(0074) หลักสูตร "การพัฒนาทัศนคติในเชิงบวกในการทำงาน"


การฝึกอบรม
หลักสูตร
"การพัฒนาทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน"
( เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน)

1. บทนำ

เพื่อให้การพัฒนาองค์กรเกิดจากการมีส่วนร่วมอย่างแม้จริง เพื่อให้การพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานได้ผลอย่างยั่งยืน และเพื่อให้การพัฒนาในทุกเรื่องสอดคล้องกับข้อมูลความเป็นจริง ดังนั้นฝ่ายบริหารเห็นว่าหากได้ให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญต่อการผลิตอย่างมากได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมก่อน ก็จะได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพทุกระบบ และยังเป็นการตอบแทนความตั้งใจดีของพนักงานทุกคนที่มุ่งมั่นขยันทำงานตลอดมา ดังนั้นจึงเห็นสมควรได้จัดอบรมเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ให้กับพนักงานทุกคนเป็นรุ่นๆต่อเนื่องกันไป ที่มีการอบรมเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าการปฏิบัติงานในปัจจุบันยังบกพร่องอะไร แต่การอบรมจะทำให้ทุกคนได้เพิ่มเติมความรอบรู้-ไม่เพียงแต่ที่จะนำมาใช้ในการทำงาน แต่ยังสามารถนำเอาข้อคิดต่างๆไปใช้ ในชีวิตประจำวันด้วย สมตามเจตนารมย์ของบริษัทที่อยากจะให้ทุกคนทำงานอย่างมีความสุขทั้งในงานและทั้งในชีวิตส่วนตัวตลอดไป

2. วัตถุประสงค์

1 เพื่อให้พนักงานระดับปฏิบัติการที่ผ่านการอบรมสามารถ รวบรวม จัดกลุ่มข้อมูล นำเสนอเพื่อให้หัวหน้าระดับเหนือนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ทั่วถึง และได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนในหน่วยงานนั้นๆ

2 เพื่อให้พนักงานระดับปฏิบัติการได้มีส่วนร่วมในการพพัฒนาประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร (TQM) อันจะทำให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจ และส่งผลให้พนักงานทุกคนมีความเต็มใจและมุ่งมั่นที่จะทำ "งานของเขา" ให้ได้คุณภาพ และสำเร็จออกมาตามมาตรฐานที่กำหนด โดยไม่ต้องมีการควบคุมสั่งการโดยใกล้ชิด เพราะทุกคนตระหนักในความสำคัญของ "คุณภาพ" ทั้งของคนทำงานและ คุณภาพของผลงาน

3 เพื่อให้ผู้ผ่านการอบรมเกิดทัศนคติในเชิงบวกต่อการทำงานมากยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากความเข้าใจว่า การทำงานคือการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง และทุกคนได้รับอะไรต่างๆมากมายจาการทำงาน ไม่ใช่เฉพาะที่เห็นเป็นตัวเงิน แต่ได้เรียนรู้ ได้เพื่อน ได้รับความคุ้มครองต่างๆได้รับความห่วงใยจากบริษัท ดังนั้นการทำงานจึงเป็นการเข้ามาอยู่ในสังคมที่ห่วงใยกัน มีอะไรทุกข์ร้อนก็ไม่ทิ้งกัน เป็นสังคมที่กว้างกว่าการอยู่บ้านมาก ดังนั้นทุกคนจึงต้องทำงาน คนเรานั้นทำงานแล้วได้เงิน เป็นของธรรมดา แต่นึกดูดีๆ เราไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน

4 เพื่อพัฒนาทัศนคติในการมองเพื่อนร่วมงาน มองหัวหน้าในทางบวก ซึ่งถ้าเข้าใจหลักการบางอย่างแล้ว ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะเราพยายามให้ทำเช่นนั้น แต่ทุกคนอยากจะทำดีกับเพื่อนก่อน เพราะมีแต่สร้างความสุขให้กับตนเอง และทำงานอย่างมีความสุขด้วย


5 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้ตระหนักว่าฝ่ายบริหารได้มองเห็นความสำคัญของพนักงานในกลุ่มนี้มาตลอดและพร้อมที่ "จะให้" ทั้งโอกาส ให้ทั้งความรอบรู้ที่จะติดตัวไป ไม่มีใครมาเอาคืนไปได้ การอบรมจึงเกิดจากความรู้สึกที่ดี และเป็นการให้อย่างหนึ่งเพื่อตอบแทนความตั้งใจดีในการทำงานตลอดมา

