คุณดวงตา วิมลคุณารักษ์ อาชีพพยาบาล อยู่ที่โรงพยาบาลโรคทรวงอก จังหวัดนนทบุรี ได้ประสบกับอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ ที่เกิดขึ้นกับคนป่วยที่โรงพยาบาล
เรื่องแรกคุณดวงตา
ได้พบคนไข้รายหนึ่ง
ป่วยเป็นมะเร็ง ที่ถุงลมปอด
ระยะสุดท้าย หมดหนทาง
ที่จะรักษาได้ คุณหมอที่รักษา แจ้งให้ญาติ ทราบว่า
คนป่วยใกล้จะสิ้นลมแล้ว
พร้อมที่จะตายทุกเวลา
ให้ญาติมาดูฟิล์มเอกซ์เรย์ด้วย
ปอดแทบจะไม่มี
เนื้อส่วนที่ดีเหลืออยู่
คนไข้เจ็บปวด ทรมานมาก
มีอาการเหนื่อยหอบ ตลอดเวลา
นั่งไม่ได้ นอนไม่ได้ ไม่ว่า
จะอยู่ในอิริยาบถใด
ก็จะทุรนทุราย ทรมาน อย่างที่สุด
คุณดวงตาเห็นแล้ว รู้สึกสงสารจับใจ คิดขึ้นมาว่า เมื่อคนป่วยสิ้นหนทางรักษา คงจะต้องตายแน่แล้ว คนป่วยน่าจะได้นึกถึงพระ เป็นที่พึ่ง สุดท้ายของชีวิต ก็ยังดี จึงได้นำหนังสือ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ เข้าไปพบญาติ และคนป่วย แนะนำการทำสมาธิ ให้นึกถึงองค์พระ โดยให้ ดูรูปที่หน้าปกหนังสือ ใจจะได้สงบ ความทรมาน อาจคลายลง พร้อมกันนั้น คุณดวงตาได้อาราธนา พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นกรอบ พญานาคสีทอง ที่ตนเองห้อยอยู่ ส่งให้คนป่วยดู และให้เขาได้ตั้งจิต อธิษฐานกับองค์พระ
คนป่วยยกมือพนมท่วมหัว พร้อมกับหยิบองค์พระ ไปซุกไว้ในอก ทำอาการดีใจ และปลื้มใจ ร้องไห้ตัวสั่นมาก พวกลูกๆ พากันตกใจ รีบดึงองค์พระออกมา พร้อมกับถามว่า แม่ แม่ เป็นอะไร
ผู้เป็นแม่ชี้ไปที่รูปของ พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ ที่ปกหนังสือ แล้วพูดว่า แม่อยากได้พระองค์นี้ คุณดวงตาจึงบอกเรื่อง การทำบุญ สร้าง องค์พระธรรมกาย ประจำตัว ที่มหาธรรมกายเจดีย์ และตนเองได้ร่วมพิธี หล่อองค์พระ ด้วยตนเอง ได้ทุกวันอาทิตย์ ญาติๆ พากันดีใจ และ รับปากว่า จะสร้างองค์พระให้แม่ แม่จะได้รับพระของขวัญ ที่อยากได้ด้วย
จากนั้นคุณดวงตาได้ทำนํ้ามนต์ โดยแช่องค์ พระมหาสิริราชธาตุ ของตนเอง ลงในแก้วนํ้าดื่ม ของคนป่วย ทำสมาธิและ อธิษฐานจิต นึก อาราธนา พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระพุทธเจ้า ผู้มีบารมีมาก บารมีของ ครูบาอาจารย์ ทุกท่าน และอำนาจ ความปรารถนาดี ของ ตนเอง แม้เพียงน้ำเล็กน้อยแค่นี้ ก็ขอให้มีอานุภาพ ประดุจน้ำทิพย์ ให้เหมือนดังที่ หมอชีวกโกมารภัทจ์ ในสมัยพุทธกาล ใช้รักษาคนป่วย ให้หายได้ เสร็จแล้ว จึงนำไปให้คนป่วยดื่ม
วันรุ่งขึ้นเมื่อคุณดวงตาไปเยี่ยม ก็ต้องประหลาดใจ รวมทั้งคุณหมอ และพยาบาลคนอื่น ก็แปลกใจไปตามๆ กัน เพราะคนป่วย มีหน้าตา สดชื่น ลุกจากเตียงนอนได้ เดินมาชม ต้นไม้ในกระถาง ที่ท้ายห้อง ญาติๆ ต่างพากันดีใจ และขอบใจคุณดวงตา ให้ความเป็นกันเอง มากขึ้น คนป่วย ได้พักรักษาอยู่ ในโรงพยาบาล อีกเพียง ๗ วันเท่านั้น ก็แข็งแรงดี สามารถกลับบ้านได้
