Part
V Jtrap (Ryuichi)
โอ้ เจอกันอีกแล้วนะครับ
นานๆ เจอกันที
ผมหละคิดถึงทุกๆ คนจริงๆ ด้วยนะเนี่ย ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดถึงพวกผมบ้างมั้ย
อย่ากระนั้นเลย จากคราวที่แล้วเป็นเรื่องของความลำบากของตัวผม มาคราวนี้ผมว่าพวกคุณอาจจะพอเดาได้กันบ้างแล้วว่าจะเป็นเรื่องราวของใครต่อไป
ครับหลังจากที่ผ่านบททดสอบของ Soul dance มาได้ไม่นาน พวกเราก็ได้โจทย์ใหม่ในอาทิตย์ถัดมา
สถานที่ที่พวกเราได้รับมอบหมายให้ไปทดสอบมนครั้งนี้คือที่สวนสาธารณะ
เฮ่อ
ทำอะไรงั้นเหรอครับ? ผมก็อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่าให้พวกเราไปทำอะไร
จะให้ไปเต้นที่สวนสาธารณะไอ้ของแบบนั้นพวกเราก็ชินกันซะแล้ว มันคงไม่ใช่
แต่พอไปถึงก็ถึงได้รู้ว่าอ้อ ให้พวกเรามาเรียน Jtrap นั่นเอง เราต้องทำการฝึกกระโดดเชือกในท่าต่างๆให้ได้ตามที่กลุ่ม
Jtrap เค้าทำกัน ตั้งแต่ท่า Leapfrog คือการกระโดดข้ามศีรษะของคนที่เหวี่ยงเชือกทั้ง
2 ฝั่งเพื่อเข้าไปกระโดดต่อในวงเชือกที่กำลังเหวี่ยงอยู่นั่น ท่า Speed
คือการซอยเท้าถี่รัวในวงเชือกที่กำลังแกว่งและเร่งสปีดให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ
เรื่อยๆ Swipes เป็นท่าการตีลังกาอยู่ในวงเชือกที่กำลังกวัดแกว่งไปมาโดยไม่ให้สะดุด
Shift เป็นท่าที่ให้คนนึงโดดอยู่ในวงเชือกเมื่อถึงเวลาก็จะมีอีกคนนึงโดเข้ามาร่วมด้วยและทั้งสองก็
ชิพเท้าไขว้กับเชือก เท้าหนึ่งลอยจากพื้น ส่วนมือ 2 ข้างแตะอยู่บนพื้น
และสุดท้าย Side rotation ผู้เล่นทั้งหมดเข้ามาอยู่ในวงเชือกกระโดดไปมาพร้อมกันหมุนซ้ายหมุนขวาและจบที่การตีลังกาอ้อมเชือกออกมายืนจนได้
โหย
แค่ผมเห็นท่าที่พวกพี่ๆ
เค้าทำกันผมก็จะเป็นลมแล้วหละครับ พวกเค้าให้พวกเราทั้งสามคนกระโดดเชือกให้ผ่านได้ตามกำหนด
ผมกับเคตะ น่ะผ่านฉลุย (เกือบไม่รอดเหมือนกัน) ส่วนริวอิจิน่ะสิครับ
แย่หน่อย หมอนี่กระโดได้แค่ 71 ครั้งเท่านั้น โดเท่าไรก็โดดไม่ผ่าน
พี่ๆ เค้าก็เลยให้หมอนี่ฝึกการกระโดดแบบง่ายๆ ด้วยการให้ไปกระโดดกบรอบสนามซะ
1 รอบใหญ่ มีพวกผมนั่งมองนั่งลุ้นกันว่าเจ้าหมอนั่นน่ะจะทำได้หรือเปล่า
คิดเอาเถอะครับกระโดดกบรอบสวนตรงนั้นมันไม่ใช่เนื้อที่น้อยๆ อย่างที่คิดเลยนะครับ
หลังจากกลับมาเจ้าน้องชายผมก็กลับมาลองทดสอบดูอีกครั้งผลก็ยังคงเหมือนเดิม
เฮ่อ
.โดดเชือกอยู่ 2-3 รอบได้ในตอนนั้นถึงได้ผ่านพ้นไปได้ นี่แค่เริ่มต้นยังหืดขึ้นคอขนาดนี้