 

3. เนื้อหาการอบรม
(เขียนในเชิงโปรแกรมการอบรม-จะได้มองเห็นได้ง่ายขึ้น)

ช่วงเช้าวันแรก
08.30 น. เปิดการอบรม / การอบรมเรื่อง…
1 กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์

กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ เพื่อการละลายพฤติกรรม และสร้างความคุ้ยเคย แต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน ใช้เวลาในช่วงนี้ 20-30 นาที จะทำให้บรรยากาศสนุกสนาน เป็นกันเอง และกล้าแสดงออก รวมทั้งสร้างความสนิทสนมกันด้วย

 

2 สิ่งที่ทุกคนได้รับจากการทำงาน

จะชี้ให้เห็นว่าคนเราได้รับอะไรมากมายจาการทำงาน ไม่ใช่เฉพาะตัวเงิน คนเราถึงมีเงินก็ต้องทำงาน เพราะงานคือชีวิต คนเราอยู่โดยไม่ได้ทำงานไม่ได้ ในหัวข้อนี้ใช้การซักถาม อภิปราย ไม่ใช่วิทยากรบอก แต่กระตุ้นให้ทุกคนช่วยกันคิดออกมาแล้วเขาจะเห็นจริง วิทยากรเสริมให้อีกบ้าง ประมาณ 30 นาที

 

3 ทำไมบางคนไม่ได้รับจากการทำงาน
อย่างที่คนอื่นๆได้รับ

ส่วนนี้ให้เขาคิดเองว่าการกระทำอะไรของตนเอง หรือการที่ตัวเองไม่ได้กระทำ ที่ทำให้ตนเองไม่ได้รับสิ่งดีๆจากการทำงาน ทุกคนจะเห็นสิ่งที่ควรกระทำและไม่ควรกระทำ ให้เขาสอนกันเอง วิธีการคิดส่วนนี้จะให้การประชุมกลุ่มคละกันแล้วให้เขาระดมสมองกันออกมาสัก 20-30 (เขาทำได้แน่นอน) ข้อแล้วให้เขาเลือกมาตอบสัก 10-12 ข้อ แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเมื่อมีการนเสนอจบแล้ว วิทยากรก็จะหยิบยกบางข้อมาเสริมให้ ในช่วงนี้ทั้งการประชุมกลุ่ม การนำเสนอ การสรุปเสริมของวิทยากรประมาณ 1 ชม. (จบขั้นตอนนี้ก็จะเป็นการ Coffee Break)

 

4 เทคนิคการ"ช่วยงาน"ของผู้บังคับบัญชา

ในขั้นตอนนี้จะเริ่มโดยการให้ประชุมกลุ่มทำกรณีศึกษา เพื่อให้เขาเห็นว่าลูกน้องมองงาน มองผู้บังคับบัญชาผิดพลาดไปอย่างไร แล้วเล่าตัวอย่างให้เห็นว่าสิ่งที่เรามักมองว่างานของเราไม่สำคัญ หรือผู้บังคับบัญชาไม่เอาใจใส่หรือไม่เป็นธรรมหรือ ฯลฯ นั้นจริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้น และวิธีการทำงานของตนเองให้มีความสำคัญขึ้นมาซึ่งทุกคนทำได้ ทั้งการเข้ากลุ่มการนำเสนอ การสรุปของวิทยากรประมาณ 1 ชม. (จะเห็นว่าเราเริ่มด้วยการเข้ากลุ่มทันทีจะทำให้ผู้เข้าอบรมไม่ห่วงนอน และการแบ่งกลุ่มก็จะคละเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นอกจากจะได้รู้จักกับเพื่อนอย่างสนิทในวงที่กว้างขึ้น ทุกคนจะเรียนรู้พฤติกรรมในการทำงานในกลุ่มจากเพื่อนด้วย ทั้งการพูด การคัดค้าน การนำเสนอความคิดต่อกลุ่ม ฯลฯ

 

5 หลักการช่วยงานผู้บังคับบัญชา

ตั้งแต่ทำงานให้เสร็จตามที่มอบหมาย, ทำงานให้ดีกว่าที่หัวหน้าสั่งสักนิด, ทำงาน + BCE (Beyond Customer Expectation) คือดีกว่าที่นายสั่งมาก, การเสนอข้อคิดเห็นเพื่อการปรับปรุงงาน ตามลำดับ ดังนั้นการที่แต่ละคนได้ร่วมกันเสนอแนวทางการปรับปรุงงานนั้นคือว่าดีที่สุดในการทำงาน เป็นการบรรยายและอภิปรายซักถาม รวมแล้วประมาณ 30-45 นาที

