เสียงของคำศัพท์ และความหมายของคำศัพท์ จะช่วยในการจำได้ง่ายขึ้น และช่วยให้จำได้เร็วและจำใด้นาน โดยเฉพาะอักษรที่มีการผสมหลายตัวอักษร และสามารถออกเสียงได้หลายเสียง เช่น EAR= เออร์ , เอียร์ , แอร์ เป็นต้น และยังช่วยจำคำศัพท์ ที่มีลักษณะการสะกดออกเสียงอักษร เฉพาะคำั้นั้นๆ ได้อีก เช่นอักษร -ERI+(A,E,O,OU) = -เอียเรีัย- ,(อี -เรีย), (เอีย-รี) จะมีเฉพาะไม่กี่คำ เช่น series= ( เซีย-รีส ) , period= ( เพียเรียด)เป็นต้น
์     และการจำอักษรเพื่อเทียบเคียงกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องจำให้ได้หมดทุกตัว แต่แนะนำให้จำพวก อักษรสระไวัให้มากๆ A, E, I, O, U และอีกตัวหนึ่งคือ Y ร่วมถึงอังกษรที่มีลักษณะเสียงเฉพาะ เป็นบางตัว -LE, DU,S เป็นต้น เพราะสระที่ใช้ในภาษาอักฤษ มีการผสมหลายรูป และมีหลายเสียงสระ ในหนึ่งรูปแบบของการผสม ส่วนอักษรพยัญชนะ ถึงจะมีการผสมหลายแบบ แต่มักจะตายตัว และมีเสียงพยัญชนะที่แน่นอนกว่า

   ส่วนการนำไปใช้นั้น ก็คือการจดบันทึกการสะกดคำศัพท์ แทนที่จะจดจดบันทึกแบบ
Would(วูด) you(ยู) give(กีฟวฺ) me(มี) a(อะ) kiss(คีส)?

   ก็ใช้โดยการขีดเส้นใต้ อักษรสระนั้นและำกำกับด้วยสระไทย จะเป็นการช่วยให้เข้าใจการสะกดคำศัพท์ และโครงสร้างของคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น

    หรือ

   ส่วนคำไหนที่มีการออกเสียงอักษร พยัญชนะร่วมกันในการสระกดคำศัพท์ ก็ทำเครื่องหมายตัว ( V ) .ใต้ระหว่างอักษรที่มีการใช้ร่วมกัน เป็นการทำข้อสังเกตใว้ที่คำศัพท์ ภายหลังกลับมาอ่านจะได้รู้ว่า คำศัพท์คำนี้มีการใช้ตัวอักษรร่วมกัน เวลาสะกดจะได้สะกดพยัญชนะนั้นเพิ่มอีก ตัวอย่างเช่น
  { ส-พีคเคอะ }
   และบางคำศัพท์อาจจะมีการขีดเส้นขั้น ( | ) แบ่งการสระกดคำศัพท์ เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ ในการสระกดคำศัพท์นั้นๆ มากขึ้น ตัวอย่างเช่น
  { อินกรีเดียนทฺ }
 หรือบางคำศัพท์อาจจะมี การใส่จุดไว้ใต้ตัวอักษร ( . ) อักษร ทีใช้ในการลากเสียง ที่ไม่ใช่การสะกด หรือควบกล้ำ เป็นการทำข้อสังเกตุใว้ที่ำคำศัพท์ ตัวอย่างเช่น
  { เควสชันสฺ },   { อินสฺเตด }
 หรือบางคำศัพท์อาจจะมี การขีดฆ่าตัวอักษร ( / ) อักษร ที่ไม่มีการออกเสียงในการสะกด หรือควบกล้ำ เป็นการทำข้อสังเกตุไว้ในการสะกดอักษร ตัวอย่างเช่น

  { ไอ แลนด์ฺ },   { เฮก}