ผมก็เริ่มเห็นแววมรณะลางๆ ตรงหน้าที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาแล้วหละนะครับ
เอาหละทีนี้พวกนายลองเลือกดูว่าใครจะเล่นท่าอะไร
speed ใครจะทำท่านี้ครับ คุณ tamo ที่เป็นหัวหน้าทีมเอ่ยถาม ผมเองครับ
เคตะยกมือพร้อมกล่าวเสียงใส ผมอยากจะบอกว่า เจ็บใจจริงๆ ยกมือไม่ทันเจ้าเคตะมัน
ก็ท่านี้น่ะมันท่าง่ายที่สุดเลยนี่นะ
Leapfrog ล่ะ
ผมแล้วกันฮะ
งั้นผมด้วยคน Ryohei
เอ่ยรับคำ ทำให้ Ryuichi เอ่ยปากตามบ้างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ส่วนท่า Shift นี่
Keita
คุงไหวมั้ย Tamo เอ่ยถามซึ่งก็ได้รับคำตอบรับที่น่าพอใจกลับมาในทันท่วงทีได้ฮะ!
ผมน่ะสบายมากอยู่แล้ว
งั้นอีกคนก็ ริว..
ห๋า!!! ไม่นะครับ ไม่เอานะ!!
สองเสียงของสองเด็กหนุ่มประสานดังออกมาแทบจะพร้อมๆ กันทำให้ Ryohei
ผู้ซึ่งพอจะรู้ชะตากรรมตั้งแต่คำว่าริวหลุดออกมาจากปากคุณ Tamo ต้องค่อยยกมือขึ้นช้าๆ
เพื่อห้ามความโกลาหลในเวลานี้เอาไว้ก่อนที่จะปานปลายไปมากกว่านี้
ผมฮะ ผมขอคู่กับ Keita
เองฮะ Ryohei กล่าวเสียงอ่อย
ดีจัง ยังไงๆ ชั้นก็ไม่ขอคู่กับเจ้าหมูนั่นหรอก
เล่นดีไม่ดียังไงจะมาเหยียบขาชั้นหักเข้าอีก ชั้นยิ่งบอบบางอยู่ Keita
กล่าวพลางบุ้ยปากยียวนใส่ร่างท้วมที่ทำหน้าบูดบึ้งไม่แพ้กัน เออ
บอบบาง
อยากจะรู้เมหือนกันแหละว่าไอ้บอบบางแต่ปากแบบนี้น่ะมันจะโตไปได้สักเท่าไร
หรือว่ามันจะถูกเหยียบตายเพราะปาก ตายก่อนโตก็ไม่รู้! นี่! อุ๊บ~
ไม! อุ๊บ~ ยังไม่ทันจะได้ด่ากันต่อมืออุ่นๆ ของเรียวเฮก็เข้าประกบปิดปากคนทั้งสองข้างกายด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
เหมือนเช่นที่เคย ต่อหน้าคนอื่นมันยังทะเลาะกันได้ขนาดนี้ นี่มันจะไปรอดมั้ยเนี่ยวงช๊านนนน
เอ่อ
อย่าสนใจเลยครับต่อเลยดีกว่าครับ
ท่า Swipes ท่าสุดท้ายนี่
ใครดีล่ะ
เฮ้
กล้ารึเปล่านายน่ะ
เก่งไม่ใช่เหรอ เอาท่านี้ไปสิ เจ้าร่างบางตัวจ้อยเอ่ยท้าทำเอา Ryuichi
ฉุนกึก
อย่าท้าๆ ชั้นเอาท่านี้ก็ได้
..ครับ ผมเอาท่านี้เองครับ! เรื่องตีลังกาผมถนัดอยู่แล้ว เด็กหนุ่มตอบด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
+++++++++++++
แล้วเราก็เริ่มการฝึกซ้อมกัน
Keita ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดีกับท่า speed อาจจะเพราะทั้งรูปร่างและท่าที่ง่ายอยู่แล้วก็เลยดูเหมือนมันจะง่ายไปซะทุกอย่างสำหรับเค้า
ผมหละอิจฉาจริงๆ เลยนะหมอนี่น่ะ ไม่ว่าทำอะไรก็ดูจะไร้ซึ่งอุปสรรคไปซะหมดทุกอย่าง