 

ช่วงบ่ายวันแรก
6 เทคนิคการทำงานแบบ"ตั้งแท่น"

เป็นการชี้ให้เห็นว่า "ถ้ามีเราอยู่ในหน่วยงานนี้ หัวหน้างานต้องสบายใจขึ้น" โดยการทำงานแบบ "ตั้งแท่น" คือเมื่อหัวหน้าสั่งงานมา รับรองว่าจะงานจะแล้วเสร็จและถ้าเป็นงานที่หัวหน้าต้องตัดสินใจ ก็สามารถทำได้เลย เพราะมีทางเลือก มีข้อมูลพร้อม รวมทั้งข้อเสนอแนะ (Recommendation) โดยใช้กรณีศึกษา และ/หรือการระดมสมอง หัวข้อเช่น "เราจะช่วยให้หัวหน้าทำงานอย่างสะดวกขึ้น สบายใจขึ้นได้อย่างไร" / "ผู้ที่รับผิดขอบในการทำงานเราจะเห็นได้อย่างไร" ทั้งการเข้ากลุ่ม การนำเสนอหน้าชั้น การบรรยายเสริมประมาณ 1 ชม. (ในช่วงการอบรม หรือถ้ามีการนั่งนานพอสมควร ก็จะมีกิจกรรมสั้นๆเสริม เพื่อให้ทุกคน ได้เปลี่ยนอริยาบท 5-10 นาที แล้วอบรมต่อ)

 

7 การพัฒนาการทำงานเป็นทีม




(จบการอบรมวันแรก)
จะเห็นว่าเราเริ่มจากตัวเอง แล้วมาเรื่องหัวหน้า แล้วต่อไปก็เห็นเรื่องทีมงาน การอบรมในส่วนนี้จะให้ดูวีดีโอฝรั่งพากย์ไทย คมชัด 30 นาที แล้ววิทยากรเสริม วีดีโอ.เรื่องนี้ดีมาก จะเห็นว่าการสร้างทีมไม่ยากเลยเพียงเริมจากตัวเรา คือ 1 "พฤติกรรมสร้างพฤติกรรม" …และอีก 3 ข้อ ดูแล้วทุกคนคงอยากจะปรับพฤติกรรมตนเองไปอย่างมาก รวมทั้งการเข้ากลุ่ม นำเสนอ อธิบายเสริม(จบการอบรมวันแรก)


ช่วงเช้าวันที่สอง
8 เทคนิคการทำงานอย่างมีความสุข

ก่อนเริ่มอบรมวันที่สอง ก็จะมีกิจกรรมเสริม อนึ่งในการเล่นทำกิจกรรมต่างๆ บางกิจกรรมเราจะการให้ รางวัลเล็กน้อยๆ เพื่อความภาคภูมิใจ และทำให้ทุกคนรู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรม ในหัวข้อนี้จะเป็นการให้ข้อคิดเรื่อง "ความสุขของคนเราอยู่ที่การคิด" ทุกวันเราอยู่ที่บริษัทวันหนึ่งๆ ก็หลายชั่วโมง ดังนั้นถ้าเราทำงานเพียงเพื่อให้จบไป แล้วคิดว่าจบงานวันนั้นแล้วจะมีความสุข เราจะมีเวลาน้อยมาก ดังนั้นเราต้องมีความสุขในระหว่างการทำงาน / วิทยากรจะแนะนำวิธีการคิด หลักการคิดทั้งทางศาสนา แต่จะไม่ได้พูดเชิงหลักธรรม เพียงนำเอามาประยุกต์ และชี้ให้เห็นว่าคนที่ทำงานอย่างมีความสุขนั้นจะมีประโยชน์ต่องานที่ทำด้วย และชี้ให้เห็นโทษของการทำงานอย่างเซ็งๆ "ความสุขอยู่ที่ใจไม่ใช่หรือ……" แล้วมีการร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นเพื่อการทำงานอย่างมีความสุข คือเพลง "แปดอยาก" และ "อุดมการณ์ชีวิต" บรรยากาศของเพลงสนุก ทั้งหมดตั้งแต่กิจกรรม การอธิบาย การทำวิเคราะห์กรณีศึกษา การนำเสนอ การประเมินตนเอง เพลงรวมแล้วประมาณ 2 ชม. (จะทำให้ทุกคนเปลี่ยนทัศนคติไปมาก ขอให้ผู้บริหารมาฟังตอนจบการอบรมวันที่ที่สอน นี้ที่เราจะให้ทุกคนได้พูดคนละ 2-3 ประโยค เราจะเห็นการสะท้อนความรู้สึก คงพัก Coffee Break

