November 25, 2003 ... Part |1|
|2| |3|
|4|
Fourth
day ... Go to Wat Phra Non before leaving Mae Hong Son City ,Thampla
& Phasue National Park ,Pra Tamnuk Pang Tong and Ruam Thai Village(Pang
Ung).
วันที่สี่...แวะวัดพระนอนก่อนออกจากตัวเมือง
,เที่ยวอุทยานถ้ำปลา ,น้ำตกผาเสื่อ ,พระตำหนักปางตอง และเข้าหมู่บ้านรวมไทย(ปางอุ๋ง)
|
|
|
|
|
|
|
|
|

|
|
|
วันนี้เราตื่นนอนค่อนข้างสายเนื่องจากอากาศที่นี่เย็นสบายดีจนไม่อยากที่ตื่นเลย
ตื่นประมาณแปดโมงครึ่ง ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ไปคืนกุญแจเพื่อเช็คเอาท์
เจ้าของถามว่าเราไปไปไหนต่อ เราบอกว่าขับไปยังเส้นทางปายเนื่องจากเรามาจากเส้นแม่เสรียงแล้ว
จากนั้นจึงไปหาข้าวกินกัน โดยไปร้านเดิมเมื่อวานที่เคยไปกินก่อนจะไปรับใบประกาศ
จำชื่อร้านไม่ได้แล้วแต่อยู่ติดถนนใหญ่ ผมสั่งข้าวมันไก่กับกาแฟร้อน
ส่วนน้องซีก็สั่งก๋วยเตี๋ยวตามเคย
ท้องอิ่มแล้วก็เริ่มเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนจะจากตัวเมืองไป
เราเริ่มด้วยวัดพระนอนที่ตั้งอยู่ก่อนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เดินขึ้นไปหน่อยก็จะเจอกับสิงห์ 2 ตัว ตัวผู้และตัวเมียสูง 3 เมตรยืนจังก้าอยู่พร้อมกับข้อความยินดีต้อนรับทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาพม่า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
ทางเดินนาคราชขึ้นไปยังพระพุทธรูปองค์ใหญ่ศิลปะพม่า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
เดินตามทางนาคราชขึ้นไปทางด้านซ้ายจะมีห้องบรรจุพระพุทธรูปอยู่ภายใน
มีกรงเหล็กดัดป้องกันอยู่ ฝาผนังด้านในประดับประดาลวดลายซะสวยงาม
ข้างในคงมีอะไรสักอย่างที่สำคัญและมีค่าจึงไม่เปิดให้เข้าไปแถมป้องกันไว้อย่างดี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
ุพระพุทธรูปออกแนวศิลปะพม่าประดิษฐานอยู่อย่างโล่งๆ
ตากแดดตากฝน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
ผมชอบแนวหลังคาของบรรดาวัดที่จังหวัดนี้ครับ
เขาจะทำเป็นขั้นๆสูงขึ้นไปโดยรอบๆแต่ละชั้นก็มีลายฉลุ สวยงามดีครับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
พระพุทธรูปอีกวิวหนึ่งครับ
สังเกตจะมีสิงห์ยืนเฝ้าอยู่ตลอด
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
หลังจากนั้นเราก็เข้าไปภายในวิหารวัดพระนอน
มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์นอนอยู่จริงๆ ซึ่งเป็นพระประธานของที่นี่ ความยาว
12 เมตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
อีกวิวหนึ่งเมื่อถ่ายจากระยะไกลเพื่อจะเก็บภาพความยาวของพระนอนองค์นี้ให้หมด
ประวัติคร่าวๆของวัดคือ สร้างขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. ๒๔๑๔ โดยพระนางเมียะ ชายาของพญาสิหนาทราชาและเป็นเจ้าครองเมืองแม่ฮ่องสอนองค์ที่
๒ วัดนี้จัดได้ว่าเป็นวัดประจำตระกูลของเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน เนื่องจากเป็นที่บรรจุอัฐิของเจ้าเมืองและชายาของทุกพระองค์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
เดินเข้าไปในห้องพิพิทธภัณฑ์ของเก่าจะเจอกับสิ่งของเก่าๆมากมาย
ไม่ว่่าจะเป็นเครื่องใช้ พระพุทธรูปจากพม่า ฯลฯ ผมเหลือบไปเห็นภาพใส่กรอบวิทยาศาสตร์อันหนึ่งซึ่งอ่านแล้วก็สะท้อนความเป็นไปของชีวิตได้ดีเลยครับ
เขาเขียนว่า "อายุ 10 ปีอาบน้ำบ่หนาว 20 ปีเกี้ยวสาวบ่เบื่อ 30
เสือสู้ทุกท่า 40 ลาเมื่อก่อนไก่ 50 ไปนากลับมาทอดขลุ่ย 60 เป่าขลุ่ยบ่ดัง