เป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดจริงๆ น่ะแหละ อ๊ะ! แต่ขอบอกว่าคราวนี้น่ะ
ผมไม่พลาดนะฮะ เพราะผมเองก็ได้ชื่อว่าเป็นนักแดนซ์เหมือนกัน เรื่องหกคะเมนตีลังกาแบบนี้น่ะของถนัดเชียวหละ
ตอนทดสอบผ่านมาผมก็ได้คะแนนดีกว่าใครๆ ใน 3 คนนะ แม้จะแค่คะแนนเดียวก็ตามเถอะ
^^
ส่วนท่า Shift พวกเราก็เข้าขากันได้ดีเช่นเดียวกัน
พวกพี่ๆ เค้าก็ชมว่าพวกเราเข้าขากันได้ดีมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเพิ่งลองเล่นเป็นครั้งแรก
ฮะ ผมงิตัวลอยเชียวหละดีใจที่มีคนชมแบบนี้ ฝั่งทางด้าน Ryuichi ก็กำลังหัดการตีลังกาอยู่
แต่ดูท่าทางแล้วจะแย่เอามากๆ เลยหละครับ ดูเหมือนว่าอาจจะเพราะน้ำหนักตัวของเค้า
ก็เลยทำให้ไม่สะดวกในการทำท่านี้นัก ตอนนั้นยังไม่มีใครสนใจใครกันหรอกนะ
เจ้า Keita ก็กำลังสนุกกับการได้ลองอะไรใหม่ๆ ส่วนผมเองยิ่งได้รับคำชมก็ยิ่งคึก
ซ้อมด้วยกับ Keita อย่างสนุกสนาน จนกระทั่ง
พักทานข้าวกันก่อนนะครับ
Ryuichi ไหวมั้ย ท่านี้สำคัญมากนะ พี่ในกลุ่มที่หัดท่าตีลังกาให้
Ryuichi จับบ่าแล้วบีบเบาๆ อย่างเป็นห่วง ไหวครับ ผมทำได้
ร่างท้วมหอบตัวโยนพลางหยิบผ้าขนหนูมาซับเหงื่อที่ไหลออกมาโทรมกาย
ไปทานข้าวเที่ยงกันก่อนไป เดี๋ยวบ่ายๆ ค่อยกลับมาซ้อมอีกครั้ง ตอนบ่ายเรามาซ้อมท่ารวมกันก่อนดีกว่า
เดี๋ยวจะเสียเวลามากนะ ครับ! 3 เสียงขานตอบรับพร้อมเพรียง แล้วจึงพากันลงไปทานอาหารที่สตาร์ฟจัดหาเอาไว้ให้ที่ห้องพัก
มันส์เป็นบ้าเลย ไม่เคยเล่นอะไรสนุกขนาดนี้เลยนะเนี่ย
แค่วันเดียวก็ได้ท่าจะหมดอยู่แล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะ นั่นสิ สนุกจริงๆ
นั่นแหละ
จริงมั้ย Ryuichi ริว ริว??? Ryohei หลังจากที่คุยกับ Keita
ก็หันมาหาน้องชายเพื่อขอความคิดเห็นแต่ก็กลับพบใบหน้าเคร่งเครียดสุดๆ
ของเจ้าหนุ่มเป็นคำตอบรับแทน
Ryuichi เป็นอะไรรึเปล่านายน่ะ
Ryohei เอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อน หรือน้องของตนผิดไปจากเมื่อเช้า
ชั้นยังไม่หิวนายกินไปแล้วกัน ชั้นไปที่ห้องซ้อมก่อนนะ เห๋?? ยังไม่ทันที่เรียวเฮ
จะได้ซักไซร้ถามไถ่ต่อเจ้าหนุ่มร่างท้วมจ้ำมั่มของทีมก็ลุกพรวดพราดออกจากห้องพักไปไม่เหลียวหลัง
Ryuichi เป็นอะไรไปน่ะ
ปกติข้าวปลาอาการไม่เคยขาดนี่นา แล้วทำไม
?? Ryohei มองหน้า Keita
ที่เลิ่กคิ้วสูงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจพร้อมจ้วงกินข้าวต่อเหมือนบอกให้รู้ว่าอย่ามาถามอะไรเกี่ยวกับเจ้าหมอนั่นกับชั้นเป็นอันขาด