 

9 หลักการปรับปรุงงาน

เป็นการสร้างความเชื่อว่า "งานทุกอย่างสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้เสมอ" โดยยกตัวอย่าง แบบฝึกหัดง่ายๆ และ แบบฝึกหัดที่ให้ช่วยกันหาข้อที่ต้องปรับปรุง ใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จบขั้นนี้ก็คงพักกลางวันก่อนพัก จะเป็นกิจกรรมที่สร้างความเป็นทีม สร้างทัศนคติที่ดีต่องาน ต่อเพื่อนร่วมงาน

 

ช่วงบ่ายวันที่สอง
10 การวิเคราะห์"อาการของงานที่ต้อง
ปรับปรุง"

 

 

 

จบวันที่สอง / จบการอบรม

เป็นการปรับปรุงงานที่ทำอยู่จริง คือวิทยากรจะเอา "อาการของงานที่ต้องปรับปรุงมาให้ ทั้งหมดมีประมาณ 20 อาการ เช่น "งานที่ผิดพลาดอยู่เป็นประจำ" หน่วยงานคุณมีไหม หรือ "งานที่ใช้เวลามากเกินควร" ในหน่วยของคุณมีไหม….อย่างนี้ รอบนี้เราจะแบ่งกลุ่มตามหน่วยงานแล้วให้ดูว่าหน่วยงานของเรามี "อาการอะไรบ้าง" (คล้ายอาการไข้) แล้วให้แต่ละกลุ่มจัดทำออกมา ว่าอาการอะไร คืองานอะไร สาเหตุเพราะอะไรและกลุ่มแนะนำอย่างไร ทั้งที่จะแก้ไขโดยตนเอง จะต้องรีบแจ้งให้หัวหน้างาน จะต้องเสนอแนะหัวหน้างานและจะเสนอให้แก้ไขอย่างไร (ส่วนนี้จะเป็นข้อมูลตามที่ได้หารือกันเมื่อวันที่ 6 พย.) เพื่อให้หัวหน้างานนำไปประกอบการทำแผนพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน

(ช่วงบ่ายนี้จะทำเรื่องนี้ตลอดจบประมาณ 16.30 น.) ก่อนจบจะมีการมอบของที่ระลึกระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน พร้อมจดหมายแสดงความชื่นชมซึ่งกันและกัน แล้วทุกคนมายืนล้อมวงให้ทุกคนได้พูดแสดงความรู้สึกต่อการอบรม - ที่ได้รับการอบรมคนละ 2-3 ประโยค ช่วงนี้ผู้บริหาร หรือผู้จัดการฝ่ายทุกคนถ้าว่างมาฟังผู้เข้ารับการอบรมพูด แสดงความรู้สึกแล้ว จะพบเห็น ได้ฟังอะไรบางอย่างที่น่าแปลกใจมาก

เมื่อจบแล้วจึงให้ทุกคนเขียนใบประเมินผล อนึ่งในช่วงเวลา 2 วัน เราจะสังเกตในทุกเรื่อง ของทุกคน แล้วลองกำหนด "ดาว" ออกมาให้สัก 10 คน จาก 40-45 คนในรุ่น ซึ่งอาจไม่ตรงนักแต่เราจะพบว่าบางคนที่ไม่มีใครเคยรู้ แต่ระหว่างการอบรม เขาได้มีโอกาสได้แสดงออกในเรื่องต่างๆ เป็นดาวที่ถูกเมฆบังมานานก็ได้

ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างทัศนคติต่องาน ต่อหัวหน้างาน ต่อบริษัท และการคิดปรับปรุงงานอีกมาก บางเรื่องต้องดูจังหวะที่จะแรก เข้าไปได้ การอบรมจะไม่ใช่การบรรยาย แต่จะเป็นการสร้างช่องทาง สร้างวิธีการคิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม ได้แสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง

หลักสูตร "การพัฒนาความคิดเชิงบวกในการทำงาน" หรือ "การพัฒนาทัศนคติในการทำงาน" หรือหลักสูตรทำนองนี้จะมีประเด็นแตกต่างออกไปหลากหลาย ตามสภาพความเป็นจริงและปัญหาของบริษัทที่จัดอบรมให้ข้อมูลมา ดูเพิ่มเติมใน Menu 6


กลับหน้าแรก Menu 7
ไป Menu 6