คุณหมอผู้รักษาก็รู้สึกงงมาก ถึงขนาดพูดว่า ป็นเรื่องดีมากจริงๆ คนที่ผมเซ็นต์พาสปอร์ต (ใบส่งศพ) ให้แท้ๆ แต่กลับบ้านได้
โรคที่ไม่มีทางรักษาหาย ส่วนใหญ่แล้ว เป็นโรคที่เกิดจาก กรรมฝ่ายอกุศล ตามมาส่งผล เมื่อคนไข้ระลึกนึกถึงพระ เป็นพุทธานุสติ ซึ่งเป็น ความคิดกุศลจิต อีกทั้งหมู่ญาติ ยังเต็มใจ จะทำบุญให้ผู้ป่วยด้วย แม้ยังไม่ได้ลงมือทำ แต่เมื่อตั้งใจจะทำ ก็ถือได้ว่า ปุพพเจตนา กุศลจิต เกิดขึ้นแล้ว เพียงแค่เจตนามั่นคง บุญใหญ่ย่อมเกิดขึ้นทันที ผลักดันตัดรอน บาปอกุศลเก่า ให้อ่อนกำลัง อาการป่วยที่เพียบหนัก ก็ทุเลาเบาบางขึ้นได้ เพียงชั่ว ข้ามคืน
ดังนั้น การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้เฝ้าไข้ เป็นคนเข้าใจ หลักธรรม ย่อมสามารถพูด ให้ข้อคิด ให้สติ ปลอบโยน ผู้ป่วย ให้คลายจาก ความวิตกกังวล ข่มทุกขเวทนาต่างๆ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ทำให้ใจคอ เศร้าหมอง อันจะเป็นเหตุให้ไปสู่ทุคติ
อย่างไรก็ตาม ในพวกเราคนธรรมดาทั่วไป ย่อมไม่ควรประมาท ว่ายังไม่เจ็บ ยังไม่ตาย ควรระลึกถึงไว้บ่อยๆ เพื่อจะได้เร่งสร้าง บุญกุศล ให้เต็มที่เอาไว้ เมื่อภัยเหล่านั้น มาถึง ย่อมมีที่พึ่งได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่สอง วันหนึ่งคุณดวงตาได้ทราบว่า ลูกสาวของผู้ป่วยอีกรายหนึ่ง ได้ทำบุญสร้าง พระธรรมกาย ประจำตัวให้แม่ ซึ่งนอนเป็นอัมพาต มานานถึง ๑๐ ปีแล้ว ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ ยังมีโรคหัวใจแทรกซ้อน ต้องให้อาหาร ทางสายยางตลอด เวลาปวด จะร้องคราง เสียงดังมาก กระทั่ง คนป่วย ห้องข้างๆ นอนไม่หลับ แพทย์ต้องฉีดยา ระงับปวดอย่างแรงให้ จึงหยุดร้อง
คุณดวงตาตั้งใจจะไป อนุโมทนาบุญ กับลูกสาวคนป่วย จึงหยิบหนังสือ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ติดตัวไปด้วยหนึ่งเล่ม บอกเล่า เรื่องราว ขององค์พระ ให้ผู้ป่วยฟัง พร้อมทั้งสอนวิธี ทำสมาธิให้ แล้วลองให้พูดตามว่า สัมมา อะระหัง คนเจ็บก็ออกเสียง อ้อแอ้ ตามเป็นจังหวะได้ คุณดวงตาจึงพูดกับ ผู้เป็นลูกว่า คนเจ็บรับรู้ได้ แต่พูดไม่ได้ ลูกได้อธิบายว่า เมื่อครั้งยังไม่เจ็บป่วย คุณแม่ชอบสวดมนต์
หลังจากนั้น คนป่วยจับมือคุณดวงตาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย เธอจึงนำคนป่วย ให้สวดมนต์บท อิติปิโส ภควา มือของคนป่วย จึงคลายลง แต่พอ คุณดวงตา จะดึงมือออก คนเจ็บก็จับไว้แน่นตามเดิม ในที่สุด คุณดวงตาก็สวด บทสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ให้ฟัง บอกให้ผู้เป็นลูก จำไว้สวด ให้แม่ฟังด้วย และให้คนเจ็บดูภาพ พระมหาสิริราชธาตุ เพื่อใช้สำหรับ นึกเป็นนิมิต เวลาภาวนา พร้อมทั้งให้ดู องค์พระองค์จริง ที่ตนเอง ห้อยอยู่ที่คอ จากนั้น คุณดวงตาก็ทำนํ้ามนต์ จากองค์พระ ลูกสาวคนป่วย ก็ยกน้ำมาให้ ทั้งเหยือกเลย คุณดวงตา อธิษฐานจิต ดังที่เคยทำ
