::ข้อมูลทรัยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม::
ข้อมูลพื้นฐานของตำบลวังใหม่
ข้อมูลพื้นฐาน ประกอบ
ข้อมูลทางกายภาพ
สภาพทั่วไป
1.
ที่ตั้ง
ตำบลวังใหม่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของอำเภอ นายายอาม
2.
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลแก่งหางแมว และตำบลสามพี่น้อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัด
จันทบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลทุ่งเบญจา และตำบลเขาแก้ว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันททบุรี
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม และตำบลเขาวงกต อำเภอแก่งหางแมว
จังหวัดจันทบุรี
3.
พื้นที่การปกครอง
มีพื้นที่การปกครองประมาณ 65,645 ตารางกิโลเมตร หรือ 41,029 ไร่
4.
การปกครอง
แบ่งการปกครองออกเป็น 10 หมู่บ้าน ดังนี้
หมู่ที่ 1 บ้านหินดาด หมู่ที่ 6 บ้านปากทางแทรคเตอร์
หมู่ที่ 2 บ้านวังใหม่ หมู่ที่ 7 บ้านคลองลาว
หมู่ที่ 3 บ้านวังกระดาน หมู่ที่ 8 บ้านหินกอง
หมู่ที่ 4 บ้านดงทับมอญ หมู่ที่ 9 บ้านซับยี่หร่า
หมู่ที่ 5 บ้านห้วงโมกข์ หมู่ที่ 10 บ้านแก่งน้อย
5.
สภาพภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ด้านทิศตะวันตกและทิศเหนือ มีพื้นที่ติดกับเขาทะลาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ดอนและ
เนินเขาสลับลอนลูกคลื่นเป็นพื้นที่ป่าไม้บริเวณเชิงเขา
ใช้ปลูกยางพาราและทำสวนผลไม้
ส่วนทางด้านทิศตะวันออกซึ่งติดกับคลองวังโตนด เป็นพื้นที่ราบ หรือที่ราบสลับลอนลูกคลื่น
เหมาะสมกับการทำสวนผลไม้
ในแถบส่วนกลางของตำบลจะเป็นที่ราบ พื้นที่ที่ใช้ปลูกสวนผลไม้ และบางพื้นที่เมื่อก่อน
เคยทำนาแต่ปัจจุบันปล่อยให้เป็นพื้นที่ร้าง หรือบางที่ไว้เลี้ยงวัว
6.
เส้นทางคมนาคม
เส้นทางคมนาคมสายหลักของตำบล วังใหม่ คือ ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3
(ถนนสุขุมวิท) โดยมีถนนสายต่าง ๆ แยกไปตามหมู่ เช่น
-
ถนนสายปากทางแทรกเตอร์ คลองลาว
- ถนนสายหนองสีงา คลองลาว
- ถนนสายห้วยกระแจะ ดงทับมอญ
- ถนนสายคลองลาว แก่งน้อย
โดยแยกเป็นประเภทถนน ดังนี้
- ถนนลาดยาง 5 เส้นทาง
- ถนนคอนกรีต 9 เส้นทาง
- ถนนลูกรัง 75 เส้นทาง
7.
โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งสาธารณูปโภคในตำบลวังใหม่
7.1 ด้านการศาสนา มีวัดและสำนักสงฆ์ ดังนี้
- วัดหนองสีงา ตั้งอยู่หมู่ 3
- วัดคลองลาว ตั้งอยู่หมู่ 7
- วัดหินกอง ตั้งอยู่หมู่ 8
- สำนักสงฆ์อาศรมสนธิ์ทอง ตั้งอยู่หมู่ 6
- สำนักสงฆ์เวฬุวัน ตั้งอยู่หมู่ 6
- สำนักสงฆ์คลองกลาง ตั้งอยู่หมู่ 8
- สำนักสงฆ์ซับยี่หร่า ตั้งอยู่หมู่ 9
- สำนักสงฆ์เขาเทพนิมิตร ตั้งอยู่หมู่ 10
7.2 ด้านการศึกษา
- โรงเรียนวัดหนองสีงา ตั้งอยู่หมู่ 3
- โรงเรียนวัดคลองลาว ตั้งอยู่หมู่ 7
- โรงเรียนณรงค์กิจติขจร ตั้งอยู่หมู่ 9
- ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ตั้งอยู่หมู่ 7
7.3 ด้านการสาธารณสุข
- สถานีอนามัยวังใหม่ ตั้งอยู่หมู่ 3
- สถานีอนามัยวัดคลองลาว ตั้งอยู่หมู่ 7
7.4 ด้านการบริการและสถานที่สำคัญ
- ที่ทำการบริหารส่วนตำบลวังใหม่ ตั้งอยู่หมู่ 3
- ศูนย์บริการและถ่ายทอด
เทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลวังใหม่ ตั้งอยู่หมู่3
- ศาลาเอนกประสงค์/ศาลากลางบ้าน ตั้งอยู่หมู่ 1-10
- ตลาดกลางผลไม้ และ ตลาดชุมชน ตั้งอยู่หมู่ 3
- ศูนย์สาธิตการตลาด ตั้งอยู่หมู่ 7
7.5 สิ่งสาธารณูปโภค
- ไฟฟ้า มีไฟฟ้าใช้ครบทุกหมู่บ้านแต่ไม่ครบทุกหลังคาเรือน
- ประปาหมู่บ้าน ตั้งอยู่หมู่ 2,3,5,6,7,8
- โทรคมนาคม
1. หอกกระจายข่าว/เสียงตามสาย ตั้งอยู่หมู่ 1,6,7,9,10
2. โทรศัพท์ การใช้โทรศัพท์ตามบ้านมีบางพื้นที่และยังไม่มีทุกหลังคาเรือน
เช่น หมู่ 1,2,3,5 เป็นต้น ส่วนการบริการตู้โทรศัพท์สาธารณะมีบางหมู่บ้าน เช่น
หมู่ 3,5,6,7,8,9,10
-
ร้านจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ เคมีทางเกษตร จำนวน 1 แห่ง
- ร้านค้าขายของชำ อาหาร จำนวน 32 แห่ง
- ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง จำนวน 2 แห่ง
- ปั๊มน้ำมัน จำนวน 2 แห่ง
7.6 โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 2 แห่ง
- โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ตั้งอยู่หมู่ 6
โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ได้มีการสร้างขึ้นแต่ไม่มีการเปิดทำการ
แหล่งน้ำเพื่อนการเกษตร
แหล่งน้ำธรรมชาติ แหล่งน้ำที่สำคัญของหมู่บ้าน ตำบล เช่น
คลอง | หมู่ที่ | ขนาด(ลบม.) | หนอง | หมู่ที่ตั้ง | ขนาด (ไร่ ) |
คลองวังโตนด คลองยางแดง คลองวังด้วน คลองทุ่งศรีเมือง คลองปากคู คลองวังกระดาน คลองชายธง คลองห้วยโมกข์ คลองห้วยกระแจะ คลองต้นกระบก คลองตะเกรา คลองชายเขา คลองลาว คลองหอยขม คลองชำระกำ คลองสีเสียด คลองฆ้อ คลองหินกอง คลองวังตาแก้ว คลองจิก คลองตาเอก คลองวังใหญ่ |
1,2,3,7,8,9,1 1 2 2 2,3 3 4,5,6 4,5 5 5 6 6 7 7 7 8 8 9 9 10 10 |
10
20 x 12 x 35,000 4 x 2 x 1,200 4 x 2 x 2,000 2 x 2 x 3,000 4 x 3 x 2,019 6 x 2 x 1,200 6 x 3 x 3,500 10 x 4 x 4,500 4 x 2 x 1,000 4 x 2 x 1,200 6 x 3 x 2,000 4 x 2 x 3,500 6 x 2 x 3,500 6 x 2 x 1,500 4 x 2 x 1,700 6 x 2 x 4,200 6 x 2 x 4,000 10 x 4 x 2,500 6 x 2 x 5,200 10 x 4 x 2,700 10 x 4 x 1,700 10 x 4 x 1,200 |
