:: ท. เที่ยว :: » ซำบายดี
ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
|
|
 |
ต่อ
ถึงตอนนี้รู้สึกว่าก้นเริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่เพราะมีเรื่องดลใจหรอกนะ
แต่เป็นเพราะแรงกระแทกจากอานรถ แถวอานรถก็สูง นี่ขนาดปรับแล้วนะ..
ก็เพราะเป็นอาน ไซส์ฝรั่ง.... เราปั่นต่อไปตามถนน ข้างทางเห็นชาวลาว เดินสวนทาง
ข้างหลังสะพายกะบุงอย่างชาวเขา
" ไปสิเด๋อ?" ผมตะโกนถามจากอานรถ
คนวังเวียงเขามีภาษาของเขาเอง เป็นสำเนียงที่แปลก ๆ ผมลองถามจากสาวส้มตำแล้ว
ได้ความว่าจะมีการเติม คำลงท้าย แปลก ๆ ผมก็เลยจำมาใช้...
ขอบใจเอ๊ะ = ขอบใจหลาย
ไปสิเด๋อ = ไปไหน
แต่ยังไม่แปลก ที่แปลกคือเขาพูดหันอีกภาษาที่ผมเองก็ฟังไม่เข้าใจ คงจะเป็นภาษาถิ่น
คล้าย ๆ ภาษาชาวเขาบ้านเรานี่ล่ะ คนที่ผมถามลาวแล้วไม่ตอบผมเดาเอาว่าคงจะเป็นชาว
พื้นที่แถวนี้ที่เขาไม่เข้าใจภาษาลาวของผมดีนัก ..และเด็ก ๆ ที่ไม่ตอบสนองต่อการทักทาย
ของเราเมื่อวานนี้ก็น่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ล่ะ
เราทักทายชาวลาวตลอดเส้นทาง
ผมนัดแนะกับโนริโอะไว้ว่า ให้โนริโอะปั่นไปก่อนสัก 10 เมตร
หากมีคนลาวเดินสวนมา ให้โนริโอะ ทักว่า " ซำบายดี "
ส่วนผมจะถามว่า " ไปสิเด๋อ"
เป็นการทำข้อตกลงที่ดีมาก และประสบผลสำเร็จอย่างล้นหลาม
ทุกคนที่สวนทางเรา เราต้องทักทาย
ทุกคนที่กะลังทำอะไรอยู่ในสวนเราก็จะทักทาย และเราก็ได้รับรอยยิ้มตลอดทาง
ผมร้องถาม แม่หญิงลาวที่กะลังทำงานอยู่ในสวนผักว่า ทำอะไร
ได้ยินเสียงตะโกนออกมาว่า " กะลังเก็บไคอยู่ "
ไค คงจะเป็นสมุนไพร อะไรทำนองนี้
เห็นชาวลาวจำนวนมากที่ นั่งทำงานในสวนริมทาง ดูมีความสุขเหลือเกิน
เราผ่านหมู่บ้านแรกหลังจากออกจากถ้ำเสือดาว ถนนหนทางยังเหมือนเดิม
พระจันทร์ยังไง ก็ยังพระจันทร์ยังั้น
ชั่งเป็นการรักษาสภาพดีแท้ ๆ .. รถไถนา บรรทุกฝรั่งวิ่งผ่านหน้าเราไปหลายคัน
เป้าหมายคือที่เดียวกันแน่ ๆ และก็มีบ้างที่เป็น รถไถนาบรรทุกชาวลาว
ที่บรรทุกชาวลาสนั้น คือ เปรียบเสมือน 2 แถวบ้านเรานี่เอง
ประโยชน์เกินคุ้ม เสียแต่ว่าคงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์การใช้เพิ่มขึ้น
เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร อย่างเช่น
ไม่อนุญาตให้รับผู้หญิงท้อง เพราะอาจจะทำให้แท้งได้
ผมมั่นใจว่าหากหญิงมีครรภ์ใช้บริการรถอย่างว่ารับรองได้ว่าต้องแท้งแน่ ๆ
หากพบว่าอัตราประชากรแถว ๆ นี้ลดลงนี่ล่ะคือสาเหตุ ..บรึ๋ย....!!!!
