Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : November |22| |23| |24| |25| |26| |27| |28| |29| |30|, 2003


November 23, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4|
Second day ... Start traveling via route 108 with 1,864 cuves from Chiang Mai to Mexican Sunflower Field in Doi Mae U-Kor.
วันที่สอง...เิริ่มต้นเส้นทาง 1,864 โค้งโดยขับจากเชียงใหม่ออกเส้น 108 แวะเที่ยวอุทยานแห่งชาติออบหลวง ,ถ่ายรูปที่สวนสนบ่อแก้ว และกางเต้นท์ที่ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ

   

       
   

แห่ะๆๆ....ข้ามสะพานอันหวาดเสียวมาแล้วค่ะ พักสักนิดแล้วเดินขึ้นกันต่อนะคะ

       
                 
             

พอเดินขึ้นมาด้านบนสัก 90 เมตร ทางค่อนข้างชันทำให้เสียเหงื่อไปหลายหยด เราก็มาถึงหลุมฝังศพมนุษย์โบราณสมัยยุคโลหะตอนปลาย(สำริด)

   
             
                 
               
       

ภาพหลุมศพอย่างใกล้ๆครับ

จริงๆแล้วยังมีภาพเขียนประวัติศาสตร์อีกซึ่งอยู่ด้านบนต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 90 เมตร เราคงต้องพอแค่นี้ก่อนเนื่องจากไกลและจะทำให้เราเสียเวลาไปอีก จึงเดินกลับและออกจากออบหลวงประมาณเวลา 10.10 น.

         
           

 

 

ออกจากออบหลวงก็ขับรถตรงดิ่ง(จริงๆแล้วเ็ป็นทางโค้งตลอดนะครับ) เพื่อเข้าอ.แม่เสรียง แต่เราจะเจอกับสวนสนบ่อแก้วทางด้านซ้ายมือก่อนครับ ขับไปขับมาชักเพลินจนเกือบหยุดจอดรถ ดีนะที่มีรถเก๋ง Civic จอดถ่ายรูปกันอยู่ เราจึงวกรถมาถามพี่ที่ขายขนมอยู่ตรงข้ามว่าใช่สวนสนบ่อแก้วมั้ย ได้รับคำตอบว่าใช่ จึงขับเข้าไปและลงมาถ่ายรูปกัน ที่นี่ใช้เวลาจากออบหลวงเพียงแค่ 20 นาทีเองครับ

   
             
                 
         
   
สวนสนบ่อแก้ว...
         
                 
             
11.25 น. เราก็มาถึงทุ่งบัวตองอีกที่หนึ่งมีชื่อว่า "ทุ่งบัวตองดอยแม่เหาะ" ซึ่งจะขึ้นตามข้างทางเต็มไปหมด ก่อนหน้านี้ผมจอดรถเพื่อจะถามเด็กแถวนี้ให้แน่ใจว่านี่ใช่ดอยแม่เหาะหรือไม่ ปรากฎว่าเด็กๆก็ตอบไม่รู้เรื่องหรือผมจะฟังไม่รู้เรื่องเองก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆน้องซีที่นั่งข้างๆก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เราเลยตกลงกันว่าต่อไปถ้าไม่จำเป็นอย่าถามชาวบ้านแถวจังหวัดนี้ละกัน เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวเขาฟังและพูดภาษาไทยไม่ค่อยจะรู้เรื่องครับ อันนี้เป็นึวามจริงที่เจอกับตัวเองเลย
   
             
                 
   
 
ไม่นานเราก็เข้าเขตอ.แม่เสรียงซึ่งเป็นอ.แรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีป้าย "ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน" ขนาดใหญ่ให้เราสองคนได้ดีใจกันว่าในที่สุดก็ขับรถเข้าเขตแม่ฮ่องสอนสักที
   
                 

 

โปรแกรมต่อไปที่เราวางแผนจะแวะเที่ยวก็คือ "วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล" เรามาถึงตอนเที่ยงๆ วนอุทยานนี้ตั้งอยู่ที่อ.แม่ลาน้อย ทางเข้าไม่ค่อยมีป้ายที่บอกอย่างชัดเจน ผมต้องวกรถกลับมาอีกครั้งถึงจะเจอ

