????????????????????????????? | หน้าหลัก | รัฐฟลอริด้า | สมาคมนักเรียนไทยในอเมริกา | สถานกงศุลไทยในต่างแดน | ENGLISH

Thailand Main Menu

 จุดมุ่งหมายของสมาคม

 ทะเบียนนักเรียนไทย

 ประมวลภาพ

 งานสังสรรค์

 หน้ากระดาน

 สมุดบันทึก

 ประกาศรับสมัครงาน

 Bookmark This Site

USA ??????? Studying In USA

 ศึกษาต่อในอเมริกา

 คำแนะนำในการศึกษา

 ฟลอริด้าใต้

 สถาบันในรัฐฟลอริด้า

 โรงเรียนในเมืองไทย

 สถานกงศุลไทย

 ติดต่อกงศุลไทยในอเมริกา

 ร้านอาหารไทยในฟลอริด้า

 ธุรกิจคนไทยในฟลอริด้า 

 สมาคมนักเรียนไทย

 การส่งของใช้กลับไทย

 ทุนการศึกษาฟรี

 U-Promise Funds

What's New Links

 Link ที่น่าสนใจ

 ครัวไทย Thai Grocer

 อาหารไทย

 ตำหรับอาหารไทย

 แบบฟอร์ม DV-2009

 Affiliate Program

Alaska Washington Oregon Idaho Montana Wyoming California Nevada Utah Arizona Colorado New Mexico North Dakota South Dakota Nebraska Kansas Oklahoma Texas Minnesota Iowa Missouri Arkansas Louisiana Wisconsin Illinois Michigan Indiana Kentucky Tennessee Mississippi Ohio West Virginia Alabama Florida Georgia South Carolina North Carolina Virginia Puerto Rico Hawaii District of Columbia Maryland Delaware New Jersey Connecticut Rhode Island Massachusetts New Hampshire Vermont Maine New York Pennsylvania New Hampshire Vermont Massachusetts Rhode Island Connecticut New Jersey Delaware Maryland U.S. Map
Search Here ค้นหาข้อมูลของรัฐที่ท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมจากแผนที่ด้านบน

Q: การเลือกสถาบันศึกษาต่อต่างประเทศ

A: ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันที่ต้องการจากห้องสมุด อินเตอร์เน็ต สถานฑูต โรงเรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ปรกครอง เพื่อนๆ และรุ่นพี่ที่จบจากสถาบัน เตรียมตัวสอบ TOEFL GMAT GRE ให้ผ่านก่อนเดินทางต่างประเทศ สถาบันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาส่วนใหญ่จะระบุคะแนนสอบขั้นต่ำที่ต้องการก่อนพิจารณารับใบสมัคร นักศึกษาบางท่านที่ต้องการมาเรียนภาษาก่อนสอบ มีปัญหาไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้ เนื่องจากสอบไม่ผ่าน หรือคะแนนไม่ถึงเกณท์ เดือดร้อนการเงินทางบ้าน วิธีที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อมมาจากเมืองไทย การสมัครเข้าเรียนควรติดต่อสถาบันแผนก Admission Office โดยตรง ขอใบสมัครให้ส่งมาทางไปรษณีย์ พร้อมทั้งรายละเอียดของที่พักนักศึกษา กรอกบัตรพร้อมแนบค่าสมัครเป็นเงินดอลล่าร์ หากสถาบันตอบรับ ทางโรงเรียนจะส่งแบบฟอร์ม I-20 ให้ไปยื่นเรื่องติดต่อทำเรื่องวีซ่านักเรียน ณ สถานฑูตอเมริกาหรือแคนาดา

Q: การออกแบบฟอร์ม I-20 หลังวันที่ ๑๑ กันยายน

A: กองตรวจคนเข้าเมือง เสนอการเปลี่ยนบทกฎหมายที่มีผลกระทบต่อนักศึกษาที่ต้องการเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา ภายหลังวันที่ ๑๑ กันยายน พศ.๒๕๔๕ กฎหมายใหม่ห้ามผู้ที่เดินทางเข้าในประเทศอเมริกาเปลี่ยนสถานะวีซ่าจากนักท่องเที่ยวเป็นนักศึกษานอกเหนือจากว่าจะได้รับอนุญาติจากรัฐบาลเสียก่อน สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อติดต่อหรือเยี่ยมชมสถาบันก่อนตัดสินใจลงทะเบียน ต้องแจ้งเหตุผลที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อศึกษาต่อ พร้อมทั้งยื่นแบบฟอร์ม I-20 ที่สถาบันออกให้เพื่อให้กองตรวจคนเข้าเมืองระบุลงในใบขาเข้าออกนอกประเทศไว้เป็นหลักฐาน ก่อนยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะวีซ่าภายหลัง

Q: ประกันสุขภาพสำหรับนักศึกษา

A: ค่าหยูกยารักษาพยาบาลในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาค่อนข้างสูง นักศึกษาควรมีประกันสุขภาพไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลประมาณคืนละ ๑๐๐๐-๓๐๐๐ เหรียญ ตกประมาณสี่หมื่นถึงหนึ่งแสนบาทต่อคืน บางสถาบันกำหนดให้นักศึกษามีประกันสุขภาพต่อเทอม ติดต่อสถาบันเพื่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงหรือเมลล์คำถามมาได้

