คุณรัตนาภรณ์ วงศ์มีแก้ว เป็นครูสอนอยู่ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอาสาสมัครประจำอยู่แผนกโภชนาการ ของวัดพระธรรมกาย ได้เล่าให้ฟังว่า
ตนเองได้มาช่วยงานบุญที่วัด ทุกวันอาทิตย์ เวลาเย็นๆ หลังจากเลิกงาน ก็จะไปบอกบุญ สร้างองค์พระภายนอก แต่เนื่องจาก ไม่ค่อยมี เวลา จึงชวนเพื่อนผู้นำบุญ ไปบอกบุญร่วมกัน คือ เรือเอกสมชาย ญาติประชุม และได้พระคะแนนสุด สุด มาคนละ ๑ องค์
พอช่วงบอกบุญองค์พระภายใน คิดว่าคงบอกบุญไม่ได้แน่ องค์พระ ๑๐ องค์ ก็บอกลำบากเหลือเกิน จึงเล่าให้คุณสุธิรา ภรรยาของ นาวาเอกสมนึก เปรมปราโมทย์ว่า คงบอกบุญไม่ได้แน่คราวนี้ คุณสุธิรา แนะนำว่า เวลานั่งสมาธิ เมื่อใจใสเป็นสมาธิแล้ว ให้อธิษฐานจิต ให้ บอกบุญ ได้โดยง่าย เลยนำมาอธิษฐานบ้าง โดยอธิษฐานว่า
ขอให้บอกบุญได้โดยง่าย ขอให้พบผู้ที่เป็นเจ้าขององค์พระ ด้วยเถอะ และขออาราธนาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ช่วยคุมบุญให้ลูก ตลอด การบอกบุญด้วยเถิด
ในตอนเช้าของวันอาทิตย์ เธออยู่ที่วัด ลูกศิษย์ของเธอ ชื่อรุ่ง (ซึ่งลูกศิษย์คนนี้ รักคุณรัตานาภรณ์มาก และชอบเรียกเธอว่า คุณแม่) มาเล่าให้ฟังว่า เช้านี้ฝันว่า หลวงพ่อธัมมชโยไปที่บ้าน แล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ทุกคนหมดเลย และก็เห็นพระคะแนนสุดฤทธิ์ อยู่ที่คอลูกสาว ป้าช้อยคนที่พึ่งแต่งงาน ซึ่งคนนี้คุณรัตนาภรณ์ ตั้งใจว่า เมื่อกลับไปจากวัด จะไปบอกบุญ ที่บ้านหลังนี้พอดี (ปกติไม่เคยคุยเรื่องการบอกบุญ หรือเรื่องเกี่ยวกับบุญที่บ้านนี้เลย)
เย็นของวันจันทร์หลังเลิกงาน ก็ชวนเรือเอกสมชาย ไปบ้านนี้ด้วยกัน ได้นำวิดีโอเกี่ยวกับวัด ที่เตรียมไว้ไปเปิดให้เขาดู ป้าช้อยก็เรียก ทุกคน ในบ้านมาดู (บ้านนี้เป็นครอบครัวใหญ่) รวมทั้งคนงานด้วย เนื่องจาก ทั้งบ้านเลื่อมใสใน พระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ชอบทำบุญ แต่ไม่ ค่อยมีเวลา เมื่อมีผู้นำบุญไปบอก ป้าช้อยก็ขอตามมาวัดเลย ภายในวันอาทิตย์นั้น
คืนนั้นหลังจากบอกบุญแล้วเธอฝันว่า เวลาตี ๔ ได้กลับไปที่บ้านป้าช้อยอีก แต่ไปในลักษณะกำลังเคลิ้มๆ และยังใส่ชุดนอนอยู่เลย คราวนี้ไปกับลูกศิษย์ชื่อรุ่ง พอถึงหน้าบ้าน สุนัขในบ้านป้าช้อย ๒ ตัว สีดำกับสีขาวกรูกันมาจะกัด (ตอนไปตอนหัวค่ำ ก็เห็นสุนัขหลายตัว เหมือนกัน แต่ไม่ได้สังเกตว่า มีสีอะไรบ้าง)
ในฝันก็ปรากฏมีผู้ชายแต่งชุดสีเทาๆ เดินมาไล่หมาให้ และเชิญเข้าบ้าน เขารีบไปเคาะประตูบ้าน และตะโกนดังมากว่า เร็วๆ เขามา แล้ว เขามาแล้ว รีบตื่น รีบออกมา เสียงเขามีอำนาจ ดังกังวาลมาก ป้าช้อยเปิดประตูออกมา ยังทำท่างัวเงียอยู่เลย ชายคนนั้น เมื่อเข้าบ้านได้ เขาก็บอกว่า เร็วๆ จะสร้างพระก็รีบๆ ซะ! เธอจึงถามป้าช้อยว่า ตกลงป้าช้อยจะสร้างองค์พระเลยใช่ไหม ก็นำใบสร้างองค์พระมาเขียน ผู้ชาย คนนั้น ก็สะกิด และพูดว่า เมื่อเขาสร้างพระแล้ว อย่าลืมอุทิศส่วนกุศลด้วยนะ! บอกเขาด้วย!