หนองวังใหญ่ใหญ่ หนองวังใหญ่น้อย หนองวังทอง หนองทับจัน หนองเนินทราย หนองยายไร่ หนองบัว หนองคง หนองหินกอง หนองสีงา 1 |
1 1 1 2 3 3 9 9 2 |
10 3 11 13 12 12 10 20 10 5 |
หมายเหตุ : ข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนตำบลวังใหม่ กันยายน 2545
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- สระน้ำสาธารณะประโยชน์ ที่สร้างจากหน่วยงานราชการต่างๆ ดังนี้
หมู่บ้าน | สร้างเมื่อ พ.ศ. | หน่วยราชการ |
2 3 4 4 6 6 8 8 9 10 |
2540 2539 2541 2543 2536 2542 2539 2540 2540 2546 |
สภาตำบลวังใหม่ สภาตำบลวังใหม่ กรมพัฒนาที่ดิน อบจ. สภาตำบลวังใหม่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน อบต. |
หมายเหตุ
: ข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนตำบลวังใหม่ กันยายน 2546
- ท่อน้ำดิบของกรมพลังงานสายที่ 7 จุดตั้งสถานีสูบน้ำอยู่ที่หมู่ 3 บ้านวังงกระดาน
- สภาพภูมิอากาศ
มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 25-35 องศาเซลเซียสฤดูฝนจะเริ่มมีฝนตกประมาณกลางเดือน
พฤษภาคม ตุลาคม ฤดูหนาวและฤดูร้อนจะเริ่มตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน พฤษภาคม
- ปริมาณน้ำฝน
ตำบลวังใหม่จะมีฝนตกโดยเฉลี่ยประมาณ 2,250 3,200 มิลลิเมตร/ปี โดยมีฝนตกประมาณ
150 170 วัน
สถิติสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝน
ประจำปี2544/2545/2546
เดือน/ข้อมูล | จำนวนน้ำระเหยทิ้ง เดือน(มม.) |
ความชื้นสัมพัทธ์ ( % เฉลี่ย ) |
ปริมาณน้ำฝน เฉลี่ยทั้งเดือน (มม.) |
จำนวนวันที่ฝนตก ทั้งเดือน ( วัน ) |
มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม 144.30 81.49 150.0 4 เมษายน 134.13 92.3 78.1 12 พฤษภาคม 136.44 81.05 204.9 14 มิถุนายน 199.64 82.20 166.0 14 กรกฎาคม 102.68 84.72 512.0 24 สิงหาคม 133.13 73.89 378.9 21 กันยายน 101.64 77.00 435.2 18 ตุลาคม 130.45 83.63 257.8 16 พฤศจิกายน 135.18 75.92 42.5 8 ธันวาคม 152.86 68.30 0 0 |
139.33 130.95 144.30 134.13 136.44 199.64 102.68 133.13 101.64 130.45 135.18 152.86 |
71.93 79.00 81.49 92.3 81.05 82.20 84.72 73.89 77.00 83.63 75.92 68.30 |
6.69 0.4 150.0 78.1 204.9 166.0 512.0 378.9 435.2 257.8 42.5 0 |
1 5 4 12 14 14 24 21 18 16 8 0 |
-
ภัยธรรมชาติ
1. ภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง จะเกิดเป็นบางปีและมีทุกหมู่บ้าน
2. วาตภัยจะเกิดขึ้นทุกปี ประมาณเดือน เมษายน ต้นเดือนพฤษภาคมจะมีเกิดขึ้นทุกปีทุกหมู่บ้าน
โดยส่วนมากจะเกิดกับป่าเขาทะลาย
3. อุทกภัย จะเกิดเป็นบางปี ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน น้ำระบายไม่ทัน ตามหมู่บ้านที่
ริมคลองวังโตนด ตั้งแต่หมู่ 10 ,9,8,7,1,2,3
กลุ่มองค์กรและผูนำชุมชนผู้นำชุมชนตำบลวังใหม่
1. หมู่ที่ 1 บ้านหินดาด นายปัญญา ศิริไสยาสน์
2. หมู่ที่ 2 บ้านวังใหม่ นางสาวธันวา อิ่มเอี่ยม