   
             
   
   
 
พอขับเข้าไป บอกได้คำเดียวว่าเส้นทางและป้ายบอกทางแย่เอามากๆครับ ป้ายเล็กมากจนผมขับหลงเลยไปในหมู่บ้านต้องถามเด็กแถวนั้นก็ได้คำตอบมาว่าเลยมาแล้ว ส่วนทางนี่ก็แคบมาก ที่เห็นอยู่นี่ขับได้แค่เลนเดียวนะครับ เวลามีรถสวนมาต้องจอดและชิดซ้ายมากๆๆถึงจะไปกันได้
   
                 
             
สุดท้ายก็มาถึงจนได้ ทางเข้าจากปากทางถนนเส้นใหญ่ลึกหลายกิโลเมตร มิหนำซ้ำเมื่อมาถึงเขตต้องขับขึ้นทางชันมากๆอีก ผมขอต่อว่าหน่อยเถอะ คือว่าพอขับขึ้นมาแล้ว(ได้ 1-2 เมตร)เพิ่งจะมาปักป้ายว่า "ให้ใช้เกียร์หนึ่งเท่านั้น" ก่อนขึ้นทำไมไม่ปักป้ายบอกไว้ก่อน เราสองคนนี้แทบหยุดหายใจ ขนาดใช้ตำแหน่งเกียร์ 2 ซึ่งเป็นตำแหน่งเกียร์ในเกียร์ออโต้ที่ต่ำ่สุดแล้ว(ทดรอบมากสุด)ยังจะขึ้นไม่ไหวเลยครับ ชันที่สุดเท่าที่ผมขับรถมาเลยในชีวิต ครั้งต่อไปไม่มาอีกแล้วครับถ้าจะขับรถมา
   
             
                 
 

บริเวณทางที่จะเข้าไปภายในถ้ำครับ เมื่อปี 2544 สมเด็จพระบรมราชินีนาถเคยเสด็จมาเปิดสถานที่แห่งนี้ครับ ประวัติคร่าวๆก็คือบริเวณนี้เคยเป็นที่สัมประทานให้กับเอกชนต่างชาติแต่พอขุดไปๆก็เจอแร่ Calcite อันสวยงาม ทางวิศวกรไทยที่ทำงานให้แก่บริษัทเอกชนดังกล่าวก็เลยมาแจ้งกับทางราชการให้ทราบ หลังจากนั้นทางกรมป่าไม้จึงมาสำรวจและขอคืนสัมประทานดังกล่าวกำหนดเป็นเขตวนอุทยานดังเช่นในปัจจุบันนี้

พอไปถึงต้องรอเป็นรอบๆก่อนครับ รอบละประมาณ 20-25 คน เราไปได้รอบหมายเลข 2 เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาทแต่ไม่มีใบเสร็จครับ ?!?! มีเจ้าหน้าที่อยู่แค่คนเดียวทำหน้าที่เก็บเงินและโบกรถให้จอดเข้าที่ในคราวเดียวกัน

       
                 
             
พอเข้ามาภายในจะพบทางลงที่เป็นบันไดค่อนข้างชันน่าดู เวลาลงก็ต้องเก็บศีรษะเนื่องจากอาจจะโดนหินได้โดยง่าย กฎของที่นี่ก็คือห้ามใช้มือสัมผัสกับบริเวณหินต่างๆ ลงมาเราจะเจอกับห้องพระทัยธารเป็นห้องแรก
   
             
   
             
 
ลงมาอีกนิดคือห้องวิมานเมฆ
             
                 
             
ดูทางลงสิครับ ชันมากและต้องระวังศีรษะด้วยทุกครั้ง แต่ภายในก็สวยงามมากครับ แต่อากาศก็มีน้อยเหมือนกัน
   
             
                 
         
   
ห้องต่อมาเป็นห้องเฉกหิมพานต์