ก้นเราร่มระบมขึ้นมา ผมเริ่มเปลี่ยนจากการนั่บนอาน เป็นการปล่อยให้ก้นอยู่เหนืออาน
ทรมานเหลือเกิน........ และเมื่อถึงสะพานอีกแห่ง
ผมก็ยอมจ่ายเงิน 2,000 กีบเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องลุยน้ำ แม้ว่าจะตื้นมากก็ตาม
อีก 2 หลัก...คือ อีก 2 กม. นั่นล่ะ.. เรายังคงไปต่อและระหว่างทางก็ถามชาวบ้าน
แถว ๆ นั้นไปด้วย เมื่อเราปั่นผ่านกลุ่มสาวลาว...ผมก็เลยได้โอกาสถามอย่างเดิม
สาวลาวแต่งตัวสวยมาก แต่งองค์ทรงเครื่องครบ กะลังจะไปวังเวียง
แน่นอนว่าพวกเธอต้องนั่งรถไถไปแน่ ๆ พอไปถึงผ้างาม ๆ หน้าสวย ๆ คงจะมีฝุ่นเกาะเต็มเลย
โนริโอะ...ปั่นล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ... ผมปั่นสบาย ๆ เพราะอยากดูว่า ชาวบ้านเขาทำอะไรบ้าง
ส่วนมากก้จะเห็นทอหูกกัน ผ้าซิ่นสวย ๆ พาดอวดอยู่ต่อหน้าเลยล่ะ
ผมติดใจความงามของผ้าซิ่นที่แม่หญิงลาวนุ่ง ตีนผ้าเป็นลายสวย
ข้างบนเป็นไหมดำขลับ นี่น่าจะเป็นเครื่องแบบที่ถูกต้องที่สุดสำหรับ นักเรียนลาว
ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้.....ถ้ำปู่คำ
ค่าผ่านประตู 5,000 กีบ ผมขอนอนเล่นบนแคร่ที่พักกับชาวบ้าน
ลมเย็น ๆ พัดมาให้รู้สึกสบายขึ้น รอให้ก้นหายร้อนก่อนค่อยจะไปดูถ้ำ
แต่ที่ลำน้ำข้างหน้ามีฝรั่งวัยรุ่นเต็ม เป็นแกงค์เดียวกันทั้งหมด กะลังส่งเสียงกรี้ดดด
ดูมีความสุขเหลือเกิน สาว ๆ ในชุดว่ายน้ำ เฮ้อ...ทุกอย่างโอเค
เสียแต่หุ่น ของพวกเธอ ๆ นั่นล่ะ
" ไปเบิ่งฝรั่งโตนน้ำก่อน " ผมบอกลาชาวบ้านแล้วเดินไปที่คลองนั้น
มีสะพานข้ามด้วย....น้ำใสมาก..สีฟ้าเหมือนน้ำทะเล มีปลาว่ายอยู่ด้วย
แต่ไม่มากเพราะว่าคงหนีไปเพราะกลัว สาว ๆ เหล่านั้น ที่ริมน้ำมีต้นไม้
ที่เอาไว้เป็นบอร์ดกระโดด เป็นธรรมชาติที่เหมาะเจาะซะเหลือเกิน และมีเชือก
ให้โหนแล้วทิ้งตัวลงน้ำด้วย..... หนุ่มสาวฝรั่ง ยึดครอบครองหมดแล้ว
เราก็เลยต้องปีนขึ้นไปถ้ำก่อน กลับลงมาค่อยมาเล่นน้ำ
ผมเหนื่อยกับการที่ต้องมาปีนเขาดูถ้ำเหลือเกิน เหนื่อยนะ...และ