Q: การยื่นเรื่องเสียภาษีเงินได้

A: นักศึกษาทุกท่านต้องยื่นเรื่องเสียภาษีเงินได้ภายในวันที่ ๑๕ เมษายนของทุกปีถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานในสหรัฐอเมริกา นักศึกษาต้องกรอกแบบฟอร์มเสียภาษีสำหรับชาวต่างชาติ 1040 NR (Non-resident Alien) และลงรายรับเป็นจำนวน ๐ เหรียญ แบบฟอร์มนี้หาได้ตามห้องสมุดและโปรษณีย์ทั่วไป หรือติดต่อแผนกนักศึกษาต่างชาติในสถาบันที่เรียนอยู่

Q: การยื่นเรื่องขอวีซ่าท่องเที่ยว

A: ่นักศึกษาไทยที่ต้องการเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกา ต้องได้ลายเซ็นต์จากแผนกนักศึกษาต่างชาติในสถาบันที่เรียนอยู่ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ มิฉะนั้นจะกลับเข้าประเทศไม่ได้  หากต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศไทย ต้องติดต่อทำเรื่องขอวีซ่าท่องเที่ยวจากสถานฑูตประจำประเทศนั้นโ่ดยตรง เตรียมสมุดเดินทางและค่าธรรมเนียมเดินเรื่องแต่เนิ่นๆ เพราะบางที่ใช้เวลา เป็นอาทิตย์ก่อนออกวีซ่าให้ทางไปรษณีย์ หากติดต่อสถานกงศุลโดยตรงอาจได้รับวีซ่าในวันเดียวกัน หากเดินทางไปเที่ยวทวีปยุโรป ควรพิจารณาขอ Schenken วีซ่าเข้าออกนอกประเทศ

Q: การยื่นเรื่องขอวีซ่าประกอบวิชาชีพในอเมริกา

A: การประกอบวิชาชีพในอเมริกาต้องได้บริษัทผู้จ้างงานทำเรื่องขอ H-1B วีซ่าจากกระทรวงแรงงานและกระทรวงยุติธรรมให้อนุมัติให้ทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้จ้างงานต้องชำระค่าธรรมเนียมจำนวน ๖๐๐ เหรียญให้รัฐบาลโดยตรง นักศึกษาไทยต้องยื่นเรื่องผ่านทนายความส่วนบุคคลหรือผ่านบริษัทผู้จ้างงาน ในกรณีที่การว่าจ้างติดปัญหาการเดินเอกสาร ท่านจะต้องรอจนกว่าเอกสารจะออกให้ถึงเริ่มทำงานได้ บริษัททั่วไปนิยมที่จะว่าจ้างผู้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง หรือผู้ที่มีใบเขียวเรียบร้อยเท่านั้น

Q: การต่ออายุหนังสือเดินทาง

A: นักศึกษาไทยขอยื่นเอกสารต่ออายุหนังสือเดินทางได้โดยตรงหรือทางไปรษณีย์ที่สถานกงศุลใหญ่ในวอชิงตันดีซี โทร (๒๐๒) ๙๔๔๓๖๐๐ กรอกแบบฟอร์มพร้อมแนบค่าธรรมเนียม ใช้เวลาประมาณ ๓ สัปดาห์ในการออกเอกสาร

Q: การต่อ H-1B วีซ่าที่หมดอายุ

A: ติดต่อสถานกงศุลไทย:

The Visa Office
U.S. Department of State
2401 E Street NW, Suite 1306
Washington, DC 20622-0133

ติดต่อทนายความหรือสถานกงศุลไทยสำหรับแบบฟอร์ม OF-156 ส่งไปยังที่อยู่ด้านบนนี้ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมเป็นเงินธนาบัตรแยกจำนวน ๔๕ เหรียญและ ๑๕ เหรียญให้ Department of State พร้อมรูปถ่ายขนาดหนังสือ เดินทาง ๑ รูป เอกสารฟอร์ม I-94 และ I-797A Approval Notice ที่เย็บเล่มในหนังสือเดินทางตอนเข้าเมือง

Q: อายุของ H-1B วีซ่า

A: ท่านสามารถที่จะประกอบอาชีพการงานในสหรัฐอเมริกาได้เป็นเวลา ๖ ปีอย่างมากที่สุด หลังจากได้ H-1B วีซ่าแล้ว ภายในระยะเวลานี้ท่านสามารถเปลี่ยนงานได้เรื่อยๆ จนกว่าวีซ่าจะหมดอายุทุกๆ ๓ ปี ท่านต้องเดินเรื่องผ่านทางบริษัทสำหรับการขอวีซ่าใหม่จนกว่าท่านจะสมัครขอใบเขียวสำหรับอยู่ถาวร หลังจากได้วีซ่าเป็นเวลา ๖ ปีแล้ว ท่านยังไม่ได้ใบเขียว ท่านต้องเดินทางกลับประเทศไทยแล้วอยู่อย่างน้อยเป็นเวลา ๑ ปีก่อนที่จะสามารถทำเรื่องขอ H-1B วีซ่าใหม่

Q: การส่งของใช้ส่วนตัวกลับเมืองไทยหลังศึกษาจบแล้ว

A: กรุณาอ่านรายละเอียดการส่งของใช้ส่วนตัวกลับเมืองไทยโดยคลิ๊กที่นี่

Please send mail to with questions or comments about this site.
© 2001-2006 Thai Student Association of South Florida.  All Rights Reserved.