Personal Long Interview

วันนี้อยากจะขอสัมภาษณ์ฮิเดะ เอาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วจนถึงคอนเสิร์ตโตเกียวโดมปี'94 ที่เพิ่งผ่านไปเลยนะคะ
ทุกคนให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้วเหรอครับ

ค่ะ... เหลือฮิเดะคนเดียว
คุณโอชิม่าสัมภาษณ์ทุกคนเลยเหรอครับ?

ค่ะ...
แหม!! ผมขอให้สัมภาษณ์ไม่มากได้ไม๊ (หัวเราะ)

ไม่ได้ค่ะ
เดี๋ยวพูดไม่ตรงกับอีก 4 คน แล้วแย่เลย(หัวเราะ) บางครั้งอ่านอ่านบทสัมภาษณ์ของเพื่อนๆ แล้วยังมี "เฮ่ย!!! อะไรวะ" เลย

ถ้าเป็น X น่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่เอา Title ของคอนเสิร์ตนี่คือ "Blue Night" กับ "White Night" นี่...
ตอนนั้นทุกคนอยู่ที่ L.A. ก็คุยกันทางโทรศัพท์

คนคิดก็คือ โยชิกิ สินะคะ
ใช่ครับ... ตอนคุยกันทางโทรศัพท์ อยากให้ในแต่ละวันมันมีความหมายน่ะ ถึงแม้ว่าจะทำสิ่งเดียวกันใน 2 วัน แต่ก็อยากให้ทั้ง 2 วันนี่มันแตกต่างกันนะ ผมรู้สึกว่า วันที่ 31 เนี่ยมันส์กว่านะ ถ้าเล่น 2 วัน ผมว่า วีนที่ 2 มันกว่า ผมไม่อยากให้เป็นอย่างงั้น "Blue Night" กับ "White Night" นี่ ความหมายก๋มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว คิดว่า โยชิกิ คงพูดไปแล้วนะ ที่เป็น X ทุกวันนี้เพราะมี "Blue Blood" หรือ ในบรรดาสีทั้งหมด สีฟ้านี่มันให้ blue image ที่แข็งแกร่งและชัดเจนที่สุด ดังนั้นมันจึงทำให้ผมรู้สึกว่า "ลืมเรื่องอะไรไปหมดแล้วมาเริ่มความรู้สึกดีๆ ใหม่" อันนี้อ้าวอิงมาจากคำพูดของโยเขาน่ะครับ ฮ่า... ฮ่า... (หัวเราะ)

เล่นทั้ง 2 วัน มีการเปลี่ยนแปลงลำดับเพลงใหม่บ้างไม๊คะ
ผมยังคิดเหมือนเดิม คือ "ไม่ควรทำให้เหมือนกัน" โยชิกิบอกว่า ในวันแรกเรามาเริ่มเพลงแรกกันด้วย "X" ผมก็เห็นด้วย พวกเราประชุมกันบ่อยมาก แต่ตอนนั้นไม่ค่อยมีไอเดียเด็ดๆ เข้ามาเลย

ดูเหมือนวงนี้จะเป็นวงที่ประชุมบ่อยกันจังนะคะ
มีประชุมบ่อย ทั้งยังมีเนื้อหาที่เข้มข้นด้วย กว่าจะสรุปอะไรได้สักอย่างนี่ ใช้เวลานานมากเลยล่ะ (หัวเราะ)

หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้ว ก็คงจะเข้าบันทึกเพลง "Longing" เลยสินะคะ?
ใช่ครับ!! ผมได้เทปตอนที่โยชิกิกลับมาจาก L.A. หลังจากนั้นก็ทำส่วนของกีตาร์ แล้วก็เข้าห้องอัดกัน

ทำอะไรแตกต่างไปจากเดโมเทปไม๊
ไม่เลย แค่มีอารมณ์ร่าเริงขึ้นเล็กน้อย นอกจากนั้นไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงตอนนี้ก็ใช้เครื่องคอมเข้าช่วย พอเสร็จแล้วก็เอาเข้าสตูดิโอเลย ใช้เวลาน้อยกว่าที่ทำตามปกติด้วย

