การแหก

การเกษตรการทำเหมืองฝาย

ประวัติและความเป็นมา
ของฝาก+ของที่ระลึก
สถานที่สำคัญของเชียงใหม่
เที่ยวสวนสัตว์กัน
แผนที่จังหวัดเชียงใหม่
แหล่งท่องเที่ยวคนเชียงใหม่
เทศการและประเพณี
แหล่งซอปปิ้งของชาวเชียงใหม่และต่างชาติ
ภูมิปัญญาชาวบ้าน

 

ภูมิปัญญาท้องถิ่น

การทำเหมืองฝาย

 

การชลประทานในล้านนาเรียกว่า ระบบเหมืองฝาย คำว่า เหมือง หมายถึง ร่องน้ำที่ขุดขึ้นเพื่อชักน้ำเข้าในนา เพื่อการเกษตร มีชื่อเรียกเหมืองหลายชื่อเรียกตามขนาดและหน้าที่ของเหมือง ซึ่งสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติคือ น้ำ
ในตำนานพื้นเชียงใหม่ หรือตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ เขียนถึงระบบเหมืองฝายว่า ปรากฏตั้งแต่ก่อนสมัยพญามังรายจะ ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.๑๘๓๙ ในอาณาจักรหริภุญไชยอ้ายฟ้าได้บัญชาให้ไพร่หรือชาวเมืองหริภุญไชยขุดเหมือง เพื่อส่ง น้ำเข้าพื้นที่เกษตร คือ "พันนาทวน" เรียกว่า "เหมืองแข็ง หรือเหมืองแก้ว" (แก้ว = เม็ดสีขาวที่ขึ้นบนฝ่ามือที่เมื่อทำงานหนัก) ระบบ เหมืองฝาย ได้สืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน ล้านนาเป็นแคว้นที่มีระบบเหมืองฝายที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมากที่สุด ทั้งยังปรากฏข้อความใน กฏหมายล้านนา เช่น มังรายศาสตร์ กำหนดโทษเกี่ยวกับผู้ทำเหมืองฝายชำรุดด้วย เหมืองมีชื่อต่างๆ ดังนี้
เหมืองหลวง เมืองขนาดใหญ่สายหลัก มีคลองซอยแยกออกไปชักน้ำใช้ในพื้นที่เกษตร
เหมืองซอย หรือเหมืองไส้ไก่ เหมืองขนาดเล็กที่แยกออกจากเหมืองหลวงชักน้ำเข้านา
เหมืองกิน หมายถึง คลองที่ส่งน้ำเข้า คล้ายกับเหมืองซอย หรือเหมืองไส้ไก่
เหมืองฟู หมายถึง คลองที่ขุดชักน้ำเข้านาที่มีระดับสูงกว่าพื้นนา
เหมืองเสีย หมายถึง คลองที่ขุดขึ้นเพื่อระบายน้ำทิ้งจากนา บางแห่งเรียกเหมืองขี้น้ำ หรือล้อง
นอกจากจะขุดเหมืองแล้ว ชาวล้านนาได้สร้างเขื่อนขวางลำน้ำธรรมชาติ เพื่อทดน้ำในลำน้ำธรรมชาตินั้นให้สูงถึงระดับ ที่ต้องการ สะดวกแก่การให้น้ำไหลสู่เหมืองหลวงหรือพื้นที่เกษตร เรียกว่า ฝาย นิยมสร้างด้วยไม้เนื้อแข็งเสี้ยมปลายให้แหลมตอก ขวาง ลำน้ำธรรมชาติเป็นระยะ อัดด้วยกิ่งไม้ กรวด ทราย จะทำในฤดูแล้งก่อนทำนา
เมื่อน้ำล้นจากฝายลงสู่เหมืองแล้ว ชาวบ้านจะทำทำนบจากเหมืองหลวงนำน้ำเข้าเหมืองซอยเรียกว่า แท ทำนบกั้นน้ำ จากเหมืองซอยต่างๆ เพื่อนำน้ำเข้าเรียกว่า เขียง และสุดท้ายทำนบจากเขียงลงสู่พื้นที่ในนาเรียกว่า ท้าง
ส่วนทำนบคันดินยาวต่อเนื่องกันไป เพื่อกั้นขวางทางน้ำไหลมิให้ไหลบ่าเข้าท่วมในบริเวณที่ลุ่มต่ำหรือพื้นที่เกษตรเรียก ว่า พนัง เช่น พนังแม่ข่า สร้างตามแนวคลองแม่ข่าตลอดสายเพื่อกั้นน้ำแม่ข่ามิให้ไหลบ่าท่วมเมืองหรือพื้นที่เกษตร
ระบบเหมืองฝาย เป็นระบบการใช้น้ำของชาวล้านนาในอดีตที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น

(จาก ศุภชัย นิมมานเหมินท์ "การจัดการชลประทานแบบพื้นเมืองของล้านนาไทย วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ๒๕๓๒ และอุดม รุ่งเรืองศรี "พจนานุกรมล้านนา - ไทย " มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงจัดพิมพ์ ๒๕๓๓)

แหก  การรักษาของหมอพื้นบ้าน
"แหก" เป็นการรักษาของหมอพื้นบ้านภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวบ้านในชนบท อย่างยิ่ง และจะพบการรักษาของหมอพื้นบ้านในลักษณะนี้ทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ วิธีการรักษาด้วยการ "แหก"
การแหก คือ การที่ใช้มีดที่ทำจากเขาควายฟ้าผ่าหรืองาช้าง ฯลฯ มาขูดหรือถูผ่านบริเวณ ที่มีอาการเจ็บปวดตามเนื้อตัว ท้ายทอย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ลมพิษ ผื่นคัน ปวดเมื่อย ปวดเส้น อัมพาต
วิธีแหกนั้น หมอเมือง (หมอพื้นบ้าน) จะใช้มีดชุบน้ำที่มีส่วนผสมของขมิ้นและ น้ำจาก หัวไพล ที่ได้มาจากการเสกคาถา (มนต์น้ำ) แล้ว จากนั้นจึงแหกบริเวณเนื้อส่วนที่มี อาการหรือ กล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับเส้นประสาทแต่ละจุดค่อนข้างแรง ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บมากนัก เพราะ บริเวณที่มีอาการมักมีความตึงของกล้ามเนื้อ หลังจากแหกผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้น อาจจะเนื่องจากการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น การแหกนี้บาง ครั้งเรียกว่าการกวาดซุย หรือการสับหรือการลาบก็เรียก ในขณะที่ทำการแหกนั้นหมอเมืองก็จะว่าคาถาไปด้วย
ดังนั้นการรักษาของหมอเมือง (หมอพื้นบ้าน) ด้วยวิธีการแหกนั้นเป็นเพียงวิธีหนึ่งในหลายวิธี ซึ่งหมอเมืองได้รับการถ่าย ทอดจากบรรพบุรุษ และประกอบกับผู้มารักษานั้นมีความเชื่อมั่นที่จะได้รับการรักษาให้หายได้ในเร็ววัน และอย่างน้อยก็เป็นการชลอ ความเจ็บปวดไปได้ในระยะหนึ่ง รวมทั้งค่ารักษาไม่แพง ชาวบ้านจึงนิยมมารักษากันมาก