- ยาอื่นที่ท่านใช้เป็นประจำอยู่แล้วหรือยาที่ท่านได้จากแพทย์
                เภสัชกรคราวก่อนหน้านี้
                ไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน
                แผนโบราณ
                ยาใช้ภายนอก
                ท่านต้องแจ้งแพทย์
                เภสัชกรด้วย เพราะ
              อาจมีปฏิกิริยาต่อต้าน
              หรือ เพิ่มผลข้างเคียง
 
            - โรคประจำตัวที่ท่านเป็นอยู่
                โดยเฉพาะ
 
         
          
        
            - การดื่มเหล้า
                เบียร์
                เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
 
            - ประวัติการแพ้ยา
                ผลข้างเคียงจากยา
 
            - กิจวัตรประจำวัน
                วิธีการดำเนินชีวิต
                อาหารการกินของท่านเป็นอย่างไร
                เช่น ทำงานเป็นกะ , ทำงานกลางคืน
                นอนตอนกลางวัน ,
                ฯลฯ
 
            - ในกรณีสุภาพสตรี
                ถ้าท่านทานยาคุมกำเนิดอยู่
                ควรจะแจ้งให้ทราบด้วย
 
         
          
        
            ผลข้างเคียงของยาเป็นสิ่งที่มาคู่กันกับผลการรักษาของยาเลยทีเดียว
            เนื่องจากการใช้ยา
            ไม่สามารถระบุให้ยาออกฤทธิ์ต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้แบบเฉพาะเจาะจง
            แม้ว่าจะเป็นยาทาที่ผิวหนังก็ตาม
             
              
            จงอย่าเชื่อ
            ถ้าผู้ใดบอกท่านว่ายานี้ไม่มีผลข้างเคียง
            หรือ พิษ เลย !!! 
            ในการศึกษาวิจัยตัวยาใหม่
            เภสัชกร นักวิจัย
            พยายามดัดแปลงตัวยาใหม่จากยาเก่าที่ใช้มานาน
            โดยมีวัตถุประสงค์ 2
            ประการ คือ 
         
        
            
                - เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพดีขึ้น
                    รวมทั้งทานยาง่ายขึ้น
                    น้อยครั้งลง
                    เช่น ยาแก้อักเสบ Erythromycin จะต้องทานวันละ
                    4 ครั้ง ติดต่อกัน
                    7 วัน
                    แต่ปัจจุบันนี้คิดค้นยาประเภทเดียวกัน
                    แต่ทานยาแค่วันละ
                    2 หรือ 1 ครั้ง
                    ติดต่อกัน 3-5 วัน
                    เท่านั้น
 
                - เพื่อให้ผลข้างเคียง
                    และพิษต่อร่างกายลดลง
 
             
         
        
            ก่อนที่ยาใหม่จะออกมาใช้กับผู้ป่วยจริงๆ
            ก็จะต้องทำการศึกษาถึงความปลอดภัย
            ประสิทธิภาพ
            ผลข้างเคียง
            พิษของยา
            ถ้าผลข้างเคียง
            พิษของยาอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
            FDA จึงจะอนุญาตให้ใช้กับผู้ป่วยได้จริง 
            อย่างไรก็ตาม
            ยังไม่สามารถกำจัดผลข้างเคียงให้หมดสิ้นได้
            แต่ก็สามารถทำให้ลดความรุนแรง
            อยู่ในระดับที่ร่างกายรับได้
            ดังนั้นจึงต้องใช้ดุลยพินิจทั้งของแพทย์
            เภสัชกร ผู้ป่วย
            ร่วมกันตัดสินใจเลือกใช้ยานั้น
            ซึ่งพอจะสรุปเกณฑ์การติดสินใจได้
            4ข้อ คือ 
            
                - ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
 
                - ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะหายไปหรือไม่เมื่อหยุดยา
 
                - ผลข้างเคียงเกิดบ่อยแค่ไหน
                    แบ่งได้เป็น 3
                    ระดับ คือ
                    นานๆครั้งพบที ( < 1%), บ่อย
                  ( 1-10% ), บ่อยมาก ( >10%)
 