พี่ใหญ่อย่าง Ryohei เลยต้องจำใจเงียบแล้วกินข้าวต่อไป ทั้งที่ยังเก็บข้อข้องใจนั้นเอาไว้ก็ตามที
ช่วงบ่ายพวกเราฝึกกันแต่ท่าที่ต้องทำเป็นกลุ่มเป็นทีม
แต่ดูเหมือนอะไรๆ มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด ท่าไหนที่มี ริว เข้ามาร่วมด้วยดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเลยเหมือนอย่างเคย
ดูเหมือนอะไรๆ ก็จะผิดพลาดไปซะหมดทุกอย่าง ในตอนนั้นเองเราถึงได้เริ่มรู้ตัวกันแล้วว่า
เจ้าหมอนั่นเครียดเรื่องอะไร ต่างคนต่างเริ่มไม่มีรอยิ้มบนใบหน้า Keita
เองถึงแม้จะเคยหัวเราะเยาะบ้างก็ตามทีแต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะกังวลใจอยู่ไม่น้อย
ช่วงท้ายของการซ้อมวันนี้ ริวอิจิเป็นคนซ้อมเดี่ยวปิดท้าย
ทำเท่าไรก็ทำไม่ได้ ล้มแล้วล้มอีก
ผิดจับหวะแล้วผิดจังหวะอีก จนทำเอาทั้งคนเล่นทั้งคนดูท้อใจกันไปตามๆ
กัน ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเจ้าหมอนั่นพักขณะที่พวกเราซ้อมกันก็คือ
การที่เจ้านั่นเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนประจำตัวของเค้ามาผิดหน้านอนหงายอยู่บนพื้นไม้ในห้องซ้อมนั่นเอง
Keita เองก็เห็นภาพนั้นเช่นเดียวกับที่ผมเอง
พวกเราไม่กล้าคิดหรอกนะว่าใต้ผ้าผืนนั้นริวจะกำลังทำอะไร อารมณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ เมื่อเจ้าตัวลุกขึ้นมากลับมีสีหน้าท้อแท้และเหนื่อยอ่อนเต็มที
ผมเห็นน้ำตาคลอที่ 2 ตาของเจ้านั่นด้วย.. ยอมรับว่าริวอิจิเป็นคนเดียวในกลุ่มที่หกคะเมนตีลังกาผาดโผนแบบนี้ได้ดีที่สุดในกลุ่มแล้ว
ขนาดริว ยังทำไม่ได้ก็คงจะไม่มีใครในกลุ่มที่ทำได้อีก พวกเราเริ่มลงนั่งกันตามมุมต่างๆ
เพื่อรอดูท่าทีของคนที่กำลังเป็น ความหวัง ของทุกคนในขณะนี้
. แล้วการฝึกก็จบลงด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักของพวกเราและครูฝึก
ที่บ้านเราแยกย้ายกันไปตามห้องของตัวเองและทยอยกันเข้าไปอาบน้ำทีละคน
ยกเว้นริว ที่ยังคงนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกดเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ
เหมือนไร้จุดหมาย ผมมองดูแล้วก็ให้คิดถึงตอนตัวเอง เมื่อครั้งที่เราแย่
เราลำบาก เจ้านี่ก็มาช่วยเราเอาไว้ได้ แต่พอถึงคราวมันลำบากบ้างทำไมน๊า
ชั้นถึงช่วยไม่ได้กัน แย่ชะมัด..
หมอนั่น
ยังไม่ขึ้นมาอาบน้ำอีกเหรอ?
