<กลับหน้าแรก> - ประสบการณ์การทำสมาธิ- <กลับหน้าแรก>

ประการณ์การทำสมาธิบันทึกต่อไปนี้รวบรวมจากความคิดเห็นของผู้ที่เคยมาร่วมปฏิบัติธรรม จำนวนกว่า 15,000 คน จากปีพ.ศ. 2536 จนถึง พ.ศ. 2541 บันทึกเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสมาธิ มีทั้งความคิดเห็น วิธีการ และความรู้สึกเมื่อเข้าถึงประสบการณ์ภายใน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจทำสมาธิเป็นอย่างดี


มร.บาเรนด์ คอสเทน ชาวฮอลแลนด์ (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 190)

6 สัปดาห์ ก่อนมาเชียงใหม่ ผมเริ่มต้นฝึกสมาธิโดยการแนะนำของพระ ๒ รูป จากวัดพระธรรมกาย ผมนั่งสมาธิทุกวัน อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง หนึ่งสัปดาห์ก่อนมาเชียงใหม่ ผมรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ศูนย์กลางกาย ผมสามารถ เห็นดวงแก้วมาแล้วก็ไป แล้วก็เปลี่ยนสี แดง เขียว น้ำเงิน เมื่อมาถึงเชียงใหม่ ประมาณวันที่ สอง หรือสาม ผมทำสมาธิ ตามวิธีการเดิม มีความรู้สึกว่าใจรวมเป็นสมาธิ ไปสู่จุดที่ถูกต้อง เพราะมีเสียงดัง "พร็อพ" จากนั้นมองเห็นองค์พระแก้วใส อยู่ในดวงใส มองเห็นตัวเองอยู่ในดวงใส แล้วตรงกลางของภาพที่เห็นก็มีช่องเปิดออก ผมสามารถเข้าไปในช่องนี้ได้ องค์พระแก้วใสขยายใหญ่ขึ้น คลุมตัวของผม คลุมอาคาร ขยายอีกจนโลกเหลือเป็นเพียงจุดสว่างเล็กๆ เหมือนดวงดาว วันต่อๆ มา ผมก็ยังเห็นองค์พระอยู่ ท่านมีความสว่างและสมบูรณ์แบบมากขึ้น บางครั้งผมก็ท่องคำ ว่าสัมมา อะระหัง ๆ ๆ จนมีความรู้สึกว่าคำนี้กึกก้อง ดื่มด่ำ สั่นสะเทือน ศุนย์กลางกายของผม ระหว่างที่ท่องอยู่ ก็เกิดองค์พระมากมาย ขยายจากเล็กไปจนใหญ่เท่าจักรวาล โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่จุดเดียวกัน ปรากฎการณ์นี้ให้ความรู้สึกเหมือนการพวยพุ่งของกระแสน้ำสีขาวที่เร็วแรง เป็นสายธารชีวิต พลังแห่งชีวิตได้พวยพุ่ง ผ่านมาจากองค์พระทุกๆ องค์ มาถึงตอนนี้ผมทราบได้ทันทีว่าองค์พระ หรือพระพุทธเจ้า คือรูปทรงที่สมบูรณ์ อันเกิดขึ้นจาก พลังแห่งชีวิต ที่จะนำพาเราไปสู่แสงสว่าง เป็นถนนที่จะนำเราไปสู่แม่น้ำแห่งพลังงานอันบริสุทธิ์ เมื่อเดินไปตามเส้นทางสายกลางนี้ ก็จะทำให้เรามีความบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ผมได้ใช้เวลาแสวงหาความสุขชนิดนี้มาตลอดระยะเวลา 20 ปี ด้วยการเดินทางไปหลายประเทศ หลายวิธี เช่น โยคะ และทำสมาธิหลายๆ แบบ แต่วิธีของธรรมกาย (วิธีเพื่อเข้าถึงธรรมกาย) นี้ เข้าถึงได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องทรมานร่างกาย และบัดนี้ผมพบความสุขที่แสวงหามานานแล้วที่นี่

คุณจุทารัตน์ บุญมาก (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 177)

