกับเกาศีรษะด้วยความงุนงงว่า เป็นไปได้อย่างไร ที่แผลจะยุบได้ขนาดนี้ และไม่ลุกลามต่อ เพราะตอนแรก หมอ วินิจฉัย แล้วว่า แผลเน่าลามไปทั่ว ถึงผ่าตัดไปแล้ว ก็คงสิ้นเปลือง คนไข้ไม่มีท่าว่าจะรอด โรคนี้เป็นโรคที่ใครเป็นแล้วไม่มีทางรอดได้ พอคุณหมอเห็นแผลยุบ จึงรีบบอกคุณพะเนิน และภรรยาว่า หมอจะผ่าตัดให้ เพราะยังพอมีความหวังว่า คนไข้อาจรอดได้

คุณหมอได้ทำการผ่าตัดบริเวณโคนขาข้างซ้ายทิ้งไป เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อที่จะลุกลามไปยังอวัยวะส่วนสำคัญอื่นๆ พอผ่าตัดเรียบร้อย คุณพ่อได้นอนพักรักษาตัว ใน ช่วง เวลานั้นท่านบ่นปวดแผลที่ผ่าตัดมาก คุณพะเนินจึงทำน้ำมนต์ให้ท่านดื่ม หลังจากดื่มก็อาการปวดก็ทุเลา เขาทำน้ำมนต์พระมหาสิริราชธาตุได้ ๓ ครั้งติดกัน ในช่วงที่ คุณพ่อ บ่นปวดแผล หลังจากนั้นก็ไม่บ่นว่าปวดแผลอีกเลย

ปัจจุบันคุณพ่อสมนึกกลับมาอยู่ที่บ้าน สุขภาพดีขึ้นจนเป็นปกติ คุณพ่อสมนึกรอดตายในครั้งนี้ คุณดวงจิตจึงเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า ซาบซึ้ง ในคุณของพระรัตนตรัย เธอได้เดิน ทาง ไปร่วมงานบุญ ที่วัดพระธรรมกายพร้อม กับสามีทุกๆ อาทิตย์ และทุกวันเวลาทุ่มครึ่ง ทั้งสองสามีภรรยา ก็จะพากันไปสวดมนต์ที่บ้านคุณชาตรี ที่เปิดเป็นบ้านกัลยาณมิตร ต้อนรับผู้มีบุญด้วยความอบอุ่นประดุจญาติมิตร ทุกคนจะมาพร้อมกัน และร่วมใจกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น สวดบทสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ และนั่งสมาธิทำใจให้สะอาด บริสุทธิ์ผ่องใส เพื่อให้บุญที่พวกเขาได้ประกอบไว้ดีแล้วนี้หล่อเลี้ยงรักษาให้มีแต่ความสุขความเจริญในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไป


[สารบัญ] [๔๒๘] [๔๒๙] [๔๓๐] [๔๓๑] [๔๓๒] [๔๓๓]