3. หมู่ที่ 3 บ้านวังกระดาน นายเสริม เลขการ
4.. หมู่ที่ 4 บ้านดงทับมอญ นายเฉี่ยว ศรีคงรักษ์
5. หมู่ที่5 บ้านห้วงโมกข์ นายสมนึก ภาษีชอบ
6. หมู่ที่ 6 บ้านปากทางแทรกเตอร์ นายสำรวย ประสบเนตร
7. หมู่ที่ 7 บ้านคลองลาว นายแก้ว บุญรักษา (กำนัน )
8. หมู่ที่ 8 บ้านหินกอง นายอุทิศ จันโทภา
9. หมู่ที่ 9 บ้านซับยี่หร่า นายประกาศ บุญรักษา
10. หมู่ที่10 บ้านแก่งน้อย นายสมพร ศักดิ์ศศิธร
โครงการและชมรมที่ได้จัดตั้งขึ้นในตำบลวังใหม่
ภายในตำบลวังใหม่ได้จัดตั้งโครงการและชมรมที่เป็นการส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพป่าเพื่ออนุรักษ์แหล่ง
ทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในชุมชนให้อุดมสมบูรณ์ในด้านสิ่งแวดล้อม
รพช. ได้มีโครงการ
ประปาชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของคนในชนบท ดังมีรายละเอียดของโครงการและชมรมดังนี้
ชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
ประวัติการฟื้นฟูป่าเขาทะลายและที่มา
ประมาณปี 2500 บริเวณพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านปากทางแทรกเตอร์ ( วัดดงทับมอญ )ติดกับเขาทะลาย
ยังคงมีสภาพเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธ์ไม้นานาชนิด เช่น ยางกล่อง
ยาแดง สำรอง
กฤษณา กระบก กระพ้อ เสม็ด ฯลฯ และสัตว์ป่า เช่น เก้ง กวาง หมี หมู่ป่า เสือโคร่ง
ลิง ชะนี เม่น
พังพอน ชะมด กระต่าย กระแต ไก่ป่า กระจง ฯลฯ ต่อมารัฐบาลเปิดสัมปทานทำไม้ โดยนำ
เครื่องจักรกลทำทางชักลากไม้ซุง และจอดแวะพักซ่อมบริเวณปากทางถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่
297 ผู้คนจึงติดปากต่อมาว่าปากทางแทรกเตอร์ จากบริเวณดังกล่าวเข้าไปอีกประมาณ
1800 เมตร
ซึ่งเป็นที่รักษาพยาบาล และควบคุมผู้เป็นโรคเรื้อน หลังจากเปิดสัมปทานตัดไม้แล้ว
ป่าดงดิบที่เคยอุดม
สมบูรณ์ก็กลับกลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม เหลือเฉพาะบนภูเขาทะลายผู้คนต่างถิ่นอพยพมาอยู่กัน
เต็มพื้นที่ ป่าที่เสื่อมโทรมก็ถูกถากถางปลูกข้าวไร่ มัน ถั่ว อ้อย ยางพารา ส้มเขียวหวาน
และตัด
ไม้เผาถ่านขนาดใหญ่อยู่ของเจ้าของโรงงานอ้อยอยู่ 1 เตา
พ.ศ. 2508 ราชการจำเป็นต้องทำหลักเขตและติดป้ายเขตป่าสงวน ตามแนวเขาทะลาย
แต่ไม่สามารถหยุดการโค่นไม้ทำลายป่า ยังมีการลักลอบตัดไม้ บุกรุกถือครองพื้นที่อยู่และฤดูแล้งไฟป่าจะเกิดขึ้นทุกปี
พ.ศ.2521 เกิดวิกฤติความแห้งแล้ง น้ำในลำห้วย ลำธารเหือดแห้ง ไม่มีน้ำในการใช้รดไม้ผล
เกิดความเสียหายแก่สวนผลไม้รอบเขาทะลายเป็นอย่างมาก เมื่อชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้น้ำ
เพื่อการเกษตรก็เริ่มคิดหาสาเหตุของความแห้งแล้งที่ตน
ต้องประสบอยู่และต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นา ๆ เช่น ปีมะ เกิดอาเพศบ้างป่าหมดไม่มีที่เก็บน้ำ
น้ำเลยแห้งเร็วบ้าง ขุดสระน้ำกว้างเกนไปแสงแดดเผาแห้งหมดไปบ้าง
พ.ศ.2527-2528 พระหลวงพ่อใช่ สุชีโว ( พระครูวิสุทธิสังวร ) วัดป่าลิไลวัน (
เขาฉลาก )