๒-๓ วันต่อมาก็ไปนัดหมายการเดิน ทางไปวัดกัน และเล่าเรื่องที่ฝันให้ป้าช้อยและลุงฟัง พอถึงบ้านป้าช้อย ก็เจอเจ้าสุนัข ๒ ตัว ซึ่ง เหมือนในฝันมาก ทั้งตัวดำและตัวขาว ลุงบอกว่า ตัวที่กัดคือไอ้ดำ และก็ไอ้ขาวนี่แหละ แต่วันนี้มันนอนดูเฉย เหมือน เป็นคนคุ้นเคยในบ้าน อย่างนั้นแหละ และแปลกอีกก็คือ
คืนนั้น เรือเอกสมชาย ก็ฝันว่า ได้กลับไปบอกบุญเหมือนกัน แต่จำรายละเอียดไม่ได้
พอวันอาทิตย์ก็เดินทางไปวัด โดยเธอกับป้าช้อยเดินทางไปวันเสาร์ก่อน พร้อมกับคณะอาสาสมัคร สอรฝ. ส่วนลูกๆ และครอบครัว ป้าช้อย ตามไปวันอาทิตย์ เขาให้เรือเอกสมชาย ออกไปรับที่ประตูหน้าวัด คุณรัตนาภรณ์ตกใจมาก เพราะมากันเต็มคันรถ ๒ คัน เพราะ ไม่คิดว่า เขาจะมากันมากขนาดนั้น เพราะตอนไปบอกบุญ เขาก็นั่งฟังเฉยๆ เขาบอกว่า พอคุณแม่บอก จะมาสร้างพระ ที่วัดพระธรรมกาย เขาก็ขอมากันหมดทุกคน ไม่มีใครยอมเฝ้าบ้าน หรืออยู่ขายของ (ทั้งที่ครอบครัว มีอาชีพค้าขาย รับส่งผักทั้งขายส่ง และขายปลีก มีลูกค้าเยอะ ต้องบอกหยุดส่งลูกค้า ส่งเฉพาะรายที่จำเป็น)
เมื่อดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารแล้ว เรือเอกสมชายก็นำใบสร้างองค์พระม าเขียนรายละเอียดว่า ใครบ้างจะสร้างองค์พระ เพราะก่อนหน้า นั้น ไม่ได้คุยเรื่องการสร้างองค์พระเลยว่า จะสร้างกี่องค์ คิดว่า อย่างมากก็ ๔-๕ องค์ เธอต้องไปดูแล และเตรียมงาน ที่จุดแจกอาหาร พอกลับ มา เขาก็เขียนใบสร้างองค์พระจนเสร็จ คุณรัตนาภรณ์ดีใจ จนแทบเป็นลม เพราะใบสร้างองค์พระ เป็นปึกใหญ่ สร้างทั้งหมด ๒๔ องค์
แล้วทั้งคณะก็พากันไปที่ จุดรับบริจาคสร้างองค์พระ เรือเอกสมชายนำเงิน ๒ แสน ๔ หมื่นบาทมา และนำอธิษฐานจิต หลวงพี่ที่ดูแล อยู่ เดินมาดูตัวกลุ่มผู้ใจบุญ และขออนุโมทนาด้วย ที่บอกบุญวันเดียว ได้องค์พระถึง ๒๔ องค์ ที่แปลกคือ คล้ายกับในฝันของลูกรุ่ง เงินที่นำ มา ไม่พอ เพราะคนงาน ก็ขอมาด้วย สงสารเขา ก็สร้างพระให้เขาด้วย