ขออำนาจพระรัตนตรัย บารมีธรรม ขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บารมีธรรมของ ครูบาอาจารย์ และอานุภาพ ความศักดิ์สิทธิ์ของ พระมหาสิริราชธาตุ ตลอดจนถึงอำนาจ ความปรารถนาดี ของตนเอง ขอให้ผู้ป่วย อย่าได้ทุกข์ทรมาน ให้หายเจ็บปวด อย่างเป็นอัศจรรย์ เสร็จแล้ว คุณดวงตา ก็ได้ป้อนนํ้ามนต์ ให้คนป่วย ๓ ช้อน ซึ่งคนป่วย ก็สามารถกลืนได้ โดยไม่สำลัก
รุ่งเช้า เมื่อมาถามอาการจากลูกสาว ได้รับคำตอบว่า หลังจากได้ดื่มน้ำมนต์แล้ว ก็ไม่ร้องอีกเลย อีกทั้งสามารถ นอนหลับได้ โดยไม่ต้อง ฉีดยาอีก ต่อจากนั้นอีก ๒ วัน หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้
ปัจจุบันเมื่อได้พบลูกสาว แล้วถามถึงอาการของคุณแม่ ลูกชี้แจงว่า ปัจจุบันไม่เจ็บปวดอะไร จึงไม่ร้องอีก และกลับพูดได้ชัดเจน ลูกสาว เล่าว่า ครั้งแรก ตอนสร้างองค์พระ ให้คุณแม่ ไม่ได้นึกศรัทธาอะไร สร้างตาม ที่มีคนพูดชวน ไปอย่างนั้น แต่เมื่อมีหนังสือพิมพ์ ออกข่าวโจมตีวัด ก็ต้องการ ที่จะพิสูจน์ความจริง โดยการชวนเพื่อน มาวัดพระธรรมกาย ด้วยกัน ๓ คน มานั่งสมาธิที่ สภาธรรมกายสากล หลังใหม่ ทั้ง ๓ คน ได้เห็น ปาฏิหาริย์ เห็นเป็นองค์หลวงพ่อ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ เป็นสีทองคำ ขนาดใหญ่โต มาลอยอยู่ ข้างหน้าตนเอง ทั้ง ๓ คน เห็นเหมือนกันหมด และ ตอนพักทานอาหารกลางวัน ทั้ง ๓ คนก็ยังได้เห็น เหตุการณ์อัศจรรย์อีก เห็นดวงแก้วใสสว่าง ด้วยตาเนื้อ เกิดขึ้นที่หลังคา ใกล้ๆ สภาธรรมกาย สากล หลังเก่า เห็นอยู่เป็นเวลานานมาก ทั้ง ๓ คนตื่นเต้นและดีใจมาก ศรัทธาใน พระพุทธศาสนาเกิดขึ้น อย่างเต็มเปี่ยม เกิดความคิด ต้องการ จะช่วยงาน พระพุทธศาสนา จึงได้สมัครเป็นผู้นำบุญ ในวันนั้น เมื่อกลับไปที่บ้าน ก็ได้ทำหน้าที่ทันที โดยเริ่มชวนพี่สาว เป็นคนแรก และยิ่งได้พบ กับ อานุภาพของ องค์พระ มหาสิริราชธาตุ ก็ยิ่งมีศรัทธาใน พระพุทธศาสนามากขึ้น
ปาฏิหาริย์ ใครว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น ที่วัดพระธรรมกาย เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การสอนธรรมปฏิบัติ คนทั้งหลาย นั่งกำหนด นิมิต ไม่เห็นดวงธรรมใสๆ กันสักที แต่พอเกิดเหตุการณ์ อัศจรรย์ตะวันแก้ว ให้เห็นด้วยตาเนื้อชัดๆ ว่า ดวงธรรมเป็นอย่างนี้ ใครที่นึกนิมิต ในขณะ ภาวนา ไม่ออก เมื่อเห็นแล้ว ย่อมนึกออกได้ง่าย นอกจากนั้น ก็ยังทำให้มีศรัทธา ในพระพุทธศาสนายิ่งๆ ขึ้น พัฒนาจิตใจ ให้มีคุณภาพสูงขึ้น
[สารบัญ] [๑๘๒] [๑๘๓] [๑๘๔] [๑๘๕] [๑๘๖] [๑๘๗] [๑๘๘] [๑๘๙] [๑๙๐]
[๑๙๑] [๑๙๒] [๑๙๓] [๑๙๔] [๑๙๕] [๑๙๖] [๑๙๗] [๑๙๘] [๑๙๙] [๒๐๐] [๒๐๑]