ต. บางพระ อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี นำคณะพระลูกศิษย์ มาธุดงค์ปักกลด ณ บริเวณเขาทะลาย
ท่านเห็นสภาพพื้นที่ที่ถูกทำลายจนเป็นเขาหัวโล้นเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว ท่านก้หารือกับพระ
และโยมว่าต้องดูแลรักษาป่าไม้และต้องปลูกต้นไม้เสริมโดยมอบให้พระอาจารย์ สมศักดิ์
จันทะวะนังโน พระอาจารย์ไตรรัตน์และพระมนัสขันติธัมโม เป็นพระผู้นำพร้อมคณะสงฆ์อีกประมาณ
13 รูป และญาติโยมนำโดย คุณแม่ไสว สายสุวรรณ คุณประสิทธ์ สายสุวรรณ และชาวบ้านใกล้เคียงคือ
บ้านดงทับมอญ บ้านคลองชายธง บ้านปากทางแทรกเตอร์ บ้านคลองลาว ร่วมกันปลูกป่าในวันเข้าพรรษา
โดยทยอยปลูกไปเรื่อย ๆ ตามที่จะหาพันธ์กล้าไม้มาได้ และขอแรงช่วยกันบำรุงรักษาตามวันนักขัตฤกษ์
ต่าง ๆ และเมื่อเกิดไฟป่าขึ้นก็รวมตัวกันช่วยกันดับไฟป่า แรกๆ ก็มีคนมาช่วยกันประมาณ
50 70 ระยะหลังเห็นประโยชน์ขอองการรวมตัวกันช่วยกันดับไฟป่าจึงเกิดชมรมอนุรักษ์ป่าไม้ขึ้น
เมื่อ
ี พ.ศ.2533 วันที่ 12 สิงหาคม คนมาร่วมมากที่สุดและขยายตัวออกไปตามชุมชนต่าง
ๆ
มีการดูแลและปลูกป่าไม้กันมากขึ้น คนช่วยดับไฟป่ามีมากขึ้นตามลำดับ
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ศึกษาดุงานทั้งในและต่างประเทศ ขยายเป็นกิจกรรมหน่วยกู้ภัย
ฉุกเฉินมีการปลูกต้นไม้ทั่วพื้นที่เทือกเขา
ทะลายและขยายเครือข่ายการอนุรักษ์ป่าเขาทะลายไป 12 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1,4,5,6,7,8,9,10
ต. วังใหม่ หมู่ที่6 ต.วังโตนด หมู่ที่ 8,9 ต.นายายอาม อ. นายายอาม และหมู่ที่
1 ต. เขาวงกต
อ. แก่งหางแมว หลังจากนั้นจึงได้มีการจัดตั้งชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ขึ้น
ประวัติความเป็นมาและกิจกรรม
ของชมรมอนุรักษืทรัพยากรป่าไม้ อำเภอนายายอาม
เมื่อประมาณเดือนธันวาคม พ.ศ. 2530 ราษฎรในเขต อำเภอนายายอาม ตำบลวังใหม่ และตำบลเขาวงกต
ได้ทราบทางบริษัทจันทบุรีค้าไม้ จำกัด จะตัดฟันไม้ที่ได้รับสัมปทานบนเขาทะลายซึ่งครอบคลุม
3 ตำบล
เขาทะลายแห่งนี้เป็นต้นน้ำลำธารที่ชาวสวน ชาวไร่ ทั้ง 3 ตำบล ได้อาศัยใช้น้ำประกอบอาชีพการเกษตรกรรมตลอดมา
การตัดไม้จะทำให้เกิดมหันตภัยอย่างร้ายแรงต่ออาชีพเกษตรกรรม และเป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างอื่นอีกหลายอย่าง เพราะต้นน้ำลำธารจะเหือดแห้งอย่างแน่นอน เมื่อทราบข้อมูลอย่างแน่ชัดแล้ว
ราษฎรทั้ง 3 ตำบล จึงได้ผนึกกำลังอย่างเหนียวแน่น ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทางราชการ
ให้บริษัทจันทบุรีค้าไม้ ระงับการการตัดฟันไม้ในป่าเขาทะลายโดยเด็ดขาด นายสมพงษ์
พันธ์สุวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้นได้สนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในที่สุดบริษัทจันทบุรีค้าไม้จำกัด
ได้ระงับการตัดฟันไม้ในป่าเขาทะลายตามความต้องการของราษฎร
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนมกราคม 2531 ด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฏก็มีข่าวมาอีกว่าบริษัทจันทบุรีค้าไม้