ถ้าทำตามแบบที่เคยทำก็จะลำบากแย่เลยนะคะ
ก็มันเป็นเทปคาสเซตน่ะ เวลาอัดแล้วมันเสียงไม่ดี แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงใช่ไม๊ล่ะ ดังนั้น แม้ว่าจะบันทึกเสียงเหมือนกับทุกครั้ง เสียงมันก็แย่เหมือนเดิม ทำอะไรไม่ได้ ส่วนใหญ่จะใส่ count ของโยชิกิ ไว้ในช่าวงแรก แต่ก็ไม่เห็นมันจะดีขึ้นมาเลย โยชิกิเลยนับ หนึ่ง สอง สาม เสียงก็เบามากจนแทบจะไม่ได้ยินเลย

หน้า B ได้ยินเสียงโยชิกินับด้วยนะ
หน้า B ติดไมโครโฟนไว้บนสตูดิโอแล้วค่อยอัดเสียงกัน มันช่างเป็นเดโมเทปซะจริงๆ !!!!

หน้า B นี้มันยุ่งยากดีนะคะ
ยุ่งยากใช่ไม๊ล่ะครับ มันคือ 2 เพลงที่เล่นในโตเกียวโดม ซึ่งยังอัดเสียงไม่เสร็จเลย เพลงของผมก็ยังไม่ได้ใส่เนื้อร้องเข้าไปด้วย

โทชิเค้าร้อง "โมเนียว โมเนียว" สินะคะ (ไม่รู้ว่าเป็นเพลง หรืออะไรนะ เจ้าโมเนียวนี่ -ผู้แปล)
ตอนร้องที่โตเกียวโดมนั้นร้องได้ แต่ตอนอัดเสียงเพลงนี่ เนื้อร้องยังไม่เสร็จ โทชิเขาก็ร้อง "โมเนียว โมเนียว" แล้วก็ใส่เพลง "Break The Darkness" ไปด้วย

เพลง "I'll kill you" (ซิงเกิ้ลแรกของ X ออกเดือนมิถุนายน ปี 85) ก็ไปรวมในหน้า B ด้วยใช่ไม๊คะ
ใช่! ใช่! เรื่องนั้นไม่มีใครรู้นะ(หัวเราะ) ตอนผมเข้ามาอยู่วง X นะ เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุด และได้ใส่เข้าไปในชุด Heavy Metal Force III ผมว่าเพลงนี้มันแปลกๆ นะ ตอนนั้นผมยังอยู่วง Saber Tiger อยู่เลย พอฟังเพลงนี้ ยังคิดเลยว่า "เฮ่ย!! เพลงอะไรวะ ทำไมมันแปลกๆ" ผมชอบมันมากที่สุดเลย

พอทำเดโมเสร็จ ก็เริ่มซ้อมกันเลยหรือคะ
ก็กำหนดว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ซ้อมซักที คอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมครั้งนี้ จึงมีเพลงที่ไปเล่นกันสดๆ บนเวทีเยอะเหมือนกัน

ได้ข่าวมาว่า วันซ้อม(29) โยชิกิได้รับบาดเจ็บ
ใช่! ใช่! สมาชิกทุกคนเลยไม่ได้ซ้อมกัน ในวันนั้นนี่ทุกอย่าง O.K. มากเลยนะครับ ตารางที่เตรียมเอาไว้ก็ O.K. โยชิกิร่าเริงดี บรรยากาศในการซ้อมก็ดี พอผมเล่นโซโลของผมเสร็จก็กลับเข้าไปใรห้องแต่งตัว กะว่าจะไปกินข้าว ดูทีวี ทันใดนั้น... โทชิก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอกว่า "โยชิกิตกเวที!!!!!!" (จริงๆ แล้วคือ ตกรูใหญ่ๆ บนเวทีน่ค่ะ -ผู้แปล)

ตอนนั้นฮิเดะ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ผมตกใจหน้าของโทชิก่อนเลย ฮ่า... ฮ่า...(หัวเราะ) ถ้าเป็นเรื่องอื่นผมก็ไม่ตกใจหรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องบาดเจ็บ ได้รับอบัติเหตุอะไรอย่างนี้ ผมก็ตกใจเหมือนกันนะ

