โฮมเพจเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว



 

สารบัญ


เศรษฐกิจในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


ฐานะการคลังของรัฐบาล

  • รายจ่ายของรัฐบาล

ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยต่อเนื่อง ไม่ขาดตอนจากที่ได้ริเริ่มมาแล้วในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การเร่งรัดพัฒนาเช่นนี้จำเป็นต้องมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงต้นรัชสมัยนั้น กระทรวงต่าง ๆ กำลังเริ่มวางแผนขยายการงานให้ครอบคลุมถึงมณฑลต่าง ๆ ให้มากขึ้น แทนที่จะให้เพียงกระทรวงมหาดไทยเพียงกระทรวงเดียวรับหน้าที่เกือบทุกอย่างในหัวเมืองมณฑลไว้ดังเช่นในระยะแรก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ทั้งจัดเก็บภาษีอากร การสาธารณสุข การให้การศึกษา และการยุติธรรม เป็นต้น โครงการของกระทรวงต่าง ๆ ที่จะเข้าไปทดแทนการทำหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในมณฑลต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่

  1. โครงการส่งเสริมการเกษตรของกระทรวงเกษตราธิการในหัวเมืองมณฑล ได้แก่การส่งเสริมเพื่อพัฒนาการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์

  2. โครงการของกระทรวงยุติธรรมในการจัดตั้งศาลให้ทั่วถึงในมณฑลต่าง ๆ

  3. โครงการของกระทรวงนครบาลในการขยายเขตสุขาภิบาลออกไป

  4. โครงการของกระทรวงธรรมการในการขยายการศึกษาด้วยการจัดตั้งโรงเรียนของรัฐบาลเป็นตัวอย่างเมืองละ 1 แห่ง และวางโครงการศึกษาภาคบังคับทั่วพระราชอาณาจักร

นอกจากนั้นกระทรวงมหาดไทยเองก็ยังมีโครงการพัฒนาหัวเมืองมณฑลชั้นนอก ได้แก่มณฑลอีสาน มณฑลพายัพ มณฑลอุดร และมณฑลปัตตานี ด้วยการสร้างเส้นทางคมนาคม ทั้งภายในมณฑลนั้น และการดำเนินการให้ประสานสอดคล้องกับการขยายเส้นทางรถไฟที่กำลังจะไปถึง เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการคมนาคมกับส่วนกลางให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการใช้จ่ายตามโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ซึ่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากแล้ว รัฐบาลยังจำเป็นต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากและเร่งด่วนในการปรับระบบเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนที่เกิดความลักลั่นและเหลื่อมล้ำกันอยู่มากระหว่างอัตราเงินเดือนเก่าและใหม่มาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นระยะเต้นเริ่มการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ครั้นมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทรวงต่าง ๆ ก็เร่งแก้ไขความเหลื่อมล้ำด้วยการปรับขึ้นเงินเดือนอัตราเก่า และยังมีการขอตั้งอัตราเงินเดือนสำหรับตำแหน่งราชการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นด้วย เป็นผลให้งบประมาณรายจ่ายประจำในประเภทค่าจ้างเงินเดือนที่กระทรวงต่าง ๆ เสนอมานั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภาระหนักในการใช้จ่ายอีกด้านหนึ่งของรัฐบาล ก็คือการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างและขยายเส้นทางรถไฟต่อไปอีกมากจากที่เริ่มไว้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อให้การติดต่อค้าขายและขนส่งผลผลิตการเกษตรภายในราชอาณาจักรเป็นไปได้โดยสะดวก รวดเร็ว และต้นทุนต่ำกว่าเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้จ่ายพัฒนาระบบชลประทานอย่างจริงจังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อการเกษตรอย่างรุนแรงเกิดขึ้นอีกเช่นที่เคยเกิดขึ้นในช่วงพ.ศ.2450-2454 การใช้จ่ายทั้งในด้านการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งและการชลประทานนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศจนไม่อาจละเลยได้

ภาระการใช้จ่ายที่สำคัญของรัฐบาลประการสุดท้ายก็คือการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งถึงแม้จะมีพระบรมราโชบายจำกัดงบป้องกันประเทศไว้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของเงินรายได้ทั้งหมด แต่ก็ยังไม่อาจควบคุมการใช้จ่ายลงได้มากนักเนื่องจากงบประมาณสำหรับการทหารถูกจำกัดไว้ไม่ให้เพิ่มขึ้นเป็นเวลานานถึง 5 ปีในช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การของบประมาณจึงเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ประกอบกับกรมทหารเรือในกระทรวงกลาโหมได้แยกออกไปตั้งเป็นกระทรวงอิสระต่างหาก และกระทรวงกลาโหมก็เตรียมการจัดตั้งกองทัพอากาศขึ้นด้วย

    หน้า 4   

    หน้า 6