อื่ม
ร่างบางเดินออกมาซุ่มข้างๆ ตัวพี่ใหญ่อย่างเงียบเชียบ พลางจ้องมองดูภาพด้านหลังของเพื่อนร่วมกลุ่มที่นั่งทอดหุ่ยมองดูภาพเคลื่อนไหวในจอทีวีอย่างไร้ซึ่งวิญญาณ
ความผิดชั้นหรือเปล่า Ryohei
ที่บอกให้หมอนั่นรับท่านั้นไว้น่ะ ทั้งๆ
ที่ทดสอบครั้งแรกพวกเราก็ทำได้ดีกว่าแท้ๆ น่ะ Keita กล่าวเสียงอ่อย
สำนึกผิดในตัวเองที่ไม่น่าพูดจาท้าทายออกไปแบบนั้น
ไม่หรอก.. ถึงนายไม่ท้า
เจ้านั่นก็ต้องรับเอาท่านั้นไปอยู่แล้ว เพราะ Ryuichi น่ะรู้ดีว่า
ชั้นเองก็ไม่สามารถตีลังกาแบบนั้นได้หรอก นายเองก็ไม่เคยได้เรียนอะไรแบบนี้ทำไม่ได้แน่ๆ
ดังนั้นคนเดียวในกลุ่มที่พอจะทำได้ก็มีแต่เจ้าตัวเค้าคนเดียวนั่นเลย
อย่ามานั่งโทษตัวเองเลยนะ เชื่อสิ ยังไงเจ้านั่นก็ต้องทำได้ เด็กหนุ่มยิ้มให้อย่างเชื่อมั่นทำให้
Keita พอจะยิ้มออกมาได้บ้าง
เรียว
ชั้นว่านายชงโกโก้ให้เค้าหน่อยเป็นไงเผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้นบ้างนะ
เห๋?? โกโก้เหรอ?? มันดีขนาดนั้นเชียว??
Ryohei หันมองหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้นั่นทำให้ Keita ขมวดมุ่นคิ้วงงตอบกลับเช่นกัน
ก็ใช่น่ะสิ ได้กินโกโก้อุ่นๆ ตอนกำลังเครียดๆ น่ะ สมองปลอดโปร่งมากเลยนะ
อ้าวเหรอ? ถึงว่าสิทำไม
ริวถึงได้ชอบชงกินบ่อยๆ เจ้าหมอนั่นน่ะ ชงเก่งมากเลยนะ อร่อยมากจริงๆ
ชั้นหละติดใจเวลาที่ได้กินโกโก้ฝีมือเจ้านั่นหละ ส่วนชั้นชงไม่เป็นแฮะ
ก็ได้แต่รอให้เจ้านั่นชงมาให้ยามว่างเท่านั้นเอง
ชงไม่เป็น??? Keita
กล่าวย้ำ ถามซ้ำกับสิ่งที่เพื่อนเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อหู
อื่มใช่ทำไมเหรอ
นี่ชั้นไปนอนก่อนนะ
อยู่ไปก็ช่วยอะไรเจ้านั่นไม่ได้ให้เค้าอยู่คนเดียวแบบนั้นแหละ จะดีกว่านะ
แล้วเจ้าหนุ่มก็เดินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลบเข้าห้องนอนไป
ชงไม่เป็น
Ryohei ชงโกโก้ไม่เป็น Ryuichi ชอบชงพวกนี้มากที่สุด
. ชงไม่เป็น
.
แล้วไอ้แก้วโกโก้ที่มาวางรอหลังจากที่ซ้อมร้องเพลงอยู่จนดึกจนดื่นทุกๆ
คืนนั่นล่ะ?? ไม่ใช่เรียวจัง งั้นหรอกเหรอ?
.Ryuichi
..
ในหัวมีแต่คำถามมากมายวนเวียนไม่รู้จบภาพต่างๆ
ประมวลเข้ามาเรื่อยๆ จนทำเอายุ่งเหยิงพันกันพะลุงพะลัง หมายความว่าคนที่คอยห่วงใยใส่ใจดูแลเราอยู่ทุกคืนคือเจ้าหมอนี่งั้นเหรอ??