จำกัด
จะยืนยันในการตัดไม้ในป่าเขาทะลายอีก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีก็ได้ช่วยเหลือยับยั้งอีกเช่นเคย
เมื่อมีการปรากฏว่ามีความผันผวนในการบริหารป่าไม้เช่นนี้ราษฎรทั้ง 3 ตำบล จึงได้นัดประชุมและได้มีมติเอกฉันท์
ว่าให้ก่อตั้งชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ขึ้นเพื่อผนกกำลังอย่างถาวรเมื่อวันที่
20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531
วัตถุประสงค์ของชมรมทรัพยากรป่าไม้ มีมากมายหลายประการและประการที่สำคัญคือ หยุดยั้งการทำลายป่าทุกรูปแบบ
,
ช่วยป้องกันไฟป่า , ช่วยปลูกป่าให้ใกล้เคียงสภาพเดิม และกระจายข่าวความสำคัญของการอนุรักษ์และสร้างอุดมการณ์การรักษาป่า
รักษาสิ่งแวดล้อมให้กว้างขวางยิ่งขึ้นทั้งนี้เพื่อรักษาต้นน้ำลำธารให้คงอยู่ตลอดไป
เมื่อก่อตั้งชมรมทรัพยากรป่าไม้ขึ้นแล้วมีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมทรัพยากรป่าไม้
เป็นจำนวนมากแต่
ทางชมรมจำเป็นต้องกลั่นกรอง เพื่อให้สมาชิกมีคุณภาพ มีความจริงใจ มีจุดยืนที่แน่นอน
มีทัศนคติที่ดีต่อ
การอนุรักษ์ป่าไม้ เพราะชมรมนี้ก่อตั้งขึ้นมามีได้แสวงหาประโยชน์อื่นใด กิจกรรมส่วนใหญ่ที่ต้องทำล้วน
เป็นการเสียสละทั้งสิ้น และปัจจุบันมีสมาชิก 165 คน แยกเป็นรายตำบลดังนี้
1. ตำบลนายายอาม สมาชิก 60 คน
2. ตำบลวังโตนด + วังใหม่ สมาชิก 89 คน
3. ตำบลเขาวงกต สมาชิก 16 คน
กิจกรรมที่ผ่านมาของชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
1. วันที่ 8 พฤษภาคม 2531 เชิญวิทยากร จากกรมป่าไม้มาอบรมสมาชิกเรื่อการป้องกันและดับ
ไฟป่าที่ศาลาเอนกประสงค์มีสมชิกเข้าอบรม 220 คน
2. เดือนตุลาคม 2531 จ.อ. วิสุทธิ์ วิสิทธิ์แพทย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำสมาชิกเข้าจับกุมผู้
ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า บริเวณเขาทะลาย
3. สมาชิกชมรมแจ้งข่าวการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบ ในกรณีที่
ว่ากล่าวตักเตือนแล้วไม่ฟัง
4. วันที่ 21,22 มีนาคม 2531 ร่วมกันดับไฟป่าบริเวณเขาทะลาย
5. วันที่ 19 พฤษภาคม 2532 ร่วมกันปลูกป่าในเขตสำนักสงฆ์สูญญตาราม เนื้อที่ 30
ไร่
6. วันที่ 7 มกราคม 2532 จัดทำป้ายคำขวัญข้อความ ตัดไม้ทำลายป่า น้ำจะบ่าท่วมเมือง
แจกให้สมาชิกนำไปติดใน 3 ตำบล จำนวน 10 ป้าย
7. ประกาศเสียงตามสายและจัดทำเอกสารรณรงค์ป้องกันไฟป่าในฤดูแล้งของทุกปี
8. ร่วมกันปลูกต้นไม้และบำรุงรักษา กำจัดวัชพืชในสถานที่ต่างๆ เช่น บริเวณเทือกเขาทะลาย
9. ปี พ.ศ 2536 ร่วมกับหน่วยงานพัฒนาชุมชนทำป้ายเชิญชวนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมข้อความ
โลกจะสวยด้วยน้ำใจคุณ
10. ร่วมกันทำแนวกันไฟ กว้าง 15 เมตร ระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ในบริเวณที่รกร้าง
ที่เจ้าของที่ดินปล่อยทิ้งเป็นประจำทุกปี
11. วันที่ 10 22 มีนาคม 2539 ร่วมกันดับไฟป่าบริเวณเขาทะลาย ด้านหมู่ 10 ต.
