![]() |
» รายงานสด · แม่สอดหน้าบึ้ง (๑๘ พ.ค) · เย็น ๆ หนาว ๆ (๑๗ พ.ค) · ก็มันคันตีน (๑๖ พ.ค) :: บ. บันทึก :: ฮ. โฮม ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
:: รายงานสด ผ่านอินเตอร์เนต :: เป็นการตัดสินใจ อย่างเด็ดเดี่ยว หัวเดียวกระเทียมลีบ จริง ๆ เอาล่ะว่ะ ... ไปก้ไป อยากเที่ยวอยู่แล้วนี่นา ฮา ๆ ๆ ๆ สะใจตีน เพราะว่าไม่มีแผนการอะไร สักอย่างในหัว หลังจากตากแล้วก็ไม่รู้ว่า จะไปไหนต่อ แล้วแต่ตีนก็แล้วกัน..... ข้าวของที่ ยัด ๆ ใส่กระเป๋า ก็ ไม่สมบูรณืเท่าไหร่ คือดูไม่ค่อยลุยเลย ปกติจะลุยกว่านี้ เอ้า เปิดกระเป๋า ดู สิว่ามีอะไรบ้างที่ไม่จำเป็น แล้ว ดันเอาติดมาด้วย นี่เลย กางเกงว่ายน้ำ 2 ตัว .... งง คั่ก ๆ ทำไมติดมาด้วยก็ไม่รู้ ลืมเอาออกจากคราวที่ไปเที่ยวสมุย ตอนกลางเดือนเมษา มั้ง ไม่รู้จะ .... ไหน ๆ ก็เอามาแล้ว ใส่เดินเล่นในห้องดีกว่า..วุ้ย หรือว่าจะใส่เล่นน้ำฝนดีวะ ครีมกันแดด... นี่เลย ติดมาอีกแล้ว ฝนตกแบบนี้กันได้ที่ไหน น่าจะเอาครีมกัน เปียก มามากกว่า ... หากมีแดดคงพอกันได้ล่ะนะ ................................................................................................................... การเดินทาง จากขอนแก่น มา ตาก มาแม่สอด ค่อนข้างที่ จะสดวกสะบาย ขออย่างเดียวแค่มีเงินจ่ายก็พอ เมื่อวาน เกือบได้นั่งรถฟรี ค่ารถ ป.2 217 บาท สายขอนแก่น-เชียงใหม่ ลงที่ ตาก ( หากอยากได้บรรยากาศ แนะว่าให้นั่งไปถึงเชียงใหม่ แล้วค่อยตีกลับมาตาก จะได้สุดสาย ราคาเดียว ?? ) ให้ไป 300 บาท คนขายตั๋วทอน 287 บาท ... โดนเสน่ห์เราหน่อย ใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว สาเหตุน่าจะเป็นเพราะว่า เห็นเราหล่อแล้ว ตื่นเต้ล... ใจตุ้ม ๆ ต่ำ ๆ หรือไม่ก็ เป็นเพราะความสับสนของพี่แกเอง ผมไม่ได้ตั้งใจจะรัวคำถาม ใส่แกขนาดนั้นนะ ... ถามแค่ไม่กี่คำเอง ข้อเสนอแนะ เดินทางแบบนี้ก็ห่วง อุบัติเหตุนะ ผมท่องไว้เสมอว่า มันไม่แน่ มันไม่แน่ อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได อย่างเมื่อคืน รถบัส เกือบเหยียบ มอไซด์วัยรุ่นซ้อน 3 ที่วิ่งตัดหน้า ระยะเผาขนหน้าแข้ง .. ทั้งสองฝ่าย แลกฝีปากกัน.. เมามันมาก ( ดูจากความโมโห ของพนักงานบนรถ) แทบทุกครั้งที่นั่งรถสายยาว ผมมักจะเจอกับ ของพรรค์นี้เสมอ อุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง ๆ แต่ไม่ใข่รถที่ผมนั่งมา รถ ปิ๊กอัพ พุ่งลงข้างทาง สัณนิฐานว่า เกิดจากการหลุดโค้ง ( อันนี้ผู้เชี่ยวชาญ ที่นั่งข้าง ๆ ยืนยัน) เหตุการณืเกือบปกติก็ว่าได้ ................................................................................................................... รายงานจากแม่สอด ไหน ๆ ใครว่าเดินทางการคืนนั้นเสียเที่ยวเพราะจะไม่เห็นอะไรเลย