เรื่องบ้าอะไรกันนะเนี่ย นี่ชั้น
+++++++++++++++++
ทำไม่ได้
ยังไงก็ยังทำไม่ได้ ปัญหาไม่ไอยู่ที่ใครแต่อยู่ที่ตัวเราเอง คนอื่นทำได้กันหมดแล้ว
แต่พอมีเราเข้าไปมีส่วนร่วมปัญหาก็เกิดขึ้นมาทุกครั้ง จะทำยังไงดี
ลดความอ้วนตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
แล้วมันใช่ปัญหาเพราะเราอ้วนเกินไปหรือเปล่าล่ะเนี่ย
ถ้าเป็นไปได้ชั้นก็ไม่ได้อยากจะเกิดมาอ้วนอย่างนี้หรอกนะ แต่ว่าใช้พลังงานไปมาก
มันก็ต้องมีการทดแทนด้วยการเพิ่มสารอาหารเข้าไปบ้าง กินก็กินเท่าคนอื่นแต่ทำไมคนอื่นได้ทางสูงของเรามันออกข้างกันนะ
ชิ! นี่เราคิดเรื่องอะไรของเรากันวะเนี่ย?? พรุ่งนี้ ยังไงๆ ก็ต้องผ่านให้ได้
แต่จะทำไงดีล่ะ
แก้วกระเบื้องเซรามิคสีขาวโพลนถูกยื่นออกมาตรงหน้าทำให้ร่างท้วมที่กำลังอยู่ในช่วงสับสนสะดุ้งน้อยๆ
หันไปมองคนที่กำลังหยิบแก้วส่งให้ นาย
. ไม่ได้วางยานายหรอกน่า
ถึงแม้จะอยากมากก็ตามทีเถอะ เจ้าหน้าสวยยื่นแก้วให้พร้อมลงนั่งข้างๆ
จิบโกโก้ในแก้วตัวเองกินบ้าง ทีวีที่ถูกเปิดทิ้งไว้นานตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเริ่มมีความหมายอีกครั้ง
เมื่อมือเรียวสวยกดรีโมทย์ไปที่ช่องมิวสิคเปิดเพลงผ่อนคลายบรรยากาศเครียดๆ
ในเวลานี้
.
ไอ้ชั้นมันก็ช่วยอะไรนายไม่ได้ซะด้วย
จริงๆ เวลานี้นายคงต้องการ Ryohei มากกว่าที่จะเป็นชั้นแน่ๆ แต่ว่านะ
ก็เรียวเฮ น่ะนอนไปแล้ว ไอ้ชั้นก็เป็นพวกนอนผิดเวลาไม่ได้ซะด้วย ที่ตรงนี้ก็ถูกนายยึดซะแล้ว
เอาเป็นว่านั่งกัน 2 คนดีกว่านั่งคนเดียวก็แล้วกันนะ เจ้าร่างบางพูดจบก็หันไปร้องเพลงตามเพลงในทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนที่สุดแล้วริวอิจิถึงได้ยอมเอ่ยปากพูดเรื่องที่อัดอั้นในใจเอาไว้จนได้
ยากชะมัดไอ้ท่านั้นน่ะ
.
หือ? ชั้นบอกว่ามันยาก
เห็นแบบนั้นคิดว่าจะทำได้ง่ายๆ ซะอีก แต่พอเอาเข้าจริงๆ
มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยจริงๆ ไอ้ตอนโดก็ยังพอไหว แม้จะขลุกๆ ขลักๆ
ไปบ้างแต่ก็ยังคิดว่าไหว แต่พอไปลองโดดจริงกับเชือกที่แกว่งอยู่นั่นน่ะ
ใจชั้นที่เคยมีอยู่เต็มร้อยมันวูบไหวไปหมด
. พอคิดว่าขามันจะหลบไม่พ้นรัศมีของเชือกมันก็พาลให้หยุดตัวเองไปอัตโนมัติซะแล้ว
..
