คุณเพียรใจ โรจนสินวิไล เจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ต จังหวัดสระบุรี เล่าว่า
ตนเองไม่เคยสนใจเรื่องศาสนามาก่อน เมื่อสมัยเป็นนิสิต อยู่ที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย พอมีเวลาว่างก็ไปดูหนังบ้าง เดินซื้อของบ้าง พอขึ้น ปีสอง ก็เริ่มเบื่อ หันมาดูงานชมรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ในที่สุด เพื่อนได้ชวนไปช่วยงาน ของชมรมพุทธ ซึ่งขณะนั้น กำลังรับสมัคร บวชอบรม ธรรมทายาท จึงเริ่มเกิดศรัทธาขึ้น ได้เข้ามาช่วยงานวัด เป็นครั้งคราว เมื่อเรียนจบแล้ว ก็ทำงานในครอบครัว จึงได้ถือโอกาส แบ่งพื้นที่ ห้างสรรพ สินค้า ของตนส่วนหนึ่ง เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม คุณเพียรใจได้พบอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุหลายเรื่อง
เรื่องแรก คนคุ้นเคยกันชื่อว่า คุณวาสนามา ขอให้ช่วยนำ องค์พระมหาสิริราชธาตุ ของคุณเพียรใจ ไปให้ เพื่อนของ คุณวาสนา ชื่อคุณ แสงรัตน์ รัตนแสง อธิษฐานสักหน่อย ซึ่งเพื่อนคนนี้ ได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์ชนรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง อาการสาหัส ในสมองมีเลือดคั่งอยู่มาก รับคำสั่งอะไรไม่ได้เลย ดวงตาเลื่อนลอย
คุณเพียรใจจำได้ว่า
พระเดชพระคุณ หลวงพ่อทัตตชีโว
ได้เคยสอนไว้ว่า
ถ้าไปเยี่ยมคนไข้ ที่อาการ หนัก
อย่าบอกให้คนไข้ พยักหน้าหรือ
ยกมือ เพราะคนไข้ไม่มีแรง
ให้ใช้วิธีบอกให้เขา กระพริบตา
คุณเพียรใจ จึงนำไปปฏิบัติตาม
ทั้งๆ ที่ได้เห็นสภาพคนไข้แล้ว
ไม่มีความหวังอะไร
เพราะสภาพของคนป่วยนั้น
ศีรษะบวม ใหญ่มาก ถูกโกนศีรษะหมด
ที่ศีรษะ มีท่ออะไร
ต่อออกมามากมาย มีนํ้าเหลือง
น้ำเลือด ออกมาจากท่อนั้น ด้วย
คุณเพียรใจให้คนป่วย ดูองค์พระมหาสิริราชธาตุ ของตน ได้กล่าวนำอธิษฐานจิต และให้กระพริบตาว่า รับรู้ คนป่วยก็ทำตามได้ คุณเพียรใจ จึงนำ พระมหาสิริราชธาตุ อีกองค์หนึ่ง จากผู้ที่ไปด้วยกันให้คนป่วย กำไว้ ในมือ คนป่วยจับไว้องค์หนึ่ง และพยายามเลื่อนมือ ข้างที่เหลือ มาจับองค์ ที่ให้ดูอยู่ข้างหน้า จนเป็นท่าพนมมือ คุณเพียรใจ ก็นำอธิษฐานจิตอีกว่า
ขอบารมีของพระมหาสิริราชธาตุ ให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองให้หายวันหายคืน ให้มีชีวิตยืนยาว มีสุขภาพ ร่างกายแข็งแรง สามารถสร้าง บารมี ได้สะดวก คนป่วยคงนึกตาม เพราะเห็นคนป่วย มีนํ้าตาไหลอกมา และมองคุณเพียรใจ เหมือน เห็นที่พึ่ง คุณเพียรใจได้มอบหนังสือ ที่มีหน้า ปกเป็นรูป หลวงพ่อวัดปากนํ้า บอกให้เขานึกถึงท่าน และขอพร พระมหาสิริราชธาตุ ให้ช่วย คุ้มครองด้วย