ผมขอค้านครับ ขอยืนกรานว่า เห้น เห็นแน่ ๆ เพราะผมเห็นมาแล้ว กับ ๒ ตานี่ล่ะ ... จากขอนแก่น ผ่านมาทางอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว แม้ว่าผมจะคุ้นกับเส้นทางนี้แต่ก็ไม่อยากหลับ (หลับไม่ลง) ก็เพราะ ว่าตอนกลางวันเก็บรอบหลายชั่วโมง อานิสงค์จึงยังส่งผลโดยตรง ลำบากเหลือเกิน นั่งหน้าด้วยสิ คนขับเห็นอะไร เห็นด้วย ... ที่นั่ง พิเศษจริง ๆ ออกจากขอนแก่นตอน ๖ โมงครึ่ง มา สตอป ที่ชุมแพ ซึ่งห่างกัน ๗๗ กิโล เวลาเดินทางชั่วโมงกว่า ๆ ถึงชุมแพบรรดา พ่อค้า แม่ค้าเดินขึ้นมาขายของกิน ข้าวจี่ ขนาดเอาฟาดหัวหมาสลบ ราคา 5 บาท แต่ผมไม่กินหรอกกลัวจุกตาย... ไข่ปิ้ง ฮิตมากเพราะ ๕ คนที่ขึ้นมาขาย ขายไข่ปิ้งเหมือนกันและ มาจากแหล่งเดียวกันอีกต่างหาก ... ผูกมัดเจง ๆ แล้วมันต่างกันไงวะ ก่อนที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้า ทั้งรุ่นบิ๊กรุ่นเดอะ จะขึ้นมาผมแอบมองลงไป ข้างล่างรถ และก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดประการใหญ่เมื่อ ดันไป สบตากับพ่อค้ารุ่นจิ๋ว ... แอะ ๆ .. ไอ้หนู ไม่ได้กินกูหรอกมึง พ่อค้าน้อย เสนอขายสินค้าของเขาด้วยภาษากาย .. ผมก็เสนอไปว่า ม่ายเอา ๆ ที่อยากกินก็ไม่ได้กิน มองลงไปเห็นเสียบ ๆ อยู่ สนนราคา ๑๐ บาท ตัวใหญ่ทั้งนั้น ก็ปลาหมึกนะสิ หากซื้อมากินมีหวังโดนประณามด้วยสายตา เหมือนอย่างคราวที่ซื้อทุเรียน .. ยังไง ??? เร็ว ๆ นี้ผมเกิดอาการคลื่นใส้ อยากกินทุเรียนมากจนทนไม่ไหว ท้องใส้มันโฮกฮาก จนต้องนั่งรถเข้าเมืองเพื่อสนองความต้องการของ ลูกในท้อง ไปถึงตลาดก็สั่งทันที เลือกลูกเล้กสุด แต่ราคาดันเท่าลูกใหญ่ ชั่งดูได้เกือบ ๒ กิโล เท่านั้นไม่พอ เอามะม่วงน้ำดอกไม้อีกกิโลนึง ขากลับก็หิ้วกลับ แอบเลียปากแล็บ ๆ .. คืนนี้กูอิ่มแน่ ๆ เดินออกจากตลาด พอดิบพอดีกับรถมา วิ่งขึ้นรถ หยอดเงินค่าโดยสาร ทันที แล้วเลือกที่นั่ง คอนข้างว่าง.. เด ๆ โชคดีว่ะ นั่งแหมะลงรถก็ออก แล้วมันก็มีอะไรแปลก ๆ คนนั่งข้างหน้าเริ่มอยู่ไม่สุข ผมก็เอะใจขึ้นมา ตายห่า...บรรลัยเลยกู เสีย ๕ บาทฟรี เสือกดันหิ้วทุเรียนขึ้นรถ ป.อ. นี่ขนาดยังไม่แกะเปือกยังกลิ่นขนาดนี้ ผมเลยต้องพิจารณาตัวเองก่อนที่ จะโดนประชาทัน ลงป้ายหน้าทันที... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " ช้า ๆ แม้ไม่ได้พร้าเล่มงามแต่ก็ไม่เสียพร้า " กลับเข้าเรื่องดีกว่า พูดถึงเรื่องกินทุเรียนแล้ว แคลอรี่ยังไม่ลดเลย เพราะลูกนั้นฟาดคนเดียวล้วน ๆ แก้เซ็งว่างั้นเหอะ ... ระวังจุกตาย จากชุมแพ แม้ไม่ได้กินอะไร แต่ก็มี " โดโซะ " ตุนไว้อยู่ ยังนอนไม่หลับ เพราะมันสว่างเกินไปแล้วคนขับก็คุยกัน คืนแรม ๑ ค่ำมันถึงสว่างขนาดนี้ มองไปเห็นสว่าง ๆ ยังกับกลางวัน รถวิ่งเข้าเขตอุทยานฯ น้ำหนาว มองไปข้าง ๆ เห็นเวาไม้ตะคุ่ม ๆ อากาศหลังฝนตกทำให้ยังมีความเย็นเหลืออยู่ มีหิ่งห้อย อยู่บ้าง ตามพุ่มไม้ข้างทาง มินิกระสือ.... สวยดีว่ะ มีเยอะกว่านี้ก็คงดี เห็นป้ายบอกให้ระวังช้างข้ามถนนก็อยากเห็นขึ้นมา ยังมีช้าง แถวนี้จริง ๆ หรือวะ หรือว่าเขียนแปะไว้เอาไว้หลอกนักท่องไพร ตัวปลอมเฉย ๆ มาถึงตอนนี้เกิดอาการหูอื้อแล้ว ควักเอาไอ้นั่น ออกมา... เอาไอ้นั่นออกมาแล้ว ก็ยัดเข้าปาก ...แล้วก็เคี้ยว โอ้ ดีเหลือเกิน บรรเทาอาการหูอื้อได้นิดหน่อย หมาฝรั่งป้องกัน หูอื้อตอนขึ้นเขาได้ แต่ได้นิดน่อยเท่านั้นล่ะ หูไม่หายอื้อ ก็เลยพยายามบังคับตัวเองให้หาว หาว หาว เดียวนี้นะ บังคับได้ครั้ง ๒ ครั้งยังไม่หายก็เลย ต้องหาทางอื่น นี่เลย หากรู้สึกหูอื้อ ก็อ้าปากกว้าง ๆ อ้าไว้อย่างนั้นล่ะ ปล่อยให้ลม เข้าท้อง แล้วจะรู้สึกดีขึ้น แต่ต้องระวังขากรรไกรค้างก็แล้วกัน ผ่าน้ำหนาวอะไร ๆ ก็ดีขึ้น หลับลงแล้ว หลับจนมาถึง หล่มสัก ถึงหล่มสักก็หิวสิ เลยซื้อมะม่วงมันกิน โอ้...มะม่วงมัน คงจะปอก เอาไว้เมื่อ ๓ วันก่อนเพราะมันเหนียวมาก..โครตแพงเลย ๒๐ บาท กินมันทั้ง สองลูกเลย แก้แค้นที่มันไม่อร่อย กินอิ่มก็หลับลง หลับจนมาถึง พิษณูโลก แล้วก็หลับต่อ ๆ มาจนถึงตาก เกือบตี ๔ ยังมีผู้โดยสารตกค้างอยู่ที่สถานีบ้าง รวมผมด้วย ๑ คน สอบถามสาวยาม ประจำห้องน้ำว่า รถตู้ไปตากมีกี่โมง ได้ฟามว่า ตี ๔ หรือ ตี ๕ เนี่นล่ะเพ่ กลับมานอนลงบนม้านั่งยาว เอนได้สักพัก ก็ควักเอาไอ้นั่นออกมา เอาออกมาแล้วหยิบ เอาปากกาออกมาด้วย เขียน โปสการ์ด สักหน่อยดีกว่า สแตมป์ ยังเหลืออยู่ เขียนเสร็จ ไป ๔ ใบ ถึงใครหลาย ๆ คนและยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เขียนถึง รถตู้มาแล้วแต่ต้องรอคน รอจนกว่าจะเต็ม ต้อง ๑๔ คนถึงจะไป ค่ารถ ๔๔ บาทจ่ายไปแล้วเรียบร้อย นั่งเล่นรอไปเรื่อย ๆ ไม่นานรถก็ออก ... เย้ว ๆ เกือบตี ห้าแล้ว รถตู้เก่ามาก สงสัยเป็นรถ ปลดประจำการ เอาว่ะ ยังไงก็ได้ไปเสียที จากตาก ไปแม่สอด ใช้เวลา ชั่วโมงกว่า ๆ กับ ๘๖ กิโล ... ทางก็โค้ง โค้ง และโค้ง บนเขาอากาศเย็น ใกล้เช้าแล้ว มีหมอกลงด้วย .... มองออกไป ข้างนอกเห็นละอองฝน ผมยังง่วงอยู่ ก็เลยก้มหน้าหลับ ๆ ตื่น ๆ คนข้าง ๆ นอนกรน ไปแล้ว ข้างหลังก็อะไรไม่รู้ ขากเสลดอยู่นั่นล่ะ โอ้...เช้า ๆ แบบนี้ กลิ่นใครกลิ่นมันล่ะวะ ได้กลิ่นคาว ๆ เลยแอบเอื้อมมือไปเปิด หน้าต่าง ..เกือบตาย.. หายใจไม่ออก เราะไอ้กลิ่นคาว ๆ เนี่ย คาวเหมือนกับว่าใครสักคนในรถต้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบ ทางเดินหายใจตอนล่างแน่ ๆ อย่าได้เป็นวัณโรคแล้วกัน.. ถึงจนได้ แม่สอด ... ถึงแล้วก็ โทรฯ ปลุก ไอ้โป๊บมารับ " นี่ ๆ ตอนนี้อยู่ตลาด มารับด้วย " ๖ โมงเช้าเอง ... นอนต่อดีกว่า... ๑๗ พ.ค ๔๖ |