พอดีลูกสาว คนที่พึ่งแต่งงาน พอพี่ๆ โทรศัพท์ไปบอกว่า แม่จะพามาสร้างพระที่วัดพระธรรมกาย เขาก็นำเงิน ๑ แสนบาท ที่แม่ให้ไป เป็นเงินขวัญถุง ในวันแต่งงานมาด้วย ใครที่เงินไม่พอ ก็ยืมได้เลย ทุกคนบอกไม่เสียเที่ยว และปลื้มปีติมาก
และที่แปลกอีกเรื่องหนึ่ง ครอบครัวลูกสาวคนโตของป้าช้อยรวมแล้ว ๔ คน สร้างองค์พระ ๔ องค์ วันก่อน ที่จะมาสร้างองค์พระ เขาขายของวันเดียว ได้กำไร ๘,๐๐๐ บาท ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้ มาก่อน คุณพ่อเขาบอกว่า ลูกคนนี้เป็นคนที่เชื่ออะไรยากมาก ถ้าเขาเชื่อเรื่อง อะไร เขาจะตั้งมั่น และจริงจังมาก
หลังจากสร้างพระกลับไปไม่กี่สัปดาห์ เขาก็สามารถขายของจนได้ถึง ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเท่ากับจำนวนเงิน ที่ไปสร้างองค์พระพอดี นี่คงเป็นอานุภาพความตั้งใจจริง ของครอบครัวนี้ และเขาก็พยายามปลีกตัว ให้ได้มาวัดทุกๆ ต้นเดือน
คุณรัตนาภรณ์ เชื่อว่า การที่เราทำความดี ได้ไปบอกสิ่งที่ดีกับผู้อื่น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ย่อมได้รับความรัก ความไว้วางใจ จากเขา เหล่านั้น และยังมีกลุ่มผู้มีบุญ อีกมากมาย ที่คอยเราอยู่ อย่างที่หลวงพ่อท่าน บอกเราจริงๆ ใช่ว่าเขาเหล่านั้น จะมองวัดเรา ในแง่ไม่ดีเสมอไป
การทำอะไรเป็นทีมเป็นหมู่คณะในตอนนี้ ทำให้ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่น และมีกำลังใจ กลุ่มของคุณรัตนาภรณ์ ก่อนจะไปบอกบุญ จึงเน้น เรื่องทาน ศีล ภาวนา และอาราธนา พระมหาสิริราชธาตุ อาราธนาหลวงพ่อ คุมบุญ ทุกครั้ง เพราะบุญบารมีของเรา ยังน้อยนิดเหลือเกิน กลุ่มของเรา จึงตั้งตามปรารถนาคือ ทำความสำเร็จของการสร้าง มหาธรรมกายเจดีย์ ความหวังและตั้งใจจริง ในการบอกบุญ เพื่อจะได้พบ กับผู้ใจบุญ ตลอดไป ในการติดตามหลวงพ่อ เพื่อสร้างบารมีตลอดไป แม้เวลาจะมีจำกัด
[สารบัญ] [๒๕๒] [๒๕๓] [๒๕๔] [๒๕๕] [๒๕๖] [๒๕๗]
[๒๕๘] [๒๕๙] [๒๖๐] [๒๖๑] [๒๖๒] [๒๖๓] [๒๖๔] [๒๖๕]