Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : November |22| |23| |24| |25| |26| |27| |28| |29| |30|, 2003


November 24, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4|
Third day ... Early get up to see Mexican Sunflower in the morning ,drive to Mae Hong Son for 1,864 curves certificate ,go to Jong Kam ,Jong Klang and Phra That Doi Kong Mu temple and see Long Neck Kareng.
วันที่สาม...ตื่นแต่เช้าเพื่อชมบรรยากาศทุ่งบัวตองยามรับอรุณและทะเลหมอก ,เข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนรับใบประกาศ 1,864 โค้ง ,ชมวัดจองคำจองกลาง ,กระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า และชมวิวตัวเมืองยามเย็นที่วัดพระธาตุดอยกองมู

 

     
   

วันนี้เราตื่นนอนประมาณตี 5 ครึ่งเพื่อหวังจะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า แต่ปรากฎว่าไม่เห็นครับ เห็นแต่แสงอาทิตย์แดงเรื่อๆมาเท่านั้นเมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเช้า

ผู้คนบางเต้นท์ก็ยังหลับอยู่บางเต้นท์ก็ตื่นมาอาบน้ำแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัว

     
           
       

เราตื่นมาก็ตระเตรียมปรุงอาหารกันเลย....น้องซีลงมือเริ่มด้วยการต้มน้ำเพื่อชงกาแฟและโอวัลตินก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยลวกไส้กรอกที่เราซื้อมาจากเชียงใหม่เพื่อประทังชีวิตมื้อเช้า ณ ทุ่งบัวตองไปก่อน ส่วนปลากระป๋องที่เตรียมมาก็เลยเป็นหมัน ไว้ทำอีกทีตอนไปห้วยน้ำดังละกัน เราคิดกัน

 
       
           
   
 

ดื่มกาแฟและกินไส้กรอกลวกกันแล้วก็ได้เวลาเดินลงไปย่อยอาหารที่กินมาน้อยนิด วิวนี้ดูแล้วสดชื่นดีจัง....

   
           
       
มา....เดินลงตามมาออกกำลังกายยามเช้ากันเลยค่ะ
 
       
           
       
   
อีกวิวด้านหนึ่งที่เห็นดอกบัวตองและขุนเขาสลับซับซ้อนเป็นแบล็คกราวนด์
       
           
       
เดินลงมาเรื่อยๆจะมาถึงจุดชมวิวที่เราไปมาเมื่อเย็นวันก่อน หันหลังมองออกไปเห็นวิวศาลาที่ตั้งอยู่บนสุดอยู่ลิบๆ โดยมีทุ่งบัวตองสีเหลืองและเขียวไล่โทนสลับกันไป
 
       
           
   
 
ภาพนี้คนถ่ายภาพไม่ได้เมาและยืนเอียงนะครับ มันเป็นความชันและความต่างระดับของถนนจริงๆ
   
           
หลังจากถ่ายรูปและชมวิวยามเช้ากันหอมปากหอมคอแล้ว เราก็เริ่มเก็บเต้นท์และสัมภาระอื่นๆเข้าในรถเพื่อเตรียมตัวเดินทางกัน ในใจกะจะไปน้ำตกแม่สุรินทร์ที่อยู่ลึกเข้าไปอีกแค่ 9 กิโลเมตรเท่านั้น แต่หลังจากขับออกจากที่จอดรถ ณ ทุ่งบัวตองไปได้ไม่เกิน 300 เมตรก็ปรากฎว่าหมดถนนลาดยาง ! เริ่มถนนดินพร้อมกับป้ายบอกทางแหล่งท่องเที่ยวอีก 3 ที่ด้วยกัน น้ำตกแม่สุรินทร์ 8 กม. น้ำตกสองพี่น้อง 11 กม. น้ำตกแม่สะมาด 21 กม. ผมเริ่มลังเลว่าจะเอายังไงดีเอ่ย...ถ้าลาดยางจะชันหรือไกลแค่ไหนก็ยังไม่กลัวแต่นี่ดันเป็นดินซะแล้ว ออกมาสูดบรรยากาศสักพักก็ตัดสินใจลองขับไปดูสักหน่อย อาจจะเป็นถนนดินแค่ไม่กี่ร้อยเมตรก็ได้ เราจึงขึ้นรถและลุยต่อ ที่ไหนได้...ยังคงเป็นถนนดินตลอดเลยครับแถมลงเขาชันอีกต่างหาก มาถึงตอนนี้ผมคิดถึงตอนกลับแล้วหล่ะว่าจะขึ้นมาไหวหรือเปล่าประกอบกับถนนก็ไม่เรียบมีหินตลอด สงสารช่วงล่างรถด้วย เลยวกยูเทิร์นกลับรถมาดีกว่า....เส้นนี้ขอยอมแพ้ครับ
 