กว่าจะปีนขึ้นไปได้ก็ลำบาก แม้ว่าจะปีนไม่ยากเท่ากับถ้ำเสือดาวก็ตาม
ตอนปีนขึ้นมีคนลาว 2 คนปีนลงมา
อายุรุ่นแม่ผมเลยล่ะ ...พอเห็นหน้าผมก็ร้อง อ้า...ยังกะว่ารู้จักกัน
ผมเลย ซำบายดี และถามแกว่าเป็นคนไทย ? ปรากฎว่าคุณป้า
ทั้ง 2 ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนลาวมาจากเวียงจันทร์
ที่ลงมาเพราะไม่ใช่ส่าดูพอแล้วแต่เพราะปีนไม่ไหวต่างหากล่ะ
เราหยุดคุยกันประมาณ 3 นาที..ก่อนที่แกจะบอกว่า ลูกชาย 2 คน
อยู่บนนู้น....เราปีนต่อ
ถ้ำกว้างกว่าถ้ำเสือดาวมาก มีแสงสว่าง มีพระพุทธรูป
มีฝรั่ง 2-3 คน เราก็ยืน ๆ ส่อง ๆ มอง ๆ ดูแล้วก็ลงมาเพราะอยู่นานก็
ไม่เห็นอะไร อันที่จริงถ้ำก็สวยอยู่หรอก แต่ผมกับถ้ำนั้น ชะตา
ไม่ถูกกันเท่าไหร่.... ผมไม่ประทับใจกับการไปเที่ยวถ้ำเลย
อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบความมืดของถ้ำ แต่ผมชอบลมจากถ้ำนะ
เราเจอลูกชายของคุณป้าทั้ง 2.. ทักทายกันแล้วก็กลับลงมา
ถึงพื้นเห็น 2 ท่านนั่งรอลูกอยู่แล้ว ถามไถ่ได้ความว่าอาจจะกลับเวียงจันทร์เลย
ก่อนจากทั้ง 2 ท่านก็อวยพรให้เดินทางโชคดี ทำอย่างกะว่าเรา 2 คนนั้นเป็นญาต
สนิทเลยล่ะ... ผมขอบคุณแล้วก็จากกัน
โนริโอะ อยากเล่นน้ำแต่ผมไม่ เพราะว่าฝรั่งเยอะเกินเดี๋ยวกระโดดน้ำ
กระแทกคอฝรั่งหัก.... โนริโอะ ทั้งโหน ทั้งกระโดด ผมก็นั่งเฝ้าของให้
และรอว่าเมื่อไหร่ จะโนดรียกให้ไปช่วยถ่ายรูป
ฝรั่งกลุ่มนี้ไม่พูดภาษาอังกฤษกัน..ผมเดาว่าน่าจะเป็นแถว ๆ ยุโรปตะวันออก
หน้าตาก็คล้ายอิตาลี อะไรทำนองนั้น สาวพุงพลุ้ยพวกนั้นดูจะพอใจ
หนุ่มญี่ปุ่นเหลือเกิน.....เอาซะ... ตูไม่หล่อบ้างก็แล้วไป !!!!!!!!!!
โนริโอะยังเล่นอยู่ ผมก็เลยบอกว่าจะไปรอที่ที่พักของชาวบ้าน
เล่นเสร็จให้ตามไป ผมเข้าไปขอนอนกลางวันกับชาวบ้านอีกคร้ง
ไม่นานโนริโอะก็มา และต้องรอให้กางเกงหมาดก่อนถึงจะไปกัน
คงเพราะตากแดดมาก ไหล่โนริโอะ กลายเป็นสีแดง ตัดกับรอยเสื้อแขนกุด
คงจะแสบน่าดูเลยล่ะ.......
กลับไปหน้า...รวมวัน
วันที่ 7 พบเพื่อจาก
|