แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญภายในทุ่งศรีเมืองของจังหวัดอุบลราชธานี
สนามทุ่งศรีเมือง
ตั้งอยู่กลางใจเมืองอุบลราชธานีบริเวณหน้าศาลากาลจังหวัดอุบลราชธานี เป็นสวนสาธารณะประจำจังหวัดอุบลราชธานี มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เป็นแหล่งออกกำลังกายและสถานพักผ่อนของประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ศาลหลักเมือง เป็นที่สักการะบูชาของชาวจังหวัดอุบลราชธานีและนักท่องเที่ยว สร้างขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๑๕
ต้นเทียนพรรษาจำลอง เป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่น่าสวยยงามต่อผู้มาพบเห็นและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนสร้างขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๔๐ ในการสถาปนาเทศบาลนครอุบลราชธานี
อนุสาวรีย์และปฏิมากรรม ดังนี้คือ อนุสาวรีย์พระปทุมวรราชสุรียวงศ์(เจ้าคำผง) , ปฏิมากรรมสมเด็จพีมหาวีรวงศ์(ติสโส อ้วน) พระเถระที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปราชณ์แห่งอีสาน , ปฏิมากรรมพระอุบาลี คุณูปมาจารย์(สิริจันโท จันทร์) พระเถระที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระ , อนุสาวรีย์แห่งความดี(Monumment of Merit) เป็นอนุสาวรีย์ที่เชลยสึกชาวต่างประเทศในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ สร้างไว้เพื่อระลึกถึงความเมตตาปราณีและคุณงามความดีของชาวจังหวัดอุบลราชธานี , ปฏิมากรรมร่วมใจก้าวไปข้างหน้า สร้างขึ้นตามโครงกาปฏิมากรรม กับสิ่งแว้ดล้อมเพื่อเยวชน ซึ้งแสดงถึงความสมานฉันท์แห่งความเป็นพี่น้องระหว่าง ๔ ประเทศ คือ ไทย ลาว เขมรและเวียดนาม
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญวัดและพระอารามของจังหวัดอุบลราชธานี
วัดมหาวนาราม(วัดป่าใหญ่) ตั้งอยู่ถนนสรรสิทธ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดเก่าแก่และถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี เดิมเป็นสัมนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานตั้งขึ้นเมื่อเวลาใกล้เคียงกับการก่อตั้งจังหวัดอุบลราชธานี คือพุทธศักราช ๒๓๒๒ มีพระพุทธรูปที่สำคัญคู่อย่างยิ่งจังหวัดอุบลราชธานี คือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง
วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สร้างในสมัยพระบาลสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ ๓ ภานในวัดมีอาคารที่สำคัญอีกหลังหนึ่งคือ หอไตรปิฎกกลางน้ำสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง
วัดหนองบัว ตั้งอยู่บนถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สร้างเมื่อ พุทธศักราช ๒๔๙๘ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ คือ พระพุทธเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ ๒๕ ศตวรรษของพระพุทธศาสนาเมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๐๐และเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าอีกด้วย
วัดหนองป่าพง ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนโหนน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในอดีตเป็นวัดร้างและเป็นป่าช้ามาก่อนมีต้นพงขึ้นอยู่ทั้วไปในวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๔ พุทธศักราช ๒๔๙๔ หลวงปู่ชา (พระโพธิญาณเถระ) ได้มาทำการบุกเบิกปรับปรุงพื้นที่และได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นนปีนั้นจนในปัจจุบันหลังหลวงปู่ชา (พระโพธิญาณเถระ) หลังงานพระราชทานเพลิงศพ ได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณท์พระโพธิญาณ และมีพระสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญพิพิธภัณฑ์และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติของจังหวัดอุบลราชธานี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี ตั้งอยู่ถนนเขื่อนธานี ตัด ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตังอาคารเดิมเป็นที่ทำการศาลากลางจังหวัดหลังเดิม สร้างเมื่อ พุทธศักราช ๒๔๖๑ บนที่ดินซึ่งพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรสิทธิประสงค์ พิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานีนับว่าเป็นพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทยภายในมีโบราณวัตถุที่สำคัญ
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีพื้นที่ประมาณ ๒๑๒,๕๐๐ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.โขงเจียม อ.ศรีเมืองใหม่ อ.โพธิ์ไทร มีพื้นที่ติดกับประเทศลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นทางแบ่งพมแดน ตั้งอยู่ห่างจากตังจังหวัด๙๕ กิโลเมตร ผาแต้ม เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขง และภาพเขียนสีศิลปะถ้ำ เสาเฉลียง(ภาพประกอบ)อยู่ริมทางก่อนถึงผาแต้ม ๒ กิโลเมตร เป็นเสาหินที่เกิดจากการผุกร่อนตามธรรมชาติ |
 |
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ มีพื้นที่ประมาณ ๘๐ ตารางกิโลเมต ตั้งอยู่ในท้องที่ อ.โขงเจียม อ.สิรินธร สามาเดินทางเข้าถึงได้สองทางห่างจากตัวจังหวัด ๗๐-๘๕ กิโลเมตร คำว่า "ตะนะ" จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้าน เดิมมาจากคำว่า "มรณะ" เนื่องจากในฤดูฝนจะมีกระแสน้ำเชี่ยวมาก
แก่งสะพือ เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า "ซำพืด" แปลว่า งูใหญ่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ๔๕ กิโลเมตร เป็นแก่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี
หาดคูเดื่อ เป็นหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำมูล ตั้งอยู่ใน อ.เมือง บริเวณหาดจะมีบริการแพของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก บริการอาหารพื้นเมืองเครื่องดื่ม และชมบรรยากาศธรรมชาตอันสวยงามริมแม่น้ำมูล
|