คนป่วยค่อยๆ พลิกศีรษะเอียง แนบลงที่รูปของ หลวงพ่อ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย
หลังจากนั้นอีก ๖ วัน ได้ไปเยี่ยมอีกครั้ง หมอแจ้งว่า คนไข้กลับบ้านได้แล้ว ซึ่งทางบ้านไม่นึกเลยว่า จะหาย เพราะพี่ชายของคนป่วย ก็ ประสบอุบัติเหตุ แบบเดียวกัน แต่ก็เสียชีวิตแล้ว
เรื่องที่สอง ที่ใกล้ๆ ห้างสรรพสินค้าของคุณเพียรใจ มีร้านอาหารชื่อว่า ธัญรส เจ้าของร้านนี้ ไม่เคยรู้จักวัดพระธรรมกายเลย วันหนึ่ง มีลูกค้า มารับประทานอาหาร แล้วลืมหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ เอาไว้ เจ้าของร้าน หยิบมาแล้วเปิดออกดู รู้สึกตกใจ และประหลาดใจมาก เพราะ มองเห็นมีดวงสว่าง เหมือนดวงแก้ว ลอยพุ่งออกมาจากหนังสือ พอเปิดอ่านอีก ก็เกิดเหตุการณ์อย่างเดิม ดวงแก้วลอยออกมา แทบจะชน หน้าเอาทีเดียว ในที่สุด เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ก็ร้อนรนทนไม่ได้ คิดอยากจะทำบุญ สร้างพระธรรมกาย ประจำตัว และอยากจะได้ พระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุ ไว้บูชา แต่ไม่ทราบว่าจะถามใครดี จนกระทั่ง มีคนเก็บค่าแชร์มาที่ร้าน บอกว่า จะให้คุณเพียรใจ ไปพบ เจ้าของร้านดีใจมาก บอกว่า เขาคงพอมีบุญอยู่บ้าง จึงได้มีโอกาสสร้างองค์พระ ได้ถวายปัจจัยกับพระอาจารย์ ที่ไปอบรมสอน การปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์ฯ โดยถวายเงิน สร้างองค์พระไป ๓ องค์
เรื่องที่สาม คุณมนสิยา เพื่อนของคนที่เอาสินค้ามาส่งที่ห้างของคุณเพียรใจ ได้อ่านเหตุการณ์ ปาฏิหาริย์อัศจรรย์ ตะวันแก้ว ที่ลงอยู่ด้านหลัง ของหนังสือพิมพ์ จึงอธิษฐานว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ขอให้มีโอกาส ได้ทำบุญ สร้างพระธรรมกาย ประจำตัวด้วย อธิษฐานได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับเงิน มาเปล่าๆ เป็นจำนวนที่พอดีกับ เงินทำบุญสร้างองค์พระ เมื่อนำเงินมาทำบุญ และได้รับบัตร รับพระของขวัญไปแล้ว คุณมนสิยาดูหมายเลข ที่มุมบัตรรับพระ เป็นเลข ๓ หลัก จึงลองอธิษฐานดูว่า ถ้าหากการทำบุญที่วัดนี้ เป็นบุญที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ข่าวอย่างที่ หนังสือพิมพ์โจมตีแล้ว ขอให้ เลขท้ายลอตเตอรี่ ในงวดนั้น ออกตรงกับ เลขที่มุมบัตรรับพระ แต่คุณมนสิยา ก็ไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งในงวดนั้น ลอตเตอรี่ก็ออกตรง ตามเลข หัวมุมบัตรรับพระ ของคุณมนสิยาจริงๆ
[สารบัญ] [๑๘๒] [๑๘๓] [๑๘๔] [๑๘๕] [๑๘๖] [๑๘๗] [๑๘๘] [๑๘๙] [๑๙๐]
[๑๙๑] [๑๙๒] [๑๙๓] [๑๙๔] [๑๙๕] [๑๙๖] [๑๙๗] [๑๙๘] [๑๙๙] [๒๐๐] [๒๐๑]