70 เดินทางบ่ตรง
80 ลงดินบ่ได้ 90 ขี้ไหลบ่ฮู้ 100 ไข้ก็ตาย บ่ไข้ก็ตาย"
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
อีกภาพหนึ่ง อยากเอามาฝากกัน "กระต่าย เจ้ามันสัตว์น้อย เอ็งก็ด้อยกว่าข้า
เจ้าก็ทรามต่ำช้า ข้านี่สิคน แกคน ก็คนป่า ชาวนาก็ต่ำตน แกมันสามัญชน
แต่ไม่พ้นความตาย"
ทั้งสองรูปขอฝากไว้เตือนสติพวกเรานะครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
เดินมารอบๆก็จะเจอกับสิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งก็คือ
พระพุทธรูป 5 องค์ เรียกว่า พระบัวเข็ม มี 5 องค์ ทำจากวัดพระบัวเข็มในทะเลสาปในเมืองไตประเทศพม่า
รุ่น 2500 เท่าองค์จริง ที่มี 5 องค์นั้นหมายถึงพระเจ้า 5 พระองค์
องค์กลมๆอยู่ตรงกลางนั้น หมายถึง พระศรีอริยเมตตรัย ยังไม่ตรัสรู้
เนื่องจากมีคนปิดทองมาก หน้าตาขึงไม่ชัดเจน คนไทยใหญ่ถือว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์สามารถอำนวยโชคลาภ
ความสุขความเจริญ คุ้มครอง และป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายแก่ผู้กราบไหว้บูชา
ประดิษฐานเมื่อวันศุกร์ 10 สิงหาคม 2534
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังจากนั้น 10.41
น. เราก็ได้ล่ำลาตัวเมืองแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ แต่ไม่ได้จะลาไปเลย เพราะยังไงซะเมืองนี้ก็ยังมีเสน่ห์ในตัวของมันอยู่
แตกต่างไปจากตัวเมืองใหญ่ๆอื่นๆมากมายนัก ผู้คนเป็นกันเอง ใจดี พูดภาษาไทยสำเนียงไทยใหญ่
ได้อรรถรสในการฟังไปอีกแบบ เราจึงเริ่มเดินทางอีกครั้ง แต่เป็นอีกเส้นหนึ่ง
คนละเส้นที่เรามา ทางหลวงเส้นนี้ออกจากตัวเมืองไปทางเหนือเพื่อผ่านไปยังอ.ปางมะผ้า-ปาย-ห้วยน้ำดัง จนเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ในที่สุด ทางหลวงเส้นนี้หมายเลข
1095 ขับผ่านซุ้มขนาดใหญ่ศิลปะแบบชาวเหนือ+พม่า ได้รับข้อความ"ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ" ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นพร้อมๆกับการขับรถอย่างระมัดระวัง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เราขับออกจากตัวเมืองมาเรื่อยๆก็เริ่มเจอกับทางโค้งลงเขาบ้างขึ้นเขาบ้างแต่ยังไม่ชันเท่าไร
ขับมาครึ่งชั่วโมงได้ก็มาถึงถ้ำปลา ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือเมื่อขับออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมา
ป้ายบอกทางชัดเจนไม่มีหลงครับ เราปรับเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการไปนั่งจิบกาแฟสดที่ร้านด้านหน้าทางเข้าโดยจะอยู่ติดกับที่จอดรถ
กาแฟสดที่นี่ไม่แพงแก้วละ 30 บาท พอร่างกายได้รับคาเฟอีน สมองก็สั่งงานให้เราเดินเข้าไปต่อ
ที่นี่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการเข้าชมครับ ขอแค่ลงชื่อในสมุดลงนามว่าเราเป็นใครมาจากไหนกันก็เพียงพอ
แต่เราก็เสียเงินอยู่ดีเพราะตั้งใจจะซื้ออาหารปลาไปให้ปลาพลวงนะสิครับ
ถุงละ 20 บาท ดอกไม้ธูปเทียนอีกคนละ 10 บาท เพื่อไปไหว้พระฤาษีด้านใน
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ก่อนเข้าไปก็จะต้องข้ามสะพานแขวนซึ่งเขียนไว้ว่า
"สะพานสลิงชำรุด กรุณาค่อยๆเดิน" ภายในลำธารก็จะมีปลาพลวงอยู่บ้างประปราย
เราให้อาหารบ้างเล็กน้อย จนสุดท้ายมาถึงถ้ำปลาที่มีพระฤาษีนั่งเฝ้าอยู่
เราเข้าไปกราบไหว้ ซึ่งตอนนั้นก็มีคนบ้างแต่ไม่เยอะ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Continue to Part 2
|