เชือกมันเหวี่ยงมาเร็วเกินไปหรือไงก็ไม่รู้ ชั้นน่ะนะ
เคยมั่นใจกับการเล่นตีลังกาหกหัวแบบนี้
แต่พอมาเจอกับไอ้ท่านี่แล้วรู้สึกความมั่นใจที่เคยมีมันหายไปไหนหมดเลยก็ไม่รู้สิ
ชั้นเป็นตัวถ่วงของ w-inds หรือเปล่านะ ถ้า w-inds ไม่มีชั้นเป็นคนอื่นป่านนี้มันอาจจะสำเร็จไปแล้วก็ได้นะ
พูดบ้าๆ น่า แค่ทำไม่ได้แค่นี้นายเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ถ้าไม่อยากถูกชั้นด่าว่าไอ้ตัวถ่วงก็พยายามเข้าสิ รู้เปล่า ว่าทำไมเรียวเฮ
ถึงไม่มาอยู่กับนายที่ตรงนี้
หมอนั่นบอกว่า เพราะเชื่อมั่นว่ายังไงนายก็ต้องทำได้เพราะฉะนั้นจะไม่มานั่งรอดูนายที่เป็นแบบนี้อยู่หรอก
เคตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตอนนี้รู้สึกโกรธจริงๆ นะที่ได้ยินคำพูดท้อแท้ชีวิตแบบนี้ออกมาจากปากคนอย่างร่างท้วมตรงหน้านี้
คิดสั้นแบบนี้ได้ยังไงกัน คนที่ปากเก่งตีฝีปากแข่งกันอยู่เสมอๆ นั่นหายไปไหนแล้วกันนะ
มันน่าโมโหชะมัด
. นี่ถ้าเรียวเฮ รู้ว่านายเป็นแบบนี้นะคงเสียใจน่าดูเชียวหละ
ชั้นหละเชื่อเลย ให้ตายสิ! บอกไว้ก่อนนะว่า ถ้านายทำไม่ได้ชั้นจะเรียกนายไอ้ขี้แพ้ไปตลอดชีวิตนายจริงๆ
ด้วย จะประกาศออกทีวีไปเลยว่านายมันขี้แพ้เรื่องแค่นี้ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสู้
ไม่คิดจะสู้ด้วยซ้ำไป มัวมานั่งเศร้าโศกตรอมใจอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่จะมีแรงลุกขึ้นมาสู้กันก็ไม่รู้
.นี่ฟังชั้นพูดอยู่บ้างมั้ยเนี่ยนายน่ะ! เคตะหลุดปากด่าๆๆๆ ออกมาจนไม่เว้นช่องว่างให้ใครแทรกได้
แล้วจู่ๆ ร่างท้วมที่นั่งฟังคำด่าทออยู่นั้นก็กลับหัวเราะสวนขึ้นมาเบาๆ
ทำเอาคนที่บ่นๆ ด่าๆ อยู่ หยุดถามอย่างสงสัย
ฮะๆ โอเค ชั้นเข้าใจแล้ว
นายนี่ตลกเป็นบ้า พอแล้วๆ ให้ชั้นนั่งอยู่ตรงนี้ต่อนายคงหาเรื่องมาด่าชั้นได้อีกเป็นวรรคเป็นเวรแน่ๆ
เอาเป็นว่าชั้นไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้อย่างที่นายอยากจะด่าแน่ๆ แล้วกันนะ
Keita ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ
กี่เดือนก็ไม่รู้ที่เจ้าหนุ่มเอ่ยชื่อของเพื่อนร่วมวงด้วยกันเองออกมาโดยไม่ตะขิดตะขวงใจเหมือนที่เคยเป็น
ความรู้สึกที่มีอยู่ในขณะนี้มันโล่งอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าโล่งเพราะถูกด่าหรือว่าโล่งเพราะเข้าใจในความห่วงใยที่คนข้างๆ
นี้มีให้กัน
ได้งั้นก็ดี
.. นี่
.อีกอย่างนึง
..
.