กำหนดจิตไว้ที่ศูนย์กลางกายให้ต่อเนื่อง นึกถึงดวงแก้วกลมใสสว่าง ประสบการณ์ภายในจิตใจให้อยู่นิ่ง มีสมาธิเห็นความสว่างเป็นช่วงๆ รู้สึกดี ร่างกายโปร่ง โล่งเบาสบาย จิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายเบา บาง ช่วงนึกถึงดวงแก้วก็จะเห็นดวงแก้ว ประโยชน์ในการนั่งปฏิบัติธรรม ดีมาก มีบุญมหาศาล ทำให้จิตใจดี ทำอะไรหรือคิดจะทำอะไร มีสติปัญญา สมาธิ ไตร่ตรองได้ถี่ถ้วน


คุณลีลาวดี วัชโรบล (ปฏิบัติธรรมรุ่น 175)

นั่งได้ดีขึ้น และนั่งได้นานขึ้น มีกำลังใจและแนวคิดที่จะกลับไปสร้างบารมีให้มากขึ้นมากขึ้น ตั้งใจจะเชิญ ชวนคนที่รู้จักขึ้นมาปฏิบัติธรรมให้มากๆ และจะหาเวลามาบ่อยๆ ชอบมากค่ะ

คุณเอม อารยะสกุล (ปฏิบัติธรรมรุ่น 174)

ในการขึ้นสวนบัวครั้งนี้เป็นครั้งแรก ได้เห็นแสงสว่างเป็นช่วงๆ รู้สึกพอใจกับการนั่ง รู้สึกประทับใจกับ ทุกๆ อย่าง ที่พัก การนั่งสมาธิ พี่เลี้ยง พระอาจารย์ ทำให้มีสมาธิมากขึ้น กลับไปบ้านคิดว่าจะต้อง นั่งสมาธิทุกวัน

คุณอร อารยะสกุล (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 174)

รู้สึกว่าจิตใจมีสมาธิมากขึ้น อารมณ์เย็นมากขึ้น หน้าตาสดใส นอนหลับสบาย ที่ประทับใจมากที่สุดคือ พระ อาจารย์ พี่เลี้ยง และกัลยาณมิตรทุกคน คิดว่าพอกลับกรุงเทพจะปฏิบัติธรรมทุกวัน

คุณสุนันทา เตยะราชกุล (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 115)

รู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มีสติและกำลังใจในการกระทำการงานอย่างอื่น นั่ง นอน ยืนเดินเป็นสุข หลับเป็นสุข รู้เป้าหมายชีวิต และหนทางการดำเนินชีวิตในอนาคต มีความตั้งใจว่าจะขยันปฏิบัติธรรมมากขึ้น เพื่อกลั่นกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์เป็นที่พึ่งของตนเองต่อไป นอกจากนี้ยังๆ ตั้งใจทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้ดีขึ้นค่ะ กราบอนุโมทนาบุญคณะผู้ดำเนินโครงการปฏิบัติธรรมพิเศษด้วยค่ะ

คุณณัฐวดี เดชะวงศ์อนันต์ (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 115)

เป็นการปฏิบัติธรรมที่ต่อเนื่องครั้งแรกในชีวิต รู้สึกประทับใจมาก อยากอยู่ต่ออีกสัก 1 อาทิตย์ ทั้งที่พัก อาหาร สถานที่ บุคคล เพื่อนกัลยาณมิตรด้วยกัน เป็นที่ประทับใจอย่างยิ่ง ถ้ามีโอกาสจะมาอีก การมาฝึกครั้งนี้ ทำให้ได้รับรู้และศึกษาพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น ช่วยทำให้จิตใจ โปร่ ใส โล่ง คิดว่ากลับไปจะเข้าวัดบ่อยขึ้น นั่งธรรมะบ่อยขึ้น

คุณสุภาพร วิวัฒน์วงศ์ธร (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 115)

การมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ตอนแรกไม่นึกว่าจะได้ผลอะไรมากนัก มาเพื่อทำใจให้สบาย จากภาระกิจการงาน และใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แต่ผลที่ได้รับกลับมากมายมหาศาล ตั่งแต่นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมมาหลายปี คงต้องจดจำที่นี่ไปอีกนาน เพราะนั่งสมาธิได้ดีมาก มีความสุขใจอย่างล้นเหลือ เห็นดวงธรรมภายใน องค์พระ สุกใส สว่างเป็นเพชร ทอประกายแวววาว บางครั้งเห็นแสงสว่าง ทอแสงเหมือนพระอาทิตย์ และร่างกายใหญ่โตจนสูงกว่าภูเขา มีความปีติกับธรรมกายภายในที่ละเอียดลึกซึ้ง ทำให้มีความซาบซึ้งในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์ เพิ่มพลังศรัทธาและเทิดทูนพระพุทธศาสนาอย่างบอกไม่ถูก

คุณจุฑามาศ วิภากรวิทย์ (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 114)

มาที่นี่ก็สบายดี สถานที่ อาหาร ทุกอย่างเหมือนมาพัก ห้องที่ใช้นั่งก็ดี กว้างดีค่ะมีรูปหลวงพ่อ และลูกแก้วอีก ทำให้เมื่อฟังธรรมจากหลวงพี่แล้ว มองเห็นง่าย เวลานึกไว้กลางกายก็ง่ายอีกค่ะ การปฏิบัติธรรมก็ง่ายๆ สบายๆ ใจขยายได้ดีกว่าตอนอยู่บ้าน ดวงธรรมภายในชัดใสสว่างมาก เวลาผุดขึ้นมาก็ซ้อนเร็วเลยค่ะ เข้ากลางไปเรื่อยๆ ถ้าไม่คำนึงถึงเวลา ก็จะสบาย เบาๆ สว่าง กว้าง โล่งไปเรื่อยๆ สบายดีค่ะ

คุณดาราพร อัศวโสภณ (ปอนด์) (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 114)

ตอนแรกก็ทำท้องสว่าง แล้วก็เข้ากลางไปเรื่อยๆ วันแรกๆ ปอนด์จะต้องใช้คำภาวนาไปด้วย (กลางของกลาง) แล้วถึงจะเข้ากลางไปได้ลื่น แต่พอวันนี้ เข้ากลางไปได้โดยไม่ต้องใช้คำภาวนา เข้าไปได้แบบลื่นเลยค่ะ เหมือนกับน้ำที่ไหลลงไปเรื่อยๆ เวลาเข้ากลางไหลลงไปเองนะคะ มีความสุขมากเลยค่ะ สบายๆ ไม่หนักที่ใจเลยค่ะ พอเข้ากลางไปสบายๆ ลงไปเรื่อยๆ ก็เข้าไปเจอกับที่โล่งกว้าง ทีนี้กลางแบบไม่มีขอบเขตเลยค่ะ แล้วทีนี้ก็นุ่มๆ สบายๆ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในปุยนุ่น แล้วก็เข้ากลางไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอที่ที่มีความสว่างมากเลยปอนด์ก็เข้ากลางไปในนั้น

พญ.ศิริพร สุขสุทธิพันธ์ (ปฏิบัติธรรมรุ่นที่ 113) (อุทยานล้านนารีสอร์ท)

การปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ทำให้จิตใจชุ่มชื่น เป็นการพักใจจากภารกิจทั้งปวง เป็นการพักจริงๆ ได้ประโยชน์มาก ผลการปฏิบัติธรรม ทำให้ทราบว่าศูนย์กลางกายมีอยู่จริงๆ มีแรงดึงดูดใจของเราให้ลงไปจริงๆ ใจของเรา สามารถเลื่อนลงไปในศูนย์กลางกายด้วยความเร็วมาก และความว่างเปล่าที่เกิดขึ้น ทำให้ใจเบาสบายมีความสุข การจะเข้าศูนย์กลางกายได้ง่ายๆ ก็คือการทำใจว่างๆ สบายๆ ไม่คิดถึงอะไรแม้แต่ศูนย์กลางกายเองก็ไม่คิดถึง ลืมให้หมดทำใจเบาๆ โปร่งๆ แล้วจะเข้าได้เอง

จิตตํ ทนฺตํ สุขาวหํ
" จิ ต ที่ ฝึ ก ดี แ ล้ ว นำ สุ ข มา ใ ห้ "