คิดว่าคอนเสิร์ตจะเป็นยังไงบ้าง
ไม่รู้สิ... แต้ถ้าแขนหักไปก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะนะ เล่นคอนเสิร์ตก็ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจะมานั่งตีโพยตีพายอะไร ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้นะ

พอโยชิกิกลับมาก็ซ้อมกันเลยสินะคะ
อืม... ใช่! แต่ดูเหมือนว่าจะยังเจ็บอยู่มากนะ ในที่สุดก็ไม่ได้ซ้อม แล้วก็ไปต่อในวันที่ 30 เลย ในวันที่ 29 น่ะนะ ผมตื่นเต้น เครียดจนนอนไม่หลับเลย คอนเสร์ตของผมเองก็เหมือนกัน นอนไม่หลับเลย แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ร้อง แค่เล่นกีตาร์อย่างเดียวยังนอนไม่หลับเลย เวลาผมนอนไม่หลับ ผมจะรู้สึก Moody (ก็ อารมณ์บ่จอย น่ะแหละ -ผู้แปล)

วันที่ 30 ได้ซ้อมไหมคะ
ซ้อมครับ ซ้อมนิดหน่อย

เปิดเวทีครั้งนี้ไม่ได้ใช้ "World Amthem" แต่ใช้ "Amethyst" สินะคะ
ผมไม่ชอบเปิดแบบ "World Anthem" เบื่อแล้ว ฮ่า... ฮ่า... ก็เลยช่วยกันหาเพลงที่มันเหมาะสมในการเปิดเวที แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดแน่นอนว่าจะเอาเพลงอะไร จริงๆ แล้วเมื่อปีที่แล้ว ผมชอบเพลงที่โยชิกิ ตีกลองโซโลมากเลย แล้วจากนั้น ก็ลืมเพลงนั้นไปแล้ว พอหลังจากนั้น เราก็ไปสวนสนุก "โคระคุเอ็นยูเอ็นจิ" แล้วได้ยินเพลงนี้ ผมก็เลยนึกออก "อ้อ!! เพลงนี้..." พแผมถามว่า "เอ๊?? เพลงนี้..." เขาก็บอกว่า "เป็นเพลงของโยชิกิ" ก็เลยเอาเพลงนี้กัน ช่วงเวลาเปิดเวที โดยใช้เพลงนี้มันเร็วใช่ไหมล่ะ ตอนนั้นดูเหมือนว่า โยชิกิเค้าก็ใช้ความคิดใหญ่เลย ดูเหมือนว่าเค้าได้ความคืดอะไรใหม่ๆ เต็มไปหมด พอเพลงนี้ขึ้น ม่านก็เปิดดขึ้นเลย แล้วก็มีเสียงผู้ชายแหบๆ ก้องกังวาน ส่งเสียงเรียก "ออน กีตาร์" "พาตะ" แต่ครั้งนี้ใช้เสียงผู้หญิง

บนเวทีมืดด้วย เวลาควันพุ่งขึ้นมาน่ะ ก็ไม่รู้สิว่าเพื่อนๆ ในวงยืนอยู่หรือเปล่า...
ก็ไม่เป็นไร ทุกคนรู้หน้าที่กันอยู่แล้วว่า จะต้องทำอะไร

ความประทับใจในการเล่นเพลง "X" เป็นเพลงแรก
ดีมากๆ เลย แต่ว่า tuning ประมาณ 16 measure ขึ้นมาทับซ้อนกันอยู่อย่างนั้นนะ ใครเล่นผิดก็ไม่มีใครรู้ พวกเบส กีตาร์ เล่นกันหูดับตับไหม้... ตอนนั้นคิดว่าต้องเล่นเพลงเร็วให้จบก่อนที่จะลิม ฮ่า... ฮ่า... แล้เวค่อยเล่นเพลงใหม่ ( X มั่วก็เป็นว่ะ!! ฮ่า... ฮ่า... สะใจ -ผู้แปล)