                - โรคที่ต้องใช้ยานั้น
                    เช่น
                    ผู้ที่เป็นโรคไตบางชนิด
                    หรือ SLE จำเป็นต้องยา Steroid
                  ถึงแม้จะเป็นยาที่อันตรายมากก็ตาม
 
             
         
          
        
            - ยาที่ท่านได้รับคือยาชื่ออะไร
                (ควรเป็นชื่อตัวยา
                ไม่ใช่ชื่อทางการค้า )เพื่ออะไร
                มีประโยชน์อย่างไร
                ทำไมต้องใช้ยาตัวนี้
                ?
 
            - ยาที่ท่านได้รับใช้เพื่อบรรเทา
                หรือ รักษา
 
            - อาการที่เป็นอยู่ควรดีขึ้นเร็วมากน้อยแค่ไหน
                ?
                ใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะหาย
                ?
 
            - วิธีการรับประทานยา
                ครั้งละ กี่เม็ด
                วันละ กี่ครั้ง
                ต้องเขย่าขวดก่อนไหม
                ก่อน หรือ
                หลังอาหาร ฯลฯ
 
            - ยาที่ท่านได้รับจะมีผลกับยาอื่นๆที่ท่านรับประทานเป็นประจำอยู่แล้วหรือไม่
                ? รวมทั้งอาหาร
                เครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์
                และไม่มี
 
            - ยามีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง
 
            - จำเป็นต้องทานยานี้จนหมดหรือไม่
                ?
 
            - มีอาการอะไรบ้างที่ต้องสังเกตุในขณะที่ใช้ยาตัวนี้
                ที่จำเป็นต้องหยุดยาอย่างทันที
 
            - ในกรณีที่ท่านมีกิจวัตรประจำวัน
                วิธีการดำเนินชีวิตที่ผิดจากทั่วไป
                เช่น ทานอาหาร 1
                มื้อ ทำงานเป็นกะ
                ท่านต้องถามว่าจะปรับเปลี่ยนวิธีทานยาหรือไม่
                ? อย่างไร ?
 
         
        เมื่อท่านได้ข้อมูลดังนี้แล้ว
        ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับท่านเองที่จะเป็นผู้ใช้ยาให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น
         
        ในกรณีที่ใช้ยางวดนี้แล้ว
        อาการที่เป็นอยู่ไม่หาย
        ไม่ดีขึ้น หรือ
        ดีขึ้น แต่ยังไม่หาย
        หรือ หายดีแล้ว
        เมื่อท่านจำเป็นต้องพบแพทย์
        เภสัชกรใหม่
        ควรจะมีข้อมูลยาที่ท่านใช้ในครั้งนี้ด้วย 
          
        
            - ท่านควรเลือกร้านที่มีเภสัชกรประจำอยู่
                และพยายามใช้ประโยชน์จากเภสัชกรประจำร้านให้เต็มที่ด้วยการสอบถามรายละเอียดของยาที่กำลังต้องการทุกแง่มุม
                หัวข้อที่ท่านควรถามขอให้กลับไปดูในหัวข้อ
                "ท่านควรถามอะไรจากแพทย์
                เภสัชกร"
 
            - ท่านควรไปซื้อยาเอง
                ไม่ควรไหว้วานคนอื่นๆไปซื้อให้
                โดยเฉพาะเด็ก
                นอกจากเป็นยาที่ท่านใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
 
            - ท่านควรดูฉลากยาอย่างละเอียด
                แต่อย่าเชื่อมาก
                หรือตกใจจนเกินไปกับผลข้างเคียงบางอย่างที่ดูจะรุนแรงมาก
                เพราะบางบริษัทก็ให้รายละเอียดมากจนคนอ่านตกใจ
                ทางที่ดีท่านควรปรึกษาเภสัชกรประจำร้าน
 
            - ท่านควรตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้งที่ซื้อยา
                รวมทั้งก่อนใช้ยาทุกครั้ง
 
         
         |