       
   
   
 
อูยยยย.........ตอนเช้าหนาวจังเลยเนอะ
   
           
       
ขากลับพอได้เห็นทะเลหมอกกับเขามั่งแม้จะไม่เยอะแต่ก็เป็นครั้งแรกของเราที่ได้ยลโฉมทะเลหมอก
 
       
           
     
 
ทะเลหมอกอีกรูปหนึ่งครับ ถ่ายสวยสุดได้แค่นี้แล้วครับ เพราะผมถ่ายแล้วถ่ายอีกก็ไม่สวยซะทีไม่รู้ต้องมีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า
     
           
       
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางจากทุ่งบัวตองถิ่นที่ยังมิคลายมนต์สเน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทุกๆปี(อยากทราบสภาพเส้นทางจากทุ่งบัวตองถึงทางเข้าอ.ขุนยวม สามารถดูวิดีโอคลิปได้ที่หน้าแรกของทริปแม่ฮ่องสอนครับ) สภาพเส้นทางจากขุนยวมไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอนต้องขอชมว่าเส้นทางดีถึงดีมากครับ เพราะบางช่วงนี่ตอนผมขับไปเรียกได้ว่าแทบจะตีเส้นเสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผมจะไปด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ลองดูภาพสิครับ ใหม่เอี่ยมเลย
 
       
   
         
     

ระหว่างทางที่ขับรถไปยังมองเห็นหมอกลอยอยู่ต่ำๆรอบๆเส้นทางเลยครับ สมแล้วที่เขาเรียกว่าเมืองสามหมอก หมอกเยอะจริงๆ

ขับไปเอี้ยวตัวไปตามจังหวะการเลี้ยวโค้งที่ค่อนข้างถี่ในช่วงนี้ ทำให้เวียนหัวเหมือนกันแฮะ... เหลือบไปดูป้ายบอกทางทางด้านขวาเขียนไว้ชัดเจนว่าหมู่บ้านแม้วไมโครเวฟ ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อนี้เหมือนกันมันดู conflict ยังไงไม่รู้

         
             

 

ขับมาถึงประมาณ 10 โมงเช้าก็เจอซุ้มยินดีต้อนรับจากทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นั่นแสดงว่าเราขับเข้าเขตตัวเมืองมาแล้วนั่นเอง ผมสังเกตุดู เวลาก็สายๆไม่เช้ามากนักแต่ไม่ค่อยจะมีผู้คนเท่าไร อาจเป็นเพราะจังหวัดนี้จากการสำรวจประชากรได้เป็นจังหวัดที่ประชากรน้อยที่สุดในประเทศก็เป็นได้ 1 ตารางกม.มีคนอยู่ไม่ถึง 10 คน

   
         
             
     

มาถึงแล้วครับ แม่ฮ่องสอนฮิลล์รีสอร์ทบ้านพักแนวรีสอร์ทใจกลางเมืองแม่ฮ่องสอน ติดกับอนุสาวรีย์พญาสิงหนาถราชา หลังจากที่เรามาดูที่นี่ในครั้งแรกและตระเวนไปดูเกสท์เฮ้าส์ภายในตลาดอีกครั้ง ซึ่งเราประสบปัญหากับถนนและป้ายในตัวเมืองนี้มาก ยิ่งป้ายติดไว้ทั้ง 4 ทิศเลย ตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีน้ำตาล อ่านไม่ออกหรอกครับ เลยทำให้เราหลงไปหลายรอบเสียเวลาและเสียอารมณ์ด้วย หาที่พักก็เจอแต่ราคาแพง เลยทำให้เราแปลกใจกันว่า ทำไมเมืองแม่ฮ่องสอนซึ่งน่าจะมีค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองเชียงใหม่แต่ราคาที่พักกลับแพงกว่าเมื่อเปรียบเทียบในระดับที่เท่ากัน

เราหาจนอ่อนเพลีย บวกกับหอการค้าจังหวัดก็หาไม่เจอเพราะจะไปรับใบประกาศซะหน่อย สุดท้ายต้องกลับมาที่นี่ที่เดิมในสนนราคา 500 บาทแต่ต่อเหลือ 450 บาท ฮาๆ

 
           
Continue to Part 2