วังใหม่
12. ปี พ.ศ. 2540 2542 ร่วมดับไฟป่า 9 ครั้ง
13. ปี พ.ศ. 2543 จัดซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่า
14. ปี พ.ศ. 2545 จัดอบรมขีดความสามารถผู้นำท้องถิ่นและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อบรมทั้งตำบล
15. วันที่ 13 16 เมษายน 2547 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและนักศึกษา ร่วมกันดับไฟป่าเขาทะลายบริเวณ
หมู่ 9 ต. วังใหม่
ผลการสำรวจ
จากการสำรวจข้อมูล โดยการสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน อบต. และชาวบ้าน เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาต
ิและสิ่งแวดล้อม สรุปข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้ ดังนี้
1. ทรัพยากรธรรมชาติ
- ป่าไม้
แหล่งป่าไม้ที่มีลักษณะเป็นเทือกเขามีแห่งเดียวในตำบลวังใหม่ ซึ่งก็คือ ป่าสงวนแห่งชาติเขาทะลาย
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 13,125 ไร่ ในเขต 3 ตำบล คือ ตำบลวังใหม่ ตำบลนายายอาม และตำบลเขาวงกต
ป่าเขาทะลายนี้จะอยู่ในความดูแลขอชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่จัดตั้งขึ้น
โดยมี กำนันแก้ว บุญรักษา มีตำแหน่ง รองเลขา เป็นผู้รักษาการแทน จ. อ. วิสุทธิ์
วิสุทธิ์แพทย์ ซึ่ง
ในอดีตเคยเป็นประธานชมรม แต่ปัจจุบันได้ลาออกจากชมรมไปแล้ว ยังไม่มีใครขึ้นเป็นประธานแทน
จากการสอบถามข้อมูลจากการสอบถามข้อมูลจากอดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.6 คุณสมคิด ศิลปะเวช
เล่าว่าในอดีตเขาแห่งนี้เป็นต้นน้ำลำธารของชุมชนเชิงเขาและละแวกใกล้เคียง ต่อมมาได้มี
นายทุนมาก่อตั้งโรงงานจันทบุรีค้าไม้ และได้รับการสัมปทานอย่างเต็มที่ จึงทำการเข้าไปตัด
ไม้เพื่อธุรกิจส่วนตัว จนทำให้เขาทะลายกลายเป็นเขาหัวโล้น ทำให้แหล่งต้นน้ำลำธารของชาว
บ้านลดน้อยลง น้ำที่ใช้อุปโภค บริโภค ไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน ในชุมชนจึง
ได้มองเห็นความสำคัญของป่ามากขึ้น และช่วยกันฟื้นฟูและป้องกันป่าจากพวกนายทุน
และ
พวกลักลอบตัดไม้ และล่าสัตว์ เพื่อรักษาแหล่งต้นน้ำลำธารและผืนป่าที่สำคัญผืนนี้เอาไว้
จนทำให้สภาพป่ากลับคืนมา โครงการอนุรักษ์ผืนป่านี้ยังคงมีต่อไป เช่นเดียวกับปัญหาการ
ลักลอบตัดไม้ และปัญหาภัยธรรมชาติก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นกัน