ขอบใจสำหรับโกโก้
อร่อยมาก
เจ้าร่างบางพูดจาติดๆ ขัดๆ จนมาถึงตอนนี้กลับก้มหน้าก้มตาพูดไม่ยอมหันมาสบตาคนข้างๆ
เหมือนเมื่อครู่อย่างกับคนละคน แก้มใส 2 ข้างกลับมีเลือดฝาดไหลเวียนให้เห็นเส้นเลือดสีแดงอ่อนๆ
ระไร้ไปตามปรางค์แก้มชัดเจนยิ่งขึ้น Ryuichi มองดูเพื่อนด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิด
ครั้นทุกคืนที่คอยแอบลอบมองเจ้าร่างสวยนี่ซ้อมร้องเพลงอยู่ทุกคืนภาพสะท้อนแสงไฟสลัวๆ
นั่นก็ดูสวยงามผิดผู้ชายทั่วๆ ไปอยู่แล้วนี่ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งทำเอาชาวาบไปทั้งหน้าเหมือนกัน
มืออุ่นเอื้อมไปเกลี่ยเส้นผมที่ไล้มาปิดบังปรางค์แก้มสวยออกทัดหูอย่างเบามือ
ทำให้ Keita หันมามองอย่างตั้งคำถาม
.
..
ผมนาย
. มันจะลงไปในแก้วนั่นแล้ว Ryuichi เฉไฉ ปัดความผิดไปให้แก้วโกโก้ที่เคตะกำลังถืออยู่อย่างรวดเร็วแล้วหยิบแก้วของตัวเองออกมายกดื่ม
อ อ้อ
เหรอ
ขอบใจ เอ่อ
ดึกแล้วนอนดีกว่ามั้งชั้นว่า พรุ่งนี้รถมารับแต่เช้าตื่นสายเดี๋ยว
Ryohei จะลำบาก Keita ตัดบทพูดรีบลุกพรวดพราดขึ้นมาทันทีทันใดแล้วเดินจ้ำอ้าวขึ้นบันไดแบบไม่เหลียวหลังหลับมามอง
Keita
หะ ห๋า
อะไร
เสียงทุ้มเอ่ยร้องเรียกขานชื่อเพื่อรั้งร่างสวยให้หยุดชะงักฝีเท้า
ขอบใจนะ
อ๊ะ
อื่ม
ราตรีสวัสดิ์ ราตรีสวัสดิ์
แล้วเจ้าหนูก็รีบเดินจ้ำขึ้นไปบันไดไป
Keita
ห๊ะ! อะไรอีกอ่ะ
ริวอิจิเอ่ยขานให้เด็กหนุ่มหยุดฝีเท้าของตนไว้อีกครั้ง
จะบอกว่า
โกโก้นี่น่ะ
.
ไม่ได้เรื่องเลยว่ะ ถ้าชั้นไม่เหม่ออยู่ชั้นคงเอาไปเททิ้งไปแล้วหละนะ
ไอ้เจ้าอ้วนนี่!~~~
Blow To continue.....Feel To w-inds
From
Feel to w-inds Part V
โอยโยยโหยยย
....นับเวลาที่อัพเดทห่างจากคราวที่แล้วรู้สึกว่า....จะเป็นเวลาประมาณ
ร่วมๆ 7 เดือนได้แล้วแฮะ ^^'' แบบว่าพี่ก็ไม่ได้ขี้เกียจนะ เพราะจริงๆ
แล้วพี่อัพลงในไดอารี่ไปแย้ว ฮี่ๆๆ แต่ว่าไม่มีเวลามาอัพในเว็บอีกครั้ง
ใครตามเรื่องนี้พี่ก็ขออภัยมณีไว้ในโอกาสนี้ด้วยนะคะ แหะๆ ยังไงก็ฝากอ่านเรื่ทองนี้กันต่อให้จบด้วยนะคะ
ใกล้แล้วแหละๆๆ ก็แหม แต่งเรื่องนี้ตั้งแต่ เคตะยังสาวๆ จนตอนนี้แก่แดดแก่ลมเจ้าชู้ออกปานนี้...คงต้องรีบให้มันจบลงแล้วหละนะกับวัยหวานของพ่อ
3 หนุ่มวงนี้น่ะ บ้าย บายค่ะ
with
love from meichan
Feel To w-inds
1 / 2
/ 3 / 4 / 5 /
©2002 by Feel
To w-inds.All right reseved. |