Frequently Asked
Questions
อะไรคือการทำแห้งเยือกแข็ง?
ดอกไม้ที่ทำแห้งแล้วมีลักษณะเป็นอย่างไร?
ดอกไม้แห้งสามารถเก็บไว้ได้นานเท่าไร?
ควรเตรียมดอกไม้ก่อนการทำแห้งอย่างไร?
อะไรคือการทำแห้งเยือกแข็ง?
การทำแห้งเยือกแข็ง
( freeze drying)
มีต้นกำเนิดมาจากชนเผ่าอินเดียนโบราณบนเทือกเขาแอนดีส
หลังจากนั้นเมื่อปี คศ.1813
William Hyde Wallaston ได้พัฒนาวิธีการ
ทำแห้งเยือกแข็งขึ้นที่ the
Royal Society in London.
และหลังจากนั้นการทำแห้งเยือกแข็งก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง
ในการเก็บรักษา
พลาสมาของมนุษย์
และได้ถูกนำไปใช้ในวงการ
อาหารและยาอย่างแพร่หลายสืบต่อมา
ดอกไม้ดอกแรกได้ถูกทำแห้งด้วยเครื่องทำแห้งแบบเยือกแข็งสำเร็จเมื่อราวๆ
15 ปีที่ผ่านมานี้ และพบว่า
วิธีการนี้เป็นวิธีที่สามารถเก็บรักษา
สภาพของดอกไม้ได้อย่างเกือบสมบูรณ์ที่สุด
การทำแห้งเยือกแข็ง
มีขั้นตอนโดยเริ่มจากการทำให้น้ำภายในดอกไม้กลายเป็นน้ำแข็ง
หลังจากนั้นจึงทำให้น้ำแข็งเปลี่ยนสภาพกลายเป็นไอน้ำ
และถูกดึงออกจากเซลต่างๆของดอกไม้
ด้วยวิธีการนี้
เซลต่างๆภายในกลีบดอกไม้จะยังคงสภาพ
ไม่ยุบฝ่อตัว
ทำให้ลักษณะของกลีบดอกยังคงความหนา
และรูปแบบการม้วนตัวที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
ดอกไม้ที่ทำแห้งแล้วมีลักษณะอย่างไร?
ดอกไม้ที่ผ่านการทำแห้งแบบเยือกแข็ง
แล้วจะมีลักษณะ รูปทรง
ใกล้เคียงกับดอกไม้สด
การพับม้วนของกลีบดอกตลอดจน
ความหนา
ของกลีบดอกจะยังคงสภาพดังเดิม
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจนคือสีของใบซึ่งจะเปลี่ยนจากสีเขียวสดๆเป็นสีเขียวอ่อน
หรือเขียวเงินๆ
ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องตบแต่งสี
เพียงเล็กน้อย
สีของดอกซึ่งจะเข้มขึ้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีนั้นๆ
เช่น แดง
เปลี่ยนเป็นแดงเลือดหมู
สีขาว เปลี่ยนเป็นขาวครีม
เป็นต้น
ดอกไม้แห้งสามารถเก็บไว้ได้นานเท่าไร?
โดยปกติดอกไม้แห้งสามารถเก็บไว้ได้นานหลายปี
ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
การเสื่อมสภาพของดอกไม้แห้งโดยทั่วไป
สามารถเสื่อมสภาพได้ในหลายสาเหตุ
เช่น ความชื้น แสงแดด
แมลงกัดกิน
ความเป็นกรดด่าง
ตลอดจนลักษณะชนิดของเม็ดสีภายในกลีบดอก
ยกตัวอย่างเช่น
สีม่วงจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าสีครีมในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน
เป็นต้น ดังนั้น
ดอกไม้ที่ทำแห้งแล้วจึงจำเป็นต้องอยู่ในภาชนะที่ปิดสนิท
และควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีในการป้องกันปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของสีของดอกไม้เป็นไปอย่างกว้างขวาง
เช่น
โดยการชุบเคลือบดอกไม้ด้วยสารเคมีทั้งก่อนและหลังการทำแห้ง
ซึ่งสามารถยืดอายุดอกไม้ให้ยาวนานขึ้น
การชุบเคลือบด้วยสารเคมีแต่ละชนิด
สามารถยืดอายุความคงทนของดอกไม้ได้ต่างๆกัน
แต่ในทางกลับกันก็ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติลดด้อยลงไปด้วย
ควรเตรียมดอกไม้ก่อนการทำแห้งอย่างไร?
เมื่อท่านมีความต้องการให้
thai dryflower
เก็บรักษาดอกไม้สำคัญของท่าน
เราจะทำการนัดหมายเพื่อรับดอกไม้จากท่านโดยเร็วที่สุดหลังจากที่การใช้ดอกไม้ของท่านเสร็จสิ้นลง
ทั้งนี้เพื่อให้ดอกไม้ของท่านมีสภาพสดที่สุดก่อนเข้ากระบวนการทำแห้ง
อย่างไรก็ดีท่านสามารถดูแลดอกไม้สำคัญของท่านก่อนเราไปถึงดังนี้
- ใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่
เป่าลมให้พอง
แล้วมัดปากถุงไว้
แล้ววางในตู้เย็น
หรือที่เย็นๆ
-
อย่าแช่ช่องแข็งหรือตู้แช่เด็ดขาด
การเกิดน้ำแข็งภายในดอกไม้ที่ผิดวิธีจะทำให้ผนังเซลแตก
และทำให้ได้ดอกไม้แห้งที่ช้ำ
เสียหาย
การเตรียมดอกไม้ก่อนเข้าสู่กระบวนการมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อคุณภาพของดอกไม้แห้งที่ได้
ดังนั้น
จึงขอให้ท่านติดต่อนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย
1 สัปดาห์
ก่อนการใช้ดอกไม้ของท่าน
|