เพลง "Scar on Melody" เป็นเพลงของฮิเดะ ใช่ไหมคะ
ก็รู้นี่ ฮ่า... ฮ่า... เพลงนี้ผมทำคีย์เอง คีย์มันต่ำมากเลย ในเดโมเทปผมก็ร้องด้วย ผมอยากให้เสียงซ้อนของกีตาร์ออกมา แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนคีย์อีกแล้ว

คิดไม๊ว่า... โทชิ จะร้องโดยใช่เสียงแบบนั้น
ตอนแรก นึกไม่ออกเลยว่าจะร้องยังไง ตอนที่อยู่ L.A. โทชิร้องให้ฟังตั้งหลายครั้ง ลองเปลี่ยนคีย์ดูตั้งหลายครั้ง สุดท้ายก็เอาแบบที่โทชิร้องทั้งอย่างงั้นแหละ ดูเหมือนจะดีกว่า เวลาที่จะเอาใส่ไปในอัลบั้มยังไม่รู้เลยว่า จะเป็นยังไง

เห็นว่าเพลงใหม่ที่เล่นในโตเกียวโดม ยังไม่เสร็จเลย
ใช่ครับ ผมว่า มันต่างกันโดยสิ้นเชิง เพลงของผมเสร็จไปแล้ว 80% แต่ว่าผมเป็นคนเบื่อง่าย แม้ว่าจะเสร็จแล้ว ก็อาจจะทำโน่นทำนี่ เพิ่มเติมลงไปอีก สว่นเพลงของโยชิกิ ก็คงจะเปลี่ยนไปอีกล่ะมั้ง (ประมาณว่า ของฉันเสร็จแล้ว แต่คุณโยยังไม่เสร็จ -ผู้แปล)

เพลง "Dahlia" ของโยชิกิยังไม่เสร็จ ลำบากแย่เลยนะคะ
ใช่!! วันที่ 27 ก็กังวลว่า "จะเขียนเพลง หรือจะซ้อมกลอง จะทำอันไหนดี?"

พอเพลงใหม่จบไปแล้ว ก็เหลือแต่โชว์โซโล่ของแต่ละคน...
เหมือนเดิม ปีนี้ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันด้วย ไงล่ะ... ไม่รู้... แต่ว่าตอนซ้อมที่สตูดิโอมีเครื่องคนตรีแปลกๆ เพียบ อย่างเช่นไวโอลินตัวนี้ด้วยนี่ ฮ่า... ฮ่า... อย่างเบสโวโล่ของฮีทก็เหมือนกัน ฮีทจะทำอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

ก็ให้ไปรู้เอาในวันเล่นจริงเลยสิคะ
ใช่ ก็รู้ครั้งแรกตอนที่ดูมอนิเตอร์ในห้องแต่งตัว ดังนั้น ตอนช่วงโวโล่คอนเนอร์ของแต่ละคนเนี่ย ก็จะไม่มีใครรู้ว่าจะทำอะไร ผมก็ "เฮ่ย!!! ทำอะไรน่ะ" ผมเห็นครั้งแรกไง มันดี ก็คงรู้สึกเหมือนแฟนๆ ล่ะครับ ฮ่า... ฮ่า...(หัวเราะ)

โซโล่คอนเนอร์ครั้งนี้เล่นกับพาตะ ?
ก็คงจะเหมือน ถ้ามี ฮามาดะ ก็ต้องมี มัทซึโมโต้ ล่ะนะ(พิธีกรรายการ Hey Hey Hey! Music Champ) สองคนนี้รู้สึกจะ downtown ดี(หัวเราะ) เพราะว่าพาตะไม่ได้โซโล่กีตาร์ไง ผมก็เลยบอกว่า "ทุกคนเล่นกันหมด เรามาเล่นดวยกันเถอะ" วันแรกผมโซโล่เพลง "Draw The Line" ของ แอร์โรสมิธ แล้ววันที่ 2 โซโล่เพลง "Celebration" ทั้ง 2 วันนี่ คนละเพลงเลย

ได้ดู.........

From X' mania magazine no.2

                                                                                                    

l Hi-Ho l What's up Mr. Jones l Space monkey punk from Japan l Inside the pervert mound l
l Doubt l Sold some attitude l Tell me l A story l Love replica l Cafe le psyence l
l Ever free l Psychommunity exit l Sign my guestbook l View my guest book l