:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
ต่อ
      อาบน้ำอาบท่า แล้วก็มานั่งนับเงินเล่น ๆ  โอ้..... I am rich !!!
ประสบการณ์ของการเป็นคนรวย ฮ่า ๆๆๆๆ ....โนริโอะ ขอยืมเงินกีบไปถ่ายรูป 
เอ้า...ไม่ว่ากัน  จีบแล้วทำเป็นพัดได้สบายเลย แล้วผมก็ขอลองมั่งและ แชะ สักภาพ
ความยากลำบากอย่างนึงของผมในตอนนี้คือ การไม่มีกระเป๋าเล็กที่ผูกติดกะเอวได้
เงินเป็นฟ่อน ต้องเอาหนังยางรัดแล้วยัดเก้บไว้ใน เป้ใหญ่ ๆ ..ค่อย ๆ แบ่งออกมาใช้ทีล่ะ 
50,000 เอาออกมามากกระเป๋ามันรับไม่ไหว

        เกิดอาการหิวข้าวขึ้นมาแล้วสิ !!! 
ผมบอกให้โนริโอะรีบ ๆ ไปอาบน้ำ อย่ามัวแต่ออกกำลังกายเดี๋ยวมันจะมืดค่ำก่อน
ห้องน้ำไม่รู้ว่าจะรับไดไหมที่ต้อง ตักอาบ....... ผมน่ะยังไงก้ได้อยู่แล้ว 
พออาบเสร็จก็ไม่เห็นบ่นอะไรสักคำ โอเค ๆ ....อย่างนี้ก็ง่ายขึ้นหน่อยล่ะ 
   
    ข้างนอกมืดแล้ว เราออกเดินหาของกิน... ไปทางไหนวะ ? งง.....
เดิน ๆ ไปทางที่มีแสงไฟนู่นล่ะ แล้วหนุ่มต่างชาติก็ ออกตามล่าหาของกิน
อ้า...อย่างน้อยหากไม่มีอะไรกินก็ น้ำเต้าหู้นั่นล่ะ...ดูท่าจะขายดี ...แต่ไหง มีแค่
รถเข็นเต้าหู้ร้านเดียวล่ะ เรเดินต่อไปด้วยความหิว ดูท่าจะไม่มีตลาดโต้รุ่งมั้ง

   เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเข้าไปใจกลางเมือง เห็นโรงแรมมากมาย เริ่มเห็นฝรั่งเดิน ๆ นั่ง ๆ แล้ว
ที่นี่คงเป็นโซนฝรั่งอย่างที่เมืองไทยเราแน่ ๆ แล้วทันใดนั้น........พรึบ !!!!
ภัตตาคาร 800 ร้านเรียงรายกัน + ฝรั่ง 8 แสน  อะไรมันจะขนาดนั้น
เวียงจันทร์ เมืองท่องเที่ยวจริง ๆ ล่ะ มองไปด้านไหนก้เจอแต่ฝรั่ง แล้วจู่ ๆ 
อาการตกใจฝรั่งก็เริ่มเกิดขึ้นกะผม Farang Phobia อาการไม่๔กกะฝรั่งเริ่มเกิดขึ้น

         เราเดินหลีกไปจากแถว ๆ นั้นหลังจากที่ดูราคาอาหารแล้ว สูไม่ไหว
โนริโอะ พอใจเหลือเกินกับการเปิด ดูเมนู ร้านแล้วร้านเล่า ที่ไหนมีวางหน้าร้าน
เป็นอันต้องเดินตรงเข้าไปดู แล้วก็จะจากไปด้วย " So Expensive !! "

   ผมเดินเข้าไปถาม อ้ายยามประจำป้อมเล็ก ๆ ของโรงแรมอะไรสักอย่าง ใหญ่ ๆ
มันมืดมากจนไม่อาจที่จะมองเห็นหน้าอ้ายเพิ่นได้ 
   
 " อ้าย ๆ ตลาดอยู่ทางได๋ ม ม่องกินเข้าอยู่ทางได๋? "

    อ้ายยามทำหน้างง แล้วก็ ชี้มือบอกว่า เดินไปทางน้ำพุแล้วเลี้ยว ๆ ทางนั้นล่ะ
เราออกเดินตรงไปยังลานน้ำพุ เขาเปิดไฟ เปิดน้ำ วัยรุ่นลาวหลายผู้หลายคนกะลังนั่คุยกัน
เราเดินดู แล้วก็ผละไปทางอื่นเพราะว่า หิวเกินกว่าจะชมความงาม ของอะไรทั้งสิ้น
เลี้ยวไปเลี้ยวมา ผ่านภัตตาคาร โรงแรม ....ดูมันมืด ๆ เพราะไม่มีไฟ 

      แล้วเราก็มาตายที่ร้านกับข้าวร้านนึง ไม่ค่อยมีคนนั่ง เราเข้าไปนั่งแล้ว
ขอดูเมนู ราคาก็แพงอย่างที่อื่น ๆ นั่นล่ะ...... ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเราก็เลยตกลงกินร้านนี้เลย
ผมสั่งข้าวมันไก่มากิน ในราคาที่แสนจะแพง ...10,000 กีบ (40 บาท) โนริโอะกินเฝ๋อ
ราคา 7,000  กีบ 
    ข้าวมันไก่ คุณภาพต่ำ ข้าวหุงไม่สุก แข็งยังกะอะไรดี แล้วอย่าให้..พูดเลย....ไม่เคยพบมาก่อน
หากไม่เพราะหิวข้าวก็คงไม่สั่งหรอก นึกแล้วเสียดายเงินเหลือเกิน อิ่มแล้วเราก็รีบกลับทางเดิม

 เดินผ่านตึกใหญ่ ๆ นึกว่าอะไรพออ่านดู ปรากฎว่าเป็น "ศูนย์วัฒนธรรมลาว" 
อะไรมันจะใหญ่โตขนาดน้านนนนนนน......ไทยอายเลยล่ะ ทาสีเหลืองอร่าม
ที่มุมถนนหนึ่งของ ร้านอาหารมีฝรั่งยืนอยู่ เราเดินผ่านไป และทันใดนั้นก็มีคนเดินมา
ข้าง ๆ เรา 2 คนและถามเสียงในลำคอว่า "ยาบ้า?" เป็นการเสนอขายให้แก่นักท่องเที่ยว
อย่างซึ่ง ๆ หน้า...เราเลยต้องรีบเดินออกมา 

       ด้วยความ...หิว เราเลยซื้อน้ำเต้าหู้ที่รถเข็น มีทั้งร้อนทั้งเย็น ใส่นมแมวด้วย 
ใส่เครื่องให้อีก สนนราคา 2,000 กีบ โนริโอะเปิด ๆ ดูแล้วก็ยื่นจมูกเข้าไปดมดู 
ตลกว่ะ...ดมน้ำเต้าหู้ !!!!!!!!  เราสั่งแบบเย็น แม่สาวลาวใส่ถุงให้อย่างดี 
พอดีระหว่างรอ ผมก็เลยชวนแม่หญิงลาวคุย ขายดีไหม ?.....
     เลยถือโอกาส ถามเรื่องรถไปวังเวียง และราคาเสร็จสรรพ
ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วเราก็ จากกันด้วยคำว่า     "ขอบใจหลาย"

กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 5 ตรงไปยังวังเวียง